บทที่ 43 ปล่อยประตูเมืองในการต่อสู้
เมื่อชายชุดคลุมดำปรากฏตัว กู่ซีก็รู้สึกได้ทันทีว่าคนคนนี้น่าจะเป็นพวกนอกรีต
ยังไม่ทันที่ชายชุดคลุมดำจะพูดคำที่สองออกมา กู่ซีก็ชูมือขึ้นและปล่อยกระดูกแทงสามอันใส่ไปทางเขาทันที
แต่กระดูกแทงสามอันยังไม่ทันถึงตัวชายชุดคลุมดำ ก็ปรากฏเงาดำสองตัวขึ้นข้าง ๆ ชายชุดคลุม เพื่อรับการโจมตีนั้นแทน
ชายชุดคลุมดำหัวเราะอย่างเยาะเย้ย “ข้าแค่ตั้งใจจะไว้ชีวิตเจ้า แต่ดูเหมือนเจ้าจะอยากตายเอง โจมตีมัน!”
กู่ซีถอยหลังไปก้าวหนึ่ง เมื่อเห็นเงาดำสองตัวกำลังเดินเข้ามาหาเขา ดวงตาของเขาแสดงออกถึงความดูแคลน
“ใครให้ความกล้ากับเจ้ามาท้าทายนักเวทศาสตร์แห่งความตายเรื่องจำนวนคนกัน”
กู่ซีไม่ต้องทำอะไรเลย ประตูหินบานใหญ่ก็ปรากฏขึ้นข้างหลังเขา เขาถอยไปอยู่ตรงกลางของประตู
ชายชุดคลุมดำยังไม่ทันได้คิดว่าเกิดอะไรขึ้น กองทัพโครงกระดูกจำนวนเกือบสี่สิบตัวก็พุ่งออกมาจากประตู
กองทัพโครงกระดูกกลุ่มที่ 3 ซึ่งเป็นกองหน้าวิ่งเข้ามารายล้อมกู่ซีทันที ยกโล่ขึ้นเพื่อป้องกันเขาไว้
จากนั้นกลุ่มที่ 1 ซึ่งถือดาบใหญ่สองมือก็พุ่งเข้าโจมตีเงาดำโดยไม่สนใจว่าเป็นใคร
ชายชุดคลุมดำไม่คาดคิดว่ากู่ซีจะสามารถปล่อยวิญญาณพันธสัญญาออกมาในสนามรบได้เช่นนี้
เขาคิดว่าตนเองเจอนักเวทศาสตร์แห่งความตายที่ไม่มีวิญญาณพันธสัญญาติดตัวมาแล้วจะได้เปรียบ แต่กลับกลายเป็นเช่นนี้ไปได้
ชายชุดคลุมดำโบกมือไปที่พื้น เงาดำสองตัวก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง พุ่งเข้ามาโจมตีอย่างรวดเร็ว
แต่ตัวชายชุดคลุมดำกลับถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว เหมือนมีแผนจะหนีออกจากที่นี่
อย่างไรก็ตาม เมื่อชายชุดคลุมดำถอยออกไปก้าวหนึ่ง เขาก็รู้สึกถึงความเย็นยะเยือกที่ด้านหลัง
ทันใดนั้น การเคลื่อนไหวของเขาก็ช้าลง และแขนของเขาถูกปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็งบาง ๆ
ชายชุดคลุมดำเป็นคนที่มีประสบการณ์ เมื่อเจอสถานการณ์เช่นนี้ เขาไม่แม้แต่จะหันหลังกลับไปดู แต่ทิ้งตัวลงกับพื้นแล้วกลิ้งไปข้างหน้าเพื่อหลบหนี
แต่ลูน่าซึ่งปรากฏตัวอยู่ด้านหลังเขาไม่คิดจะปล่อยเขาไปง่าย ๆ ขณะที่ชายชุดคลุมดำกลิ้งไปข้างหน้า ลูน่าก็เปิดปากแล้วกรีดร้องออกมา
“อ๊า~”
เสียงกรีดร้องของบันชีที่ลูน่าปล่อยออกมารุนแรงมาก มันดังอยู่ข้างหูของชายชุดคลุมดำ เขารู้สึกเจ็บแปลบในสมองทันทีที่เสียงนั้นดังขึ้น
ดวงตาของเขากลายเป็นสีแดง เลือดก็ไหลออกมาจากปาก และเขาก็หมดเรี่ยวแรงลงไปทันที
ในตอนนั้นเอง กองทัพโครงกระดูกกลุ่มที่ 2 ซึ่งถือหอกก็พุ่งเข้ามาโจมตีโดยไม่สนใจเงาดำที่ชายชุดคลุมดำเรียกออกมา หอกของพวกเขาพุ่งตรงไปที่ตัวชายชุดคลุมดำ
จำนวนโครงกระดูกของกองทัพกลุ่มที่ 2 นั้นมากที่สุด การโจมตีเพียงครั้งเดียวก็ทำให้ชีวิตของชายชุดคลุมดำใกล้จะสิ้นสุดลง
ชายชุดคลุมดำพยายามจะหนีเอาตัวรอด แต่ในตอนนั้นเองโครงกระดูกที่ถือดาบสองมือก็พุ่งเข้ามา พร้อมกับฟันดาบลงมาและตัดหัวของชายชุดคลุมดำออกไป
【โครงกระดูก (วิญญาณพันธสัญญา) สังหารเงาลี้ลับ (ระดับ 3) ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 1 หน่วย, กองทัพได้รับค่าประสบการณ์ 1 หน่วย, วิญญาณพันธสัญญาได้รับค่าประสบการณ์ 5 หน่วย】
【โครงกระดูก (วิญญาณพันธสัญญา) สังหารเงาลี้ลับ (ระดับ 3) ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 1 หน่วย, กองทัพได้รับค่าประสบการณ์ 1 หน่วย, วิญญาณพันธสัญญาได้รับค่าประสบการณ์ 7 หน่วย】
【โครงกระดูก (วิญญาณพันธสัญญา) สังหารพวกนอกรีตเงาลี้ลับ (ระดับ 5) ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 1 หน่วย, กองทัพได้รับค่าประสบการณ์ 1 หน่วย, วิญญาณพันธสัญญาได้รับค่าประสบการณ์ 3 หน่วย, วิญญาณพันธสัญญาที่เข้าร่วมการต่อสู้ได้รับค่าประสบการณ์ 4 หน่วย】
【……】
ขณะที่ข้อมูลการสังหารของกู่ซีปรากฏขึ้นต่อหน้า เขาก็รู้แล้วว่าชายชุดคลุมดำคนนี้เป็นอะไร
ชายชุดคลุมดำเป็นพวกนอกรีต และยังเป็นพวกนอกรีตระดับ 5 ด้วย
ที่สำคัญกว่านั้น กู่ซีสังเกตว่าเงาดำที่ชายชุดคลุมดำปล่อยออกมานั้นคือพวกเงาลี้ลับที่มาจากอาเรียโดวิ
และพวกมันก็แข็งแกร่งมาก
เมื่อรวมสิ่งที่ชายชุดคลุมดำพูดตอนที่ปรากฏตัว กู่ซีก็เกิดความคิดขึ้นในใจ
วิญญาณภัยพิบัติก่อนหน้านี้ อาจจะเป็นสิ่งที่พวกนอกรีตเก็บรวบรวมเพื่อมอบให้กับเทพเจ้าผู้ถูกกักขังในอาเรียโดวิก็เป็นได้
ดูเหมือนว่าพวกนอกรีตในเมืองวิคตอเรียจะมีอยู่มากทีเดียว
เรื่องนี้ช่างเป็นสิ่งที่ยากจะป้องกัน
ในตอนนั้นเอง เมื่อชายชุดคลุมดำตายลง พื้นที่ที่ถูกชายชุดคลุมดำสร้างขึ้นก็แตกสลายไปเช่นกัน พื้นที่ซึ่งมีขนาดเท่าสนามฟุตบอลครึ่งหนึ่งก็เริ่มหดตัวกลับ
ประตูเมืองที่กู่ซีปล่อยออกมาในสนามรบก็ถูกบีบเข้ามาด้วย
เมื่อเห็นเช่นนี้ กู่ซีก็ไม่รอช้า “พวกเจ้าถอนตัวก่อน”
