ตอนที่แล้วตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1310 เป้าหมายของกู่เยี่ยนหยินและจิ้งจอก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1312 ดิ่งพสุธา

ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1311 นาวาเหินจักรพรรดิมังกร (อ่านฟรี)


ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1311 นาวาเหินจักรพรรดิมังกร (อ่านฟรี)

แปลโดย iPAT  

“เมื่อพวกเจ้าดื้อรั้นถึงเพียงนี้ ข้าก็จะเล่นกับพวกเจ้าจนถึงนาทีสุดท้าย!”

เมื่อซื่อหลงเริ่มพูด เขายังอยู่บนท้องฟ้า แต่เมื่อกล่าวจบประโยค เขาก็กลับมายังบัลลังก์ของเขาในนาวาเหินจักรพรรดิมังกรแล้ว

“ฝ่าบาท!”

เมื่อวังหยกพังทลายลง ผู้ฝึกตนแก่นวิญญาณทั้งหมดก็กลับมายังนาวาเหินจักรพรรดิมังกร พวกเขาใช้ค่ายกลเพื่อป้องกันผลกระทบจากการต่อสู้ แต่อารมณ์ของพวกเขายังปั่นป่วนมาก เมื่อมังกรทองถูกตัดหัว พวกเขาตกใจและเสียขวัญมาก แต่พวกเขาก็มีความสุขอีกครั้งหลังจากค้นพบว่าซื่อหลงแยกแก่นวิญญาณหยางออกไปแล้วและทำให้หลี่ฉิงซานกลายเป็นไร้พลัง

พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับอารมณ์มากมายในช่วงเวลาเหล่านี้

ดังที่หลี่ฉิงซานและคนอื่นๆกล่าวไว้ ซื่อหลงไม่มีความสามารถในการกวาดล้างพวกเขา มิเช่นนั้นเขาคงทำลายล้างศัตรูไปนานแล้ว เขาจะไม่ล่าถอยกลับไปในเวลานี้

เหล่าขุนนางพึ่งหลบหนีออกจากสนามรบ แต่ในพริบตาพวกเขาก็ถูกดึงเข้าสู่การต่อสู้อีกครั้ง บางทีซื่อหลงอาจฆ่าหลี่ฉิงซานได้ในท้ายที่สุดด้วยพลังมหัศจรรย์ของแก่นวิญญาณหยาง แต่พวกเขาคงไม่มีโอกาสได้เห็น พระสังฆราชฝ่ายซ้ายและราชาหมาป่าน้ำแข็งเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด การต่อสู้ในระดับนี้อันตรายเกินไปสำหรับพวกเขา

ซื่อหลงออกคำสั่ง “ท่านลู่ ถอยกลับทันที รวบรวมเหล่าขุนนางและเตรียมพิธีบวงสวรรค์สวรรค์!”

ท่านลู่คือเจ้ากรมโยธา ปรมาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนิกายม่อจื้อ เขาเป็นผู้สร้างนาวาเหินจักรพรรดิมังกร เขาอยู่ในนาวาเหินจักรพรรดิมังกรพร้อมกับรองเจ้ากรมอีกสองคนตลอดเวลาโดยไม่ได้เข้าไปในวังหยกก่อนหน้านี้

“รับบัญชา!”

ใบหน้าของปรมาจารย์ลู่แข็งทื่อและไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ ราวกับเขาไม่เห็นปฏิกิริยาของสหาย เขาบังคับนาวาเหินจักรพรรดิมังกรกลับหลังและออกเดินทางไปยังภูเขาศีรษะมังกร

ซื่อหลงเอนกายนั่งอยู่บนบัลลังก์ทองและกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “ขุนนางผู้ภักดีของข้า หากพวกเจ้าสบายดีก็เตรียมตัวออกรบได้!”

เมื่อเหล่าขุนนางได้ยินเช่นนั้น หัวใจของพวกเขากลายเป็นเย็นยะเยือก ชั่วขณะหนึ่งไม่มีผู้ใดตอบสนองเลย

ตั้งแต่พวกเขาสามารถบรรลุเป็นผู้ฝึกตนแก่นวิญญาณ พวกเขาก็ไม่ใช่คนโง่ ด้วยความเร็วที่ซื่อหลงแสดงให้เห็นก่อนหน้านี้ เป็นไปไม่ได้ที่หลี่ฉิงซานจะหยุดเขาได้ แต่เขายังต้องอาศัยนาวาเหินจักรพรรดิมังกรเพื่อเดินางกลับไป นั่นไม่ใช่การโอ้อวดม้าชั้นดี เห็นได้ชัดว่ามันเป็นการใช้ขยะที่มีอยู่เพื่อระบายความแข็งแกร่งของศัตรู และพวกเขาก็คือขยะเหล่านั้น

ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่สามารถเข้าร่วมการต่อสู้ แม้แต่ผลกระทบจากการต่อสู้ก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บแล้ว โดยเฉพาะจิตใจของพวกเขาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว

เจ้ากรมสี่คนจากกรมแรงงานและกรมคลังไม่สามารถต้านทานมนต์สะกดของซูหมี่หรันและเสียชีวิตลงภายใต้กระบี่สังหารพระพุทธเจ้าของเสี่ยวอัน คนที่เหลือล้วนได้รับผลกระทบทางจิตใจอย่างรุนแรง แม้แต่หนึ่งทศวรรษก็อาจไม่เพียงพอที่จะลบล้างอิทธิพลของจักรพรรดินีจิ้งจอกเก้าหางออกไปได้ มันอาจถึงขั้นสร้างปีศาจภายในขึ้นมาและส่งผลต่อพวกเขาไปตลอดชีวิต

และตอนนี้ซื่อหลงยังต้องการให้พวกเขาเผชิญหน้ากับหลี่ฉิงซานโดยตรง นั่นเหมือนกับการขอให้พวกเขาไปตาย เมื่อนาวาเหินจักรพรรดิมังกรระเบิด ไม่มีผู้ใดมั่นใจพอที่จะบอกว่าตนเองสามารถรอดชีวิตไปได้

อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกเขาอยู่บนเรือลำเดียวกัน และพวกเขาก็ไม่สามารถท้าทายอำนาจของซื่อหลง บางคนรู้สึกเสียใจ เดิมทีพวกเขาคิดว่านี่คือทางลัดในการขึ้นสู่พิภพมนุษย์ แต่พวกเขาไม่เคยคิดว่ามันจะทำให้พวกเขาตายเร็วขึ้น หากพวกเขารู้เร็วกว่านี้ พวกเขาคงหยุดจักรพรรดิต้าเซี่ยจากการทำพิธีบวงสวรรค์สวรรค์ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นก็ตาม

ซื่อหลงสังเกตเห็นการแสดงออกของทุกคน เขาสัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่รุนแรงและปั่นป่วนของพวกเขาซึ่งทำให้เขาเย้ยหยันอยู่ในใจ ตั้งแต่เมื่อใดที่ทางลัดที่ยิ่งใหญ่ไร้ความเสี่ยง

เขาไม่สนใจว่านาวาเหินจักรพรรดิมังกรจะกลับไปได้สำเร็จหรือไม่ ตราบเท่าที่มันหยุดหลี่ฉิงซานได้ชั่วขณะก็เพียงพอแล้ว ทุกพลังที่หลี่ฉิงซานสูญเสียไปคือโอกาสที่มากขึ้นสำหรับชัยชนะของซื่อหง หากหลี่ฉิงซานปฏิเสธที่จะลงมือ นั่นยิ่งดี เขาสามารถใช้เวลาเพื่อปรับแต่งแก่นวิญญาณหยางและปราบปรามปีศาจภายในของตน เมื่อซื่อหลงกลับไปถึงราชสำนัก ผลลัพธ์ก็จะถูกกำหนด นี่เป็นแผนการที่ดี

เปลวไฟพุ่งออกจากด้านหลังนาวาเหินจักรพรรดิมังกร มันเร่งความเร็วขึ้น แต่ในจังหวะนั้นเงาดำก็เคลื่อนเข้ามาปกคลุมมันไว้อย่างกะทันหัน

เหล่าขุนนางมองไปรอบๆและพบภูเขาที่ถูกถอนรากถอนโคนจากพื้นดินพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าและปิดกั้นเส้นทางของพวกเขา

ดวงตาสีแดงคู่หนึ่งเรืองแสงอยู่ใต้ภูเขา มันคือดวงตาปีศาจพยัคฆ์ของหลี่ฉิงซานที่แผดเผาราวกับเปลวไฟ เขายกภูเขาทั้งลูกขึ้นด้วยร่างเทพปีศาจ

เสียงกรีดร้องดังขึ้นบนดาดฟ้าเรือ แม้พวกเขาจะเคยเห็นสิ่งนี้มาแล้วที่ภูเขาศีรษะมังกร แต่เมื่อพวกเขาเห็นมันอีกครั้ง พวกเขาก็ยังต้องดิ้นรนสงบจิตใจ พวกเขารู้สึกอ่อนแรงราวกับพวกเขาไม่มีโอกาสรอดชีวิตอีกต่อไป

ซื่อหลงนั่งบนบัลลังก์โดยไม่สะทกสะท้าน ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยแสงสีทอง “ระวังตัว ขุนนางของข้า สิ่งมีชีวิตชั่วร้ายกำลังมา!”

หลี่ฉิงซานโยนภูเขาอย่างแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้พร้อมคำรามเสียงดัง และภูเขาทั้งลูกก็พุ่งตรงเข้าหานาวาเหินจักรพรรดิมังกร

ซื่อหลงโบกมือ

“บึม!”

ปืนใหญ่ที่ท้ายเรือยิงลำแสงออกไปทะลุทะลวงภูเขาและทิ้งรูยาวเอาไว้เบื้องหลัง

ในเวลาเดียวกันปืนใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วนก็ยิงแสงพร่างพรายออกไปทำลายภูเขาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

ฝุ่งควันฟุ้งกระจายไปในอากาศเหมือนเมฆสีเหลือง ขณะที่เศษหินร่วงหล่นเหมือนลูกเห็บ

นาวาเหินจักรพรรดิมังกรล่องลอยอยู่ในกลุ่มเมฆสีเหลือง

ซื่อหลงยืนอยู่ที่ท้ายเรือและจ้องมองลงไปที่หลี่ฉิงซาน เขาโบกมืออย่างง่ายๆ และลำแสงนับพันสายก็พุ่งลงไปบนพื้น

“บึม บึม บึม บึม!”

ลำแสงสาดเทลงมาราวกับสายฝน มันทำลายภูเขาและทิ้งรูมากมายเอาไว้เบื้องหลัง

สิ่งมีชีวิตร่างยักษ์หายตัวไปแล้ว หลี่ฉิงซานกลับคืนสู่ร่างมนุษย์โดยกางปีกสายลมเคลื่อนที่หลบฝนลำแสงไปถึงใต้ท้องเรือซึ่งเป็นจุดบอดของการโจมตี เขาถือแผ่นดินงอกของสวรรค์ทั้งเก้าเอาไว้ในมือและปลดปล่อยสนามแม่เหล็กโลก!

นาวาเหินจักรพรรดิมังกรสั่นอย่างแรงและหยุดเคลื่อนที่ เสียงบิดงอและแตกร้าวของเหล็กและไม้ดังไปทั่ว ผู้ฝึกตนแก่นวิญญาณทั้งหมดบนเรือรู้สึกเหมือนพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับหายนะที่ใกล้เข้ามา

“พินาศ!”

หลี่ฉิงซานใช้โอกาสนี้ส่งหมัดออกไป แรงสั่นสะเทือนทำให้ห้วงมิติแตกร้าว

ไม่มีค่ายกลใดสามารถหยุดหมัดของเขาได้ ความแข็งแกร่งของปีศาจวัวที่อยู่เบื้องหลังหมัดนี้เพียงพอที่จะทำลายล้างทุกอุปสรรค มันเกินพอที่จะแยกนาวาเหินจักรพรรดิมังกรออกเป็นสองส่วน

อย่างไรก็ตามในจังหวะนี้แสงสีทองพลันควบรวมอย่างรวดเร็วใต้ท้องเรือ พลังวิญญาณทั้งหมดของค่ายกลรวมตัวกันที่จุดนั้น แสงสีทองสว่างราวกับดวงอาทิตย์ มันหยุดแรงสั่นสะเทือนและส่งหมัดของหลี่ฉิงซานกลับไป

หลี่ฉิงซานขมวดคิ้วและบินหนี มันชัดเจนราวกับเวลากลางวันว่าซื่อหลงกำลังพยายามทำสิ่งใด เขาไม่สามารถใช้พละกำลังมากเกินไปที่นี่ เดิมทีเขาต้องการรวบรวมกำลังทั้งหมดเพื่อทำลายเรือเหาะในครั้งเดียว แต่สุดท้ายเขาก็ยังประเมินความสามารถของซื่อหลงต่ำเกินไป

ซื่อหลงนั่งพิงบัลลังก์และถือจานค่ายกลสีทองที่ออกแบบอย่างประณีตเอาไว้ในมือ

นอกจากเขา ไม่มีผู้ใดบนโลกใบนี้ที่สามารถควบคุมค่ายกลได้รวดเร็วและยอดเยี่ยมถึงระดับนี้