ตอนที่แล้วบทที่ 29 นี่เขายังเป็นคนอยู่ไหม?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 31 เงียบสงัด ความฝันมาเยือน

บทที่ 30 พี่ออริกาโน่ถึงกับตะลึงไปเลย


บทที่ 30 พี่ออริกาโน่ถึงกับตะลึงไปเลย

เย่เหรินยังคงวิ่งรอบสนามด้วยความเร็วสูงสุดโดยไม่ลดความเร็วลงเลยแม้แต่น้อย

จางเถี่ยเริ่มเหงื่อตก

"วิ่ง 1 กิโลเมตรพร้อมน้ำหนัก 60 กิโลกรัม แถมเขาใช้เวลาเพียง...1 นาที 12 วินาที?!"

"นี่มันยังเป็นมนุษย์อยู่ไหม?!"

"หรือว่าความสามารถพิเศษของเขารวมถึงการเพิ่มความเร็วและความอดทนด้วย?"

หลังจากวิ่งไปพักใหญ่ เย่เหรินก็หยุดลง หายใจเล็กน้อย

"ครูฝึกครับ ผลของผมเป็นยังไงบ้างครับ?"

จางเถี่ย "..."

จางเถี่ยมองไปที่แท็บเล็ตแล้วพูดไม่ออก

เย่เหรินวิ่งไปเกือบห้านาทีโดยไม่ลดความเร็วลงเลย รวมระยะทางเกือบห้ากิโลเมตร ทั้งที่แบกน้ำหนักถึงหกสิบกิโลกรัม

ร่างกายแบบนี้หาได้ยากยิ่งในโลกมนุษย์!

เพราะนี่คือการใช้ร่างกายล้วนๆ โดยไม่ใช้พลังพิเศษใดๆ!

เงียบ

จางเถี่ยเงียบไปแล้ว

หลังจากที่ทุกคนได้พักผ่อนกันเล็กน้อย

ก็ถึงเวลาฝึกความแข็งแรง รวมถึงการยกน้ำหนัก วิดพื้น และดึงข้อ

เย่เหรินแสดงให้เห็นถึงพละกำลังและความอดทนที่น่าทึ่งในการฝึกเหล่านี้ ต้องขอบคุณร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้น ความสามารถในการเรียนรู้และการตอบสนองของเขาจึงเหนือกว่าคนทั่วไป

ดังนั้น ความสามารถของเย่เหรินจึงได้มาตรฐานและแข็งแกร่งมาก...

จนเพื่อนๆคนอื่นๆตกตะลึงไปหมดแล้ว

"ไม่แปลกใจเลยที่เขาได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ!"

"ไม่แปลกใจเลยสักนิดที่เขาได้รับสิทธิพิเศษ!"

"ไม่แปลกใจเลยเลยที่เขามีพี่สาวสวยๆคอยดูแล!"

ในพริบตาเดียว ทุกอย่างก็กระจ่าง ทีมตัดสินใจเลิกเปรียบเทียบตัวเองกับเย่เหริน เพราะร่างกายของเขาดูเหมือนจะไร้ขีดจำกัด!

พวกเขาไม่คิดกล้าดูถูกเขาอีก เพราะกระทั่งไม่ใช้พลังพิเศษแล้ว กลับไม่มีใครในที่นี้เทียบเขาได้เลย!

"แต่ทักษะการต่อสู้ยังต้องฝึกอีกเยอะนะ..." จางเถี่ยจดบันทึกอย่างละเอียดบนแท็บเล็ต

ในการฝึกทักษะการต่อสู้ ทั้งการต่อสู้มือเปล่า ดาบ และปืน เย่เหรินก็ยังตามคนอื่นไม่ทัน โดยเฉพาะการฝึกยิงปืน เขาดูเคอะเขินราวกับมือใหม่ที่ไม่เคยจับปืนมาก่อน

"ใจเย็นๆค่อยๆฝึกไปนะคะ" เจียงซุ่ยเข้ามาแทนครูฝึก ค่อยๆสอนเย่เหรินอย่างใจเย็น ทั้งการประกอบและแยกชิ้นส่วนปืน รวมถึงวิธีการเล็งเป้า เย่เหรินเรียนรู้ได้เร็ว ครูฝึกก็บันทึกภาพทั้งหมดไว้

สุดท้ายก็มาถึงการฝึกทีม ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดและยากที่สุด เพราะต้องทำความเข้าใจพลังพิเศษของกันและกัน เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สร้างผลลัพธ์ที่มากกว่าแค่การมารวมตัวกันเฉยๆ

