บทที่ 26 การเปลี่ยนแปลงของโบสถ์

เมื่อได้ยินลูน่าพูดแบบนั้น กู่ซีกลับยิ้มออกมา

“แลกสิ แลกเดี๋ยวนี้เลย เอาส่วนที่เป็นของข้ามาแลกก่อน”

กู่ซีมองไปทางลูน่าหลังจากพูดจบ ลูน่าก็เข้าใจทันที เธอชี้ไปที่ประตูหอประชุม

“วางไว้ข้างใน หลังจากวางลงไปแล้ว มันจะเปลี่ยนสภาพเองโดยอัตโนมัติ”

กู่ซีมองตามทิศทางที่ลูน่าชี้ไป เขาพบว่าเมื่อไหร่ไม่รู้ ที่ตรงนั้นกลับมีหีบไม้ขนาดใหญ่วางอยู่

หีบมีขอบโลหะสีน้ำเงินปิดอยู่ ดูจากลักษณะแล้วก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นหีบสมบัติ

เมื่อมีที่เก็บลูกแก้วพลังลี้ลับแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องให้กู่ซีสั่งการ เหล่าโครงกระดูกก็เริ่มนำลูกแก้วพลังลี้ลับที่เป็นส่วนของกู่ซีไปใส่ไว้ในหีบไม้นั้นเอง

กู่ซีมองดูหีบไม้อยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็พบว่าเขาสามารถเห็นข้อมูลภายในหีบได้

【หีบสมบัติขนาดเล็ก: แต้มพลังลบ (317/10000) ไม้ (9/100) หิน (8/100) โลหะ (3/100) อัญมณี (0/20) กำมะถัน (0/20) คริสตัล (0/20) ปรอท (0/20)】

ในขณะที่กู่ซีกำลังตรวจดูทรัพยากรในหีบ ลูน่าก็อธิบายต่อ

“ตอนนี้คงต้องใช้เท่านี้ไปก่อน รอจนเรามีทรัพยากรมากพอแล้ว เราจะสร้างคลังเก็บของ แล้วสามารถเก็บของได้มากกว่านี้”

กู่ซีไม่พูดอะไรเพิ่มเติม เขาเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าไม้ หิน และโลหะในหีบมาจากที่ไหน

จากนั้นกู่ซีก็สังเกตเห็นว่า เหล่าโครงกระดูกที่กำลังเก็บกวาดสนามรบ ยังเอาสิ่งกีดขวางที่ถูกเงาลี้ลับพุ่งชนจนพังมาทิ้งลงในหีบสมบัติเช่นกัน สิ่งเหล่านี้คือแหล่งที่มาของไม้และหิน

เมื่อนึกทบทวนแล้ว นี่ก็เป็นเรื่องดี เพราะอย่างน้อยกู่ซีก็มีวัตถุดิบโดยไม่ต้องหาทางว่าจะเอามาจากที่ไหน

หลังจากเก็บทุกอย่างจากสนามรบใส่ลงในหีบสมบัติแล้ว กู่ซีก็โบกมือ นำเหล่าโครงกระดูกเดินไปทางโบสถ์

ระหว่างที่พวกเขากำลังเดินไป ลูน่าก็อธิบายถึงสถานการณ์ที่แตกต่างกันของโบสถ์

“โบสถ์ในเมืองวิคตอเรีย จริงๆ แล้วเป็นแบบที่มีโบสถ์อยู่ด้านหน้าและสุสานอยู่ด้านหลัง โดยเฉพาะโบสถ์ที่เราจะไป เป็นหนึ่งในโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดของวิคตอเรีย ข้าเชื่อว่าการที่โบสถ์เกิดการเปลี่ยนแปลงในทันที ต้องมีเหตุผลบางอย่าง”

กู่ซีคิดครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “เจ้าหมายถึง ตอนที่ทำการจำลองโบสถ์ พวกเขาอาจจำลองไม่สมบูรณ์ใช่ไหม?”

