บทที่ 20: วิวัฒนาการของวิญญาณอัญเชิญ
เมื่อกู่ซีเห็นว่าหัวหน้าเงาลี้ลับถูกสังหาร ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
แม้ในตอนแรกหัวหน้าเงาลี้ลับไม่ได้สร้างแรงกดดันมากนักให้กับแนวรบของกู่ซี แต่การมีหรือไม่มีหัวหน้าก็ยังคงมีผลต่อเงาลี้ลับพวกนี้
หลังจากที่หัวหน้าเงาลี้ลับถูกสังหาร กู่ซีก็รู้สึกได้ชัดเจนว่าความกดดันในแนวรบทั้งสองข้างลดลงอย่างมาก
"สังหารพวกมัน!"
ในตอนนี้กองทัพทั้งหมดของกู่ซีได้ลงสู่สนามรบแล้ว เขาไม่คิดที่จะเรียกหน่วยรบกลับมาเพื่อจัดแผนใหม่อีก แต่กลับสั่งการให้ทำการโจมตีครั้งใหญ่แทน
หน่วยรบที่ 2 ซึ่งก่อนหน้านี้ล้อมรอบหัวหน้าเงาลี้ลับไว้ ก็รีบชูดาบยาวพุ่งเข้าโจมตีเงาลี้ลับกลุ่มหลังทันที
เงาลี้ลับกลุ่มหลังเหล่านี้ กำลังโดนหน่วยรบที่ 1 โจมตีจากด้านหลังอยู่ พวกมันไม่ได้คาดคิดเลยว่าจะมีใครมาโจมตีพวกมันจากด้านหน้าอีก
ในความสับสนนี้ หน่วยรบที่ 2 ก็สังหารเงาลี้ลับไปได้กว่า 30 ตัวก่อนที่พวกมันจะสังเกตเห็นและหันกลับมาโจมตีหน่วยรบที่ 2
เมื่อเทียบกับโครงกระดูกในหน่วยรบที่ 1 โครงกระดูกที่ถือดาบยาวสองมือเหล่านี้มีความสามารถในการต่อสู้อย่างต่อเนื่องดีกว่า เมื่อเงาลี้ลับพุ่งกลับมาโจมตี พวกมันไม่เพียงแต่ไม่ถอยหลัง แต่กลับพุ่งเข้าหาศัตรูด้วยซ้ำ โดยฟาดดาบยาวของพวกมันอย่างไม่หยุดยั้ง
เงาลี้ลับก็ไม่ยอมแพ้ พวกมันเข้าปะทะกับโครงกระดูกในหน่วยรบที่ 2 อย่างเต็มที่
หัวหน้าหน่วยรบที่ 1 เห็นโอกาสจึงรีบโจมตีเงาลี้ลับจากด้านหลัง
หน่วยรบทั้งสองหน่วยทำงานร่วมกันอย่างดี เหมือนเป็นโม่หินที่บดทำลายเงาลี้ลับไปทีละกลุ่ม
ในขณะเดียวกัน ทางด้านหน้าก็มีการตั้งรับที่แข็งแกร่ง หน่วยรบที่ 4 ใช้โล่กลมของพวกเขาป้องกันการโจมตีของเงาลี้ลับ ขณะที่หน่วยรบที่ 3 ก็ใช้หอกยาวโจมตีเงาลี้ลับในจังหวะที่พวกมันหยุดโจมตี
พูดได้ว่าการต่อสู้ทางด้านหน้านั้นค่อนข้างราบรื่นกว่าด้านหลัง
หน่วยรบที่ 3 ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกศัตรูเข้ามาใกล้เพราะมีหน่วยรบที่ 4 คอยป้องกัน พวกมันเพียงแค่ต้องเน้นการโจมตีเท่านั้น
ส่วนหน่วยรบที่ 4 ก็แค่ตั้งรับ ไม่ต้องคิดเรื่องอื่นมากนัก พวกเขายังได้รับส่วนแบ่งค่าประสบการณ์จากเงาลี้ลับที่ถูกสังหารไปด้วย
หากรู้สึกว่ามีอันตรายต่อแนวรับ พวกเขาก็แค่ถอยหลังไปเล็กน้อย สิ่งกีดขวางใหม่จะช่วยลดแรงกดดันจากเงาลี้ลับได้ จากนั้นพวกเขาก็จะเริ่มการสังหารศัตรูอีกครั้ง
