ตอนที่แล้วเรื่องราวของไรก็ได้ ตอนที่ 1
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเรื่องราวของไรก็ได้ ตอนที่ 3

เรื่องราวของไรก็ได้ ตอนที่ 2


[แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]

[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด]

[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ100คน ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบไม่มีการแก้คำผิด และยิบย่อยมากมาย ไปนั่นแหละ]

<เรื่องราวของไรก็ได้ ตอนที่ 2>

***********

วัลฮัลลา

ป้อมปราการที่ทำหน้าที่ปกป้องเขตแดนและเป็นแนวหน้าในการปกป้องโมเบียส ที่แห่งนั้นกำลังมีการอภิปรายหารือเรื่องที่สำคัญ

"ผัดเปรี้ยวหวาน…ดูเหมือนว่าจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนั้น"

"เราไม่ได้กินอาหารทอดเละๆนั้นเมื่อครั้งที่แล้วเหรอ?"

ชายคนนั้นขมวดคิ้ว

ชายคนนั้นชื่อรีเจียน

เขาเป็นนักดาบมากประสบการณ์ที่ติดหนึ่งในห้าอันดับแรกของผู้แข็งแกร่งในวัลฮัลลา

"ยิ่งไปกว่านั้น อาหารทอดนั้นมันเลี่ยนและแฉะไม่ใช่หรือไง! ถ้ามันกรอบก็ยังดี! ฉันอาจจะทนกินได้ แต่ใครจะชอบทอดที่ชุ่มไปด้วยซอสแล้วเละ!"

"รู้เรื่องหนึ่งแต่ไม่รู้เรื่องอื่นเลยนะ รีเจียน"

ผู้หญิงที่เสนอเมนูผัดเปรี้ยวหวานจ้องมองชายหนุ่ม

เธอชื่อเซริส

เธอเป็นรองผู้นำของวัลฮัลลา มีอำนาจในการทำหน้าที่แทนเมื่อนายท่านไม่อยู่

"ผัดเปรี้ยวหวานมันก็กินแบบนั้นแหละ มันเป็นอาหารที่กินโดยจุ่มในซอส พูดถึงอาหารโดยที่ไม่รู้แม้แต่วิธีกินที่ถูกต้อง นั่นมัน... นั่นมัน..."

เซริสหลีกเลี่ยงคำสุดท้าย

เธอนึกคำที่ต้องการจะใช้ออกมาไม่ได้

เธอส่งสายตาขอความช่วยเหลืออย่างมีเลศนัยไปยังเพื่อนร่วมงานข้างๆ

เพื่อนร่วมงานตอบพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน

"เรียกคนแบบนั้นว่า 'ไม่รู้เรื่องรสชาติ' ใช่มั้ยคะ?"

"ใช่แล้ว ไม่รู้เรื่องรสชาติ! นายมันไม่รู้เรื่องรสชาติ พูดเรื่องสำคัญขนาดนี้ทั้งที่ไม่รู้เรื่องรสชาติ มันไม่สมควรเลย! ส่วนฉัน..."

"ในกรณีนั้น เรียกว่า 'รู้เรื่องรสชาติ' ค่ะ"

“ใช่ ฉันที่รู้เรื่องรสชาติต่างหากที่มีสิทธิ์ตัดสินใจว่าจะเลือกอาหารอะไร นายท่านเองก็คงรู้เรื่องนี้และมอบหมายหน้าที่นั้นให้ฉันตัดสินใจ”

"เมื่อกี้ เธอบอกว่าฉันไม่รู้เรื่องรสชาติงั้นเหรอ?"

คิ้วของรีเจียนกระตุก

จิตสังหารอันรุนแรงพวยพุ่งออกมาจากด้านหลังของเขา

แต่เซริสไม่สนใจและกอดอกมองเขานิ่ง

"ลองคิดดูดีๆ ตอนที่สั่งตีนไก่รสเผ็ดที่นายเสนอ ครั้งนั้นเป็นยังไง? มีกี่คนที่กินจนหมด? แค่คิดถึงตอนนั้น ฉันก็โกรธแล้ว!"

