ตอนที่แล้วบทที่ 58 เหตุการณ์คับขัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 60 แผนการของซูเล่อหยุนอวิ๋น

บทที่ 59 การทดสอบที่คาดไม่ถึง


หลังจากที่ซูเล่อหยุนสั่งการออกไป ไม่นานนัก 'ชุ่ยหลิว' ก็จัดการเรียกทุกคนมารวมกันที่ลานหน้าเรือนของซูเล่อหยุนอย่างรวดเร็ว

หงเย่ ที่แอบซ่อนตัวอยู่ด้านหลังฝูงชนด้วยความกระวนกระวายใจ

‘คุณหนูคิดจะทำอะไร’ นางคิดขณะรู้สึกเหงื่อซึมออกมาตามฝ่ามือ ก่อนจะรีบเช็ดมันกับเสื้อผ้าอย่างลนลาน

"เหตุผลที่ข้าเรียกพวกเจ้ามาวันนี้ เป็นเพราะมีขโมยอยู่ในเรือนของข้า" ซูเล่อหยุนยืนอยู่หน้าประตูเรือน มองไปยังกลุ่มคนเบื้องล่างอย่างเคร่งขรึม

เมื่อคำพูดของนางสิ้นสุดลง บรรดาคนรับใช้ต่างพากันคุกเข่าลง พร้อมกับส่ายหัวอย่างแรงเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของตน

เสียงโต้เถียงและความวุ่นวายดังขึ้นทั่วลาน

ซูเล่อหยุนขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ ก่อนจะพยักหน้าให้ เหลียนซิน จัดการ

“เงียบ!” เหลียนซินก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว น้ำเสียงหนักแน่นของนางนั้น ทำให้ความวุ่นวายค่อยๆสงบลง

"หากพวกเจ้าไม่ได้ทำผิด คุณหนูก็จะไม่กล่าวโทษโดยไม่มีหลักฐาน" เหลียนซินกล่าวต่อหลังจากได้รับสัญญาณจากซูเล่าหยุน

"นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการขโมยเกิดขึ้นในเรือน ครั้งก่อนคุณหนูได้เตรียมการไว้แล้ว บัดนี้ พวกเจ้าจะต้องเดินออกมาทีละคนและจุ่มมือลงในน้ำนี้ ขโมยก็จะถูกเปิดเผยทันที"

เมื่อเหลียนซินพูดจบ ใบหน้าของบรรดาคนรับใช้ต่างแสดงออกถึงความกังวลและสับสน

"เพียงแค่จุ่มมือลงไปในน้ำก็รู้ว่าใครคือขโมยอย่างนั้นหรือ"

บรรดาคนรับใช้ต่างมองหน้ากันอย่างงุนงง ไม่เคยมีใครเห็นวิธีจับขโมยเช่นนี้มาก่อน แต่เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของ เหลียนซิน บ่าวทุกคนก็ยังคงทำตามคำสั่งทีละคน โดยเดินมาจุ่มมือลงในน้ำอย่างเรียบร้อย

จนกระทั่งถึงคิวของ หงเย่ ทุกอย่างก็ยังไม่มีสิ่งใดผิดปกติ คนรับใช้เริ่มกระซิบกันเบาๆ

"หรือว่าคุณหนูรองตั้งใจจะเล่นตลกกับพวกเรา"

"ในหน้าหนาวเช่นนี้ให้เราจุ่มมือลงน้ำ ไม่ต่างจากการทรมานเลย"

สายตาของคนรับใช้บางคนเริ่มแสดงความไม่พอใจที่มองไปยังซูเล่อหยุน

เมื่อถึงคิวของหงเย่ นางจ้องมองผิวน้ำด้วยความกระวนกระวายใจและสับสน ‘คุณหนูรองต้องการจะทำอะไรกันแน่ ขโมยที่ว่าคือใครกัน’

คนที่ยืนรออยู่ด้านหลังเริ่มแสดงความหงุดหงิด "หงเย่ เร็วเข้า! อากาศเย็นจะตายอยู่แล้ว!"

หงเย่สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะจุ่มมือลงไปในน้ำ

ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หงเย่รู้สึกโล่งใจ นางกำลังจะถอนมือออกจากน้ำ แต่ทันใดนั้นนางก็เห็นแสงสีเขียวจางๆ ปรากฏขึ้นระหว่างนิ้วของนาง

ดวงตาของหงเย่หดเล็กลงด้วยความตกใจ นางรีบดึงมือกลับไป แต่ก็สายไปแล้ว

เหลียนซินคว้ามือของหงเย่ขึ้นมาและเปิดเผยต่อหน้าทุกคน

“นั่นอะไรน่ะ”

“ทำไมมือของหงเย่มีแสงสีเขียวล่ะ”

“หรือขโมยจะเป็นหงเย่จริงๆ!”

เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทุกคนต่างรู้สึกประหลาดใจที่ซูเล่อหยุนสามารถจับขโมยได้จริงๆ

ซูเล่อหยุนกล่าวขึ้นอย่างเยือกเย็น “ให้ทุกคนที่เหลือลองจุ่มมือลงในน้ำให้ครบ”

บรรดาคนรับใช้ที่เหลือจุ่มมือลงไปตามลำดับ แต่ไม่มีใครมีแสงสีเขียวปรากฏขึ้นเหมือนหงเย่

แท้จริงแล้วน้ำนี้มีส่วนผสมของยาพิเศษ ที่จะทำให้แสงจากผงเรืองแสงปรากฏขึ้น หากเคยสัมผัสสิ่งของที่ถูกทาด้วยผงนั้น

ซูเล่าหยุนพูดอย่างเคร่งขรึม “จางมามา การขโมยของจากนายตามกฎควรจะถูกลงโทษอย่างไร”

จางมามาก้มหน้าลงและตอบ “ตามกฎแล้ว ควรจะลงโทษด้วยการโบย 80 ครั้ง และขายออกไปนอกบ้านเจ้าค่ะ”

ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ร่างของหงเย่ก็ทรุดลงกับพื้น

โทษโบย 80 ครั้ง แม้แต่ชายแข็งแรงยังไม่อาจทนได้ หญิงอย่างนางจะทนได้อย่างไร!

“คุณหนู คุณหนูเจ้าคะ หงเย่ไม่ได้ขโมยอะไรนะเจ้าคะ!” หงเย่ร้องไห้ขอความเมตตาพลางคลานไปเกาะชายกระโปรงของซูเล่อหยุน

ซูเล่อหยุนก้มมองหงเย่ที่นอนอยู่บนพื้น นางค่อยๆ ย่อตัวลงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ถ้าเจ้าไม่ได้ขโมย แล้วแสงสีเขียวที่มือของเจ้าจะอธิบายอย่างไร”

เมื่อหงเย่เงยหน้าขึ้นสบตากับดวงตาที่เย็นชาของซูเล่าหยุน ร่างกายของนางก็เริ่มสั่นสะท้านไปทั่ว

นางไม่ได้ขโมยอะไรเลยจริงๆ!

“คุณหนู หงเย่ไม่ได้ขโมยอะไรจริงๆ เจ้าค่ะ!” หงเย่พยายามอธิบายด้วยเสียงสั่นเครือ

ซูเล่อหยุนรู้สึกเบื่อหน่ายกับคำแก้ตัวนี้ นางถอนขาออกจากมือของหงเย่ที่เกาะอยู่ และพูดอย่างเรียบเฉย

“ดึกมากแล้ว เอาตัวนางไปขังไว้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยจัดการ”

