บทที่ 36 ข้อตกลง
“แบบนี้ก็ได้เหมือนกันนะ”
พนักงานเสิร์ฟคิดอย่างจริงจัง หากกู่ซียินดีจะยอมรับว่าที่ดินนี้อยู่ในเขตดาร์มิงเวย์ เชื่อว่าหลายคนคงยินดีช่วยเขาทำธุรกรรมนี้ให้สำเร็จ
เพราะปัญหาของซากปรักหักพังนี้ทำให้คนเถียงกันมาหลายปีแล้ว แต่ไม่มีใครสามารถโน้มน้าวใครได้
หากเจ้าของซากปรักหักพังนี้สามารถเล่นเกมจนชนะและยืนยันว่าที่นี่อยู่ในเขตคัมเดน เจ้าของบ้านคนอื่นๆ ในละแวกนั้นก็คงจะออกมาเรียกร้องเหมือนกัน
แต่ถ้าบอกว่าไม่ใช่ เขตนี้ก็เป็นบริเวณสุดท้ายของถนนกรีนิช ซึ่งถนนนี้ก็ต้องมีจุดสิ้นสุดตรงไหนสักที่
ดังนั้นปัญหานี้จึงถูกเถียงกันมาตลอด และพนักงานเสิร์ฟก็รู้เรื่องนี้ดี
หากกู่ซีสามารถแลกเปลี่ยนที่ดินซากปรักหักพังนี้ได้จริง ก็จะช่วยแก้ปัญหาที่ยืดเยื้อมานานระหว่างเขตดาร์มิงเวย์กับเขตคัมเดน เชื่อว่าไม่มีใครจะคัดค้านเรื่องนี้
“ถ้าเธอต้องการที่นี่จริงๆ ฉันช่วยเธอแลกได้ ที่ดินนี้ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในเขตคัมเดน แต่ทุกอย่างก็ไม่ต่างกันกับเขตคัมเดนเลย”
“ลองดูสิ ที่ดินแปลงอื่นยังต้องเดินไปอีกหน่อย แต่ที่นี่ไม่ต้องเดินออกไปสักก้าวก็ถึงเขตคัมเดนแล้ว”
“ถ้าไม่ใช่เพราะบางคนมีความคิดแปลกๆ ที่นี่คงขายไปนานแล้ว”
“ถ้าฉันเป็นเจ้าของ ฉันจะไม่คิดจะเอาที่ดินไปเข้าคัมเดนหรอก แบบนี้มันต้องสำเร็จแน่”
“ตกลง ฉันจะเขียนหนังสือมอบอำนาจให้ตอนนี้เลย”
กู่ซีกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว ที่ดินทำเลดีแบบนี้ถ้าไม่เอาไว้ก็คงต้องไปหาแปลงอื่นที่ไม่น่าจะดีเท่านี้
เมื่อพนักงานเสิร์ฟได้ยินดังนั้น เขาก็ดีใจ “งั้นเซ็นข้อตกลงมอบอำนาจให้ฉัน... ให้พวกเราชะตาลิขิตจัดการเรื่องนี้ เวลาแค่สามวัน อีกสามวัน ที่ดินจะเป็นของเธอ”
กู่ซีพยักหน้า สามวันไม่ถือว่านานนัก และเขาก็มีธุระอื่นที่ต้องทำในเมืองวิคตอเรียพอดี สามวันนี้จะใช้เวลาทำสิ่งที่ต้องจัดการให้เสร็จไปด้วย
สามวันผ่านไป ซากปรักหักพังนี้ก็จะเป็นของเขา แล้วเขาจะตั้งจุดยึดไว้ที่นี่ก่อนที่จะออกจากเกม กลับไปแจ้งเรื่องอาชีพของตัวเอง
ขณะที่กู่ซีกำลังคิดเรื่องนี้ พนักงานเสิร์ฟก็ได้เขียนหนังสือมอบอำนาจและข้อตกลงเสร็จเรียบร้อย
กู่ซีตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียด พบว่าทุกอย่างถูกเขียนตามที่เขากล่าว ไม่มีอะไรที่เขาไม่เข้าใจ
