บทที่ 724: คุซันมาช่วย, แผนการของไคโด
[แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ100คน ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบไม่มีการแก้คำผิด และยิบย่อยมากมาย ไปนั่นแหละ]
บทที่ 724: คุซันมาช่วย, แผนการของไคโด
"ปล่อยพลโทโมมอนก้าเดี๋ยวนี้เลยนะ!"
โบการ์ดไม่คาดคิดว่าสัตว์ประหลาดตรงหน้าจะวางกับดักพวกเขา เขาพยายามเข้าไปช่วยโมมอนก้า แต่ราชาปีศาจแปดหัวไม่เปิดโอกาสให้เขาเข้าใกล้ มันพ่นกระแสไฟฟ้าอันทรงพลังออกมาขับไล่โบการ์ด และงับหัวของโมมอนก้าไว้แน่น
หากปากของมันปิดสนิท โมมอนก้าจะถูกขย้ำเป็นสามท่อน ในตอนนี้ โมมอนก้ากำลังใช้ทั้งกายาเหล็กและฮาคิเพราะเพื่อต้านทานแรงบดขยี้ของราชาปีศาจแปดหัว พร้อมทั้งเหวี่ยงอาวุธเพื่อตอบโต้
คมดาบของเขาแทงทะลุเข้าไปในหัวของมัน แต่มังกรแปดหัวยังไม่ยอมปล่อย มันพ่นแก๊สพิษสีม่วงออกมา เสื้อผ้าของโมมอนก้าเริ่มถูกกัดกร่อน ความสิ้นหวังเข้าเกาะกุมหัวใจเขา
แต่ในจังหวะนั้นเอง มังกรแปดหัวก็หยุดชะงัก เพราะมีศัตรูใหม่ปรากฏขึ้นบนหลังของมัน
"เอาล่ะ รบกวนปล่อยเขาหน่อยได้ไหม?"
ร่างสูงเกือบสามเมตร สวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินเข้ม เสื้อคลุมแห่งความยุติธรรมปลิวไสวไปตามสายลมและสายฝน
"อากาศแบบนี้มันน่ารำคาญจริงๆ"
เขาสวมที่ปิดตาข้างหนึ่ง แต่ตอนนี้มันเปียกโชกไปด้วยน้ำฝน ถึงจะช่วยกันฝนได้บ้าง แต่ที่ปิดตาที่บวมเป่งทำให้เขารู้สึกไม่สบายตัว
"พลเรือเอกคุซัน?!"
คุซัน หรือที่รู้จักกันในนามอาโอคิยิ พลเรือเอกแห่งกองทัพเรือ หลังจากได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือจาก G-1 ในที่สุดกำลังเสริมจากกองบัญชาการใหญ่ก็มาถึง
คุซันไม่พูดอะไร แต่ความเย็นยะเยือกเริ่มแผ่ขยายจากเท้าของเขา ค่อยๆลามไปยังหัวที่งับโมมอนก้าอยู่ เสียงคำรามดังขึ้น หัวนั้นและส่วนคอที่อยู่ด้านหลังกลายเป็นน้ำแข็ง
เพื่อความปลอดภัยของโมมอนก้า คุซันจำกัดขอบเขตของน้ำแข็ง ให้น้ำแข็งเคลือบไปตามหัวนั้นขึ้นไปเท่านั้น เมื่อน้ำแข็งแตกออก โมมอนก้าก็เป็นอิสระ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับผลกระทบจากพิษ ร่างกายของเขาขยับได้ไม่สะดวก
ในที่สุด ด้วยความช่วยเหลือของคุซัน เขาจึงสามารถเคลื่อนย้ายไปยังตำแหน่งที่ปลอดภัยได้ชั่วคราว มังกรแปดหัวจ้องมองคุซันด้วยความระแวดระวัง มันพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้งด้วยท่าทางของเปลวเพลิงที่พุ่งทะยาน เปลวไฟไม่เพียงแต่เพิ่มความเร็วให้มันเท่านั้น แต่ยังละลายน้ำแข็งที่เกาะอยู่บนตัวมันด้วย
ศัตรูคนนี้แข็งแกร่งกว่าสองคนนั้นรวมกันเสียอีก มันรู้สึกถึงภัยคุกคามถึงชีวิต เช่นเดียวกับก้อนหินที่การ์ปขว้างออกมาเมื่อครู่นี้
"โบการ์ด นายพาโมมอนก้าไปรักษาก่อน เขาเหมือนจะโดนพิษ ฉันจะจัดการเจ้าตัวปัญหาตรงนี้ก่อน แล้วค่อยไปช่วยคุณการ์ป"
กวาดตามองสถานการณ์รอบๆ การ์ปกับไคโดยังคงต่อสู้กันอย่างดุเดือด ดูเหมือนจะยังไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบในเร็วๆนี้ ตอนนี้เจ้ามังกรประหลาดนี่ต่างหากที่เป็นภัยคุกคามใหญ่ที่สุด
"รับทราบครับ!"
