Chapter 32: สันติภาพที่มาถึงช้า
เสียงปืนและเสียงระเบิดตูมตามจากที่ไกล ๆ ทำให้แม็กกี้หน้าถอดสี เธอขยับเข้าใกล้คอลลีนและกอดแขนคอลลีนเอาไว้แน่นอย่างต้องการที่พึ่งโดยไม่รู้ตัว
"ไม่ต้องกังวล มันจะไม่เป็นไร" คอลลีนปลอบเธอ
เธอเก็บความคิดเรื่องความไร้เดียงสาของแม็กกี้ไว้กับตัวเอง ความคิดของเธอไม่ได้ห้ามไม่ให้เธอปลอบโยนเพื่อนร่วมชะตากรรมเมื่อพวกเขาต้องการ หรือจริง ๆ แล้วมันเป็นการปลอบตัวเธอเอง?
เสียงปืนเสียงระเบิดที่ดังไม่หยุดเป็นสิ่งที่คอลลีนลืมไปแล้วเมื่อผ่านมาเกือบสามเดือน เธอได้ยินเสียงอย่างนี้แค่ในช่วงการยึดครองเมืองโดยกลุ่มกบฏ แต่ตอนนี้ความหวาดกลัวนั้นกลับมาอีกครั้ง
ต้องเกิดเรื่องร้ายแรงสักอย่างแน่ ๆ
หัวใจของคอลลีนเต้นผิดจังหวะไปเมื่อคิดถึงฉินหราน โอกาสที่ฉินหรานจะเจอกับอันตรายเพิ่มสูงขึ้นมากภายใต้สถานการณ์แบบนี้
"ทำให้คนเป็นห่วงจริง ๆ" คอลลีนคิดกับตัวเองเงียบ ๆ
เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นกะทันหันทำให้เธอสะดุ้ง เธอกระชับปืนในมือแน่นก่อนจะถามอย่างระแวดระวัง "นั่นใคร?"
"ฉันเองคอลลีน!"
เสียงที่คุ้นเคยทำให้คอลลีนประหลาดใจและดีใจ
"ฉินหราน!" เธอพูดเสียงดังในขณะที่เปิดประตูห้องเก็บของใต้ดิน ฉินหรานถลาเข้าประตูมาด้วยน้ำหนักของกระเป๋าสะพายหลังใบใหญ่ คอลลีนรีบเข้าไปพยุงเขาไว้ แต่ก็ถูกผลักล้มลงบนพื้นจากมหาศาลของมันด้วยเหมือนกัน
"เกิดอะไรขึ้นน่ะฉินหราน?" ด้วยความช่วยเหลือของแม็กกี้ พวกเธอพยุงฉินหรานขึ้นมาและเจอแผลที่บริเวณเอวของเขา มีเลือดเปรอะอยู่ทั่วตัวเขาจนไม่น่าดู
"นายได้รับบาดเจ็บ!" คอลลีนดูตกใจก่อนที่จะร้องบอกแม็กกี้เสียงดัง "แม็กกี้ ฉินหรานต้องการความช่วยเหลือของเธอ!" คอลลีนจำได้ว่าแม็กกี้เป็นพยาบาล หรืออย่างน้อย ๆ ก็เป็นพยาบาลฝึกหัด
"ไม่เป็นไร คอลลีน ช่วยเอาน้ำกับอาหารมาให้ฉันหน่อยได้หรือเปล่า?" ฉินหรานมองคอลลีนที่กำลังร้อนรน เขายิ้มและพยายามปลอบเธอ แต่ยิ้มของเขาดูอ่อนแรง
มันเป็นไปตามสภาพความเป็นจริง ค่าพลังชีวิตสูงสุดของเขาคือ 150 แต่ตอนนี้มันเหลือไม่ถึง 30 แล้ว และกำลังลดต่ำลงเรื่อย ๆ จากภาวะเลือดไหลไม่หยุด
"ได้เลย!" คอลลีนที่ยังร้อนรนกระวนกระวายตอบรับคำขอของฉินหรานและรีบเดินไปที่พื้นที่เก็บเสบียงแล้วคว้าอาหารและน้ำมาให้อย่างรวดเร็ว
ฉินหรานมองที่แม็กกี้อีกครั้งแล้วพูด "ผมต้องการทักษะการรักษาพยาบาลของคุณ ถ้าคุณรักษาและสอนผมด้วยเลยพร้อมกันจะยิ่งดีมาก!"
"โอ้ ได้แน่นอน" ถ้าแบบคอลลีนเรียกตระหนก แบบแม็กกี้ก็เรียกว่าสติหลุดลอยไปแล้ว เธอพันแผลให้ฉินหรานผิดวิธี และที่เธออธิบายวิธีการรักษาก็ดูไม่ถูกต้อง เขาสามารถบอกได้เลยว่าทักษะของเธอแย่มาก
แต่เธอก็ยังทำแผลจนเสร็จได้
แผลของฉินหรานไม่มีเลือดไหลออกมาแล้ว และหลังจากที่เขากินอาหารที่คอลลีนเอามาให้ ค่า HP ของเขาก็เริ่มฟื้นฟูขึ้นในอัตราคงที่
แน่นอนว่าชั้นเรียนสั้น ๆ ของแม็กกี้ก็มอบสิ่งพิเศษเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เหมือนกัน
[ชื่อ: การรักษา (พื้นฐาน)]
[ค่าสถานะที่เกี่ยวข้อง: ไม่มี]
[ชนิดสกิล: สนับสนุน]
[ผลลัพธ์พิเศษ: ใช้ผ้าก๊อซและผ้าพันแผลได้ดีขึ้น เพิ่มอัตราการฟื้นฟูได้ 10%]
[เงื่อนไขการใช้งาน: Stamina]
[เงื่อนไขการเรียนรู้: ไม่มี]
[หมายเหตุ: ผ้าพันแผล เพื่อนที่ดีที่สุดของคุณเวลาเลือดไหล!]
...
[ชื่อ: ความรู้เกี่ยวกับยาและการรักษา (พื้นฐาน)]
[ค่าสถานะที่เกี่ยวข้อง: ไม่มี]
[ชนิดสกิล: สนับสนุน]
[ผลลัพธ์: มีความรู้ความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับการแยกแยะ ใช้ และผสมยา เพิ่มประสิทธิภาพของยาขึ้น 10%]
[เงื่อนไขการใช้งาน: ไม่มี]
[เงื่อนไขการเรียนรู้: ไม่มี]
[หมายเหตุ: มันเป็นได้ทั้งยารักษาคนและยาพิษฆ่าคน!]
...
ฉินหรานไม่คิดเลยว่ามีทักษะที่เรียนรู้จากแม็กกี้ได้ถึงสองอย่างจนกระทั่งเห็นหน้าต่างแจ้งเตือนเด้งขึ้นมา แม้ว่าทั้งสองสกิลจะไม่มีใช่สกิลแบบที่เกี่ยวข้องกับค่าสถานะและไม่ช่วยเพิ่มค่าสถานะของของเขา แต่มันก็มีประโยชน์
ยิ่งสกิลที่สองยิ่งมีประโยชน์
"เป็นยารักษาหรือยาพิษก็ได้เหรอ?" ฉินหรานคงเป็นคนโง่แล้วถ้าไม่เข้าใจประโยคนี้
ในใจฉินหรานเริ่มมีความคิดดี ๆ ผุดขึ้นมา แต่เมื่อเขาสังเกตเห็นสายตาโกรธของคอลลีนเขาก็ผลักความคิดนั้นออกไปก่อนชั่วคราว
"ฉันอธิบายได้นะ!" คอลลีนดูเป็นห่วงเขามาก ดังนั้นฉินหรานจึงยกมือขึ้นพร้อมยิ้มแหย
"ฉันรอฟังอยู่!"
ฉินหรานจับไหล่ของคอลลีนเอาไว้เมื่อเธอมานั่งตรงหน้า
เพราะสังเกตเห็นสายตาของเธอ ฉินหรานจึงเลือกที่จะซื่อสัตย์
ทำข้อตกลงกับซาหลูข่า สังหารนายพลเจินหนิงของกองกำลังกบฏ กลับไปที่ฐานของซาหลูข่า เกือบถูกลอบฆ่าโดยทหารเกือบตายคนนั้นและได้รับบาดเจ็บ ฉินหรานบอกทุกอย่างกับเธอ เขาย่นคิ้วเล็กน้อยตอนที่พูดถึงอุบัติเหตุที่มีผลลัพธ์เป็นการบาดเจ็บเพราะว่าเขาสามารถหลบได้ทัน
เขายังใช้น้ำเสียงโอ้อวดนิด ๆ ด้วยตอนที่พูดถึงการปล้นค่ายของซาหลูข่า
เขาไม่คิดว่าจะมีใครรอดชีวิตมาจากการระเบิด
และเขาได้รับบทเรียนแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะค่า [พลังป้องกัน] F+ ค่า HP 150 และปืนพกที่เอวที่เขาใช้ต่างเกราะ เขาก็คงลงไปนอนกินฝุ่นเรียบร้อยแล้ว
ฉินหรานค่อย ๆ เล่าทุกอย่างออกมา เขากระทั่งไม่ปิดบังส่วนที่เขาได้รับบาดเจ็บแม้ว่าจะรู้สึกอับอายที่ต้องยอมรับ
"นาย..."