เซริสกัดฟัน

ฝันร้ายของรสชาติตีนไก่รสเผ็ด

ไม่นานมานี้ อาหารที่ถูกแจกจ่ายไปทั่วป้อมปราการในฐานะอาหารพิเศษ ทำให้เพื่อนร่วมงานจำนวนมากต้องเผชิญกับความบอบช้ำทางจิตใจ

เซริสก็เป็นหนึ่งในนั้น

"รสเผ็ดเนี่ยนะ นั่นไม่เรียกว่ารสชาติหรอก มันก็แค่..."

"รสเผ็ดไม่ใช่รสชาติ แต่เป็นความรู้สึกสัมผัส เป็นส่วนหนึ่งของความเจ็บปวดค่ะ ตีนไก่รสเผ็ดสูตรพิเศษที่ท่านรีเจียนสั่งในตอนนั้น มีระดับความเผ็ดสโกวิลล์ที่วัดได้ประมาณ 68,000 SHU ซึ่งเผ็ดกว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสไก่เผ็ดนิวเคลียร์ถึง 10 เท่าเลยนะคะ"

"ใช่แล้ว ยังไงก็ช่าง! ฉันเกือบตายตอนกินมันเลยนะ!"

รีเจียนหัวเราะเยาะ

"เป็นข้อแก้ตัวที่อ่อนแอชะมัด ฉันไม่อยากคุยกับพวกที่ไม่เข้าใจความสวยงามของรสเผ็ด"

"อาหารมันไม่ใช่สิ่งที่นายกินคนเดียวนะ!"

"นักรบที่แท้จริงต้องสามารถก้าวข้ามความเจ็บปวดแบบนั้นและเข้าถึงระดับที่สามารถเพลิดเพลินกับมันได้ ถ้าไม่เข้าใจสิ่งนั้น ก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะต่อสู้ไม่ใช่หรือไง?"

"อาหารกับคุณสมบัติในการต่อสู้มันเกี่ยวอะไรกัน? แล้วนายที่ไม่ชอบผัดเปรี้ยวหวาน อยากกินอะไรล่ะ?"

แกร๊ก

รีเจียนลูบฝักดาบที่เข็มขัดของเขา

"เอาเถอะ ฉันยอมรับว่าตีนไก่รสเผ็ดครั้งที่แล้วมันอาจจะเกินไปหน่อย ดังนั้นครั้งนี้ฉันคิดถึงอาหารที่ทุกคนกินได้ นายท่านเองก็ชอบกินตอนที่อยู่บ้านเกิดด้วย….มันเรียกว่า ทงคัตสึ"

"หืม? หมายถึงหมูทอดเหรอ? ถ้าแบบนั้นก็ไม่เลว..."

"ทงคัตสึสูตรเผ็ดลืมตาย..."

"ฉันขอคัดค้านความคิดเห็นของคุณรีเจียนค่ะ"

ผู้หญิงผมเงินยาวพูดพร้อมกับยิ้ม

ผู้หญิงผมสีเงินคนนั้นชื่อยูเน็ต

เธอเป็นผู้รับผิดชอบดูแลงานด้านการบริหารของวัลฮัลลา

ยูเน็ตมองไปรอบๆ

"ท่านอื่นมีความคิดเห็นอย่างไรไหมคะ? ถ้าไม่มีอะไรเพิ่มเติม การประชุมครั้งนี้จะจบลงและอาหารพิเศษครั้งนี้จะเป็นผัดเปรี้ยวหวานนะคะ"

"หนูมี! หนู! หนู! หนู!"

เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในมุมโบกมืออย่างตื่นเต้น

"ค่ะ คุณนิฮาคุ"

"หนูอยากกินพิซซ่าค่ะ!"

"พิซซ่า อาหารที่วางชีสและส่วนผสมต่างๆ บนขนมปังแล้วอบในเตาอบใช่มั้ยคะ"

"จิ๊ จิ๊! ยูเน็ตนี่ก็รู้แค่เรื่องเดียวจริงๆ ไม่รู้เรื่องอื่นเลยนะ ไม่ใช่ว่าใส่อะไรบนขนมปังแล้วจะเรียกว่าพิซซ่าได้หมดนะ"

"ถ้างั้น..."