ลูน่าพยักหน้า หันกลับไปมองกองทัพโครงกระดูก ก่อนที่โครงกระดูกบางส่วนจะรีบเข้าไปแบกร่างของชายชุดคลุมดำและนำเข้าไปในประตูเมืองแห่งความตาย
ในโอกาสสุดท้าย ลูน่าก็รีบรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นในอาเรียโดวิระหว่างที่กู่ซีไม่อยู่ให้เขาฟัง
“ท่านเจ้า ช่วงเวลาที่ท่านไม่อยู่ อาเรียโดวิปลอดภัยดี พวกเราได้ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มีประโยชน์ และเก็บรวบรวมไม้และหินจำนวนมาก
ช่วงเวลานี้พวกเรารอคอยแต้มพลังงานเชิงลบอยู่ แต่ตอนที่พวกเราเดินทางมาที่นี่ พวกเราได้เริ่มสร้างสิ่งก่อสร้างหลักคือโรงเตี๊ยมแล้ว
นอกจากทรัพยากรที่ต้องใช้ในการสร้าง เรายังมีแต้มพลังงานเชิงลบเพียงพอที่จะอัญเชิญโครงกระดูกมาเพิ่มอีก 20 ตน”
กู่ซีรู้แล้วว่าจำนวนโครงกระดูกในกองทัพของเขาเพิ่มขึ้น จึงไม่ได้แปลกใจกับคำพูดของลูน่า
แต่ที่เขาแปลกใจคือ ลูน่าเลือกสร้างโรงเตี๊ยมแทนที่จะเป็นคลังเก็บของ
“ข้าไม่ได้บอกให้เจ้าสร้างคลังเก็บของหรอกหรือ ทำไมถึงสร้างโรงเตี๊ยมแทนล่ะ?”
“ท่านเจ้า ตอนนี้คลังเก็บของยังไม่จำเป็น เรามีหีบหน้าห้องประชุมที่ยังเก็บของได้อยู่ แต่ท่านเจ้าเคยคิดไหมว่า เมื่อท่านกลับไปที่อาเรียโดวิ หากไม่มีโรงเตี๊ยม ท่านจะกินอะไร”
เมื่อได้ยินลูน่าอธิบาย กู่ซีก็เข้าใจความตั้งใจของเธอทันที
เขาอาจเป็นนักเวทศาสตร์แห่งความตาย แต่เขาไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ตายแล้ว เขายังต้องกินอาหารอยู่
หากไม่มีโรงเตี๊ยม เมื่อเขากลับไปที่อาเรียโดวิ เขาจะไม่สามารถหาอาหารทานได้เลย จะทำได้เพียงต้มน้ำร้อนด้วยหม้อเท่านั้น
ใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน กู่ซีคงจะต้องหิวโหยจนกลายเป็นวิญญาณพันธสัญญาเองแน่
ดังนั้น เมื่อเปรียบเทียบระหว่างคลังเก็บของและโรงเตี๊ยม โรงเตี๊ยมจึงเป็นสิ่งที่กู่ซีต้องการมากที่สุดในตอนนี้
“ดี ข้าไว้ใจเจ้าในการจัดการเรื่องอาเรียโดวิ หลังจากที่สิ่งก่อสร้างหลักสร้างเสร็จ เจ้าจงให้ความสำคัญกับการสร้างกำแพงเมืองก่อน แล้วเรื่องอื่นข้าจะหาวิธีจัดการเอง”
ลูน่าพยักหน้าอย่างมั่นใจ แล้วรีบวิ่งเข้าไปในประตูเมืองที่เปิดไว้
เมื่อประตูเมืองแห่งความตายหายไปเบื้องหลังกู่ซี พื้นที่ในรถบัสก็กลับมาขนาดปกติ
ในตอนนั้นเอง พนักงานประจำรถที่เฝ้ามองสถานการณ์มาตลอดก็เดินเข้ามาอย่างระมัดระวัง
“ท่านนักเวทศาสตร์ เมื่อครู่นั้นมัน…”
ช่วยสนับสนุนให้ดาวเพื่อเป็นกำลังใจ
ในบทต่อๆไปด้วยน้า
(Next Ep...44)