บทที่ 44 อัญเชิญ! จ้าวแห่งความฝัน น็อกซ์ทาร์ทัส!
บทที่ 44 อัญเชิญ! จ้าวแห่งความฝัน น็อกซ์ทาร์ทัส!
ขณะที่ทุกคนกำลังโล่งใจที่เย่เหรินกลับมาอย่างปลอดภัย เย่เหรินก็โพล่งความคิดที่ทำเอาทุกคนตกตะลึง
"ผมจะเรียกคนมา เอาจ้าวแห่งความฝันมาเลย"
จ้าวแห่งเลือดเนื้อแข็งแกร่งเกินไป มันแข็งแกร่งถึงขนาดต่อต้านการเรียกกลับของห้วงลึกได้
สิ่งเดียวที่จะต่อกรกับมันได้ และสามารถมาตอนนี้ คงมีแต่จ้าวแห่งความฝัน น็อกซ์ทาร์ทัส
คำพูดนี้เหมือนก้อนหินที่ถูกโยนลงไปในทะเลสาบที่เงียบสงบ ทำให้บรรยากาศที่ผ่อนคลายตึงเครียดขึ้นในทันที
"นาย...พูดจริงเหรอ...?"
"ถึงจะเสี่ยง แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว"
"งั้น ลองดูไหม?"
สีหน้าของเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ต่างกันไป
ยวี้หลิงหลงกังวลแต่ก็มีความอยากรู้อยากเห็น
หวังผิงอันเบิกตากว้าง ขมวดคิ้วแสดงความกังวลอย่างมาก
ผู้ยิ่งใหญ่ร่างผอมแต่แววตาเฉียบคมเห็นด้วยกับความคิดบ้าๆของเย่เหริน เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
"ฉันว่าทำได้ เจ้าหนูคนนี้ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง"
ถึงการตัดสินใจของเย่เหรินจะเสี่ยงมาก ไม่มีใครรู้ว่าถ้าร่างเงาของจ้าวแห่งความฝันปรากฏขึ้นมา มันจะเป็นพันธมิตรของพวกเขาหรือไม่...
หรือจะเหมือนจ้าวแห่งเลือดเนื้อ ต่อต้านการกลับไปยังห้วงลึก
แต่การลังเลก็ไม่มีประโยชน์
และก่อนจะมา พวกเขาได้รับคำสั่งจากเบื้องบนว่า ถ้าเป็นไปได้ ให้เย่เหรินลองดูว่าเขาจะสามารถอัญเชิญจ้าวแห่งความฝันในโลกภายนอกได้หรือไม่?
"งั้นก็มาเลย!"
เย่เหรินสูดหายใจลึก อากาศราวกับหยุดนิ่งในชั่วขณะนั้น
เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ต่างถอยออกไป
"..."
ทันทีที่เย่เหรินชักดาบโลหิตออกมา สายหมอกสีแดงก็ค่อยๆแพร่กระจายไปทั่วบริเวณอย่างน่าประหลาด
คมดาบโลหิตเปล่งประกายเย็นยะเยือกและลึกลับท่ามกลางแสงอาทิตย์สีแดง
ด้วยแววตาที่แน่วแน่ เย่เหรินสะบัดข้อมือ ดาบโลหิตวาดลวดลายเป็นสัญลักษณ์ในอากาศ ร่องรอยเหล่านั้นค่อยๆรวมกันเป็นสัญลักษณ์ลึกลับที่สลับซับซ้อนและน่าเกรงขาม
นั่นคือเวทมนตร์อัญเชิญเป้าหมายที่จ้าวแห่งความฝัน น็อกซ์ทาร์ทัสได้แสดงให้เย่เหรินเห็น ซึ่งต้องแลกมาด้วยการทำลายโลกแห่งความฝันทั้งหมด
ทุกสิ่งรอบตัวในเวลานี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าประหลาดและน่าตกใจ
บนดาดฟ้าที่เคยเงียบสงบ บัดนี้ฟ้าดินกลับแปรปรวน ราวกับมีพลังที่มองไม่เห็นบิดเบือนห้วงอวกาศ ทำให้แสงสว่างมืดมัวลง ดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าก็พร่าเลือน
ในสายหมอกสีแดง ลักษณะของลาโธเทป และโนทอส ปรากฏขึ้นรางๆ และเกิดเสียงสะท้อนบางอย่างเมื่อเวทมนตร์อัญเชิญเป้าหมายค่อยๆสมบูรณ์ขึ้น!
"ว้าว..."
"ดูเหมือนจะได้ผลนะ..."
"ไม่ธรรมดาเลย..."
ทุกคนกลั้นหายใจ จ้องมองการเคลื่อนไหวของเย่เหรินอย่างตึงเครียด
เจียงซุ่ยกำชายเสื้อแน่นจนปลายนิ้วซีดขาว สายตาจับจ้องอยู่ที่เย่เหรินไม่ไหวติง
ต่อหน้าปรากฏการณ์ผิดปกติที่บิดเบี้ยวและแปลกประหลาดนี้ ทุกคนแข็งทื่อราวกับรูปปั้น มีเพียงหมอกสีแดงรอบๆเย่เหรินที่ยิ่งดูน่ากลัวยิ่งขึ้น
อากาศรอบตัวเขาราวกับลุกเป็นไฟ ก่อตัวเป็นวงแหวนแสงเจิดจ้า และเวทมนตร์อัญเชิญเป้าหมายที่คมดาบโลหิตสลักไว้...
ภายใต้แสงของวงแหวน ค่อยๆเปล่งแสงสีน้ำเงินอมม่วงจางๆ และผ่านแสงนั้น สามารถมองเห็นเศษเสี้ยวภาพสะท้อนของโลกแห่งความฝันนับพัน!
เมื่อวาดเส้นสุดท้ายเสร็จ เย่เหรินก็ชูดาบโลหิตขึ้นฟ้า
ทันใดนั้น รอยแยกที่ฉีกขาดท้องฟ้าก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าอีกครั้ง เสียงเรียกโบราณและกว้างใหญ่ดังมาจากรอยแยกนั้น เป็นเสียงสะท้อนจากจ้าวแห่งความฝัน น็อกซ์ทาร์ทัส
มันตอบรับการเรียกของเย่เหริน
พลังอันยิ่งใหญ่ที่ไม่อาจบรรยายได้หลั่งไหลออกมาจากรอยแยก ราวกับข้ามผ่านกำแพงกั้นระหว่างมิติต่างๆ สิ่งมีชีวิตขนาดมหึมาปรากฏขึ้นเหนือน่านฟ้าของเมืองท่าเรือในพริบตา
นี่คือร่างเงาของจ้าวแห่งความฝัน น็อกซ์ทาร์ทัส!
รูปร่างของมันเหมือนดาวฤกษ์ที่มืดมิดราวกับหลุมดำ แต่ก็เปล่งประกายระยิบระยับ ล้อมรอบด้วยเศษเสี้ยวแห่งความฝันที่ล่องลอยไปมา สอดคล้องและกลืนกินดวงดาวบนท้องฟ้า
เช่นเดียวกับจ้าวแห่งเลือดเนื้อ ร่างกายของมันถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวนจากห้วงลึก
เมื่อร่างเงาของจ้าวแห่งความฝัน น็อกซ์ทาร์ทัส ปรากฏขึ้น กลางวันอันสดใสก็บิดเบี้ยวกลายเป็นกลางคืนอันมืดมิด!
ดวงอาทิตย์หายลับไป เหลือเพียงม่านราตรีที่แผ่ปกคลุมทั่วผืนฟ้า ราวกับมีจ้าวแห่งความฝันเป็นศูนย์กลาง
มันก็ไม่แปลกหรอก ที่ผู้ปกครองห้วงลึกแห่งความฝันจะสามารถเปลี่ยนกลางวันเป็นกลางคืนได้
ทันทีที่ร่างเงาของจ้าวแห่งความฝันปรากฏ ท่าเรือทั้งเมืองก็ตกอยู่ในความเงียบสงัด
เมืองที่ถูกจ้าวแห่งเลือดเนื้อทำลายจนพังพินาศ ถูกปกคลุมด้วยเงามืด ราวกับว่าเวลาได้หยุดลง
ดวงดาวบนท้องฟ้าหมุนวนอย่างรวดเร็ว ราวกับถูกดึงดูดเข้าหา เงาของจ้าวแห่งความฝันกลายเป็นศูนย์กลางของวังวนอันยิ่งใหญ่
ภาพตรงหน้าช่างน่าพิศวง
มอร์แกนและเอเลน่า สองนักบวชที่ถูกลืม กำลังตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว
ในวินาทีที่จ้าวแห่งเลือดเนื้อถูกเรียกกลับสู่ห้วงลึก พวกเขาเกือบถูกดูดเข้าไปในห้วงลึกด้วย
พวกเขาพยายามดิ้นรนจนเป็นอิสระ แต่สิ่งที่เห็นตรงหน้ากลับทำให้ความเชื่อของพวกเธอพังทลาย...
เงาของจ้าวแห่งเลือดเนื้อที่ศาสนจักรเลือดเนื้อทุ่มเททรัพยากรทั้งหมด ใช้เวลาหลายปีในการอัญเชิญ
เย่เหรินกลับสามารถอัญเชิญผู้ปกครองแห่งห้วงลึกอีกตนหนึ่งได้ด้วยตัวคนเดียว
ในขณะเดียวกัน เย่เหรินเงยหน้ามองจ้าวแห่งความฝันที่ทำให้ทั้งเมืองตกอยู่ในความมืด แล้วตะโกนเสียงดัง
"ท่านพี่ ช่วยหน่อย พวกเราสู้มันไม่ได้"
ทุกคนเบิกตากว้าง
บ้าไปแล้ว!
นายกล้าพูดกับผู้ปกครองห้วงลึกแบบนี้เนี่ยนะ?
ใครเป็นท่านพี่ของนายกัน!
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ร่างเงาของจ้าวแห่งความฝันตอบรับคำขอของเย่เหริน
ดาวมืดดวงนั้นเปล่งแสงเจิดจ้า ส่องตรงไปยังร่างเงาของจ้าวแห่งเลือดเนื้อ
เงาของจ้าวแห่งเลือดเนื้อที่กำลังต่อต้านการถูกเรียกกลับสู่ห้วงลึกชะงักไปครู่หนึ่ง ราวกับตกใจและโกรธแค้นต่อการแทรกแซงของจ้าวแห่งความฝัน
การต่อสู้ที่มนุษย์ไม่อาจเข้าใจกำลังจะเกิดขึ้น ระหว่างร่างเงาของผู้ปกครองแห่งห้วงลึกทั้งสอง
แต่น่าเสียดาย ฉากที่ควรจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
มีเพียงเย่เหรินและคนอื่นๆเท่านั้นที่ได้เห็น
จ้าวแห่งความฝันปรากฏตัวขึ้นดุจดาวหางพุ่งผ่านท้องฟ้ายามราตรี พลังอันไร้ขอบเขตแผ่ขยายออกไป เปลี่ยนเศษเสี้ยวแห่งความฝันให้กลายเป็นคมมีดที่พุ่งตรงไปยังร่างเงาของจ้าวแห่งเลือดเนื้อ
การปะทะกันของทั้งสองก่อให้เกิดระลอกคลื่นในห้วงอวกาศ ราวกับความจริงและภาพลวงตาได้หลอมรวมเข้าด้วยกัน ก่อตัวเป็นวังวนขนาดมหึมา
แสงดาวที่จ้าวแห่งความฝันสาดส่องออกมาปะทะกับก้อนเนื้อสีเลือดที่จ้าวแห่งเลือดเนื้อปลดปล่อยออกมาอย่างดุเดือด การปะทะกันแต่ละครั้งทำให้ภาพในห้วงอวกาศบิดเบี้ยวผิดรูป ก่อให้เกิดแสงสีอันงดงามและน่าสะพรึงกลัวนับไม่ถ้วน
จ้าวแห่งเลือดเนื้อต้องต่อสู้กับแรงดึงดูดจากห้วงลึก ในขณะเดียวกันก็ไม่ยอมอ่อนข้อ หนวดที่สร้างจากเนื้อหนังและกระดูกของมันเต้นระบำอย่างบ้าคลั่ง พยายามจะพันธนาการร่างเงาของจ้าวแห่งความฝันเอาไว้
ทว่าหนวดของมันกลับถูกห่อหุ้มและสลายไปด้วยฟองสบู่แห่งความฝัน
เย่เหรินถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึงเมื่อได้เห็นการต่อสู้อันแปลกประหลาดนี้
หวังผิงอันเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เขาอ้าปากค้าง แทบจะลืมหายใจ ส่วนยวี้หลิงหลงที่อยู่ข้างๆก็หน้าซีดเผือด
การต่อสู้ระหว่างจ้าวแห่งห้วงลึกนี้เปรียบเสมือนภาพวาดศิลปะขนาดใหญ่ที่มีชีวิตชีวา ปรากฏต่อหน้าทุกคน
ทุกการปะทะมาพร้อมกับเสียงคำรามที่ไม่อาจบรรยายได้
พลังแห่งเลือดเนื้อและความฝันปะทะและหักล้างกัน
ในที่สุด หลังจากการปะทะกันหลายร้อยครั้ง ร่างเงาของจ้าวแห่งเลือดเนื้อก็เริ่มอ่อนแอลง มันไม่สามารถต้านทานแรงดึงดูดจากห้วงลึกได้อีกต่อไป