"สิ่งสำคัญคือ วัตถุดิบที่ใส่มันต่างหากค่ะ แล้วเมื่อไม่นานมานี้ หนูค้นพบวัตถุดิบสุดยอดเข้าแล้วค่ะ!"

นิฮาคุตะโกนด้วยดวงตาเป็นประกาย

"มันชื่อว่า! พิซซ่าฮาวายเอี้ยยน...มันใส่สัปปะรดเข้าไปด้วยนะคะ!"

"คัดค้านค่ะ"

"นั้นๆๆ! งั้นของหวานล่ะเป็นไงคะ? บนโลกมีของหวานอร่อยๆ ที่เรียกว่าไอศกรีมด้วยนะคะ ดูเย็นๆ น่ากินมากๆ เลยค่ะ"

"ไอศกรีมเหรอคะ ก็ไม่เลวนะคะ"

"จิ๊ จิ๊! ยูเน็ตนี่ก็รู้แค่เรื่องเดียวจริงๆ ไม่รู้เรื่องอื่นเลยนะคะ ไอศกรีมก็ไม่ได้เหมือนกันหมดนะ ไอศกรีมสุดยอดที่สุดบนโลกนั้น! มันชื่อว่า มิ้นต์ช็อก...!"

"คัดค้านค่ะ"

"ง่าาาาาาา!"

ในที่สุดข้อเสนอของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งจึงถูกปฏิเสธไป

ยูเน็ตเขียนบันทึกการประชุมสั้นๆ แล้วหันไปมองบุคคลสุดท้ายในห้องประชุม

"อารอน"

"...ครับ?"

"นายมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างเกี่ยวกับเรื่องนี้?"

สายตาของสี่คนจับจ้องไปที่คนๆ เดียว

ชายหนุ่มที่นั่งเหม่อลอยอยู่ในมุมห้องประชุมตกใจ

"ผะ ผมคิดว่าอะไรก็ได้ครับ..."

"ขอโทษนะ แต่อาหารที่ชื่อว่า 'อะไรก็ได้' ไม่มีอยู่จริง ช่วยบอกความคิดเห็นของนายน่าจะดีกว่า"

"ถึงจะพูดแบบนั้น..."

ชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่าอารอนเกาแก้ม

อารอนมีสีหน้าลำบากใจ

ยูเน็ตยิ้มให้กับอารอน

แต่อารอนกลับกลัวมากทุกครั้งที่เธอยิ้มแบบนั้น

"อารอน ฉันเข้าใจว่านายอาจจะมองว่าพวกเรานั่งประชุมเรื่องอาหารแค่จานเดียวเป็นเรื่องตลก แต่ในสงครามไม่มีเรื่องตลกหรือเรื่องขบขัน ทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็นำชัยชนะมาสู่นายท่านได้"

"ครับ ผมทราบครับ..."

อารอนตอบด้วยท่าทีหงอยๆ

"การพักผ่อนก็สำคัญพอๆ กับการต่อสู้ พี่... ไม่สิ นายก็เคยพูดแบบนั้นบ่อยๆ ครับ"

การประชุมที่เกิดขึ้นตรงหน้าเขาไม่ใช่เรื่องตลกเลย

อารอนเข้าใจดี

เหล่าฮีโร่ที่เข้ามาในวัลฮัลลาแห่งนี้จะต้องต่อสู้กับศัตรูไปอีกนานแสนนาน

แต่มนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างมาให้ต่อสู้ได้ตลอดไป

แม้ร่างกายของพวกเขาจะเป็นอมตะ แต่ถ้าไม่ได้รับการพักผ่อนที่เหมาะสม มันก็จะพังทลายลง

อารอนเคยเห็นตัวอย่างแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว

คนที่เข้ามาด้วยความมั่นใจ แต่ไม่นานก็ร้องไห้ขอให้ส่งกลับ

สภาพแวดล้อมที่นี่โหดร้ายมาก

ไม่มีการพักรบหรือการประนีประนอม

การต่อสู้ที่ดำเนินต่อไปเป็นนิรันดร์

ถ้าไม่มีจิตใจที่แข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะมันได้ ต่อให้แข็งแกร่งแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์

ดังนั้น วัลฮัลลาจึงให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่เกี่ยวกับการพักผ่อนและความบันเทิง

สถานที่ที่สร้างแรงบันดาลใจมากที่สุดคือโลก

ดาวบ้านเกิดที่นายท่านของวัลฮัลลาเคยอาศัยอยู่

เป็นสถานที่ที่มีการพัฒนาที่ผิดปกติในด้านความบันเทิง

ด้วยการอ้างอิงถึงวัฒนธรรมของโลก พวกเขาสามารถบรรเทาความเครียดและความเหนื่อยล้าได้มาก

"อารอน…นายตัดสินใจได้หรือยัง?"