กู่ซีจึงเซ็นข้อตกลง จากนั้นก็หยิบคำสั่งซื้อที่ดินออกมา
พนักงานเสิร์ฟรับคำสั่งซื้อที่ดินไปตรวจสอบ แล้วพยักหน้าอย่างมั่นใจ
“ไม่ผิด นี่คือคำสั่งซื้อที่ดินรุ่นแรก แม้ว่าจะผ่านมาเป็นเวลานานแล้ว แต่ก็ยังมีผลทางกฎหมาย เธอไม่ต้องห่วง ภายในสามวัน ฉันจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย”
“ดี” กู่ซียิ้มอย่างพอใจ เขากำลังจะบอกพนักงานเสิร์ฟว่าเขาจะไปอยู่ที่ไหนในช่วงสามวันนี้ แต่ทันทีที่เขาอ้าปาก เขากลับพบว่าพูดไม่ได้ว่าจะไปที่ไหน
พนักงานเสิร์ฟเห็นท่าทางลำบากใจของกู่ซี จึงหัวเราะและบอกว่า “ไม่ต้องห่วง ในเมืองวิคตอเรียนี้ ไม่มีใครที่เราหาไม่เจอ อีกสามวันฉันจะไปหาเธอเอง”
เมื่อเห็นท่าทางมั่นใจของพนักงานเสิร์ฟ กู่ซีก็พยักหน้า
หลังจากที่พนักงานเสิร์ฟเดินจากไป กู่ซีก็หันกลับมามองถนนกรีนิชอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปทางอีกทางหนึ่ง
กู่ซีตั้งใจจะหาที่พัก เพราะตอนนี้ฟ้าก็ใกล้มืดแล้ว ครั้งที่แล้วเขาไปสุสานในเมืองวิคตอเรียตอนกลางคืน จนถูกตีหัวเข้าอย่างจัง
ตอนนี้กู่ซีไม่อยากโดนจับอีกแล้ว
วิคตอเรียยามค่ำคืน กู่ซีไม่อยากเจออีกเลย
เขายอมไปหาที่นั่งพักในโรงแรมหรือโรงเหล้าดีกว่าที่จะออกไปเสี่ยงชีวิตตอนกลางคืน
สำหรับแผนการของเขา รอถึงพรุ่งนี้ก็ยังได้
ยังไงพวกศพก็ถูกขนไปตั้งนานแล้ว อีกไม่กี่วันก็คงไม่เป็นไร
เมื่อออกจากถนนนอร์ธัมเบอร์แลนด์ กู่ซีก็พบว่าตัวเองมาอยู่ใกล้แม่น้ำอีซิสอีกครั้ง
เพียงแต่ครั้งนี้เขาอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตอนที่เขาตกน้ำ
จากตรงนี้เขามองเห็นสะพานวิคตอเรียที่ทอดข้ามแม่น้ำอีซิสได้อย่างชัดเจน
กู่ซีตั้งใจจะหาโรงเหล้าแถวริมแม่น้ำเพื่อนอนพักสักคืน หากมีเตียงว่างก็จะหาที่นอน ถ้าไม่มี เขาจะนั่งดื่มเบียร์และกินอะไรสักหน่อยเพื่อให้ท้องของตัวเองได้พักบ้าง
ช่วงนี้เขาหิวจนเกินไป ตอนนี้เขาแทบจะไม่รู้สึกถึงกระเพาะอาหารของตัวเองแล้ว
การจะเพิ่มน้ำหนักที่เสียไปคงต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามถึงห้าเดือนหลังจากนี้
แต่ทันใดนั้น ขณะที่กู่ซีกำลังมองหาโรงเหล้า เขากลับสังเกตเห็นว่ามีหัวคนถูกแขวนไว้ใต้สะพานวิคตอเรีย
