กำราบภพด้วยระบบกลไกลสวรรค์ ตอนที่ 409 เผชิญหน้า
กำราบภพด้วยระบบกลไกลสวรรค์ ตอนที่ 409 เผชิญหน้า
สำนักมารเก้าขุมนรก
ภายในโถงใหญ่
หยางชิวสองมือไพล่หลัง เดินไปเดินมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวลใจ บรรพบุรุษของเขาเพิ่งจะติดตามฟางหานจากไป ยังไม่ถึงสองสามชั่วยาม ท้องฟ้าก็แตกสลาย!
แม้เขาจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็พอจะคาดเดาได้
ต้องมีบางสิ่งที่น่ากลัวปรากฏขึ้น
ในตอนนี้ สำนักมารเก้าขุมนรกไม่มีเมิ่งชิ่งจือคอยปกป้อง อาศัยเพียงอภิศักดิ์สิทธิ์สองคน ราชันศักดิ์สิทธิ์ไม่กี่คน ในสถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาก็ไม่ต่างอะไรกับเศษไม้ที่ลอยอยู่กลางทะเล คลื่นลมแรง พลิกคว่ำได้ทุกเมื่อ
“บรรพบุรุษช่างสับสนยิ่งนัก ฟางหานเพียงพูดไม่กี่ประโยคก็หลงเชื่อ”
หยางชิวพึมพำกับตัวเอง
ฟางหานกับบรรพบุรุษของเขาไม่รู้ว่าวางแผนอะไรกัน ทั้งสองคนตกลงกัน จากนั้นก็หายสาบสูญไปสามชั่วยาม ด้วยความเร็วของมหาจักรพรรดิ
ในตอนนี้ คงจะเดินทางไปไกลกว่าครึ่งของโลกสวรรค์ก่อกำเนิดแล้ว
“บรรพบุรุษไม่อยู่ โลกสวรรค์ก่อกำเนิดเกิดเรื่องวุ่นวาย สำนักมารเก้าขุมนรกจะอยู่รอดได้อย่างไร”
หยางชิวหยุดเดิน มองไปยังเบื้องหน้า เขากัดฟันกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า
“ดูเหมือนว่าข้าต้องเดินทางไปที่หอคอยกลไกสวรรค์เสียแล้ว”
แม้ว่าก่อนหน้านี้ เขาได้สั่งให้หวงเฉวียนเดินทางไปที่หอคอยกลไกสวรรค์แล้ว แต่หวงเฉวียนมีเพียงระดับจอมศักดิ์สิทธิ์ ส่วนเขามีระดับศักดิ์สิทธิ์ ระดับตบะของทั้งสองคนแตกต่างกันราวกับฟ้ากับดิน
ความเร็วในการเดินทางย่อมแตกต่างกัน
หากไม่ใช่เพราะก่อนหน้านี้ ผู้อาวุโสสูงสุดคนหนึ่งของสำนักมารเก้าขุมนรกกำลังจะทะลวงผ่านระดับศักดิ์สิทธิ์ จึงกลับมายังสำนัก เขาคงไม่ต้องเดินทางมาด้วยตนเอง
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หยางชิวไม่ลังเลอีกต่อไป ก้าวเท้าออกไป ร่างกายกลายเป็นแสงสว่าง พุ่งทะยานขึ้นฟ้า บินไปยังเมืองต้าฮวงอย่างรวดเร็ว
หนึ่งวันต่อมา หยางชิวเดินทางจากสำนักมารเก้าขุมนรกมาถึงเมืองต้าฮวง
หลังจากเข้ามาในเมืองต้าฮวง
หยางชิวไม่รอช้า เดินทางเข้าไปในหอคอยกลไกสวรรค์ในทันที
“ผู้อาวุโส เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”
ทันทีที่ก้าวเข้ามาในหอคอยกลไกสวรรค์ หยางชิวก็ตะโกนขึ้น
“เรื่องใหญ่? เรื่องอันใด?”
ภายในหอคอยกลไกสวรรค์
หลี่อวิ๋นสวมชุดคลุมสีเขียว นั่งอยู่บนเบาะ ใบหน้าหล่อเหลา ผมยาวสลวยเป็นประกาย เขามีสีหน้าตั้งใจ มือข้างหนึ่งถือหมากขาว ดูเหมือนว่าเขากำลังคิดว่าจะวางหมากตรงไหน
หยางชิวมีสีหน้าตกตะลึง กล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ผู้อาวุโส โลกภายนอกเปลี่ยนไปแล้ว”
“เรื่องของโลกเซียนปฐพีหรือ?”
หลี่อวิ๋นยังคงมีสีหน้าสงบนิ่ง วางหมากขาวลงบนกระดาน ราวกับว่าเรื่องราวทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับเขา
“ผู้อาวุโส ท่านรู้แล้วหรือ?”
หยางชิวตกตะลึง
“มิเช่นนั้นเล่า?”
หลี่อวิ๋นหยุดการเคลื่อนไหว มองมาที่หยางชิว มุมปากยกยิ้ม กล่าวว่า “ตั้งแต่หลายเดือนก่อน โลกเซียนปฐพีได้วางแผนที่จะจัดการกับโลกสวรรค์ก่อกำเนิดแล้ว เพียงแต่พวกเจ้าช้าเกินไป”
“หลายเดือนก่อน?”
หยางชิวมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ แสดงว่าเบื้องหลังการล่มสลายของขุมอำนาจเหล่านั้น คือโลกเซียนปฐพีอย่างไม่ต้องสงสัย! ตอนนี้ เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์กล่าวออกมาตรง ๆ คงไม่ใช่ความลับอีกต่อไป
ในความเป็นจริงก็เป็นเช่นนั้น มหาจักรพรรดิหลายคนต่างก็รู้ดี เพียงแต่ระดับตบะของพวกเขายังไม่สูงพอ จึงไม่รู้รายละเอียด
“ผู้อาวุโส โลกเซียนปฐพีมีจิตใจโหดเหี้ยม หากพวกเขามาที่โลกสวรรค์ก่อกำเนิด คงจะสร้างความวุ่นวายไปทั่ว สร้างบาปกรรมมากมาย บางทีอาจจะร้ายกาจยิ่งกว่ามหาจอมจักรพรรดิฝังสวรรค์”
“ผู้อาวุโสมีเมตตา คงจะไม่มองดูหมื่นเผ่าพันธุ์ในโลกสวรรค์ก่อกำเนิดตกอยู่ในอันตราย”
หยางชิวกล่าวอย่างลองเชิง
ในตอนนั้น เมื่อมหาจอมจักรพรรดิฝังสวรรค์เดินทางมาถึงโลกสวรรค์ก่อกำเนิด ตอนนั้นโลกสวรรค์ก่อกำเนิดแทบจะไม่มีพลังต้านทาน โชคดีที่เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ลงมือ จึงสามารถสะกดอีกฝ่ายเอาไว้ได้
ตอนนี้ โลกสวรรค์ก่อกำเนิดกำลังเผชิญหน้ากับหายนะอีกครั้ง ในสายตาของหยางชิว เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์คงจะไม่นิ่งเฉย
“เจ้าคิดผิดแล้ว”
หลี่อวิ๋นหัวเราะเบา ๆ ยกมือขึ้น ชี้ไปยังโต๊ะไม่ไกล กล่าวอย่างแผ่วเบา “ก่อนที่เจ้าจะมาถึง มีคนมาที่นี่สองคน”
“คนเหล่านั้นมาจากโลกเซียนปฐพี!”
“หืม?”
หยางชิวใจสั่น รู้สึกว่ามีลางร้าย เขามองตามที่หลี่อวิ๋นชี้ไป เห็นแหวนเก็บของสองวงวางอยู่บนโต๊ะ
ด้วยระดับตบะของเขา ไม่อาจมองเห็นสิ่งของภายในแหวนเก็บของได้
แต่ในตอนนี้ คนของโลกเซียนปฐพีที่สามารถเดินทางมาถึงโลกสวรรค์ก่อกำเนิดได้ พลังอำนาจคงจะไม่ธรรมดา สิ่งของที่พวกเขานำออกมาย่อมต้องล้ำค่า
เมื่อเห็นแหวนเก็บของสองวง หยางชิวก็รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว ราวกับตกอยู่ในเหวน้ำแข็ง มือเท้าเย็นเฉียบ ใบหน้าซีดเผือด ในใจรู้สึกสิ้นหวัง
หรือว่าผู้อาวุโสถูกซื้อตัวแล้ว?
โลกสวรรค์ก่อกำเนิดสูญเสียที่พึ่งพิง แถมยังไม่มีเซียนแท้คอยปกป้อง ต่อไปจะต่อกรกับโลกเซียนปฐพีได้อย่างไร
…
“ผู้อาวุโส หากเป็นเช่นนี้จริง ๆ โลกสวรรค์ก่อกำเนิดคงไม่มีโอกาสชนะ”
หยางชิวมีสีหน้าเศร้าสร้อย รู้สึกสิ้นหวัง ถามอย่างแผ่วเบา
“ใครกล่าวว่าโลกสวรรค์ก่อกำเนิดไม่มีโอกาสชนะ?”
หลี่อวิ๋นมีสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง หันกลับมามองกระดานหมาก วางหมากลงไปหนึ่งตัว กล่าวอย่างแผ่วเบา “ยิ่งไปกว่านั้น ใครในหมื่นโลกาจะสามารถซื้อตัวข้าได้?”
คำพูดนี้ไม่ใช่คำพูดลอย ๆ
เขาไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวของขุมอำนาจอื่น ๆ การที่จะซื้อตัวเขานั้นยากยิ่งกว่าการขึ้นสวรรค์ แม้ว่าจะมีคนคิด แต่ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยออกมา
มหาจักรพรรดิสองคนของโลกเซียนปฐพีเดินทางมาถึงหอคอยกลไกสวรรค์ พวกเขาไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องการซื้อตัว กล่าวเพียงว่าชื่นชมในพลังอำนาจของเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ จึงนำของขวัญมามอบให้ เรื่องดี ๆ เช่นนี้ หลี่อวิ๋นไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ
ยิ่งไปกว่านั้น ความคิดของคนเหล่านั้น หลี่อวิ๋นมองเห็นอย่างชัดเจน เพียงแค่ต้องการให้เขาปฏิบัติกับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
เพียงเท่านี้ เขายังคงสามารถทำได้
“ยังมีโอกาสชนะ?”
หยางชิวมีแววตาเป็นประกาย มองหลี่อวิ๋นด้วยความดีใจ เอ่ยว่า “หรือว่าผู้อาวุโสจะลงมือช่วยโลกสวรรค์ก่อกำเนิด?”
“ข้าจะไม่ลงมือ”
หลี่อวิ๋นส่ายหน้า
“เช่นนั้น… ผู้อาวุโส โอกาสชนะอยู่ที่ใด?”
หยางชิวถามต่อ
พูดจบ เขาก็นำสมุนไพรวิญญาณระดับกึ่งจักรพรรดิออกมาหนึ่งต้น วางไว้เบื้องหน้าหลี่อวิ๋น ใบหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวัง รอคอยคำตอบ
หลี่อวิ๋นมองสมุนไพรวิญญาณแวบหนึ่ง จากนั้นก็มองออกไปนอกหอคอยกลไกสวรรค์ คำนวณเวลาในใจ เก็บสมุนไพรวิญญาณ กล่าวว่า
“โอกาสชนะของโลกสวรรค์ก่อกำเนิดมาถึงแล้ว!”
เดิมทีสิ่งของพวกนี้ ไม่เพียงพอที่จะแลกเปลี่ยนกับข่าวสารนี้ แต่ข่าวสารนี้ อีกไม่นานก็จะกระจายไปทั่ว ไม่จำเป็นต้องปิดบัง
อย่างน้อยก็ได้กำไรเล็กน้อย
เพราะว่าหากหยางชิวไม่เดินทางมา คนที่ต้องปรากฏตัวก็ยังคงต้องปรากฏตัว
“มาถึงแล้ว?”
หยางชิวมีสีหน้าสงสัย หันไปมองนอกหอคอยกลไกสวรรค์ ในสายตาของเขา นอกหอคอยกลไกสวรรค์ไม่มีอะไรพิเศษ มีเพียงชายหนุ่มคนหนึ่ง ดูธรรมดายิ่งนัก ยืนรออยู่เบื้องนอก
ชายหนุ่มคนนี้ ร่างกายไม่มีกลิ่นอายอันแข็งแกร่ง ดูธรรมดา หากอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย คงไม่มีใครสังเกตเห็น
คนเช่นนี้ ดูไม่เหมือนกับโอกาสชนะที่เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์กล่าวถึง