ตอนที่ 159 ยังสะใจอยู่ไหม?
"พวกเจ้าไม่พอใจหรือ?" เทียนจีเจินเหริน ใบหน้าเต็มไปด้วยความอิ่มเอิบ กวาดสายตามองเหล่าอาวุโสที่อยู่ด้านล่างเล็กน้อย ริมฝีปากโค้งขึ้นเล็กน้อยและกล่าวว่า "ไม่พอใจงั้นหรือ? ถ้าไม่พอใจก็ขึ้นมาสู้กับข้าสักตั้ง! ด้วยพลังของข้าในตอนนี้ การสู้สองต่อหนึ่งก็ไม่ใช่ปัญหา!"
เมื่อคำพูดนี้ตกลง ความเงียบก็ปกคลุมไปทั่วบริเวณ ทุกคนหยุดหายใจ เหมือนรู้สึกได้ว่า การท้าทายครั้งแล้วครั้งเล่าของเทียนจีเจินเหรินนั้น ได้ล้ำเส้นเกินไปแล้ว และอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เลวร้าย
"อาจารย์! อาจารย์โปรดถ่อมตัวด้วย! ท่านควรถ่อมตัว!"
"ทำไมถึงทำตัวขาดความยั้งคิดแบบนี้!" ศิษย์คนโตของเทียนจีเจินเหริน หลี่ตู๋ซิ่ว ปิดหน้าของตัวเอง รู้สึกอับอายมาก นับตั้งแต่เหตุการณ์เผ่าปีศาจโลหิตครั้งก่อน เขาได้สังเกตเห็นแล้วว่า แม้ว่าเทียนจีเจินเหรินดูจะเป็นคนเจ้าเล่ห์ที่สุดในบรรดาอาวุโสทั้งหมด แต่อันที่จริงเขากลับเป็นคนที่ใสซื่อที่สุด
วันนี้ เทียนจีเจินเหรินทำตัวโอหังมาก จนหลี่ตู๋ซิ่วรู้สึกว่าจะต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเมื่อเห็นสีหน้าของเหล่าอาวุโสคนอื่นๆ เขาหันไปหาศิษย์น้องหญิง โอวหยางลั่วชิง พร้อมกับพูดว่า "เตรียมเปลหามเถอะ อย่าให้มีใครต้องเสียชีวิต"
ศิษย์สายตรงอีกคนที่ชื่อเจิ้งซ่วย รู้สึกงุนงงเล็กน้อย พูดว่า "แต่ดูเหมือนว่าอาจารย์จะแข็งแกร่งกว่าคนอื่นๆ ไม่ใช่หรือ? ทำไมต้องเตรียมเปลหาม?"
"หรือว่าเป็นเปลหามที่เตรียมไว้ให้เหล่าอาวุโสคนอื่นๆ? ศิษย์พี่ใหญ่นี่ช่างเป็นคนที่ใส่ใจจริงๆ!"
โอวหยางลั่วชิงถอนหายใจอย่างไม่เต็มใจและตอบว่า "เจ้าอย่าคิดไปไกล เปลหามนั้นเตรียมไว้ให้อาจารย์ของเราเอง ส่วนทำไมเจ้าก็จะได้รู้เองในไม่ช้า"
"การหยิ่งยโสแบบนี้ มักต้องจ่ายด้วยราคาแพง!"
"อาจารย์ ข้าพยายามพูดเกลี้ยกล่อมท่านหลายครั้งแล้ว ให้ท่านลดตัวลงบ้าง ทำไมท่านถึงไม่ฟังข้าเลย?" โอวหยางลั่วชิงถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ในฐานะที่เธอเป็นคนที่เชี่ยวชาญที่สุดของเขาเทียนจี เธอรู้ดีว่าอาวุโสคนอื่นๆ ที่ดูเหมือนใสซื่อ แต่พวกเขาซ่อนความสามารถไว้ลึกมาก กลยุทธ์เหล่านี้แทบไม่มีใครนอกจากอาจารย์ของเธอที่มองไม่ออก
"เจ้าเก่งจริงๆ เก่งมาก!"
"ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะทำตัวกล้าขนาดนี้ เปิดโลกทัศน์ของข้าจริงๆ!" โกวหยวนเจินเหริน หัวเราะออกมาเพราะความโกรธ สองต่อหนึ่งหรือ? เขาอดขำไม่ได้
วันนี้ เขาไม่ได้ตั้งใจจะเปิดเผยพลังที่แท้จริง เพราะหากทำเช่นนั้น หลังจากนี้เขาอาจจะต้องพบกับอันตรายถึงชีวิต แต่เขาไม่คิดเลยว่าจะมีคนโอหังถึงขนาดนี้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็ต้องยอมเสียสละสักหน่อยเพื่อสั่งสอนให้หลาบจำ
หลังจากนี้ เมื่อเขาไปถึงดินแดนบรรพชน เขายังมีเรื่องต้องคุยกับศิษย์น้องตี้เสินที่ "ตายไปแล้ว" อีกครั้ง
บูม!
ในสายตาที่ตกตะลึงของทุกคน พลังของโกวหยวนเจินเหรินก็เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พลังของเขาแผ่ออกไปทั่วฟ้าดิน ทำให้ท้องฟ้าสีหม่นหมอง
ระดับเทียนเหรินขั้นที่เก้า
ระดับเทียนเหรินสมบูรณ์
ระดับมหาเต๋าขั้นแรก!
พลังของโกวหยวนเจินเหรินได้ก้าวข้ามประตูของระดับมหาเต๋าและกลายเป็นผู้ที่มีพลังมหาศาลในระดับนั้นโดยสมบูรณ์!
"เจ้าจะยังคงโอหังต่อไปไหม?" โกวหยวนเจินเหรินมองไปที่เทียนจีเจินเหรินและยิ้มเยาะอย่างเย็นชา จริงๆ แล้วเขาไม่ต้องการเปิดเผยความสามารถที่แท้จริง แต่เจ้าบังคับข้า! หลังจากนี้ แม้ว่าข้าจะตาย ข้าก็จะไม่ยอมปล่อยเจ้าไป!
"เจ้า...ทำได้ยังไง?" เทียนจีเจินเหรินถอยหลังไปหนึ่งก้าว เขาไม่อยากจะเชื่อว่าอโกวหยวนเจินเหรินก็ทะลวงผ่านระดับมหาเต๋าได้แล้ว เมื่อสามปีก่อน เขายังอยู่ในระดับเทียนเหรินขั้นที่เก้าโดยไม่มีความช่วยเหลือจากเขาเต๋าหยวน นี่มันเป็นไปได้อย่างไร... หรือว่า... เขาเข้าใจแล้ว ไม่ใช่เพราะทะลวงผ่านในช่วงสามปีที่ผ่านมา แต่เมื่อสามปีก่อน อาวุโสโกวหยวนก็อยู่ในระดับมหาเต๋าแล้ว! เพียงแต่ในตอนนั้น ตี้เสินได้เลือกที่จะเปิดเผยพลังเพื่อสังหารศัตรู แต่โกวหยวนกลับยังปิดบังตัวเองไว้ เปิดเผยเพียงพลังของระดับเทียนเหรินขั้นที่เก้า
ข้าโดนเจ้าแก่สุนัขตลบหลังอีกแล้ว! ยอดเขาโกวหยวนสมกับชื่อจริงๆ!
"ยังสะใจอยู่ไหม?" โกวหยวนเจินเหรินยืนหยัดดั่งเซียนผู้ยิ่งใหญ่ พลังแห่งเต๋ากระจายไปทั่วตัว ทำให้บรรยากาศรอบๆ เต็มไปด้วยพลังอันสูงส่งของเขา
"เจ้านึกว่าเจ้าชนะหรือ?" ใบหน้าซีดเซียวของเทียนจีเจินเหรินค่อยๆ ปรากฏรอยยิ้ม ดวงตาของเขาปรากฏแสงสว่างเจิดจ้า พลังของเขาระเบิดออกมา เผยให้เห็นพลังที่เก็บซ่อนไว้ของระดับมหาเต๋า!
ภาพนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึง!
"ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย เทียนจีเจินเหรินก็ทะลวงถึงระดับมหาเต๋าแล้ว เขายังอายุแค่สี่ร้อยกว่าปีเอง!"