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ กู่ซีก็ไม่จำเป็นต้องจัดกองทัพใหม่อีกต่อไป หน่วยรบทั้งสี่ต่างก็มีรูปแบบการต่อสู้ของตัวเองและทำงานร่วมกันได้อย่างดี เขามั่นใจว่าหากระดับของพวกเขาสูงขึ้นอีกนิด การประสานงานระหว่างพวกเขาจะยิ่งดีขึ้นเรื่อย ๆ
ไม่น่าแปลกใจที่มีคนกล่าวว่า นักเวทศาสตร์แห่งความตาย หากมีกองทัพตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว การต่อสู้ในภายหลังจะง่ายขึ้น
เมื่อกู่ซีเห็นข้อความการสังหารศัตรูที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจออย่างต่อเนื่อง เขาก็อดพยักหน้าไม่ได้
ไม่สำคัญว่าพวกโครงกระดูกจะได้ประสบการณ์เท่าไหร่ ตราบใดที่พวกมันสังหารศัตรูได้หนึ่งตัว กู่ซีก็จะได้รับค่าประสบการณ์ 1 แต้ม
การสังหารแบบทั่วไปอาจไม่สามารถเทียบกับการที่กู่ซีลงมือทำ "ระเบิดศพ" ด้วยตัวเองได้ แต่เมื่ออยู่ในสนามรบขนาดใหญ่ ค่าประสบการณ์จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ไม่ต้องพูดถึงอื่น ๆ ในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้เอง กู่ซีก็ได้รับค่าประสบการณ์ถึง 327 แต้ม
รวมค่าประสบการณ์จากการต่อสู้ก่อนหน้านี้และค่าประสบการณ์จากการสังหารหัวหน้าเงาลี้ลับ กู่ซีก็พบว่าตนเองใกล้จะเลื่อนระดับอีกครั้ง
นี่ถือเป็นเรื่องดีมาก เพราะหากกู่ซีเลื่อนระดับขึ้นอีก เขาจะได้เรียนรู้ทักษะใหม่อีกหนึ่งทักษะ ซึ่งจะทำให้ภารกิจต่อไปของเขาราบรื่นขึ้น
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ กู่ซีก็หันมองไปไกล
ลูน่าเคยบอกว่า อาเรียโดวิ มีขนาด 2.9 ตารางกิโลเมตร และตอนนี้พวกเขายืนอยู่เพียงแค่หนึ่งในร้อยของพื้นที่ทั้งหมดเท่านั้น
หลังจากที่จัดการกับเงาลี้ลับชุดนี้เสร็จแล้ว กู่ซียังต้องต่อสู้ขยายอาณาเขตออกไปจนถึงขอบเขตที่ลูน่าสามารถควบคุมได้
ภายในนั้นจะเจออะไรอีกบ้าง กู่ซีก็ไม่รู้ เขาต้องเตรียมพร้อมสำหรับทุกสิ่ง
ขณะที่กู่ซีกำลังครุ่นคิดอยู่ เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้น
【ติ๊ง! ภารกิจชั่วคราว: ความคืบหน้าของเมืองที่ตายไปเปลี่ยนไปแล้ว ศัตรูระลอกที่สองถูกสังหาร อีก 15 นาที ศัตรูระลอกที่สามจะปรากฏขึ้น กรุณาเตรียมพร้อม】
กู่ซีได้สติและเงยหน้าขึ้นทันที
พวกเขาชนะอีกครั้ง
"จัดการสนามรบ เก็บลูกแก้วพลังลี้ลับทั้งหมด ใช้ให้หมด หน่วยรบที่เสียหายเสริมกำลัง และนำร่างโครงกระดูกที่ตายไปวางไว้บนถนน"
กู่ซีออกคำสั่งทันที
การต่อสู้ครั้งต่อไปยังรออยู่
จากความแข็งแกร่งของเงาลี้ลับในครั้งที่แล้ว กู่ซีมั่นใจว่าศัตรูระลอกที่สามจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นอีก
แม้ว่าสนามรบยังไม่ถูกจัดการเรียบร้อย แต่กู่ซีก็เห็นชัดเจนแล้วว่าหน่วยรบที่ 1 และหน่วยรบที่ 2 ได้รับความเสียหายมาก หากไม่เพิ่มความสามารถของพวกเขาให้เร็วขึ้นและจัดวางแผนสนามรบใหม่ การต่อสู้ครั้งต่อไปจะยากมาก
ดังนั้น กู่ซีต้องปรับปรุงกองกำลังของเขาและจัดวางสนามรบใหม่ให้พร้อมที่สุด
เมื่อได้รับคำสั่ง โครงกระดูกทั้งหมดก็ไม่รีรอ รีบเข้ามาเก็บลูกแก้วพลังลี้ลับที่ตกอยู่บนพื้น
โดยไม่ต้องให้กู่ซีสั่ง การแบ่งลูกแก้วพลังลี้ลับก็เกิดขึ้นอย่างอัตโนมัติ หัวหน้าโครงกระดูกของหน่วยรบได้รับไปครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลือแบ่งให้โครงกระดูกทั่วไป
จากนั้นกู่ซีก็เดินไปยังจุดที่หัวหน้าเงาลี้ลับถูกสังหาร
เมื่อหัวหน้าเงาลี้ลับตาย มันทิ้งไม้กระบองขนาดใหญ่ไว้ กู่ซีต้องการดูว่ามันคืออะไร
ขณะที่กู่ซีเดินไปหา เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นอีกครั้ง
【ติ๊ง! ผ่านพลังงานลี้ลับที่ชักนำและเสริมพลัง โครงกระดูกระดับ 2 ตัวหนึ่งได้มาถึงระดับการพัฒนา กรุณาเลือกทิศทางการพัฒนาของโครงกระดูกตัวนี้】
กู่ซีหันไปมอง ก็เห็นว่าโครงกระดูกตัวหนึ่งในหน่วยรบที่ 2 กำลังเปล่งแสงสีม่วงอ่อน ๆ ออกมา
โครงกระดูกตัวนี้ยังคงบีบลูกแก้วพลังลี้ลับในมือดูดซับพลังงานโดยที่ไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อกู่ซีมองไปที่โครงกระดูกตัวนั้น ก็พบว่ามีเงาสองแบบปรากฏขึ้นเบื้องหลังมัน ซึ่งเป็นตัวแทนของทิศทางการพัฒนาที่สามารถเลือกได้
หนึ่งคือโครงกระดูกนักรบธรรมดา ถือดาบมือเดียว สวมเกราะที่เป็นสนิมและหมวกที่ค่อนข้างใหญ่ มักจะเลื่อนลงมา
อีกแบบคือโครงกระดูกนักรบดาบสองมือ ที่ขณะที่มันยืนอยู่ ดาบยาวก็ปักอยู่บนพื้น มันสวมเกราะหนังแต่ไม่มีหมวก เผยให้เห็นหัวกระโหลกของมัน
เมื่อเห็นทิศทางการพัฒนาทั้งสองแบบ กู่ซีก็เข้าใจสถานการณ์ในทันที
ทั้งสองแบบเป็นนักรบโครงกระดูก แต่จุดเน้นต่างกันอย่างชัดเจน
โครงกระดูกนักรบธรรมดามีความสมดุล ขณะที่โครงกระดูกนักรบดาบสองมือ เน้นที่การเสริมทักษะดาบและลดการป้องกันลง
กู่ซีใช้เวลาเพียงชั่วครู่ในการตัดสินใจเลือก
【โครงกระดูกนักรบ (ระดับ 3, อัญเชิญ): ค่าประสบการณ์ (9/500) พลังโจมตี 3+1 (ดาบสองมือ), การป้องกัน 1+1 (เกราะหนัง), พลังชีวิต 19, ทักษะ: สิ่งมีชีวิตอัญเชิญ, ความเชี่ยวชาญดาบ, สังหาร】
ฟิ้วว!!! (ปาดเหงื่อ) สวัสดีครับผู้อ่านทุกคนนนนเดินทางมาถึงตอนที่ 20 แล้ว หวังว่าทุกคนจะเพลิดเพลินและสนุกกับการอ่านนะครับ :) (เนื้อหาแน่นมากกก) เอาเป็นว่าไปกันต๊ออออ
ช่วยสนับสนุนให้ดาวเพื่อเป็นกำลังใจ
ในบทต่อๆไปด้วยน้า
(Next Ep...21)