ยกตัวอย่างเช่น ผู้ชายที่สามารถทำให้เกิดระเบิดได้เพียงแค่เลียน้ำตาลอมยิ้ม เขาสามารถร่วมมือกับผู้หญิงที่สามารถเคลื่อนย้ายวัตถุได้ ทำให้เกิดการระเบิดทางไกล หรือแม้แต่ส่งอมยิ้มเข้าไปในวัตถุแล้วระเบิดจากภายใน

แต่พูดง่ายกว่าทำ พลังพิเศษมักจะรบกวนซึ่งกันและกัน ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็อาจนำไปสู่ผลที่คาดไม่ถึง ในการฝึกส่วนนี้ ทุกคนต้องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันเต็มที่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนได้รับบาดเจ็บ ขาขวาเกือบขาด

"ไปห้องพยาบาล เดี๋ยวรักษาได้"

แต่ก็ไม่ต้องกังวลมากเกินไป ที่ฐานมีผู้มีพลังพิเศษที่สามารถรักษาได้ เธอสามารถถ่ายโอนความเสียหายจากคนไปยังวัตถุที่ไม่มีชีวิตได้

แต่...

"ผมทำงานร่วมกับคนอื่นไม่ได้เลย" เย่เหรินเกาหัวด้วยความหงุดหงิด ทันทีที่เขาดึงดาบออก ทุกคนก็แข็งทื่อด้วยความกลัวราวกับโลกหยุดหมุน

ผลกระทบจากมลทินนี้ไม่แบ่งฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นมิตรหรือศัตรู

ตราบใดที่เขาชักดาบออกมาก็เท่ากับร่ายเวทควบคุมแบบกลุ่มใส่ทุกคน

แต่มีเพียงเจียงซุ่ยเท่านั้นที่รู้

ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเย่เหรินไม่ได้อยู่ที่การควบคุมกลุ่มเมื่อชักดาบ แต่เป็นทักษะประหารติดตัวของเขาที่ไม่สนใจเหตุและผลใดๆ ตราบเท่าที่ตรงตามเงื่อนไขการประหารก็สามารถเรียกใช้ได้!

นั่นคือความผิดปกติระดับจินตภาพ!

[ทักษะติดตัว ประหาร]

[คำอธิบาย เมื่อ HP ของเป้าหมายศัตรูลดลงต่ำกว่า 30% สามารถใช้ทักษะสังหารเป้าหมายได้ทันที]

[คูลดาวน์ 60 วินาที]

คำพูดที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมานี้ ซ่อนพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่สามารถสังหารแม้แต่ร่างเงาของจ้าวแห่งห้วงลึกได้โดยตรง!

เมื่อความมืดเข้ามา การฝึกที่ตึงเครียดในวันนี้ก็สิ้นสุดลงในที่สุด

ทุกคนที่เหน็ดเหนื่อยต่างกลับไปที่หอพักรวมหกคนของตน

มีเพียงเย่เหรินและเจียงซุ่ยเท่านั้นที่กลับไปที่อพาร์ตเมนต์อิสระที่จัดไว้เป็นพิเศษ

อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง

สภาพที่พักแห่งนี้เทียบเท่ากับโรงแรมห้าดาว ห้องพักกว้างขวาง สว่างไสว และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แถมยังมีสระว่ายน้ำขนาดเล็กด้วย คุณเชื่อหรือเปล่าล่ะ?

ตอนเย็น เย่เหรินรู้สึกเบื่อ เลยลงไปเดินเล่นข้างล่าง

ทันทีที่เขาออกจากอาคารอพาร์ตเมนต์ เขาก็เห็นร่างหนึ่งซ่อนตัวอยู่ที่มุมอย่างลับๆ

เย่เหรินมองอย่างตั้งใจและพบว่าเป็นเพื่อนร่วมทีมที่ฝึกด้วยกันในตอนกลางวัน ‘ว่าแต่เขาชื่ออะไรนะ?’

ดูเหมือนว่าจะใช้นามสกุลว่าหนิว เขาชื่อหนิวจื้ออิง

เนื่องจากชื่อของเพื่อนคนนี้พิเศษมาก ครั้งแรกที่ผู้ฝึกสอนเรียกชื่อเขา เย่เหรินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

(ผู้แปล  牛至 หรือ หนิวจื้อ แปลว่า ออริกาโน่ครับ)

หนิวจื้ออิงมีรูปร่างหน้าตาธรรมดาและมีรูปร่างกำยำ เขาซ่อนตัวอยู่ในเงามืดและตัวสั่นด้วยความหนาว

เย่เหรินเดินเข้าไปหาเขาอย่างเงียบๆแล้วตบไหล่เขา

"พี่หนิว ทำอะไรอยู่ตรงนี้ครับ?"