คนรับใช้สองคนรีบเข้ามาลากตัวหงเย่ไปทันที

หลังจากนั้น เหลียนซินและชุ่ยหลิวตามซูเล่อหยุนเข้าไปในห้อง

“คุณหนู ให้บ่าวลองทดสอบนางสักหน่อยไหมเจ้าคะ” เหลียนซินรู้ดีว่าการขโมยของเป็นเพียงข้ออ้าง สิ่งที่ซูเล่อหยุนต้องการจริงๆ คือค้นหาว่าใครเป็นคนวางยาพิษ แต่การที่หงเย่ยังคงยืนกรานปฏิเสธแม้จะเผชิญหน้ากับโทษโบยแปดสิบครั้ง แสดงว่ามีบางอย่างที่น่ากลัวกว่าความตาย ที่คอยขู่นางอยู่เบื้องหลัง

ซูเล่าหยุนเคาะโต๊ะเบาๆ ก่อนจะพูดขึ้น “ไปลองดูสิ”

นางไม่อาจปล่อยให้เรื่องการวางยาผ่านไปได้ง่ายๆ หากต้องการไขปริศนานี้ จุดเริ่มต้นก็ คือ ตัวหงเย่นั่นเอง

ในห้องเก็บฟืนอันหนาวเย็น หงเย่นั่งขดตัวอยู่ที่มุมห้อง ร่างกายของนางสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว

‘ข้าควรทำอย่างไรดี’

ทันใดนั้น ประตูห้องก็ถูกเปิดออก หงเย่หันไปมองด้วยความตกใจ นางเห็นเหลียนซินเดินเข้ามาพร้อมกับเสื้อคลุม

เหลียนซินนั่งยองๆ ลงข้างนางและคลุมเสื้อคลุมให้หงเย่ พร้อมยื่นเครื่องอุ่นมือเล็กๆ ให้

“อบอุ่นร่างกายเถิด” เหลียนซินพูดเสียงเรียบ

“พี่เหลียนซิน…” หงเย่รู้สึกอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย น้ำตาค่อยๆ ไหลออกมา

“พี่เหลียนซิน ข้าขอร้อง ช่วยพูดกับคุณหนูแทนข้าด้วย ข้าไม่ได้ขโมยของอะไรจริงๆ”

เหลียนซินมองตรงไปที่หงเย่และพูดอย่างชัดเจน “คุณหนูรู้ดีว่าเจ้าไม่ได้ขโมยของ”

ดวงตาของหงเย่เบิกกว้าง หัวใจของนางเต้นแรงขึ้นทันทีเมื่อเข้าใจความหมายของเหลียนซิน

นางไม่ได้ขโมยของ แต่นางวางยาพิษคุณหนู!

“คุณหนูสั่งขังเจ้าไว้ ก็เพื่อให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง” เหลียนซินยืนขึ้นและมองหงเย่จากเบื้องบน

“เจ้าต้องพูดความจริงเพื่อช่วยตัวเอง จะคว้าโอกาสนี้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าเอง”

เมื่อเห็นเหลียนซินกำลังจะเดินออกไป หงเย่รู้สึกกลัว นางทำเครื่องอุ่นหลุดจากมือและรีบคว้าขาของเหลียนซินไว้

“พี่เหลียนซิน ข้าขอร้อง ช่วยข้าด้วย!”

“ข้าช่วยเจ้าไม่ได้ มีเพียงตัวเจ้าเองที่ช่วยได้เท่านั้น” เหลียนซินมองนางด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเสียใจ

หงเย่จับชายกางเกงของเหลียนซินไว้แน่น ความคิดมากมายไหลเวียนอยู่ในหัวของนาง แต่นางก็ยังคงลังเลที่จะพูดออกมา

เมื่อเหลียนซินเห็นท่าทีของหงเย่ นางจึงพูดว่า “เจ้าจำ ชุนสิง ได้ไหม?”

ดวงตาของหงเย่เบิกกว้าง ปากของนางสั่นเล็กน้อย

นางไม่มีทางลืมได้เลย

ชุนสิงชนศีรษะเข้ากับเสาหินจนตาย หงเย่เห็นกับตาตัวเอง เหตุการณ์นั้นทำให้นางฝันร้ายไปหลายคืน

“ถ้าคนตายไป ก็จะไม่เหลืออะไรอีกเลย” เหลียนซินพูดคำสุดท้ายก่อนจะหันไปที่ประตู

“พี่เหลียนซิน ข้าจะพูด! ข้ายอมพูด!” หงเย่ตะโกนออกมา

............................................................................................................................

ในห้องของซูเล่าหยุน แสงไฟยังคงสว่างไสว

หงเย่ถูกพาเข้ามาในห้อง ซูเล่าหยุนถือกระปุกครีมที่ถูกวางยาพิษอยู่ในมือ ปริมาณของมันเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ในคืนนี้ทำให้ซูหว่านเออร์ทนรอต่อไปไม่ได้แล้ว

ซูเล่อหยุนโยนกระปุกครีมไปตรงหน้าหงเย่ เสียงกระปุกตกกระทบพื้นทำให้หงเย่สะดุ้งไหล่ห่อทันที

“บอกมา ใครเป็นคนสั่งเจ้าให้ทำเช่นนี้”

ซูเล่าหยุนถามทั้งที่ในใจรู้คำตอบอยู่แล้ว ที่นางถามออกไปก็เพื่อให้เหลียนซินและชุ่ยหลิวได้รับรู้ความจริงอย่างชัดเจน ภายในจวนนี้ ไม่มีใครที่ไว้ใจได้ง่ายๆ

หงเย่พยายามขยับริมฝีปาก นางคุกเข่าลงต่ำจนหน้าผากเกือบจะกระทบพื้น "คุณหนูเจ้าคะ หงเย่ไม่กล้าปิดบังอีกต่อไป แต่ขอคุณหนูได้โปรดรับปากหงเย่สักเรื่องหนึ่งเจ้าค่ะ"

"เจ้าคิดจะต่อรองกับข้าหรือ" ซูเล่อหยุนแค่นเสียงหัวเราะ "หงเย่ หากเจ้าต้องการเอาชีวิตรอด เจ้าต้องเลือกข้าเป็นพวกเดียวกับเจ้าเท่านั้น เจ้านายของเจ้าไม่ลังเลที่จะสั่งฆ่าชุนสิง เจ้าคิดหรือว่านางจะยอมช่วยเจ้า?"

"คุณหนู… ท่าน…" หงเย่เงยหน้ามองซูเล่าหยุนด้วยสายตาตกตะลึง นางไม่ทันได้บอกว่าใครเป็นคนบงการ แต่คุณหนูรองกลับดูเหมือนจะรู้แล้ว

"ในจวนนี้มีเจ้านายเพียงไม่กี่คน เจ้าคิดหรือว่าข้าจะโง่จนเดาไม่ออกว่าเป็นใคร?"

ซูเล่อหยุนพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคง แม้ภายในจะมีความลังเลเล็กน้อย หากไม่ใช่เพราะนางมีชีวิตอีกครั้ง นางคงไม่สามารถเดาออกได้เลย

แต่ในเมื่อนางมีโอกาสกลับมามีชีวิตอีกครั้ง แน่นอนว่าครั้งนี้เธอจะต้องแก้แค้นให้ได้

หงเย่สูดลมหายใจลึกก่อนจะยอมสารภาพ "เป็นคุณหนูใหญ่ที่สั่งให้บ่าวทำเช่นนี้เจ้าค่ะ!"

ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมา หงเย่รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก

"คุณหนูใหญ่จับตัวครอบครัวของบ่าวไว้และบังคับให้ข้าใส่ยาพิษลงในครีมของคุณหนู ส่วนผงยาที่เหลือยังอยู่ใต้หมอนของบ่าวเจ้าค่ะ บ่าวไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายคุณหนูจริงๆ ขอคุณหนูโปรดไว้ชีวิตบ่าวด้วยเถิด!"

หงเย่ร้องขอด้วยน้ำตา เธอตัวสั่นระริกด้วยความกลัว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด