ตอนที่แล้วบทที่ 719 "อมตะ"
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 721 : เรียกลมเรียกฝน

บทที่ 720 "คนบ้า" ที่ไม่สามารถเข้าใจได้


[แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]

[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด]

[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ100คน ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบไม่มีการแก้คำผิด และยิบย่อยมากมาย ไปนั่นแหละ]

บทที่ 720 "คนบ้า" ที่ไม่สามารถเข้าใจได้

การ์ปไม่มีอารมณ์จะต่อสู้กับไคโดจริงๆ ถึงแม้จะปฏิเสธการเลื่อนตำแหน่งเป็นพลเอก แต่ตำแหน่งของเขาในกองทัพเรือก็สูงกว่าพลเอกทั่วไปมาก ทั้งในด้านความแข็งแกร่งและชื่อเสียง เขาไม่ด้อยไปกว่าพลเอกเลย แถมยังมีฉายา "วีรบุรุษ" อีกด้วย

ดังนั้น เขาจึงรู้ดีเกี่ยวกับนโยบายบางอย่างของรัฐบาลโลก เซ็นโงคุมักจะมาบ่นกับเขา คนที่เซ็นโงคุสามารถระบายความในใจได้อย่างสบายใจก็มีแค่การ์ปและแพะตัวนั้นเท่านั้น

เดิมทีเซเฟอร์ก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่หลังจากที่เขาประสบกับเหตุการณ์เรือฝึกเกือบถูกทำลายจนหมด และตัวเองก็เสียแขนไป คนก็เริ่มแปลกไปบ้าง เซ็นโงคุก็ไม่สามารถพูดคุยเรื่องลับๆกับเขาได้อีก

การ์ปรู้เรื่องการค้าขายระหว่างรัฐบาลโลกและกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูร รวมถึงนโยบายรักษาสมดุลของจักรพรรดิทั้งสี่

ไม่ว่าจะเป็นไคโด หนวดขาว บิ๊กมัม หรือแชงค์ หากพวกเขาตั้งใจจะไปจริงๆก็ยากที่จะหยุดพวกเขาได้ด้วยตัวคนเดียว

ถ้าเป็นไปได้ การ์ปไม่อยากสู้กับไคโดเลย แค่อยากจะหยุดมังกรประหลาดที่อาละวาดเท่านั้น แต่น่าเสียดาย หลังจากการโจมตีครั้งนั้น ไคโดก็ไม่เคยให้โอกาสเขาอีกเลย

"การต่อสู้ ต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ? มีอะไรสนุกกว่านี้อีกไหมล่ะ?"

"....."

"คุณค่าของคนเราจะแสดงออกมาได้ก็ต่อเมื่ออยู่ในสนามรบเท่านั้น มานี่เลยการ์ป ให้ฉันได้สัมผัสคุณค่าที่แท้จริงของวีรบุรุษแห่งกองทัพเรือ ให้ฉันได้เห็นว่าคนที่โค่นร็อคส์ ดี ซีเบ็คได้นั้น เป็นคนแบบไหน!"

ไคโดแปลงร่างเป็นมังกรทันที ร่างกายของเขาขยายใหญ่ขึ้นสองเท่า ที่นี่คือฐาน G-1 ด้านหลังคือแมรีจัวส์ ไม่ไกลก็คือกองทัพเรือใหญ่ อย่างมากก็แค่ไม่กี่ชั่วโมง กองกำลังเสริมจากกองทัพใหญ่ก็จะมาถึงที่นี่แล้ว

เขาไม่มีเวลาแล้ว ไม่มีเวลามาเล่นขายของกับการ์ป

ก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้แปลงร่างด้วยซ้ำ แต่การ์ปก็ไม่ได้แสดงความได้เปรียบอะไรมากนัก ทำให้ไคโดรู้ว่าใจของการ์ปไม่ได้อยู่ที่นี่