ยูเน็ตถามอีกครั้ง

อารอนรู้สึกเหมือนมีมีดปักอยู่ที่หัวใจขณะที่เขาครุ่นคิด

'เฮ้อ การที่ต้องทำอะไรแบบไม่เหมาะกับเขาเลยจริงๆ'

ถ้าเป็นอาจารย์ของเขา เขาจะทำยังไงนะ?

อารอนนึกถึงภาพเด็กหนุ่มคนหนึ่ง

บางทีอาจจะยอมๆ ไปง่ายๆ

อย่างไรก็ตาม อารอนได้สืบทอดตำแหน่งของอาจารย์ของเขา มูเด็น อดีตสมาชิกปาร์ตี้ที่ 1

ปาร์ตี้ที่ 1 เป็นสถานที่รวมตัวของผู้บริหารหลักของโลกิ ตั้งแต่สมัยเนลม์ไฮมฟ์ ที่เป็นรากฐานของวัลฮัลลา

พวกเขาแต่ละคนมีสิทธิและความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ในฐานะตัวแทนของโลกิ

กล่าวอีกนัยหนึ่ง อารอนได้ขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งที่เขาไม่สามารถต่อสู้แบบไม่คิดหน้าคิดหลังได้อีกต่อไป

ความรับผิดชอบและอำนาจ

การประชุมและการตัดสินใจ

วาระต่างๆ ที่ตัดสินใจที่นี่เป็นตัวกำหนดชะตากรรมของเหล่าวีรบุรุษมากมาย

ทุกครั้งที่อารอนคิดแบบนี้ เขาก็รู้สึกหายใจไม่ออก

'พวกเขาคงจะสบายดี'

ทันใดนั้น ใบหน้าของอดีตเพื่อนร่วมทีมก็แวบเข้ามาในความคิด

เขารู้ว่าพี่ชายของเขาและสมาชิกคนอื่นๆ ในทีมจากทาวน์เนียได้รวมกลุ่มกัน ยกเว้นเขาเนื่องจากสถานการณ์บางอย่าง

ตอนนี้พวกเขาคงยุ่งอยู่กับชีวิตของตัวเอง

'เจนน่า ออลก้า เวคิส'

ฮีโร่จากทาวน์เนียบ้านเกิดของอารอน

พวกเขาได้รับความนิยมอย่างมากในทาวน์เนีย

"อารอน?"

อ๊ะ

อารอนได้สติกลับคืนมา

ยูเน็ตกำลังยิ้มและมองเขาอยู่ตรงหน้า

"ขะ ขอโทษครับ ผมเหม่อไปหน่อย"

"ไม่เป็นไรค่ะ พวกเรางานยุ่งกันหมด คงจะเหนื่อยเป็นธรรมดา"

หัวข้อที่พูดคืออะไรนะ

ใช่แล้ว เมนูอาหารพิเศษสำหรับครั้งนี้

อารอนใช้ความคิด

ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ ไม่ว่าจะดีหรือแย่แค่ไหน สมาชิกปาร์ตี้ที่ 1 ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงของวัลฮัลลา ต้องแสดงความคิดเห็นในการประชุม

นั่นคือความรับผิดชอบ

"ถ้าให้ผมแสดงความคิดเห็น... ผมว่าหมูเปรี้ยวหวานก็ดีนะครับ"

"นายเห็นด้วยกับความคิดเห็นของเซริสใช่ไหม?"

อัศวินผมทองยิ้มอย่างพอใจ

ในทางกลับกัน นักดาบก็แลบลิ้นออกมาด้วยความไม่พอใจ

“สรุปว่าตัดสินใจแล้วใช่ไหม? เมนูเป็นหมูเปรี้ยวหวาน ราดซอสเยอะๆ…”

"ถ้าจะราดซอส... ผมว่าอย่าดีกว่าครับ"

"หืม ทำไมล่ะ?"

เซริสเลิกคิ้วเมื่อได้ยินคำคัดค้านของอารอน

"พี่ชาย... ไม่สิ นายท่านไม่ชอบแบบนั้นน่ะครับ"

"อะไรนะ?"

รีเจียนหัวเราะเยาะ

"น่าขันจริงๆ! ไม่รู้แม้กระทั่งของที่นายท่านชอบ แล้วจะเสนอเมนูออกกมาได้ยังไง?"

"เดี๋ยวก่อน ครั้งที่แล้วนายท่านก็ทานอย่างเอร็ดอร่อยนี่?

"นายท่านคงจะเกรงใจน่ะครับ…."

"ห่ะ?!"

เซริสจับหน้าอกแล้วนั่งลง

“ฮ่า ครั้งนี้ฉันได้เลือดใช่ไหม? มันเป็นการตัดสินใจของฉัน เมนูพิเศษนี้คือทงคัตสึสูตรเผ็ดลืมตาย…”

"พี่ชายไม่ชอบอาหารที่เผ็ดอย่างเดียวนะครับ"

"อึก!"

รีเจียนชะงักไป

"งั้นตกลงนะพวกเรามากินพิซซ่าสับปะรดกับไอศกรีมมินต์ช็อกของนิฮาคุกันเถอะ!"

“สรุปเป้นหมูเปรี้ยวหวานพร้อมซอสนะ”

“โอ้ย!!! ไม่มีใครฟังที่ฉันพูดด้วยซ้ำ!”

“ถ้าเพิ่มจาจังมยอนและจัมปงลงไป  นายท่านน่าจะชอบนะครับ”

“ว้าว หมูเปรี้ยวหวาน จาจังมยอน และจัมบง”

ยูเน็ตตบมือ

“โอ้ จริงด้วยสิ  บนโลก หมูเปรี้ยวหวาน และจัมบง อาหารทั้งสามจานนี้เรียกว่า 'กฎแห่งความอร่อย'”

“กฎของความอร่อย?”

“อย่างไรก็ตามทำได้ดีมากอารอน นายนำสิ่งที่พวกเราไม่มีใครคิดขึ้นมาเสนอ”

"มะ ไม่เป็นไรครับ..."

“หึหึหึ ในหมู่พวกเรา คนที่รู้จักนายท่านดีที่สุดอาจเป็นอารอน”

ผ่านไปได้ด้วยดีสินะ

อารอนถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“มื้อพิเศษนี้จะเป็นหมูเปรี้ยวหวาน  จาจังมยอน และจัมบง ฉันจะส่งรายงานให้นายท่านทันทีค่ะ”

ก๊อก ก๊อก

ยูเน็ตเคาะค้อน

ปกติแล้วเธอจะเป็นคนดำเนินการประชุมผู้บริหารแบบนี้

"เอาล่ะ ไปต่อกันที่วาระต่อไป"

แววตาของทั้งห้าคนเปลี่ยนไป

บรรยากาศที่ผ่อนคลายเมื่อครู่นี้หายไปหมดแล้ว

"อย่างที่ได้บอกไปตอนต้น วาระนี้มีความสำคัญ... มากกว่าหัวข้ออื่นๆ"

ยูเน็ตกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง

"การประชุมครั้งนี้อาจเป็นตัวตัดสินชะตากรรมของเรา"

การประชุมที่จะตัดสินชะตากรรมของวัลฮัลลาทั้งหมด

บรรยากาศเคร่งขรึมแผ่ปกคลุมไปทั่วห้องประชุม

"งั้นเริ่มกันเลยค่ะ หัวข้อในครั้งนี้คือ..."

เมื่อยูเน็ตประกาศหัวข้อ

ในไม่ช้า การอภิปรายที่ร้อนแรงก็เริ่มต้นขึ้นในห้องประชุม

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร , ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิก กระซิก ;-;

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด