กำราบภพด้วยระบบกลไกลสวรรค์ ตอนที่ 405 เข้าพบ…
กำราบภพด้วยระบบกลไกลสวรรค์ ตอนที่ 405 เข้าพบ…
หลังจากที่หวงเฉวียนจากไป
ไม่นานเขาก็กลับมาด้วยสีหน้ารีบร้อน
“เกิดเรื่องอันใดขึ้น”
หยางชิวขมวดคิ้ว
ศิษย์น้องผู้นี้เคยเป็นถึงประมุขสำนักมารเก้าขุมนรกมาก่อน เรื่องอื่นไม่ต้องพูดถึง ความสุขุมรอบคอบและความมั่นคงนั้นมิใช่เรื่องธรรมดา หากไม่มีเรื่องสำคัญคงจะไม่เป็นเช่นนี้
“ประมุข เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”
หวงเฉวียนเดินทางมาถึงเบื้องหน้าหยางชิวอีกครั้ง บนฝ่ามือปรากฏบัตรเชิญของดินแดนศักดิ์สิทธิ์หมื่นผันแปร เขากล่าวอย่างรวดเร็วว่า “ดินแดนศักดิ์สิทธิ์หมื่นผันแปรถูกทำลาย!”
“ว่ากระไรนะ?”
หยางชิวตกตะลึง ไม่อยากจะเชื่อ
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่เพิ่งจะส่งบัตรเชิญให้กับเขา เพียงชั่วพริบตาก็ถูกทำลาย
อย่างไรเสีย ดินแดนศักดิ์สิทธิ์หมื่นผันแปรก็เป็นถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์
มิใช่แมวหรือสุนัข ไฉนจึงถูกทำลายโดยไร้ซึ่งร่องรอย
ในตอนแรก หยางชิวคิดถึงหอคอยกลไกสวรรค์
หรือว่า...มีใครเดินทางไปยังหอคอยกลไกสวรรค์ ใช้กลยุทธ์เดิมของเขา นำวิธีการทำลายค่ายกลพิทักษ์บรรพตของดินแดนศักดิ์สิทธิ์หมื่นผันแปรมาจากเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ผู้อาวุโส
มีเพียงเช่นนี้ จึงสามารถทำลายดินแดนศักดิ์สิทธิ์หมื่นผันแปรในชั่วพริบตา
มิเช่นนั้นหากมีคนบุกโจมตีดินแดนศักดิ์สิทธิ์ สิ่งแรกที่ต้องทำลายคือค่ายกล เพียงแค่ค่ายกลนี้ ก็ใช้เวลาไม่น้อย เมื่อถึงตอนนั้น ขุมอำนาจใหญ่ ๆ ในโลกสวรรค์ก่อกำเนิดคงจะได้รับข่าวสารแล้ว
“เกิดเรื่องขึ้นเมื่อใด”
“เจ้าสืบรู้หรือไม่ว่าใครเป็นคนลงมือ”
หยางชิวถามอย่างรวดเร็ว
“เพียงครึ่งชั่วยามก่อนหน้านี้ ข้าน้อยเพิ่งจะได้รับข่าวสาร ส่วนเรื่องที่ว่าใครเป็นคนลงมือ ข้าน้อยก็ไม่ทราบ รู้เพียงแค่ฝ่ามือหนึ่งปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า ทำลายดินแดนศักดิ์สิทธิ์หมื่นผันแปรในพริบตา!”
หวงเฉวียนมีสีหน้ากังวลใจ ในฐานะที่เคยเป็นประมุขมาก่อน เขาสามารถรับรู้ถึงกลิ่นอายที่แปลกประหลาด
คาดว่าการล่มสลายของดินแดนศักดิ์สิทธิ์หมื่นผันแปร คงไม่ใช่เรื่องธรรมดา
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่ง ภายในมีปราชญ์มากมาย มีราชันศักดิ์สิทธิ์และอภิศักดิ์สิทธิ์ไม่น้อย แต่กลับไร้ซึ่งพลังต้านทาน ถูกทำลายในพริบตา
ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ลงมือ ไม่ได้ใช้อาวุธจักรพรรดิ
มีความเป็นไปได้สูงว่าผู้ที่ลงมือคือระดับกึ่งจักรพรรดิระยะสูงสุด หรือมหาจักรพรรดิ!
“บุกโจมตีจากภายนอก?”
หยางชิวยกมือขึ้นลูบเครา ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย ประสบการณ์หลายปีบอกเขาว่า คาดว่าตนเองคงจะคิดผิด คนผู้นั้นคงจะไม่ได้ไปที่หอคอยกลไกสวรรค์
อีกฝ่ายทำลายดินแดนศักดิ์สิทธิ์หมื่นผันแปรด้วยพลัง!