“ถูกต้อง ตอนนั้นพวกเขาจะจำลองได้เหมือนแค่ไหน ก็ไม่อาจจำลองทุกสิ่งทุกอย่างในโบสถ์ได้ชัดเจน ทั้งหลุมฝังศพหลังโบสถ์ก็ล้วนเป็นหลุมเปล่า”

ลูน่าอธิบาย

สิ่งที่ลูน่ากล่าวก็เป็นไปตามที่กู่ซีคิดไว้ แต่สิ่งที่ลูน่าพูดต่อไปนั้น เป็นสิ่งที่กู่ซีไม่คาดคิด

“นอกจากนี้ ตรงกลางโบสถ์ยังมีโลงศพหินของอัศวินคนหนึ่ง ซึ่งเจมส์ที่หนึ่งไม่สามารถจำลองได้”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น กู่ซีก็พยักหน้า “ไม่ใช่แค่อัศวินหรอก แม้แต่ศพของคนธรรมดา เขาก็ไม่สามารถจำลองได้เหมือนทุกประการ”

“ไม่ใช่แค่ศพธรรมดา อัศวินคนนี้คือโบส”

“โอ้ โบสเหรอ” กู่ซีจริงๆ แล้วไม่รู้ว่าโบสคือใคร แต่เมื่อได้ยินลูน่าพูดเช่นนี้ กู่ซีก็แสดงออกให้เห็นว่าเข้าใจบ้าง

แต่กู่ซีเดินไปสองก้าวแล้วก็หยุด หันกลับไปมองลูน่า

“อัศวินที่เจ้าอธิบายอย่างจริงจังขนาดนี้ เขาจะต้องเป็นอัศวินโต๊ะกลมใช่ไหม?”

“ใช่ ข้าคิดว่าเจ้ารู้อยู่แล้วเสียอีก”

กู่ซีเคยได้ยินเรื่องราวของอัศวินโต๊ะกลม แต่ในหมู่อัศวินโต๊ะกลม มีเพียงสามหรือสี่คนเท่านั้นที่มีการระบุสถานที่ฝังศพที่ชัดเจน ส่วนที่เหลือก็ไม่รู้ว่าถูกฝังที่ไหน

การที่โบสถ์แห่งนี้มีการฝังอัศวินโต๊ะกลมไว้ ทำให้กู่ซีค่อนข้างประหลาดใจ

“เจ้าลองบอกข้ามาหน่อยสิ สุดท้ายแล้วโบสถ์แห่งนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง?”

“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้าเห็นข้อมูลว่าโบสถ์แห่งนี้ถูกทำลายไปในปีหนึ่ง และอัศวินโบสก็ถูกย้ายไปที่โบสถ์เวสต์มินสเตอร์”

“ลูน่า ข้าจู่ๆ ก็มีความคิดหนึ่งขึ้นมา หาก...ข้าหมายถึงถ้าข้าไปที่โบสถ์เวสต์มินสเตอร์ในเมืองวิคตอเรีย แล้วขนศพของอัศวินโบสมาใส่ในโบสถ์เล็กของเรา เจ้าคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น?”

สำหรับคำถามนี้ของกู่ซี ลูน่าก็ไม่เคยคิดมาก่อน

ที่ลูน่าเคยบอกให้กู่ซีสร้างจุดยึดในเมืองวิคตอเรีย ก็เพื่อจะได้เข้าถึงข้อมูลของเมืองกระจกอื่นๆ และหาทางเข้าไป แต่เธอไม่เคยคิดถึงการขนย้ายสิ่งที่ไม่ได้จำลองมาใส่ที่นี่

พอได้ยินกู่ซีพูดเช่นนั้น ลูน่าก็ฉุกคิดขึ้นมาได้

“ท่าน นี่เป็นความคิดที่ดีเลย เราไม่เพียงสามารถขนศพของอัศวินโบสมาที่นี่ แต่ศพที่ถูกฝังไว้หลังโบสถ์เองก็สามารถหามาได้เหมือนกัน ตอนที่โบสถ์ถูกทำลาย ศพเหล่านี้ถูกบันทึกไว้ว่าไปไหน เพียงแค่เราหาพบ เราก็สามารถขนย้ายมาได้”

สำหรับเรื่องที่ว่าศพจะไม่สามารถขนย้ายมาได้ ทั้งกู่ซีและลูน่าต่างก็ไม่ได้พิจารณามากนัก

กู่ซีมีทักษะเมืองแห่งความตาย เมื่อสร้างประตูเมืองอาเรียโดวิขึ้นเสร็จ เขาก็สามารถเปิดประตูได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะส่งวิญญาณออกไปหรือขนย้ายสิ่งของเข้ามา ก็ทำได้ง่ายดายมาก

สิ่งที่พวกเขาสนใจตอนนี้ก็คือ เมื่อขนย้ายศพเหล่านี้มาแล้ว โบสถ์จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่

ขณะที่พวกเขากำลังครุ่นคิดเรื่องนี้ พวกเขาก็เดินมาถึงหน้าโบสถ์

เมื่อเห็นโบสถ์ กู่ซีก็เข้าใจได้ทันทีว่าโบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์ระดับไหน มันเป็นเพียงโบสถ์ในชนบทเท่านั้น

โบสถ์นี้ไม่ได้ใหญ่โตนัก เมื่อผลักประตูเข้าไป ข้างในจะมีเพียงม้านั่งยาวสี่แถว และตรงกลางโบสถ์มีโลงศพหินตั้งอยู่

บนโลงศพมีดาบและโล่วางอยู่ ซึ่งแสดงว่าภายในโลงนี้มีการฝังอัศวินคนหนึ่ง

เมื่อออกจากประตูข้างของโบสถ์ จะสามารถเดินอ้อมไปยังสุสานด้านหลังโบสถ์ได้ ที่นั่นมีการจำลองหลุมฝังศพและป้ายหลุมศพทั้งหมดอย่างละเอียด แม้แต่โลงศพก็ถูกจำลองขึ้นมาเหมือนกัน ยกเว้นเพียงแต่ไม่มีศพจริงๆ อยู่ข้างใน ทำให้ทั้งสุสานว่างเปล่า

คนทั่วไปอาจจะมองไม่ออก แต่ในฐานะที่กู่ซีเป็นนักเวทศาสตร์แห่งความตาย เขาสามารถดูออกได้ทันทีว่าในหลุมฝังศพนั้นไม่มีศพอยู่เลย

เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ กู่ซีก็ได้แต่ส่ายหัว เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเมืองอาเรียโดวิถึงกลายเป็นเมืองแห่งความตาย มันมีเหตุผลอยู่

หลังจากที่สำรวจโบสถ์เสร็จ กู่ซีก็เรียกโครงกระดูกที่ติดตามเขามา

ระหว่างทางที่มา กู่ซีได้ให้เหล่าโครงกระดูกที่รอดชีวิตใช้ลูกแก้วพลังลี้ลับ จนสามารถสร้างนักรบโครงกระดูกระดับ 3 จำนวน 20 ตนได้สำเร็จ

ขณะที่กู่ซีเดินเข้าไปในโบสถ์ พวกโครงกระดูกเหล่านี้ก็รออยู่ข้างนอก

เมื่อกู่ซีเรียก พวกนักรบโครงกระดูกก็เดินเข้าไปในโบสถ์

ทันทีที่พวกเขาเหยียบเข้าไปในโบสถ์ ม้านั่งยาวภายในโบสถ์ก็เริ่มมีโครงกระดูกปรากฏขึ้น

พร้อมกันนั้น ข้อความบางอย่างก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของกู่ซี

【โบสถ์อัปเกรดเป็นโบสถ์ลัทธิมืด!】

【ชื่อสิ่งก่อสร้าง: โบสถ์ลัทธิมืด

ระดับ: 1 (สามารถอัปเกรดได้)

สามารถฝึกกองกำลัง:

- โครงกระดูก (ระดับ 0): ฝึกได้อัตโนมัติ 20 ตนต่อสัปดาห์ ไม่ใช้แต้มพลังลบ

- นักรบโครงกระดูก (ระดับ 3): ใช้แต้มพลังลบ 30 แต้ม (โครงกระดูกที่มีประสบการณ์จะช่วยลดการใช้แต้มพลังลบ) สามารถเปลี่ยนโครงกระดูกเป็นนักรบโครงกระดูกได้ (เลือกอาวุธได้ตามต้องการ)

ช่วยสนับสนุนให้ดาวเพื่อเป็นกำลังใจ

ในบทต่อๆไปด้วยน้า

(Next Ep...27)