การ์ปเป็นคนที่ไป มาๆไม่แน่นอน เจอเขาก็ไม่ง่าย ไคโดจึงอยากจะสนุกให้เต็มที่

อากาศถูกฉีกออก พร้อมกับเสียงแหวกอากาศ หมัดของไคโดก็มาถึงหน้าการ์ปแล้ว

หมัดที่ห่อหุ้มด้วยเกล็ดมังกรนั้นดูไม่สมส่วนกับร่างของการ์ปเลย แต่หมัดที่ดูเล็กๆของการ์ปกลับมีพลังที่น่าสะพรึงกลัวอย่างไม่น่าเชื่อ

ตู้ม!

สองหมัดไม่ได้สัมผัสกัน แต่ปะทะกันกลางอากาศ ถึงแม้จะเป็นแค่การปะทะกันของร่างกาย แต่เสียงที่เกิดขึ้นกลับดังกว่าสิ่งที่สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีเสียอีก

สองกำปั้นปะทะกัน คลื่นพลังมหาศาลแผ่ซ่านไปทั่ว บรรดาเปลวเพลิงที่ลุกโชนจากพลังของมังกรแปดหัวดับวูบลงในพริบตาภายใต้แรงลมอันบ้าคลั่ง อาคารที่พังทลายพากันถล่มลงมา ผู้คนที่มีพลังไม่มากพอถึงกับปลิวกระเด็นไปกับสายลม

เสื้อคลุมของการ์ปปลิวไปตามแรงลม แต่ตัวเขายังคงยืนหยัดดุจดั่งป้อมปราการขวางทางอยู่ด้านนอกของ G-1

"ท่านการ์ป! ท่านการ์ปหยุดการโจมตีของไคโดได้แล้ว!"

ที่หน้าต่างของสถานพยาบาลชั่วคราว เหล่าทหารเรือผู้แข็งแกร่งต่างใช้แผ่นเหล็กปิดกั้นกระแสลมจากภายนอก หลังจากที่รู้สึกว่าแรงลมสงบลง พวกเขาจึงเริ่มสำรวจสถานการณ์ภายนอก

เหล่าทหารเรือต่างเคยได้ยินเรื่องราวความกล้าหาญของการ์ปจากเบื้องบน เมื่อเห็นเขายังคงยืนหยัดอยู่เบื้องหน้า ทุกคนก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมา

"ท่านโมมอนก้าและท่านโบการ์ดก็สามารถยื้อมังกรประหลาดตัวนั้นไว้ได้แล้ว! กำลังเสริมจากกองบัญชาการกำลังมา! ชัยชนะเป็นของพวกเรา!"

ภายในห้องกระจายเสียง ผู้ประกาศรายงานข่าวล่าสุดที่ได้รับมา เพื่อปลุกขวัญกำลังใจที่ตกต่ำจากการสูญเสีย

"เฮ้! ได้ยินไหม! อีกเดี๋ยวเดียว กำลังเสริมก็จะมาถึงแล้ว อย่าตายที่นี่นะเว้ย!!"

แพทย์สนามกำลังกดห้ามเลือดให้ทหารคนหนึ่ง ขณะที่คนอื่นๆก็ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บคนอื่นๆ

พวกเขาไม่สามารถช่วยเหลือในการต่อสู้ภายนอกหรือควบคุมปืนใหญ่ได้ แต่ในฐานะแพทย์สนาม ที่นี่คือสนามรบของพวกเขา การช่วยชีวิตทหารที่บาดเจ็บทีละคน ถือเป็นชัยชนะครั้งใหม่สำหรับพวกเขา

......

"นี่คือเหตุผลที่แกพาสัตว์ประหลาดตัวนั้นมาโจมตีที่นี่งั้นเหรอ?"

"สัตว์ประหลาด? ร่างกายที่ถือกำเนิดมาเพื่อการต่อสู้ช่างงดงาม และมันเป็นสิ่งที่พวกทหารเรืออย่างพวกแกไม่มีวันมีได้ ต่อให้แกอยากได้พาหนะที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ แกก็ไม่มีทางหามันเจอหรอก! โว่ะโรโรโรโร่ะ!"