ปัจจุบัน พลเอกทั้งสามแห่งกองทัพเรือคือเสาหลักของคนรุ่นใหม่ พวกเขาได้รับการยอมรับในเรื่องพลังที่แข็งแกร่งราวกับสัตว์ประหลาด การมาของคุซันเปรียบเสมือนยาชูกำลังให้กับทหารเรือทุกคน
พลังน้ำแข็งไม่เหมือนแสงที่สามารถบินได้อย่างอิสระ แต่ความสามารถในการลอยตัวของเขาก็ยังเหนือกว่าโมมอนก้าและคนอื่นๆอยู่มาก
ในเวลาเดียวกัน ไคโดที่กำลังต่อสู้กับการ์ปก็สังเกตเห็นการมาถึงของคุซัน
"ช่วงเวลาแห่งความสนุกจบลงแล้ว การ์ป ฉันรอคอยที่จะพบกับแกอีกครั้งนะ"
มังกรแปดเศียรไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุซัน เมื่อกำลังเสริมมาถึง ก็ถึงเวลาที่เขาต้องถอย ถึงแม้จะยังไม่หนำใจ แต่ครั้งนี้ก็ถือว่าพอแล้ว
"ฉันบอกไปแล้ว แกอย่าหวังว่าจะจากไปง่ายๆเลย"
"โว่ะโรโรโรโร่ะ ฉันก็บอกแล้วว่า แกหยุดฉันไม่ได้หรอก ที่นี่คือเขตของกองทัพเรือ แต่ก็เพราะแบบนั้น ฉันถึงได้ไม่ต้องกังวลอะไร ที่นี่น่าจะมีคนอยู่สักสองสามพันคนสินะ?"
ฐานทัพเรือมีจำนวนทหารประจำการที่แตกต่างกันไปตามขนาด เมื่อถึงยุคที่สโมคเกอร์ดำรงตำแหน่งพลโท จำนวนทหารในฐานทัพ G-5 มีเพียง 300 คน
ในตอนนั้น อาคาอินุได้ส่งกำลังพลจำนวนมากไปปราบปราม ทำให้กำลังพลที่เหลืออยู่ประจำการในบางฐานมีไม่มากนัก
แต่ในตอนนี้ กำลังพลของกองทัพเรือในโลกใหม่ยังไม่ได้ถอนกำลังทั้งหมด ฐาน G-1 ยังเป็นประตูสู่แมรีจัวส์อีกด้วย มีกำลังพลประจำการถึงสามพันคน
ไคโดแสยะยิ้ม จากนั้นก็พ่นพลังงานมหาศาลขึ้นไปบนฟ้า
"ถ้าอยากหยุดฉันก็ลองดู ถ้าแกยอมแลกกับชีวิตของทหารทั้งหมดที่นี่ แกก็เข้ามาเลย!"
ทันทีที่พูดจบ การ์ปก็เข้าใจสิ่งที่ไคโดทำ เมฆถูกแหวกออก ก้อนหินขนาดใหญ่ตกลงมาใส่ฐาน G-1 การโจมตีด้วยฝนดาวตกของมังกรได้เริ่มขึ้นแล้ว
นี่คือแผนการของไคโด การ์ปสามารถลองร่วมมือกับคุซันเพื่อหยุดไคโด แต่อัตราความสำเร็จไม่ใช่ 100% และหากพวกเขาเลือกที่จะทำเช่นนั้น ฐาน G-1 ก็จะถูกทำลายด้วยฝนดาวตกที่ไคโดปล่อยออกมาอย่างเต็มกำลัง
ก่อนหน้านี้ เทวาสถิตฟ้าครองสวรรค์ได้ทำลายสิ่งกีดขวางไปจำนวนมาก ความเสียหายจากมังกรแปดเศียร รวมถึงผลกระทบจากการต่อสู้ระหว่างไคโดและการ์ป ทำให้ที่นี่ไม่สามารถทนทานต่อการโจมตีได้อีก
พูดจบ ไคโดก็ไม่สนใจการ์ปอีกต่อไป แปลงร่างเป็นมังกรแล้วพุ่งไปทางมังกรแปดหัว เขาต้องพาสมบัติล้ำค่าชิ้นนี้กลับไปให้ได้
มองดูไคโดที่จากไปและอุกกาบาตที่ร่วงหล่นลงมา ในที่สุดการ์ปก็เลือกที่จะไปหยุดฝนดาวตก ปัญหาหลักยังคงเดิม หากไคโดตั้งใจจะไปจริงๆ โอกาสสำเร็จก็สูงมาก อาจต้องแลกด้วยความสูญเสียครั้งใหญ่แต่กลับไม่ได้อะไรเลย
ในสถานการณ์เช่นนี้ การ์ปไม่สามารถทนเห็นทหารเหล่านั้นต้องสละชีพได้ ในที่สุด ด้วยการช่วยเหลือจากไคโด มังกรแปดหัวก็สามารถหลุดรอดจากมือของคุซันได้สำเร็จ ทั้งคนและมังกรจากไปต่อหน้าทุกคน ทิ้งไว้เพียงฐาน G-1 ที่พังยับเยิน
...
"คุณการ์ป"
ภายในฐาน G-1 คุซันใช้พลังของตัวเองแช่แข็งหัวมังกรทั้งสามที่ถูกตัดขาดในการต่อสู้ แม้แต่พื้นดินโดยรอบก็ถูกขุดขึ้นมา เพื่อส่งไปให้หน่วยวิทยาศาสตร์ทำการวิจัย
"ทำไมมีแค่นายมาคนเดียว? แล้วไอ้หมอนั่น เซ็นโงคุอยู่ไหน? โอกาสแบบนี้เขาไม่น่าจะพลาดนะ"
"คิซารุกำลังช่วยงานวิจัยที่หน่วยวิทยาศาสตร์ครับ อาคาอินุออกไปปฏิบัติภารกิจข้างนอก ส่วนท่านจอมพลเซ็นโงคุ... เขาถูกสั่งให้ไปช่วยป้องกันแมรีจัว..."
คุซันถอนหายใจและอธิบายสถานการณ์ให้การ์ปฟัง
พลเรือเอกไม่ใช่เครื่องราง พวกเขามีภารกิจมากมายที่ต้องจัดการ
แต่กองบัญชาการใหญ่จะต้องมีพลเรือเอกประจำการอย่างน้อยหนึ่งคน เพื่อรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน เมื่อได้รับรายงานสถานการณ์ที่ฐาน G-1 เซ็นโงคุก็ตั้งใจจะออกเดินทางด้วยตัวเอง
แม้ว่าเขาจะเป็นจอมพล แต่กองบัญชาการใหญ่ค่อนข้างปลอดภัย การไม่มีกำลังรบระดับสูงประจำการชั่วคราวก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ถ้าสามารถรั้งไคโดไว้ได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก
เขาเชื่อฟังคำสั่งของรัฐบาลโลก แต่ก็มีจุดยืนของตัวเอง อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะออกเดินทาง รัฐบาลโลกก็ออกคำสั่งฉุกเฉินให้เซ็นโงคุไปช่วยงานป้องกันที่แมรีจัว
"ที่นั่น... ต้องการกำลังเสริมงั้นเหรอ?"
"เบื้องบนดูเหมือนจะกังวลเรื่องความปลอดภัยของเผ่ามังกรฟ้า ท่านจอมพลเซ็นโงคุก็คงขัดคำสั่งไม่ได้หรอกครับ"
"พวกสารเลวนั่น..."
การ์ปทุบกำแพงข้างๆด้วยความโกรธ ไม่รู้ว่ากำลังด่าใครอยู่ และสิ่งที่เขาต้องแลกมา ก็คือการทำลายอาคารที่ยังพอใช้งานได้อีกหลังหนึ่ง