“หากข้าจำไม่ผิด ช่วงก่อนหน้านี้ก็มีขุมอำนาจมากมายที่ถูกทำลายโดยไร้ซึ่งร่องรอย”
หยางชิวกล่าวอย่างแผ่วเบา
“ประมุขกล่าวถูกต้อง ช่วงก่อนหน้านี้ ภายในดินแดนเผ่ามนุษย์ มีขุมอำนาจมากมายถูกทำลายในชั่วข้ามคืน ช่วงหลัง ๆ นี้ เผ่าอสูรสามเผ่าพันธุ์ก็ถูกทำลาย”
“จนกระทั่งวันนี้ แม้แต่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์หมื่นผันแปรก็ยังถูกทำลาย!”
หวงเฉวียนขมวดคิ้ว น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความกังวลใจ ราวกับว่าฝ่ามือยักษ์ที่มองไม่เห็นกำลังปกคลุมโลกสวรรค์ก่อกำเนิด
แม้จะอยู่ในสำนักมารเก้าขุมนรก ก็มิได้รู้สึกปลอดภัย
อย่างไรเสีย
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์หมื่นผันแปรมิใช่อ่อนแอ แม้จะไม่เคยมีมหาจักรพรรดิปรากฏขึ้น แต่ด้วยรากฐานที่สั่งสมมา ทำให้พวกเขามีพลังอำนาจมากที่สุดในบรรดาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ สิ่งเดียวที่น่ารังเกียจคือ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์หมื่นผันแปรเป็นเหมือนกับหญ้าไหวตามลม
ไม่ว่าสายธรรมะหรือสายมาร หากฝ่ายใดแข็งแกร่งกว่า พวกเขาก็จะเข้าร่วมกับฝ่ายนั้น
ในตอนนี้สำนักมารเก้าขุมนรกแข็งแกร่ง พวกเขาก็จากฝ่ายอื่นมารวมกลุ่มกับสำนักมารเก้าขุมนรก โดยไม่สนใจชื่อเสียงของดินแดนศักดิ์สิทธิ์หมื่นผันแปร
“เริ่มจากเผ่ามนุษย์ยี่สิบกว่าขุมอำนาจ จากนั้นก็เป็นเผ่าอสูรสามเผ่าพันธุ์ จนกระทั่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์หมื่นผันแปรถูกทำลาย ดูเหมือนว่านี่คงจะเป็นแผนการที่วางเอาไว้”
หยางชิวดวงตาเป็นประกาย ทะลวงผ่านห้วงมิติ เย็นยะเยียบ เขากล่าวพึมพำกับตัวเองว่า
“ช่างน่าสนใจยิ่งนัก!”
“ท่านประมุข ท่านพบสิ่งใดหรือ”
หวงเฉวียนถามขึ้น
“มิได้พบสิ่งใด เพียงแต่การล่มสลายของขุมอำนาจเหล่านี้ ทำให้ข้ารู้สึก...”
หยางชิวสองมือไพล่หลัง กล่าวอย่างใจเย็น
“รู้สึกเช่นไร”
หวงเฉวียนถามต่อ
“ผู้ที่อยู่เบื้องหลังราวกับว่ากำลังทดสอบบางสิ่งบางอย่าง เริ่มจากอ่อนแอไปจนถึงแข็งแกร่ง ทำลายขุมอำนาจทีละแห่ง ดูเหมือนว่าจะมีความกังวลใจ พวกเขามีพลังอำนาจที่แข็งแกร่ง แต่กลับเลือกที่จะเริ่มจากขุมอำนาจที่อ่อนแอ”
หยางชิวมองไปยังห้วงมิติ กล่าวพึมพำกับตัวเองว่า “พวกเขากำลังทดสอบสิ่งใดกันแน่”
“หรือว่า...จะเป็นสัตว์ประหลาดโบราณในแดนต้องห้ามที่ต้องการจะกลับมาสู่โลกใบนี้”
หวงเฉวียนครุ่นคิด
ก่อนหน้านี้ โลกสวรรค์ก่อกำเนิดเคยมีมหาจักรพรรดิปรากฏตัว และมีปัญหากับขุมอำนาจมากมาย เพียงแต่ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีความอดทน ยังไม่ได้ลงมือต่อสู้
“ไม่ใช่”