"ข้าเคยได้ยินมาว่าเขาชอบไปที่เขาเต๋าหยวนบ่อยๆ ในช่วงนี้ จะเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือเปล่า? ข้าคิดว่าใช่ ใครๆ ก็รู้ว่าเขาเต๋าหยวนเป็นสถานที่อันยอดเยี่ยม!"
เหล่าศิษย์ต่างพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น พวกเขาต่างยอมรับในความแข็งแกร่งของเหล่าอาวุโสทั้งสองคน ดูเหมือนจะอยู่ในระดับต้นๆ ของเทียนเหริน แต่แท้จริงแล้วพวกเขาคือผู้มีพลังในระดับมหาเต๋า นี่คือการซ่อนตัวที่ลึกล้ำจนพวกศิษย์ควรเรียนรู้
"พวกเขาคงไม่อยากมีชีวิตต่อไปแล้วกระมัง? ต่อสู้จนถึงขั้นที่ไม่สนใจชีวิตตัวเองแล้วหรือ?"
เหล่าอาวุโสต่างจากบรรดาศิษย์ แม้จะประหลาดใจ แต่ยังคงสงบ ใจความที่พวกเขาสนใจคือ การเผยความแข็งแกร่งในระดับมหาเต๋า ก็เท่ากับจองตั๋วไปดื่มชากับเจ้าสำนัก ซึ่งดื่มไปดื่มมา คนดื่มก็หายไป พวกเขาแทบจะจำไม่ได้แล้วว่าช่วงนี้ได้ไปร่วมงานศพมากี่ครั้ง เสื้อคลุมสำหรับงานศพในตู้เสื้อผ้าก็ใกล้จะใส่จนเป็นขุย สิ่งที่สำคัญคือ ทุกครั้งที่มีคนจากไป ก็จะมี "สหายร่วมต่อสู้" น้อยลง ทำให้ตัวเองกลายเป็นเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นอีกนิด เมื่อคนอื่นๆ จากไปเกือบหมด เขาก็ต้องจากไปเช่นกัน
ดังนั้นเหล่าอาวุโสทั้งหลายจึงหวังว่าให้คนอื่นๆ จากไปช้าหน่อย วันนี้ไม่ว่าผู้นำโกวหยวน หรือผู้นำเทียนจี ที่เผยความแข็งแกร่งออกมา ใครจะแพ้หรือชนะ ก็ถูกกำหนดชะตาแล้ว
เหล่าอาวุโสแห่งเขาเกาซานที่เฝ้าชมการต่อสู้เริ่มเผยรอยยิ้ม ท่านผู้นำยอดเขาเหล่านี้ของเราช่างเข้าใจเรื่องดีจริงๆ ไม่เหมือนพวกอาวุโสที่ชอบเก็บงำความลับจนถึงที่สุด
"เป็นไงล่ะ? พี่โกวหยวน พลังบำเพ็ญของข้า พอใช้ได้หรือไม่?" เทียนจีเจินเหรินยิ้มออกมา แม้เขาจะอยู่ระดับเดียวกับโกวหยวน แต่ทุกคนรอบข้างต่างสัมผัสได้ว่า พลังของเทียนจีเจินเหรินนั้นรุนแรงกว่า นั่นเป็นเพราะตอนที่เขาไปที่ยอดเขาเต๋าหยวนเพื่อกินหม้อไฟเนื้อสุนัขและยาบำรุงสมุนไพร ทำให้เขากำลังจะทะลวงถึงระดับที่สองในเร็วๆ นี้
“ข้าไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ แต่มันเป็นเพราะท่านบังคับข้า!”
“น้องรักเอ๋ย วันนี้อย่าโทษข้าเลย” โกวหยวนเจินเหรินกล่าวด้วยความเศร้า หลังจากสิ้นเสียงของเขา พลังในระดับหมาเต๋าขั้นแรกของเขาก็พุ่งทะยานอีกครั้ง ไปถึงระดับขั้นสอง!
"อะไรนะ? เป็นไปได้ยังไง!" เทียนจีเจินเหรินตื่นตระหนก เขาไม่อยากเชื่อว่าโกวหยวนจะมีระดับสูงกว่าตน
"ข้าไม่เชื่อ!" ว่าพลาง เทียนจีเจินเหรินก็พุ่งเข้าหาโกวหยวน ทั้งๆ ที่เขาเป็นนักพรตสายใช้พลังต่อสู้ระยะไกล แต่กลับอยากสู้ระยะประชิด
"ไม่เชื่อ? งั้นข้าจะสู้ให้เจ้าจนเชื่อ!"โกวหยวนเจินเหรินหัวเราะอย่างเยาะเย้ย พร้อมฟาดมือเดียวลงมา ส่งเทียนจีเจินเหรินจมลงไปในดิน แล้วก็กระหน่ำโจมตีด้วยพลังหลากหลายโดยไม่ปรานี
“ข้าให้เจ้าหยิ่ง ข้าให้เจ้าสนุก ข้าให้เจ้าสู้ได้สองต่อหนึ่ง…”
การกระทำที่เกินเลยของโกวหยวนเจินเหรินทำให้ทุกคนตกตะลึง
"อย่าตีเขาจนตายล่ะ รีบไปห้ามเขา!"
"แย่แล้ว! แย่แล้ว! เดี๋ยวต้องมีคนตายแน่!" ศิษย์ต่างหวาดกลัว ไม่คิดว่าผู้นำยอดเขาโกวหยวนจะเล่นแรงขนาดนี้ เพียงแค่การโจมตีเดียวก็สามารถเอาชีวิตพวกเขาได้แล้ว
"อาจารย์อาโกวหยวน! พอได้แล้ว อาจารย์อาเทียนจีหมดสติไปแล้ว" ฮั่วหยุนเฟย ปรากฏตัวขึ้นในสนาม พอเขาโบกมือครั้งหนึ่ง พื้นที่ก็สว่างขึ้นเล็กน้อย จากนั้นโกวหยวนก็ถูกส่งกลับไปที่ที่นั่งของเขาที่ยอดเขาโกวหยวนอย่างง่ายดาย
"นี่..." โกวหยวนที่นั่งอยู่ตรงนั้นตกตะลึง ทั้งๆ ที่เขาใช้พลังทั้งหมด แต่กลับถูกส่งกลับมาได้ง่ายดายเช่นนี้ ตอนที่เขาสัมผัสได้ถึงพลังของฮั่วหยุนเฟย เขาตั้งใจไม่หยุดการโจมตี เพื่อทดสอบพลังของศิษย์รุ่นหลานผู้นี้ ใครจะรู้ว่าเพียงแค่โบกมือเดียว ฮั่วหยุนเฟยไม่เพียงแต่หยุดการโจมตีของเขา แต่ยังส่งเขากลับไปยังที่นั่งได้อีก
"พลังของผู้นำยอเขาเต๋าหยวน...ร้ายกาจยิ่งนัก"
“ไม่แปลกใจเลยที่มีคำกล่าวว่า ผู้ไกล่เกลี่ยย่อมแข็งแกร่งกว่าผู้ต่อสู้ วาจาโบราณช่างไม่เคยหลอกลวงจริงๆ”
เพียงแค่พลังที่ฮั่วหยุนเฟยแสดงออกมาอย่างไม่ใส่ใจ ก็ทำให้ทุกคนยอมจำนน แม้กระทั่งเหล่าอาวุโสทั้งหลายก็เช่นกัน
“ดูเหมือนคำที่ว่าพรสวรรค์ของหลินหยางเหนือกว่าฮั่วหยุนเฟย คงเป็นคำกล่าวที่เกินจริงไปแล้ว…”
อาวุโสคนหนึ่งกล่าวขึ้น แม้แต่เขาเองก็ยังตกใจกับพลังของฮั่วหยุนเฟย แม้ดูเหมือนจะอยู่ในขั้นแรกของเทียนเหริน แต่พลังที่สามารถหยุดยั้งการโจมตีของโกวหยวนได้ในทันทีนั้น แสดงให้เห็นว่าระดับจริงๆ ของเขาต้องอยู่ในขั้นมหาเต๋าขั้นกลางหรือปลายแน่ๆ....
มหาเต๋าขั้นกลางในวัยเพียงร้อยปี ช่างน่าหวาดหวั่นเหลือเกิน!