บทที่ 18: จัดการสนามรบ

หลังจากที่กู่ซีสั่งการ โครงกระดูกของเขาก็เปลี่ยนจากโหมดการต่อสู้ไปเป็นโหมดแรงงานทันที

  พวกมันเริ่มเก็บกวาดสนามรบอย่างรวดเร็ว งานหลักคือการเก็บกวาดร่างของโครงกระดูกที่ตายในสนามรบ และการย้ายเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ มาใช้เป็นสิ่งกีดขวาง

  ส่วนพวกเงาลี้ลับนั้น เมื่อพวกมันตายลงแล้ว จะไม่เหลือศพทิ้งไว้ มีเพียงลูกแก้วพลังลี้ลับที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นเท่านั้น

  สิ่งเหล่านี้สามารถเก็บขึ้นมาได้โดยง่าย กู่ซีไม่จำเป็นต้องสั่งอะไรเป็นพิเศษ

  เขาสั่งเพียงให้โครงกระดูกนำศพของโครงกระดูกไปวางไว้บนสนามรบหรือหลังสิ่งกีดขวาง ส่วนลูกแก้วพลังลี้ลับที่พวกเขาเก็บมาได้ กู่ซีไม่ได้นำกลับไป แต่ให้แบ่งออกเป็นสัดส่วนระหว่างโครงกระดูกทั่วไปกับหน่วยรบในอัตราส่วน 1 ต่อ 1

  กู่ซีเข้าใจดีว่า ตอนนี้ลูกแก้วพลังลี้ลับที่อยู่ในมือเขาไม่ได้ทำให้เกิดการพัฒนาขึ้นมากนัก

  ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถใช้เวทมนตร์บางชนิดได้ เขาก็ยังคงใช้ไม่ได้

  ดังนั้น การให้เหล่าโครงกระดูกของเขาใช้เพื่อเพิ่มพลังในการต่อสู้จะมีประโยชน์มากกว่า เพื่อให้พร้อมสำหรับการต่อสู้ครั้งถัดไป

  ในที่สุด การต่อสู้ครั้งนี้ก็มีหัวหน้าระดับ 3 ปรากฏขึ้น และจำนวนศัตรูก็เกินกว่าที่กู่ซีคาดการณ์ไว้ ขณะที่กองกำลังของเขาก็สูญเสียไปไม่น้อย หากไม่เพิ่มพลังให้กับเหล่าโครงกระดูก พวกเขาอาจจะเจองานยากในการต่อสู้ครั้งต่อไป

  โครงกระดูกภายใต้การควบคุมของกู่ซีก็เข้าใจคำสั่งของเขาดี พวกมันรีบใช้ลูกแก้วพลังลี้ลับเพื่อเพิ่มพลังให้ตัวเอง หัวหน้าโครงกระดูกนั้นเน้นเพิ่มพลังให้กับอาวุธและอุปกรณ์

  เมื่อพวกมันได้รับการเพิ่มพลัง โครงกระดูกธรรมดาก็ได้ประโยชน์ไปด้วย

  ในขณะที่โครงกระดูกทั่วไปใช้ลูกแก้วพลังลี้ลับเพื่อเพิ่มพลังชีวิตและพลังในการต่อสู้ของตนเอง

  โครงกระดูกเหล่านี้ก็รับรู้ได้ถึงสัญชาตญาณว่าพวกมันจะต้องเผชิญกับอะไรในการต่อสู้ครั้งถัดไป

  เมื่อหน่วยรบต่าง ๆ ได้รับการเสริมกำลังจนเต็ม กู่ซีก็เข้าใจถึงความสูญเสียจากการต่อสู้ครั้งนี้ได้ชัดเจน

  ในตอนแรก เขานำโครงกระดูกมาทั้งหมด 180 ตน แต่เพียงการต่อสู้ครั้งแรกนี้ โครงกระดูกก็ถูกทำลายไปถึง 44 ตน

  หมายความว่าหลังจากเสริมกำลังให้หน่วยรบทั้งสี่แล้ว โครงกระดูกที่เหลืออยู่มีเพียง 3 ตนเท่านั้น

  หากในการต่อสู้ครั้งหน้ามีความสูญเสียเช่นนี้อีก โครงกระดูกในหน่วยรบเองก็จะเริ่มถูกทำลาย

  อย่างไรก็ตาม หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้และการเสริมกำลัง หน่วยรบทั้งสี่ก็มีการพัฒนา โครงกระดูกหลายตนมีพลังที่แข็งแกร่งขึ้น