หยางชิวส่ายหน้า กล่าวอย่างหนักแน่นว่า “สัตว์ประหลาดโบราณในแดนต้องห้าม หากออกมา พวกเขาคงจะปกครองเพียงดินแดนใดดินแดนหนึ่ง คงจะไม่ทำลายขุมอำนาจเหล่านี้ เพราะการกระทำเช่นนี้มิได้เป็นประโยชน์กับพวกเขา”
หากทำลายทุกคน พวกเขาจะปกครองผู้ใด
หากไม่มีผู้ใต้บังคับบัญชา ก็ไม่ต่างอะไรกับผู้นำที่ไร้ซึ่งกองทัพ
เช่นนี้แล้ว ไมว่าจะอยู่ในโลกภายนอกหรืออยู่ในแดนต้องห้าม ก็ไม่ต่างกัน
“ยิ่งไปกว่านั้น หากสัตว์ประหลาดโบราณปรากฏตัวขึ้น พวกเขาคงไม่ต้องทดสอบอะไร เพียงแค่ลงมือกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็เพียงพอแล้ว การทดสอบเช่นนี้ ทำให้ผู้คนยากที่จะเข้าใจ”
หยางชิวครุ่นคิดอยู่นาน แต่ก็ไม่สามารถหาสาเหตุได้ เขาหันกลับมาสั่งหวงเฉวียนว่า “ข้าฝากศิษย์น้องเดินทางไปยังหอคอยกลไกสวรรค์”
“เมื่อเจ้าเดินทางไปถึงหอคอยกลไกสวรรค์แล้ว เพียงแค่ถามเจ้าหอผู้อาวุโสว่าสำนักมารเก้าขุมนรกของพวกเราจะตกอยู่ในอันตรายหรือไม่”
ความหมายของหยางชิวชัดเจนยิ่งนัก คนอื่นจะเป็นเช่นไร เขามิได้สนใจ ตราบใดที่ผู้ที่อยู่เบื้องหลังไม่ลงมือกับสำนักมารเก้าขุมนรกก็เพียงพอแล้ว
อย่างไรเสีย จากสถานการณ์ในตอนนี้ พลังของอีกฝ่ายน่ากลัวยิ่งนัก สามารถทำลายดินแดนศักดิ์สิทธิ์หมื่นผันแปรในพริบตา ยิ่งไปกว่านั้น อีกฝ่ายอาจจะยังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด หากใช้ออกมาทั้งหมด อีกฝ่ายอาจจะเป็นถึงมหาจักรพรรดิ
เขามิได้รู้สึกประหลาดใจแต่อย่างใด
“ขอรับ!”
หวงเฉวียนประสานมือคารวะ กำลังจะหันหลังกลับ
ในระยะไกล แสงหนึ่งสายพุ่งเข้ามา หยุดอยู่เบื้องหน้าทั้งสองคน
“ศิษย์ขอคารวะประมุข ขอคารวะผู้อาวุโสหวง!”
ศิษย์สำนักมารเก้าขุมนรกคนหนึ่ง สวมชุดสีดำ ประสานมือคารวะ กล่าวขึ้น
“มีเรื่องอันใด”
หวงเฉวียนถาม
“เรียนผู้อาวุโส นอกประตูภูเขา มีบุคคลผู้หนึ่งชื่อฟางหานต้องการเข้าพบ เขากล่าวว่าต้องการเข้าพบ... เข้าพบ...”
ศิษย์ผู้นั้นมีสีหน้าลำบากใจ กล่าวจนกระทั่งเสียงเบาลงเรื่อย ๆ จนแทบไม่ได้ยิน
“ต้องการเข้าพบผู้ใด”
หวงเฉวียนขมวดคิ้วตวาด
เขาไม่รู้ว่าเหตุใดจึงรู้สึกคุ้นเคยกับชื่อฟางหาน แต่กลับนึกไม่ออกว่าเคยได้ยินจากที่ใด
“เขากล่าวว่าต้องการเข้าพบ... บรรพบุรุษ”
ศิษย์ผู้นั้นกล่าวอย่างแผ่วเบา
“บรรพบุรุษ?”
หยางชิวยกคิ้ว เขาโกรธจนหัวเราะ บรรพบุรุษของพวกเขาคือบุคคลเช่นไร?
นี่คือมหาจักรพรรดิ!
ในโลกสวรรค์ก่อกำเนิดนี้ มีมหาจักรพรรดิกี่คน?
เบื้องหลังมีกี่คนไม่มีผู้ใดทราบ แต่คนที่ปรากฏตัว มีไม่เกินห้าคน บุคคลเช่นนี้ ชายผู้นี้ที่ชื่อฟางหาน กลับกล้าเอ่ยว่าต้องการเข้าพบ
เขาแค่นเสียงเย็นหนึ่งครั้ง กำลังจะสั่งให้คนขับไล่ฟางหานผู้นี้ออกไป
แต่ในตอนนั้นเอง
“ฟางหาน?”
หยางชิวตกตะลึง ราวกับว่าคิดถึงบางสิ่งบางอย่าง เขาถามอย่างรวดเร็วว่า “หรือว่า... จะเป็นฟางหานที่อยู่ในรายนามอัจฉริยะหมื่นโลกา ลำดับที่หก”