พอฉินหรานเล่าจบ คอลลีนก็มองเขาตาโต เธอคิดภาพไม่ออกเลยว่าสงครามเมื่อคืนนี้เกิดจากผู้ชายตรงหน้า แม็กกี้เองก็สติหลุดไปอย่างสิ้นเชิง เธอตกใจมาก เธอพูดอะไรไม่ออก คิดอะไรไม่ออก เธอทำได้แค่มองฉินหรานด้วยสายตาว่างเปล่า
"กองทัพของรัฐบาลคงจะเข้ามาในเมืองในตอนเช้านี้แหละ เมื่อนั้นสันติภาพก็จะกลับมา ถึงมันจะมาช้าไปหน่อยก็เถิด!" ฉินหรานพูดในขณะที่พยายามยัดทุกอย่าง รวมทั้งของที่ได้มาจากฐานของซาหลูข่าด้วย ลงกระเป๋า
เขามีเวลาเหลือในดันเจี้ยนนี้อีกแค่ 5 นาที
[ผู้เล่นจะออกจากดันเจี้ยนมือใหม่หลังจากนี้ 5 นาที...]
[กรุณาเก็บของที่ต้องการนำติดตัวไปด้วย!]
[หมายเหตุ: ของที่เกินไปจากพื้นที่เก็บของจะถูกทิ้งไว้โดยอัตโนมัติ!]
...
"เก็บของที่อยากเอาไปด้วย? ของที่เกินจะถูกทิ้งไว้?" เมื่อเห็นการแจ้งเตือนฉินหรานก็สบถอย่างอดไม่ได้
สมองส่วนเหตุผลของเขาบอกว่าเขาต้องรีบแล้ว
ถ้าเขาเอาไปได้เฉพาะของที่เขาแบกไหว เขาต้องรีบฟื้นฟูร่างกายยังเพิ่งรักษาไปได้แค่ครึ่งเดียวให้เร็ว
เขารู้สึกเหมือนต้องเฉือนเนื้อตัวเองอีกครั้ง ไม่มีของชิ้นไหนในช่องเก็บของที่เขาได้มาฟรี ทุกชิ้นเป็นเขาเสี่ยงชีวิตเพื่อให้ได้มา
"แม่งเอ๊ย บ้าชะมัด!"
เขาตัดสินใจที่จะเอา [Viper-M1] และปืนยิงจรวด [Tekken-II] ทั้งสองกระบอกไปด้วย เขามองไปที่อุปกรณ์ทั้งหมดที่เขาต้องทิ้งเอาไว้ รวมทั้งปืนกลเบา [HK-20] ซึ่งเขาแบกกลับมาทั้งที่บาดเจ็บ เขาสบถเงียบ ๆ
การเก็บของของฉินหรานสะดุดความสนใจของคอลลีน
"นายจะไปแล้วเหรอ?" คอลลีนดึงแขนเสื้อฉินหราน แล้วสบตากับเขา
การกระทำของเธอทำให้เขาชะงัก เขาควรจะพูดอะไรสักอย่างแต่กลับไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี เขารู้สึกขอบคุณในความช่วยเหลือของคอลลีนมาก ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ฉินหรานคงพบกับสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่านี้ และคงไม่สามารถเก็บเกี่ยวของรางวัลได้ขนาดนี้
เขาเปิดเผยอะไรให้เธอมากไม่ได้ด้วย ยิ่งตอนที่การกระทำของคอลลีนเผยความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาออกมา ไม่ว่าฉินหรานจะความรู้สึกช้าแค่ไหน แต่ตอนที่คอลลีนดึงแขนเสื้อเขาเอาไว้ เขาก็รู้แล้วว่าเธอรู้สึกยังไงกับเขา
ฉินหรานไม่สามารถตอบแทนด้วยความรู้สึกด้วยกันได้ สถานะของพวกเขาเป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตของพวกเขาทั้งคู่ เขาไม่สามารถบอกคอลลีนได้ว่านี่เป็นแค่เกมที่มีความเสมือนจริงสูงเกมหนึ่งและเธอเป็นแค่ NPC ที่ช่วยแนะนำมือใหม่
เขาบอกแบบนั้นไม่ได้
"คุณอาจจะไม่ได้มีเมตตา แต่โปรดปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความกรุณาและไม่ทำลายความสุขของผู้อื่น" นั่นเป็นคติประจำใจของเขา
ฉินหรานรู้ดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมีความหมายต่อคอลลีน และเขาไม่ได้แค่ใจดีกับเธอ แต่ยังแสดงความเห็นอกเห็นใจและปรานีกับเธอมากกว่าที่เขาคิด
เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำอย่างไรดี เขาเงียบ ไม่สามารถตอบอะไรได้นอกจากมองตอบเงียบ ๆ
ในที่สุด คอลลีนก็ปล่อยมือ
"นายต้องการอะไรบ้าง? ฉันจะช่วย!" เธอพูด
"ขอบคุณนะ" ฉินหรานตอบ