  กู่ซีมองดูสถานการณ์ของหน่วยรบและเชื่อว่าหากมีการต่อสู้อีกครั้ง ระดับของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

【หน่วยรบที่ 1 (ระดับ 0, ยังไม่ได้ตั้งชื่อ, คุณสมบัติ: พลังชีวิต +3, ค่าประสบการณ์ 45/100): หัวหน้า (1/1) โครงกระดูกระดับ 0, สมาชิก (30/30) โครงกระดูกระดับ 1 (15 ตน), โครงกระดูกระดับ 0 (15 ตน)】

【หน่วยรบที่ 2 (ระดับ 0, ยังไม่ได้ตั้งชื่อ, คุณสมบัติ: พลังโจมตี +5, ค่าประสบการณ์ 56/100): หัวหน้า (1/1) โครงกระดูกระดับ 0, สมาชิก (35/35) นักรบโครงกระดูกระดับ 1 (3 ตน), โครงกระดูกระดับ 1 (19 ตน), โครงกระดูกระดับ 0 (13 ตน)】

【หน่วยรบที่ 3 (ระดับ 1, ยังไม่ได้ตั้งชื่อ, คุณสมบัติ: พลังโจมตี +2, พลังชีวิต +3, ค่าประสบการณ์ 3/200): หัวหน้า (1/1) โครงกระดูกระดับ 0, สมาชิก (28/28) โครงกระดูกระดับ 2 (2 ตน), โครงกระดูกระดับ 1 (26 ตน)】

【หน่วยรบที่ 4 (ระดับ 0, ยังไม่ได้ตั้งชื่อ, คุณสมบัติ: พลังป้องกัน +4, ค่าประสบการณ์ 93/100): หัวหน้า (1/1) โครงกระดูกระดับ 0, สมาชิก (40/40) นักรบโครงกระดูกระดับ 1 (6 ตน), โครงกระดูกระดับ 1 (13 ตน), โครงกระดูกระดับ 0 (21 ตน)】

ในสถานการณ์ตอนนี้ หน่วยรบของกู่ซีทั้งสี่หน่วยยังไม่มีหัวหน้าโครงกระดูกตัวไหนที่สามารถอัพเกรดได้เลย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ

พวกวิญญาณอัญเชิญเหล่านี้ เมื่อพวกมันฆ่าศัตรูได้ กู่ซีจะได้รับค่าประสบการณ์เพียง 1 แต้ม หน่วยรบจะได้รับอีก 1 แต้ม ส่วนที่เหลือทั้งหมดจะตกเป็นของวิญญาณที่ร่วมในการต่อสู้

หากไม่สามารถฆ่าศัตรูได้ ต่อให้มีความสามารถมากเพียงใด ระดับก็ไม่สามารถพัฒนาได้

และยิ่งไปกว่านั้น หัวหน้าโครงกระดูกต้องการค่าประสบการณ์มากกว่าปกติหลายเท่า ดังนั้น การที่พวกมันยังไม่ได้อัพเกรดจึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้

เนื่องจากไม่มีโครงกระดูกกระจัดกระจายเหลืออยู่ หน่วยรบเหล่านี้จึงเริ่มเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ มาสร้างสิ่งกีดขวางบนถนน และยังมีโครงกระดูกบางตนที่จุดไฟบนถนน เพื่อป้องกันไม่ให้เงาลี้ลับโจมตีจากทางด้านหลัง

เมื่อการเตรียมการนี้ใกล้เสร็จสมบูรณ์ เงาลี้ลับระลอกที่สองก็ปรากฏขึ้นในระยะไกล

การปรากฏตัวของพวกมันทำให้กู่ซีตกใจ

ไม่ใช่เพราะจำนวนศัตรูที่มากขึ้น แต่เพราะกู่ซีสังเกตเห็นว่าเงาลี้ลับเหล่านี้ดูเหมือนจะมีบาดแผล

ในกลุ่มเงาลี้ลับที่กำลังเคลื่อนเข้ามา ประมาณสามส่วนสิบของพวกมันมีบาดแผล และหัวหน้าเงาลี้ลับในกลุ่มนั้นก็ดูโกรธจัดอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าพวกมันเพิ่งถูกโจมตี

ถึงแม้จะไม่รู้ว่าใครเป็นคนช่วยเขาจัดการกับศัตรูเหล่านี้ แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ กู่ซีถือว่าเขาได้เปรียบ

“รักษาตำแหน่งไว้ พวกมันเร่งร้อน อย่ารีบวิ่งเข้าไป ให้พวกมันเข้ามาแล้วค่อยโจมตี หน่วยรบที่ 1 พวกเจ้ารับผิดชอบโจมตีจากด้านหลัง รอให้การต่อสู้เริ่มขึ้นแล้วค่อยเข้าโจมตีจากด้านหลัง ฆ่าพวกมันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”

เมื่อศัตรูปรากฏตัว กู่ซีก็ขึ้นมายืนที่แถวหน้า

เวลาที่เขาใช้ 15 นาทีนั้นเพียงพอสำหรับเขาในการเตรียมการให้กับหน่วยรบทั้งหมด

กู่ซีวางแผนที่จะใช้สิ่งกีดขวางบนถนนเพื่อดึงดูดศัตรูให้เข้ามายังถนนยาว เพื่อแยกพวกมันออกเป็นกลุ่มเล็ก ๆ และโจมตีทีละกลุ่ม

เมื่อเงาลี้ลับเข้ามาในถนน กู่ซีจะสั่งให้หน่วยรบที่ 3 เข้าสกัดแนวหน้า โดยใช้สิ่งกีดขวางเพื่อชะลอศัตรู จากนั้นให้หน่วยรบที่ 4 จัดการลากหัวหน้าเงาลี้ลับออกไป

ในขณะเดียวกัน หน่วยรบที่ 2 จะทำการโจมตี

ส่วนหน่วยรบที่เหลือ จะให้หน่วยรบที่ 1 เข้าโจมตีจากด้านหลัง พวกเขาสามารถโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพจากด้านหลังของศัตรู ตราบใดที่พวกเขาไม่ปิดกั้นเส้นทางการต่อสู้ของหน่วยรบอื่น พวกเขาจะสามารถสังหารศัตรูได้มากมาย

อย่างไรก็ตาม กู่ซีไม่คาดคิดว่าศัตรูระลอกที่สองจะมาในสภาพเช่นนี้

สิ่งนี้ทำให้เขาเห็นความหวัง

ดูเหมือนว่าโครงกระดูกที่วางไว้ในแนวป้องกันจะยังไม่ต้องใช้

กับดักระเบิดศพที่ฝังไว้สามารถเก็บไว้รอศัตรูระลอกที่สามได้

“ออกโจมตี หน่วยรบที่ 3 พวกเจ้าเตรียมตัวให้ดี ศัตรูพุ่งมาอย่างรวดเร็ว หากพวกมันโจมตีจากด้านหน้าแรงเกินไป พวกเจ้าสามารถถอยไปได้บ้าง แต่ห้ามถอยไปจนถึงแนวป้องกันที่สอง”

เมื่อได้ยินคำสั่งของกู่ซี หน่วยรบทั้งสี่ก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว และโครงกระดูกอีกสามตนที่กระจัดกระจายอยู่ก็รีบออกโจมตีเช่นกัน

โครงกระดูกทั้งสามนี้ไม่ได้อ่อนแอ เพียงแต่ไม่ได้ถูกเลือกให้เข้าร่วมหน่วยรบ

ดังนั้น กู่ซีจึงไม่ได้ให้พวกมันอยู่ข้างตัว แต่ปล่อยให้พวกมันออกไปต่อสู้พร้อมกับหน่วยรบ

เพียงแค่เข้าร่วมการต่อสู้ ระดับของพวกมันก็จะพัฒนาได้เช่นกัน และสามารถช่วยได้ในบางส่วน

ในขณะเดียวกัน เงาลี้ลับก็พุ่งเข้ามาสู่ถนน

ความเร็วในการเคลื่อนที่ของเงาลี้ลับระลอกนี้เร็วกว่าระลอกแรกอย่างชัดเจน เมื่อพวกมันพุ่งเข้ามาในถนน พวกมันก็ชักอาวุธออกมาทันที ดวงตาทั้งสองข้างของพวกมันถึงกับแสดงแสงสีแดงออกมา

อย่างไรก็ตาม กู่ซีได้เตรียมการไว้อย่างดีแล้ว

หน่วยรบที่ 3 ซึ่งอยู่ในแนวหน้า ชูหอกยาวที่ได้รับการเสริมพลังขึ้นมา และจับตาดูการเคลื่อนที่ของศัตรูอย่างใกล้ชิด เมื่อศัตรูอยู่ห่างจากพวกเขาเพียงสองเมตร พวกเขาก็เริ่มโจมตีครั้งแรก

ช่วยสนับสนุนให้ดาวเพื่อเป็นกำลังใจ

ในบทต่อๆไปด้วยน้า

(Next Ep..19)