ทุกสิ่งล้วนมีสองด้าน ในสายตาของการ์ป มังกรแปดหัวคือสัตว์ประหลาดที่สร้างแต่ความเสียหาย แต่ในสายตาของไคโด มันคือ "ม้าขาว" ที่งดงาม เขาไม่ปิดบังความดีใจที่มีสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังเช่นนี้ไว้ในครอบครอง

"แกมันบ้าไปแล้ว... พวกโจรสลัดอย่างพวกแกมันก็แค่คนชั่วที่ไม่เคารพกฎหมาย"

"โอ้? แกก็รู้ว่าฉันเป็นโจรสลัดสินะ? โจรสลัดโจมตีทหารเรือ ต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ? มันยังเป็นเด็ก มันต้องการเวทีที่ยิ่งใหญ่ ที่นี่คือที่ที่ฉันเลือกให้มันแสดงตัวครั้งแรกไงล่ะ!

พูดมาก็เยอะแล้ว ไอ้แก่ แกก็ควรจะเอาจริงได้แล้วมั้ง!"

สำหรับการ์ป พฤติกรรมของไคโดนั้นบ้าคลั่งและไร้เหตุผล เหตุผลที่เขาบุกโจมตีฐานทัพเรือดูเหมือนจะเป็นแค่การที่เขาอยากอวดมังกรของเขา ซึ่งมันไร้สาระยิ่งกว่าตอนที่เขาเคยจงใจให้จับเพื่อที่จะได้กินข้าวในคุก

แต่เขาก็เข้าใจแล้วว่า ถ้าไม่จัดการไคโด เขาก็ไม่มีทางไปช่วยเหลือในส่วนอื่นๆของการต่อสู้ได้

โมมอนก้าและโบการ์ดสามารถจำกัดการเคลื่อนไหวของยามาตะโนะโอโรจิได้ แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งการโจมตีทั้งหมดของมันได้ อาคารบ้านเรือนยังคงถูกทำลายอยู่เป็นระยะๆ แม้ว่าการสูญเสียของกองทัพเรือจะลดลง แต่ก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งได้

เพื่อที่จะยุติเรื่องทั้งหมดนี้ เขาจะต้องจัดการกับไคโดก่อน เพราะเจ้าหมอนี่จะไม่ยอมปล่อยให้เขาไปจัดการกับมังกรประหลาดนั่นแน่

กล้ามเนื้อบนแขนของการ์ปโป่งขึ้น แขนทั้งข้างถูกหุ้มด้วยฮาคิเกราะที่ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ เขาใช้ขาและเอวเป็นแรงส่งดีดตัวออกจากไคโด ในขณะเดียวกันร่างกายของการ์ปก็ลอยขึ้นกลางอากาศ หมัดของเขาพุ่งตรงไปยังใบหน้าของไคโด

จากการรับรู้จากฮาคิสังเกตของการ์ป พฤติกรรมของไคโดผิดปกติมาก เขาไม่ได้แสดงท่าทีหลบหลีกใดๆ และในความเป็นจริงก็เป็นเช่นนั้น หมัดของการ์ปจึงกระแทกเข้าที่ใบหน้าของไคโดอย่างจัง

ร่างกายอันใหญ่โตของไคโดกระเด็นออกไป ทิ้งรอยรูปคนขนาดใหญ่ไว้บนกำแพงของ G-1

ตามหลักแล้วนี่เป็นโอกาสที่ดี แต่การ์ปกลับปรับสภาพร่างกายแล้วพุ่งไปยังทิศทางที่ไคโดร่วงลงไป แม้ว่าหมัดนั้นจะเข้าเป้าอย่างแม่นยำ แต่ความรู้สึกที่สัมผัสได้จากหมัดบอกเขาว่า หมัดนั้นไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก

ท่ามกลางซากปรักหักพัง ไคโดลุกขึ้นยืนพร้อมกับส่ายหัว

"โว่ะโรโรโรโร่ะ หมัดของแก ให้ความรู้สึกแบบนี้นี่เอง"

หนวดขาวเคยเป็นลูกเรือคนหนึ่งบนเรือลำเดียวกับเขา เขาจึงพอจะรู้เรื่องของการ์ปอยู่บ้าง แม้ว่าในตอนนั้นการ์ปจะเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งของกลุ่มโจรสลัดร็อกส์ แต่ไคโดในตอนนั้นยังไม่มีคุณสมบัติที่จะต่อสู้กับเขา เขาเป็นเพียงเด็กฝึกหัดธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น

เพื่อที่จะประเมินความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น เขาจึงเลือกที่จะใช้ร่างกายของตัวเองสัมผัสกับหมัดของอีกฝ่าย

แม้ว่าจะมีฮาคิป้องกัน แรงหมัดนั้นก็ยังทำให้เขากระเด็นออกไปได้

"น่าตื่นเต้นจริงๆ!"

เมื่อเห็นว่าการ์ปเลิกสนใจที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้กับยามาตะโนะโอโรจิ และหันมาทุ่มเทให้กับการต่อสู้นี้เต็มที่ จิตวิญญาณนักสู้ของไคโดก็ลุกโชนขึ้นมาอย่างเต็มที่ เขาคว้าฮัสไซไคขึ้นมาแล้วพุ่งเข้าใส่การ์ป...

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร , ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิก กระซิก ;-;

หลังจากลอบสังหารมอนสเตอร์จนหมดแล้ว ลูหลี่ได้ใช้ย่องเบาเพื่อสอดแนมบอสและมองหา หญ้าทัสเสนค

หญ้าทัสเสนค ค่อนข้างหายากและใช้เวลาอย่างมาก ลูหลี่เจอมันแค่ 2 ต้น และก็มีหญ้าใบเงินจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตามมันเป็นเพียงส่วนผสมสำหรับสร้างโพชันพื้นฐานเท่านั้น โพชันพื้นฐานสามารถขายได้ 40 เหรียญทองแดงต่อขวด ดังนั้นการเก็บรวบรวมเหรียญทองแดงจำนวนมากนั้นไม่เป็นประโยชน์ แต่ว่าเมื่อพวกเขากลับไปหมูบ้าน ลูหลี่วางแผนจะซื้อดอกไม้สันติภาพเพื่อสร้าง โพชันพื้นฐาน เขาสามารถใช้พวกมันสำหรับการเพิ่มความสามารถในการเล่นแร่แปรธาตุของเขาได้

สองชั่วโมงผ่านไปหลังจากที่พวกเขาฟาร์มมาเป็นระยะเวลานานลูหลี่ก็พบกับบอส

แกลลาเฮอร์ นั่นคือชื่อของงูพิษที่ปกคลุมด้วยป่านที่มีสีสัน รูปร่างของมันหนาพอๆกับยางและมันมีความสูงราวๆครึ่งหนึ่งของคนเมื่อมันยกศีรษะ ปากของมันกว้างมากและมีเขี้ยวสี่เขี้ยวทำให้มันดูน่าประหลาดเหลือเกิน

มันมี LV12 และมีเลือด 35,000 หน่วย

"ไอ้ตัวนี้อาจจะกลืนฉันเข้าไปในท้องของมันก็ได้นะ"

อาเซอร์ซีบรีสไม่ได้กลัวงู แต่แน่นอนเขาไม่ต้องการที่จะถูกกินโดยสัตว์ที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้

"ไปเลยซีบรีส ไปลองกับเจ้างูยักษ์นั้นหน่อย"[อันนี้ไม่รู้จะใช้สำนวนอะไรเลย]

ลูหลี่รู้ดีว่านี่เป็นบอส สำหรับแผนการต่อสู้นั้น แน่นอนว่าเขาไม่มีมัน

"ไอ้บ้าเอ้ย นายเปิดเผยตัวจริงของนายแล้วใช่ไหม! นายกำลังพยายามให้ฉันฆ่าตัวตายใช่มั้ย? "อาเซอร์ซีบรีสรู้สึกหดหู่มาก

"มาสเรนอยู่ข้างหลัง ถ้าเราไม่สามารถจัดการมัน ยังไงเราก็ต้องการให้นายช่วย ไม่ให้นายไปฆ่าตัวตายเล่นหรอก"ลูหลี่ไม่สนใจเขาและเตือนว่ามีนักบวชคอยรักษาอยู่

อาเซอร์ซีบรีสทำได้เพียงดูที่เพื่อนร่วมทีมของเขาอย่างน่าสมเพชในขณะที่เขาทำตัวกล้าหาญและชารจ์ใส่บอส

"ฉันสร้างความเสียหายได้แค่ 13 ... "

นั้นไม่เลวร้ายนัก สำหรับแท๊งค์ที่ได้ใส่คะแนนมากที่สุดของเขาในค่าร่างกายและมีอุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่ให้ค่าร่างกาย ความสามารถในการสร้างความเสียหาย 13 หน่วย นั้นหมายถึงบอสมีค่าป้องกันที่อยู่ในระดับธรรมดา

"มันโจมตีฉันสร้างความเสียหาย 35 ... "

การโจมตีมันก็ไม่สูงมากนัก ในความเป็นจริงมันดูเหมือนจะอ่อนแอมากสำหรับบอส LV12

"ทุกคนเริ่มโจมตีได้!" ลูหลี่ยังคงรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจ แต่เขาก็ไม่คิดที่จะยอมแพ้ เมื่อคิดถึงสิ่งที่มูนไลท์บอกกับเขาในอดีตพวกเขาก็ขบฟันและวิ่งเข้าไปหามัน!

บอสคำรามออกมาและกวาดร่างกายออกไปสร้างความเสียหายพื้นที่ให้กับผู้โจมตีระยะประชิด การป้องกันของลูหลี่ต่ำกว่าอาเซอร์ซีบรีสมากและเขาสูญเสียเลือดไปประมาณ 100 หน่วยในการโจมตีครั้งเดียว

โชคดีที่มันไม่ได้โจมตีบ่อยๆด้วยหางของมัน ฮีลเลอร์ของพวกเขาสามารถที่จะเติม HP ได้อย่างง่ายดาย

ลูหลี่ได้ทำอย่างสุดความสามารถเพื่อทำให้บอสเกิดความเสียหาย เขารู้สึกว่าบอสตัวนี้มันต้องมีอะไรที่แปลกๆแน่นอน

บอสทั้งหมดในเกมรุ่งอรุณ เป็นที่รู้จักในเรื่องการฆ่าที่ยากมาก บอสในป่านั้นฆ่ายากกว่าบอสใน ดันเจี้ยนถ้ำแมงมุม แม้แต่ปาร์ตี้ที่มีขนาดใหญ่อาจถูกจัดการโดยบอสเพียงตัวเดียว

หลังจากสูญเสียHP ไป 10% แล้ว แกลลาเฮอร์ก็โกรธแค้น มันยกตัวขึ้นและลำคอของมันแบนอย่างไม่น่าเชื่อราวกับว่ามันกำลังจะทำอะไรบางอย่าง ...

"ทุกคนรีบวิ่งเร็วบอสกำลังจะใช้สกิล!" ลูหลี่ตะโกนในขณะที่วิ่งหนี

ไม่มีใครที่มีสัญชาตญาณและความเร็วในการตอบสนองเร็วเท่าลูหลี่ เฉพาะมาสเรนที่กำลังจดจ่ออยู่กับการรักษาลูหลี่ เธอได้วิ่งตามเขาไปด้วยจิตใต้สำนึก

บอสถ่มน้ำลายออกมาเป็นคลื่นใหญ่มันเป็นพิษซึ่งดูเหมือนจะครอบคลุมท้องฟ้าทั้งหมด พิษพวกนี้มันจะโดนคนที่ไม่ได้วิ่งหนีทั้งหมดโดยไม่เกี่ยงว่าจะเป็นอาชีพที่โจมตีระยะไกลหรือระยะประชิด

"บ้าเอ้ย" ดอกไม้อ้างว้างทำได้เพียงพูดคำบางคำก่อนที่เขาจะเสียชีวิต

ถัดไปคือความฝันที่เหลืออยู่ เธอเพียงแค่กระพริบตาโลกของเธอก็กลายเป็นสีดำ

ขวดยาแก้พิษในมือของอาเซอร์ซีบรีสตกลงไปที่พื้นขณะที่เขาจะตะโกนว่า "อั๊ก ยาแก้พิษมันแก้พิษที่มาจากบอสตัวนี้ไม่ได้!"

อาเซอร์ซีบรีส มี HP จำนวนมากและมีค่าป้องกันสูง เขาสามารถทำท่าทางที่น่าประทับใจได้ก่อนที่เขาจะล้มลงสู่พื้น

เลื้อย เลื้อย เลื้อย ถึงแม้บอสตัวใหญ่นี้จะไม่มีเท้า แต่มันก็เร็วกว่าลูหลี่!

มันกำลังมาถึงพวกเขา!

เมื่อใกล้เข้ามาแล้วพวกเขาก็จะเห็นเขี้ยวของมันได้ชัดเจน มันกำลังจะถึงตัวของมาสเรน

ลูหลี่สูดลมหายใจเข้ามาและตะโกนบอกมาสเรนว่า "วิ่งต่อไปซะฉันจะขวางทางให้เธอเอง!" เขาหยุดวิ่งหนีและมาอยู่ด้านหน้าบอสโดยไม่เกรงกลัว

"ไม่ฉันจะไม่วิ่ง ถ้านายตายฉันก็จะตายไปกับนาย! "มาสเรนก็หยุดวิ่ง

ลูหลี่เกือบจะถ่มน้ำลายออกมาขณะที่เขาโกรธและตะโกนออกมาว่า "เธอคิดว่าเธออยู่ในละครหรืออะไรกันแน่? เธอมีชุบชีวิต มันทำให้เธอสามารถช่วยพวกเราได้ทั้งหมด ดูละครน้อยลงบ้างนะ! "

มาสเรนยิ้มอย่างงุ่มง่ามและวิ่งหนีไปยังทางออก

ลู่หลี่รีบวิ่งไปขวางหน้าบอสและถูกโจมตีโดยหางของมัน หลังจากที่โดนโจมตีแล้วเลือดของเขามีเพียง 3 หน่วยเท่านั้น

เพื่อที่จะให้มาสเรนรอดอีกสักสองสามวินาที เขาหยิบโพชันและดื่มมัน

ขณะที่เขาดื่มเสร็จแล้วการโจมตีครั้งที่สองก็เริ่มขึ้นและลูหลี่ก็ได้บินอีกครั้ง มีคุณลักษณะที่ซ่อนอยู่มากมายในเกม ยกตัวอย่างเช่นการมีค่าร่างกายสูงทำให้เกิดความต้านทานต่อการบิน ดังนั้นอาเซอร์ซีบรีสสามารถรับการโจมตีจากบอสได้อย่างต่อเนื่องและจะใช้เวลาสักระยะหนึ่งหรือสองก้าวเพื่อกลับมาบนพื้นอีกครั้ง แต่ลูหลี่นั้นไม่มีค่าร่างกายที่สูงเหมือนซีบรีสทำให้เขาลอยไปมารอบๆเหมือนลูกขนไก่

เขาโชคดีที่เกมไม่ยอมปล่อยให้เขาต้องอดทนนานเกินไป เขาถูกตีอีกครั้งและเรืองแสงสีขาวในขณะที่เขากลายเป็นซากศพ

ถ้าหากไม่ช่วยมาสเรน ลูหลี่ก็สามารถหลบหนีไปได้ ด้วยสกิลเด็กแห่งป่า เขาสามารถหนีออกจากบอสไปเมื่อไหรก็ได้

หลังจากตายแล้วผู้เล่นมีทางเลือกสองทางคือเกิดไปยังจุดเกิดที่อยู่ใกล้ๆและพบกับพี่สาวเทพธิดาหรืออาจจะฟื้นขึ้นมาจากสกิลชุบชีวิตก็ได้ นี่เป็นกรณีที่ผู้เล่นได้รับสกิลชุบชีวิต

ลูหลี่รอประมาณ 1 นาทีก่อนที่ระบบจะถามเขาว่าเขาต้องการถูกชุบชีวิตหรือไม่

หลังจากยอมรับไปแล้ว โลกสีดำก็ได้เปลี่ยนเป็นโลกสีขาวอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเขาได้สูญเสีย 10% ของ EXP ของเขา ก่อนที่จะตายเขาจะสามารถไปถึง LV8 ได้หลังจากฆ่ามอนสเตอร์อีกสักสองสามตัว สิ่งที่แย่กว่านั้นก็คือเกราะระดับเหล็กนั้นได้ดรอบลงพื้นเสียแล้ว

ถ้ามาสเรนเสียชีวิตแล้วและพวกเขาก็ถูกส่งไปยังจุดเกิด อุปกรณ์เหล่านี้จะถูกลบออกโดยระบบ

"โอ้ขอบคุณพระเจ้า"ลูหลี่และดอกไม้อ้างว้างผู้ซึ่งได้ดรอบอุปกรณ์ระดับเหล็กพูดด้วยความโล่งอก

ดอกไม้อ้างว้างได้กอดมาสเรน เพื่อแสดงความชื่นชมยินดีและความกตัญญูของเขา ลูหลี่คิดสักครู่ก่อนจะปฏิเสธความคิดที่จะทำในสิ่งเดียวกัน เขาไม่สามารถไปกอดเธอได้เพราะเธอเป็นน้องสาวของคนอื่น

"แน่นอนเราไม่สามารถฆ่าบอสตัวนี้ได้"อาเซอร์ซีบรีสกล่าวขณะที่เขานั่งลงบนพื้นหญ้า

"จริงๆแล้วเราสามารถทนกับการโจมตีปกติได้ ปัญหาหลักคือพิษของมัน มันมีพลังมากเกินไป ดูเหมือนว่าเราจะสามารถจัดการกับมันได้หลังจากที่เรามี ยาแก้พิษระดับกลางเท่านั้น "ลูหลี่เห็นด้วยยาแก้พิษระดับพื้นฐานมีผลกับพิษจากมอนสเตอร์ที่อยู่ภายใต้ LV10 เท่านั้น บอสตัวนี้มี LV12 ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการยาแก้พิษระดับกลาง

"ลืมไปเถอะตอนนี้ฟาร์มมอนสเตอร์ปกติและหลีกเลี่ยงบอสดีกว่า" หลังจากที่เกือบจะสูญเสียอุปกรณ์ระดับเหล็กของเขาแล้วดอกไม้อ้างว้างก็กลัวมาก

"ลูหลี่พยายามยกระดับเล่นแร่แปรธาตุของคุณให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ พวกเราต้องกำจัดบอสตัวนี้เป็นคนแรก"อาเซอร์ซีบรีสกล่าว

"แน่นอน ไม่มีปัญหา" ลูหลี่รู้สึกมีความสุขมากที่สกิลเล่นแร่แปรธาตุจะมีประโยชน์อย่างมากในตอนนี้

[เฟซบุ๊คแฟนเพจ:แปลนิยายแบบมือใหม่]

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด