ตอนที่ 28 : เขาเลิกงานแล้ว
.
หลังจากได้ฟังประโยคนั้น เฉินหลิงก็วางแก้วไวน์ลง และเขียนบรรทัดหนึ่งลงในคอลัมน์แบบฟอร์ม
.
"ไม่มีผู้เห็นเหตุการณ์"
จากนั้นเขาก็สั่งวิสกี้แก้วใหม่ แล้วเดินไปหาคนถนนปิงฉวนคนถัดไป
“ชื่อ”
“...”
“ชื่อ!”
“ซุน เหล่าลิ่ว”
“คุณเคยเห็นภัยพิบัติมั้ย?”
“ฉัน...ฉัน…” ซุนเหล่าลิ่วเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับชายร่างใหญ่เมื่อสักครู่นี้ ก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้ "ฉันไม่เห็น"
เฉินหลิงพยักหน้า และเดินไปที่คนถัดไป
เมื่อเห็นเฉินหลิงทุบตีทุกคนแล้วถามคำถามอย่างใจเย็น ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นในใจของซุนเหล่าลิ่วและคนอื่นๆ...
คนแซ่หม่ากำลังขุดหลุมฝังพวกเราหรือเปล่า?
ไหนบอกว่าคนที่ส่งมาเป็นคนจากที่นั่งสำรอง เป็นแค่พวกไก่อ่อนไม่ใช่เหรอ?
เมื่อพิจารณาจากความสามารถในการหลบหลีกที่น่ากลัวของเขาในตอนนี้ เขาก็ไม่ได้ต่างจากพวกผู้พิทักษ์มากนักใช่ไหม หรือ...เดิมทีเขาก็เป็นผู้พิทักษ์?
เป็นไปได้ไหมว่าสถานการณ์บนถนนปิงฉวนถูกเปิดเผย ชายแซ่หม่า วางแผนที่จะใช้โอกาสนี้จัดการกับพวกเขาทั้งหมด จากนั้นก็ล้างชื่อให้ขาวสะอาดแล้วกลับขึ้นฝั่ง?
ยิ่งทุกคนคาดเดาเหตุการณ์ไม่ได้เท่าไหร่ สีหน้าของพวกเขาก็ยิ่งดูน่าเกลียดมากขึ้น พวกเขาทั้งหมดจ้องมองไปที่เฉินหลิง ทุกคนต่างกลัวว่าหลังจากที่ผู้ชายคนนี้ถามคำถามเสร็จแล้ว เขาจะชักปืนออกมาฆ่าพวกเขาทั้งหมดทีละคน
เฉินหลิงบันทึกคำสารภาพของทุกคนแบบสบายๆ และพิมพ์ลายนิ้วมือของพวกเขา สำหรับคนที่หมดสติ เขาเขียนว่า "ไม่มีผู้เห็นเหตุการณ์" จากนั้นจึงบังคับพิมพ์ลายนิ้วมือ
ต่อจากนั้น เขาเดินไปหาเถ้าแก่เพื่อขอเชือกหนาๆ มัดมือทุกคนเข้าด้วยกัน แล้วผลักเปิดประตูร้านเหล้าออก
“ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ...แล้วเจอกันพรุ่งนี้”
ชายหนุ่มผู้สวมเสื้อคลุมผ้าฝ้ายขาดๆ ยืนอยู่ที่ประตู ยิ้มให้ทุกคนในร้านเหล้าแล้วหันหลังเดินจากไป
ร้านเหล้าที่ยุ่งเหยิงตกอยู่ในความเงียบงัน
พวกเขายังไม่ตายเหรอ?
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ซุนเหล่าลิ่วก็ได้สติ แผ่นหลังของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น
เขาหันไปมองเถ้าแก่
“...ทำไมถึงยืนอยู่ตรงนั้นล่ะ มาช่วยเราแก้เชือกหน่อยสิ!!”
.
........
.
“เมื่อกี้ได้ยินเสียงปืนหรือเปล่า?”
.
ผู้คุมกฎพูดอย่างลังเลอยู่ในร้านน้ำชา
“ไม่...นายได้ยินผิดหรือเปล่า?” เฉียนฝานตอบอย่างสบายๆ ขณะที่เล่นไพ่นกกระจอก “ไม่ต้องกังวล คนบนถนนปิงฉวน ยังรู้ขอบเขตหนักเบา ตอนที่พวกเขาเล่นมากสุดก็ใช้มีด การชักปืนออกมามันยิ่งทำให้เรื่องวุ่นวาย มันไม่ใช่เรื่องดีสำหรับใครเลย”
"มันก็ใช่"
"เจ้าเด็กผู้ชายที่ชื่อเฉินหลิง วันนี้ยังจะออกมาได้มั้ย?"
"มันยากที่จะพูด...เมื่อเทียบอู๋โหยวตงเขาดูดีกว่า หากคนพวกนั้นโหดเหี้ยมกว่านี้...จุ๊ๆ”
“ถ้ามีคนถูกฆ่า จะอธิบายกับเขตสามว่ายังไง?”
"อะไร มันอธิบายยากเหรอ ก็แค่เด็กยากจนจากถนนหานซวงคนหนึ่ง ฉันได้ยินมาว่าพ่อแม่ของเขาตกใจกลัวภัยพิบัติจนโง่ไปแล้ว ถึงเขาจะตายที่นี่ก็ตาม จะมีใครรู้ จะมีใครมาสร้างปัญหาได้ ?”
"วางใจเถอะ เขตสามเป็นถิ่นพี่หม่า เขารับมือได้…สามท้ง!”
"เจอนี่!"
.
ปัง ปัง ปัง
.
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง
“จิ๊ นี่ใครมันมาอีกแล้ว” เฉียนฝานลุกขึ้นด้วยความไม่พอใจ “วันๆ หนึ่งจะมีเรื่องอะไรนักหนา”
"อาจเป็นเด็กคนนั้น เขาคงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติก็เลยวิ่งมาฟ้องเรา ฮ่าๆ "
"นี่เขาไปได้ไม่เท่าไหร่เลย ไม่ใช่ว่าแค่ไปด้อมๆ มองๆ ที่หน้าประตูแล้ววิ่งกลับมาหรอกนะ?"
ท่ามกลางการสนทนาของทุกคน เฉียนฝานก็เปิดประตูออก เขาขมวดคิ้วเมื่อเห็นเฉินหลิงยืนอยู่ที่ประตู
“ทำไมถึงเป็นนายอีกล่ะ? ฉันยังอธิบายให้นายฟังไม่เข้าใจเหรอ?”
“นี่คือรายงานงานของผม”
"...?”
เฉินหลิงหยิบแบบฟอร์มออกมายื่นให้เฉียนฝาน ทันใดนั้นเขาก็เห็นคราบเลือดและเศษผิวหนังตรงมุมกระดาษจึงใช้นิ้วดีดมันออก เมื่อทำความสะอาดเสร็จจึงยื่นให้เฉียนฝานพร้อมรอยยิ้ม
เฉียนฝานตกตะลึง
ผู้คุมกฎคนอื่นๆ ที่กำลังเล่นไพ่นกกระจอกอยู่ข้างในต่างก็ตกตะลึงเช่นกัน
"..."
เฉียนฝานรับแบบฟอร์ม มองดูมันอย่างสงสัยสักพักหนึ่ง แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "เสี่ยวเฉิน...ฉันรู้ว่างานนี้ค่อนข้างท้าทายสำหรับนาย แต่นายไม่สามารถหลอกคนอื่นได้ ด้วยการพิมพ์ลายนิ้วมือของตัวเอง... "
"ผมไม่ได้โกหก"
เฉินหลิงพูดอย่างเคร่งขรึม "พวกเขาอยู่ที่ร้านเหล้า ถ้าคุณไม่เชื่อผม คุณสามารถถามพวกเขาได้เลย"
เฉียนฝานขมวดคิ้วแน่นยิ่งขึ้น เขาจ้องไปยังเฉินหลิง ไม่รู้เวลานี้อีกฝ่ายกำลังล้อเขาเล่นหรือจริงจัง....ไม่ คนพวกนั้นจะให้ความร่วมมือง่ายๆ แบบนั้นได้ยังไง
หรือเจ้าเด็กคนนี้ จะขายตัวเอง เอาความงามเข้าแลก เพื่อเปลี่ยนท่าทีของพวกนั้น...
แต่ดูจากเวลามันไวไปหน่อยมั้ย?
“ไว้ฉันจะดู” เฉียนฝานลุกขึ้นและกำลังจะเดินไปที่ประตู จู่ๆ เขาก็นึกถึงอะไรบางอย่างได้จึงหันกลับมาแล้วพูดว่า "นายควรรู้นะว่าการโกหกมีผลต่อภารกิจ มันจะทำให้นายถูกตัดสิทธิ์จากการสอบ"
"ผมรู้"
เฉียนฝานเอาบุหรี่ใส่ปาก เดินไปทางร้านเหล้าด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ผู้คุมกฎคนอื่นๆ มองหน้ากันและติดตามไปอย่างสงสัย
เมื่อเห็นผู้คุมกฎจำนวนมากออกไป เฉินหลิงก็ก้มศีรษะลง มองไปที่โต๊ะไพ่นกกระจอก บนนั้นมีตัวอักษรสองสามบรรทัดปรากฏขึ้น
.
[ค่าความคาดหวังของผู้ชม +1...+1...+1...]
.
.
.......
.
ร้านเหล้าเฮยฝู
.
“นายขยับให้มันเร็วๆ หน่อยได้มั้ย?”
ในร้านเหล้าที่วุ่นวาย มีเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น ซุนเหล่าลิ่วเป็นคนที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ในขณะมองดูเถ้าแก่ที่ค่อยๆ ตัดเชือก เขาก็อดไม่ได้ที่จะสาปแช่ง
เถ้าแก่มองเขาอย่างเย็นชา "ถ้านายยังปากมาก ฉันจะฆ่านายซะ"
"...ทำไมเมื่อกี้คุณไม่เก่งแบบนี้ล่ะ?"
"เจ้าเด็กคนนั้นเป็นผู้พิทักษ์นะ ถ้าเราต่อต้านมันจะคุ้มมั้ย?”
“เขาเป็นผู้พิทักษ์จริงเหรอ?” ซุนเหล่าลิ่วเบิกตากว้าง “คุณแน่ใจนะ?”
“เมื่อหลายปีก่อน ฉันค้ายาในเขตสาม ถูกผู้พิทักษ์ไล่ตาม...ทักษะการเคลื่อนไหวของเขาเหมือนกับเด็กหนุ่มคนนั้นทุกอย่าง หากตอนนั้นไม่ใช่ฉันโชคดี ไม่มีทางที่จะหลบหนีมาถึงเขตสองได้หรอก” เถ้าแก่หยุดครู่หนึ่ง “นายรู้มั้ยว่าผู้พิทักษ์คนนั้นคือใคร?”
"ใคร?"
"หัวหน้าผู้พิทักษ์ของเขตสาม หานเหมิง”
ซุนเหล่าลิ่วยังคงนิ่งอยู่ที่เดิม
.
กรุ๊งกริ๊งง——
.
ประตูร้านเหล้าถูกเปิดออก
เฉียนฝานยืนอยู่ที่ประตู เห็นข้างในร้านดูเละเทะ เต็มไปด้วยเลือดของคนที่อาศัยบนถนนปิงฉวน เฉียนฝานมองด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ!
“นี่…” เฉียนฝานยืนอยู่ที่ประตูเหมือนรูปปั้น “เด็กคนนั้นทำเหรอ?”
ผู้คุมกฎหลายคนที่ตามมาทีหลังต่างตกใจ
เฉียนฝานเดินเข้าไปในร้านเหล้า ก้าวข้ามร่างกู่เตาที่นอนนิ่งไม่ต่างจากศพอย่างระมัดระวัง แต่ความจริงเขาแค่เพียงยังไม่ตื่นเท่านั้น พวกเขาทั้งหมดถลึงตาจ้องมองผู้คุมกฎ ในดวงตามีเปลวไฟแห่งความโมโห
ชายร่างใหญ่ที่คร่ำครวญก็จ้องมองไปที่ผู้คุมกฎด้วยความโกรธที่ลุกโชนในดวงตา
"เฉียนฝาน!!“ซุนเหล่าลิ่วกัดฟันลุกขึ้นนั่ง”ไอ้สารเลว! ฉันจะฆ่าแก!!”
เฉียนฝานขมวดคิ้ว “แกด่าฉันทำไม?”
.
คลิก -
.
เสียงบรรจุกระสุนดังขึ้น เถ้าแก่ก้าวไปข้างหน้าและจ่อปืนไปที่หัวของเฉียนฝาน
ผู้คุมกฎคนอื่นๆ ตกใจ ชักปืนออกมาพร้อมกัน เล็งไปที่เถ้าแก่และคนในร้านเหล้าที่กำลังพยายามลุกยืนขึ้น
ในร้านเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด บรรยากาศพลันเย็นลง
“พวกนายคิดจะทำอะไร?” เฉียนฝานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ถามเสียงต่ำ “อย่าลืมว่าเราเป็นพันธมิตรกัน”
“พันธมิตรเหรอ? นายส่งผู้ชายคนนั้นมา ยังจะพูดถึงความร่วมมืออะไรอีก?” ซุนเหล่าลิ่วกัดฟันพูด
"...ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เฉินหลิงเป็นเพียงคนจากที่นั่งสำรอง..."
"ที่นั่งสำรองบ้าบออะไร!!" ซุนเหล่าลิ่วชี้ไปยังผู้คนที่ร้องโอดครวญอยู่บนพื้น "นายบอกฉันอีกครั้งสิ นี่มันคือสิ่งที่ที่นั่งสำรองทำได้เหรอ!"
"ฉัน..."
เฉียนฝานพูดไม่ออก
“...เฉินหลิงอยู่ที่ไหน?” เขาหันไปถามผู้คุมกฎอีกคน
“ดูเหมือนเขาจะไปแล้ว”
“ไปแล้ว?”
“ใช่...เขาบอกว่าเขาเลิกงานแล้ว”
.
.