หัวนั้นไม่รู้ว่าถูกแขวนมานานเท่าไรแล้ว หรือผ่านการจัดการอะไรมา ทำให้หัวนั้นกลายเป็นสีดำสนิท แต่ยังคงเห็นเค้าโครงของใบหน้าและความโกรธแค้นที่ฝังอยู่ในดวงตาได้ชัดเจน
เมื่อเห็นภาพนั้น กู่ซีก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “นี่เป็นใครกันนะ ถึงโดนจักรวรรดิบริเตนแขวนประจานใต้สะพานแบบนี้ ต้องทำอะไรที่เป็นการต่อต้านจักรวรรดิบริเตนไว้เยอะแน่ๆ”
ตามทิศทางที่หัวนั้นถูกแขวน กู่ซีมองเห็นโรงเหล้าที่ดูดีแห่งหนึ่ง
ประตูของโรงเหล้านั้นพอดีถูกจ้องมองโดยหัวที่แขวนอยู่บนสะพาน
คนทั่วไปอาจจะทนไม่ได้กับสถานการณ์แบบนี้ แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่มที่ชอบความไม่ปกติ
ดังนั้นโรงเหล้านี้จึงมีลูกค้าค่อนข้างมาก ตอนนี้เป็นช่วงเวลาเย็น และนอกโรงเหล้าก็มีคนมานั่งดื่มกันแล้วหลายคน
กู่ซีสังเกตเห็นว่า มีคนบางคนที่ยกแก้วดื่มเพื่อเคารพหัวที่แขวนอยู่บนสะพานด้วย
จากภาพนี้กู่ซีจึงได้รู้ว่า โรงเหล้าแห่งนี้ต้องมีคนหนุนหลังแน่นอน
ในเมืองวิคตอเรีย ที่แบบนี้หมายถึงความปลอดภัย
กู่ซีเบื่อหน่ายกับพวกโจร สายลับ และนักล่าดวงวิญญาณต่างๆ ในเมืองวิคตอเรียเต็มทีแล้ว
เขาไม่อยากให้สองสามวันสุดท้ายของเขาต้องเกิดปัญหาอะไรอีก
ดังนั้นกู่ซีจึงเดินตรงไปยังโรงเหล้าอย่างมั่นใจ แล้วผลักประตูเข้าไป เขาโยนเหรียญหนึ่งชิลลิงไปที่บาร์
“ฉันอยากได้ที่พักสักคืน มีห้องว่างไหม?”
“ห้องชั้นสาม หนึ่งชิลลิงต่อคืน ถ้าเพิ่มเก้าเพนนี พรุ่งนี้เช้าจะมีอาหารเช้าให้ ถ้าเพิ่มอีกหนึ่งชิลลิง ตอนเที่ยงคืนจะมีสาวสวยแอบเข้ามาในห้อง และจะจากไปตอนเช้าก่อนฟ้าสาง”
“เอาห้องเงียบๆ ก็พอ”
กู่ซีมองดูสาวใช้ที่เดินผ่านไปมาในโรงเหล้า และตัดสินใจอย่างแน่วแน่
“ได้ ห้องของเธออยู่ชั้นสอง ขึ้นไปแล้วเป็นห้องที่สาม”
บาร์เทนเดอร์กล่าวโดยไม่ได้พูดโน้มน้าวอะไรเพิ่มเติม และโยนกุญแจห้องมาให้กู่ซี
เมื่อรับกุญแจแล้ว กู่ซีก็ถามอีกว่า “มีเหล้ากับเนื้อแห้งไหม ถ้ามีก็เตรียมไว้ให้ฉันด้วย เดี๋ยวค่อยคิดเงินพร้อมกัน”
“ได้ เดี๋ยวฉันจะให้คนยกไปส่งให้”
บาร์เทนเดอร์พยักหน้า พร้อมกับขยิบตาให้กู่ซีเป็นนัยว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี
ช่วยสนับสนุนให้ดาวเพื่อเป็นกำลังใจ
ในบทต่อๆไปด้วยน้า
(Next Ep...37)