หนิวจื้ออิงตกใจ เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นว่าเป็นเย่เหริน แล้วพูดด้วยรอยยิ้มขมขื่น

"พอดีอยากสูบบุหรี่ขึ้นมาเฉยเลย ขอแอบสูบสักมวนนะ นายสูบบุหรี่ไหมล่ะ?" เขาหยิบซองบุหรี่ออกมา แต่เย่เหรินไม่เคยสูบบุหรี่จึงปฏิเสธ

"ไม่สูบเหรอ? ไม่สูบก็ดีแล้ว ช่วงฝึกเราห้ามสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า หรือทำกิจกรรมบันเทิงใดๆทั้งสิ้น...นายจะฟ้องฉันไหมเนี่ย?"

หนิวจื้ออิงเริ่มกังวล

เย่เหรินอึ้งไป "จริงเหรอครับ?"

ห้ามทำกิจกรรมบันเทิง?

แต่ในอพาร์ตเมนต์ของเขามีทุกอย่างครบครัน ตั้งแต่คอมพิวเตอร์ ทีวี ไปจนถึงเครื่องเล่นเกม แถมในตู้เย็นก็มีเบียร์ ไวน์ เหล้า ให้เลือกอีกเพียบ

เขาเกาหัว "เข้มงวดขนาดนี้เลยเหรอครับ?"

หนิวจื้ออิงอธิบาย "ก็ปกตินะ พวกเรามาที่นี่เพื่อฝึก เพื่อเตรียมตัวต่อสู้กับสัตว์ประหลาดในอนาคต เราจะประมาทไม่ได้ กฎพวกนี้ก็เพื่อพวกเราเองแหละ"

ขณะที่กำลังคุยกัน เสียงฝีเท้าของครูฝึกจางเถี่ยก็ดังมาจากไม่ไกล

หนิวจื้ออิงรีบดับบุหรี่ แต่กลิ่นบุหรี่ยังไม่จางหายไป เขาเหมือนมดบนกระทะร้อน กลัวครูฝึกจะจับได้

ครูฝึกจางเถี่ยเดินเข้ามา มองหนิวจื้ออิงด้วยความประหลาดใจ แล้วก็สูดจมูก เขาขมวดคิ้วทันทีเมื่อได้กลิ่นบุหรี่

หนิวจื้ออิงเย็นวาบไปทั้งหัว "ครูฝึก... ผม..."

ยังไม่ทันพูดจบ เย่เหรินก็หันไปยิ้มให้จางเถี่ย "ครูฝึก มีบุหรี่ไหมครับ?"

จางเถี่ยชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วก็ยิ้มอย่างอบอุ่น "มีๆๆ มา ลองอันนี้สิ แรงดีนะ"

เขาล้วงซองบุหรี่ของตัวเองออกมาจากกระเป๋า เตรียมจะแบ่งให้เย่เหริน

เย่เหรินรับมาหนึ่งมวน แล้วก็ยื่นให้หนิวจื้ออิง หนิวจื้ออิงหน้าซีด ไม่กล้ารับ พูดตะกุกตะกัก "ไม่... ผม... ผม..."

จางเถี่ยเหลือบมองหนิวจื้ออิง น้ำเสียงแข็งกร้าว "น้องเย่ให้ ก็รับไปสิ!"

ในที่สุด หนิวจื้ออิงก็รับบุหรี่อย่างไม่เต็มใจนัก ก่อนจะเก็บมันกลับเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ แล้วหันไปมองเย่เหรินด้วยสายตาขอบคุณ

"ครูฝึกครับ ผมรู้สึกเหมือนติดคุกเลย ขอผมออกไปเดินเล่นตอนว่างๆได้ไหมครับ?" เย่เหรินถามขึ้นลอย ๆ

หนิวจื้ออิงส่ายหัวโดยไม่รู้ตัว ‘ไม่ได้หรอก พวกเรามาฝึกกันนะ ไม่ใช่ออกมาทัศนศึกษาสักหน่อย’

อย่างไรก็ตาม ครูฝึกจางเถี่ยกลับพยักหน้าอย่างไม่คาดคิด "ได้สิ สหายเย่ ถ้าอยากออกไปก็บอกฉันหรือผู้รับผิดชอบคนอื่นก็ได้ จะมีรถมารับส่งให้"

หนิวจื้ออิง "..."

หนิวจื้ออิงมองภาพตรงหน้าด้วยความตกตะลึง

4 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด