บทที่ 185 การปล่อยจรวดประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์, Dragonstar Technology เป็นบริษัทแบบไหนกันแน่?  

“ที่แท้นี่คือขั้นตอนทั้งหมดที่ต้องทำก่อนปล่อยจรวด การได้ชมถ่ายทอดสดการปล่อยดาวเทียมมันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก”

“มันน่าทึ่งมาก! จรวดขึ้นไปแล้ว!”

“นี่แหละคือสิ่งที่นักศึกษาควรดู ไม่ใช่วิดีโอโบราณที่ตกยุคไปแล้ว ขอปรบมือให้กับความก้าวหน้าของวงการอวกาศของจีน!”

“ผมรู้สึกว่าผมทำได้เหมือนกัน พูดถึงคนนั่งกดปุ่มที่แท่นปล่อยจรวดนั่น คุณลงมาให้ผมขึ้นไปกดบ้างสิ!”

“ผมยังไม่เคยกดปุ่มเลย อยากลองบ้าง ฮ่าๆ”

ผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นว่าจรวด Yuan Zheng ถูกปล่อยขึ้นสู่อวกาศสำเร็จ และต่างแสดงความตื่นเต้นผ่านทางข้อความในแชท

ต้องบอกเลยว่าความหมายของการพัฒนาเทคโนโลยีนั้นอยู่ตรงนี้ ในอดีตคงไม่มีการถ่ายทอดสดการปล่อยดาวเทียมแบบนี้ ทุกคนจะได้รู้ข่าวสารจากการออกอากาศทางทีวีในช่วงค่ำเท่านั้น การได้ประสบการณ์สดแบบนี้ไม่มีทางเทียบกับการบันทึกไว้ได้เลย

เมื่อดาวเทียมแยกตัวจากจรวด กล้องความละเอียดสูงที่ติดตั้งบนจรวดจะถ่ายภาพและส่งกลับไปยังองค์การอวกาศของจีนเพื่อตีความข้อมูล และส่งตรงไปยังศูนย์ปล่อยดาวเทียมแบบเรียลไทม์

ในขณะนั้นภาพจากการถ่ายทอดสดก็ถูกส่งไปยังห้องออกอากาศ ผู้ดำเนินรายการ ไห่เสีย มองไปที่สคริปต์ข่าวและอ่านออกเสียงว่า:

“จรวด Yuan Zheng-3B ถูกปล่อยขึ้นสู่อวกาศสำเร็จ จรวดลำนี้พัฒนาโดยสถาบันวิจัยเทคโนโลยีการขนส่งอวกาศของจีน มีความยาวทั้งหมด 54.838 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางของบูสเตอร์คือ 2.25 เมตร ระยะเส้นผ่านศูนย์กลางของตัวจรวดระดับแรกและสองคือ 3.35 เมตร ระดับสามมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 เมตร ส่วนปลายหัวจรวดมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 เมตร มวลน้ำหนักในการปล่อยคือ 425.8 ตัน และความสามารถในการขนส่งดาวเทียม GTO มาตรฐานได้ 5.1 ตัน”

“มันถูกปล่อยครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 1996 ที่ศูนย์ปล่อยจรวดชางซี และจนถึงตอนนี้ก็ทำหน้าที่มา 19 ปีแล้ว ถือเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญในการขนส่งอวกาศของจีน”

เมื่อสคริปต์จบลงไป ไป๋ซือซงก็เสริมต่อทันทีว่า: “ใช่แล้ว จรวดทหารวัย 19 ปีกลับขึ้นฟ้าอีกครั้ง พร้อมกับความฝันของวิศวกรรุ่นใหม่ของเรา”

ขณะที่กำลังพูดอยู่ ก็มีเสียงในหูฟังแจ้งว่าพร้อมถ่ายทอดภาพดาวเทียมที่ถูกส่งกลับมาจากอวกาศ

ไป๋ซือซงรีบส่งต่อการถ่ายทอดโดยไม่รอช้า ไห่เสียก็ประกาศว่า: “การเปลี่ยนผ่านจากรุ่นเก่าสู่รุ่นใหม่ ขอเชิญทุกท่านรับชมภาพถ่ายทอดสดจากองค์การอวกาศของจีนที่ส่งกลับมาจากดาวเทียมตอนนี้”

เมื่อคำพูดสิ้นสุดลง ผู้ควบคุมภาพก็เปลี่ยนภาพไปยังจอการถ่ายทอดสดทันที

แต่ภาพที่คมชัดในตอนแรกกลับกลายเป็นภาพที่ดูเบลอเหมือนกับภาพจากกล้องที่ตกยุคไปแล้วถึงสิบปี

แม้ว่าภาพจะไม่ชัดเจน แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อการสังเกตเห็นภาพรวมของดาวเทียม เป่ยโต่ว

รูปร่างภายนอกของดาวเทียมมีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยม สองข้างมีปีกที่ยื่นออกมา ด้านหน้ามีแผ่นสะท้อนสีขาวลักษณะคล้ายจานรับสัญญาณที่ใช้ในบ้าน แต่ดูเล็กกว่า

ขณะที่ทุกคนคิดว่านี่คือโครงสร้างหลักของดาวเทียม เป่ยโต่ว กล้องก็ซูมออก เผยให้เห็นดาวเทียมขนาดเล็กอีกดวงที่อยู่ห่างออกไป “เพียงไม่กี่สิบเมตร”

ในขณะนี้ โลกทั้งใบระเบิดเป็นไฟ!

“จรวดปล่อยสองดาว! จีนมีเทคโนโลยีการปล่อยจรวดสองดาวสำเร็จแล้ว และดาวเทียมทั้งสองดวงอยู่ใกล้กันมาก นี่หมายความว่า เป่ยโต่ว ใช้ระบบนำทางแบบดาวเทียมคู่หรือเปล่า? พระเจ้า! มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”

“พวกเขากำลังทำอะไรกัน? ทำไมถึงมีดาวเทียมบินเคียงข้างกันแบบนี้?”

“หรือว่าเป็นเทคโนโลยีนำทางแบบใหม่?”

“มีความเป็นไปได้มาก ปกติการระบุตำแหน่งต้องใช้ดาวเทียมถึงสี่ดวง ถ้า เป่ยโต่ว ใช้ระบบดาวเทียมคู่ ถึงแม้จะไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ แต่ก็จะมีดาวเทียมถึงแปดดวงในการระบุตำแหน่ง ฉันไม่กล้าคิดเลยว่าความแม่นยำจะสูงแค่ไหน”

ในห้องประชุมของ SpaceX มาร์สก์และทีมงานปล่อยจรวดกำลังจ้องดูภาพนี้อย่างตื่นเต้น

พวกเขาไม่เคยคิดถึงระบบนำทางด้วยดาวเทียมคู่มาก่อน และตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่เข้าใจหน้าที่ของดาวเทียมบินเคียงข้าง

แม้พวกเขาจะยังไม่เข้าใจหน้าที่ของมัน แต่เทคโนโลยีการปล่อยดาวเทียมคู่ก็ทำให้โลกได้เห็นศักยภาพของเทคโนโลยีอวกาศของจีนอย่างชัดเจน

“เพื่อนๆ ผมคิดว่าเราต้องเร่งแผนการของ Starlink แล้ว” มาร์สก์กล่าวด้วยสายตาที่กังวล

แม้ว่า SpaceX จะเป็นเพียงบริษัทเอกชน ไม่สามารถเทียบกับประเทศใหญ่อย่างจีนได้ แต่มาร์สก์ก็สังเกตเห็นว่าตอนเริ่มถ่ายทอดสด จ้าวเฉินกวงกล่าวว่า Dragonstar Technology ได้ให้การสนับสนุนทางเทคนิคในการปล่อยจรวดครั้งนี้

มันคือเทคโนโลยีอะไร?

จะส่งผลกระทบต่อ SpaceX หรือไม่?

นี่คือสิ่งที่มาร์สก์ต้องคำนึงถึง และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้เขากังวล

จีนเขาไม่สามารถควบคุมได้ แต่ถ้า Dragonstar Technology ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนเริ่มเข้ามามีบทบาทในวงการอวกาศและมาแย่งพื้นที่จาก SpaceX มาร์สก์คงจะทนไม่ได้อย่างแน่นอน

ขณะที่มาร์สก์กำลังกังวลอยู่ เหล่าผู้บริหารจากตะวันตกก็รู้สึกกดดันเช่นกัน

เมื่อระบบนำทางของ เป่ยโต่ว เสร็จสมบูรณ์ โลกจะมีระบบนำทางสามระบบ และโครงสร้างโลกจะเปลี่ยนไปอย่างเงียบๆ

……

อีกด้านหนึ่ง

ในห้องถ่ายทอดสดของ Weibo

ข้อความจากผู้ชมที่เป็นล้านคนกำลังทะลักเข้ามาจนระบบแชทล่ม ความหนาวเย็นในฤดูหนาวถูกจุดไฟขึ้นด้วยจิตวิญญาณของเหล่าผู้ชม

“จรวดปล่อยสองดาว ขึ้นแล้ว!”

“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าองค์การอวกาศของเราก็สามารถพัฒนาเทคโนโลยีการปล่อยจรวดสองดาวได้ นี่แหละคือการสะสมที่ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่!”

“ดาวเทียมสองดวงอยู่ใกล้กันขนาดนี้ ต้องมีความเกี่ยวข้องกันแน่ๆ เชื่อผมเถอะ นี่อาจเป็นการปฏิวัติเทคโนโลยีนำทางครั้งใหม่!”

“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว สถาบันวิศวกรรมยานยนต์มหาวิทยาลัยเซียงซี ชั้นเรียนที่ 2 ซ่อมบำรุงรถยนต์ ท่านผู้อำนวยการช่วยเพิ่มคะแนนให้ผมด้วย!”

“เพิ่มคะแนนให้เลย! เพิ่มให้เต็ม!”

เดิมทีพวกเขาคิดว่าการชมถ่ายทอดสดนี้เป็นเพียงการดูสารคดีช่วงปิดเทอม แต่กลับกลายเป็นว่าพวกเขาได้เป็นพยานในประวัติศาสตร์ของเทคโนโลยีอวกาศของจีนกับการปล่อยจรวดสองดาว ทุกคนต่างตื่นเต้นกันจนแทบทะลักจอ

ภายใต้สายตาของผู้คนนับล้าน ดาวเทียมทั้งสองดวงได้บินเข้าสู่วงโคจรที่กำหนดไว้

จากนั้นแผงพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งสองข้างซึ่งเป็นแผงแบตเตอรี่พลังงานแสงอาทิตย์ก็ถูกกางออก กระบวนการทั้งหมดราบรื่นอย่างมาก

“แปะๆๆ——”

เมื่อแผงพลังงานแสงอาทิตย์กางออกสำเร็จ เสียงปรบมือดังกึกก้องขึ้นในห้องควบคุมของศูนย์ปล่อยจรวดชางซี

ดาวเทียมเข้าสู่วงโคจรที่กำหนดไว้ และแผงพลังงานแสงอาทิตย์กางออกได้อย่างราบรื่น นั่นหมายความว่าภารกิจการปล่อยดาวเทียมในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

เหล่าวิศวกรในห้องควบคุมต่างมองหน้ากันด้วยความยินดี นี่คือช่วงเวลาแห่งเกียรติยศของพวกเขา พวกเขาทำสำเร็จแล้ว ดาวเทียม เป่ยโต่ว รุ่นที่สามได้เข้าสู่วงโคจรตามแผน

หวังฉี ผู้รับผิดชอบชิปของดาวเทียม เป่ยโต่ว ถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความปลื้มปิติ

หลังจากความล้มเหลวสองครั้งก่อนหน้านี้ ความสำเร็จในครั้งที่สามนี้ถือว่ายากมาก ไม่มีใครรู้เลยว่าพวกเขาทำงานกันหนักเพียงใด การร้องไห้ด้วยความยินดีถือเป็นการปลดปล่อยความรู้สึกออกมา

ฉู่เฉิง ปรบมือไปพร้อมๆ กับมองไปที่หวังจีหยงและกล่าวว่า: “เราทำได้แล้ว คุณเห็นไหม แผงพลังงานแสงอาทิตย์กางออกแล้ว เราประสบความสำเร็จ!”

“ฉันเห็นแล้ว” หวังจีหยงจ้องมองภาพจากดาวเทียมที่ถูกส่งกลับมา เขาไม่สามารถละสายตาได้เลย

นอกจากความท้าทายในการขนส่งจรวดแล้ว การใช้งานดาวเทียมยังมีสามความท้าทายที่สำคัญ คือ การเข้าสู่วงโคจรที่กำหนด, การกางแผงพลังงานแสงอาทิตย์, และการสร้างการเชื่อมต่อระหว่างดาวเทียมกับพื้นโลก

ความท้าทายในการเข้าสู่วงโคจรคือความเสี่ยงที่ดาวเทียมอาจจะหลุดออกจากเส้นทาง และถ้าหลุดไปแล้วก็แทบไม่มีทางกลับมาได้เลย

ความท้าทายในการกางแผงพลังงานแสงอาทิตย์คือดาวเทียมอาจมีปัญหา แรงสั่นสะเทือนจากการปล่อยจรวดอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบภายในของดาวเทียมได้

ส่วนการสร้างการเชื่อมต่อระหว่างดาวเทียมกับพื้นโลกนั้นไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เพราะเทคโนโลยีในปัจจุบันของจีนนั้นก้าวหน้าอย่างมาก ดาวเทียมเสริมก็ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างการเชื่อมต่อโดยเฉพาะ การกางแผงพลังงานแสงอาทิตย์สำเร็จก็ถือว่าภารกิจปล่อยดาวเทียมสำเร็จแล้ว

นอกจากเสียงเชียร์ในห้องควบคุมแล้ว วิศวกรนับหมื่นคนในศูนย์ปล่อยจรวดชางซีก็ตะโกนอย่างตื่นเต้น นี่คือเกียรติยศของพวกเขา

ประวัติศาสตร์ของจีนจะจารึกวันนี้ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2015 ที่พวกเขาได้ปล่อยดาวเทียม เป่ยโต่ว รุ่นที่สามขึ้นสู่อวกาศ แม้ว่าในประวัติศาสตร์อาจไม่มีชื่อของพวกเขา แต่ก็จะมีร่องรอยของพวกเขาอยู่ในนั้นอย่างแน่นอน

……

“เตรียมตัวให้พร้อม” จ้าวเฉินกวงเดินมาข้างๆ เฉินซิงเพื่อเตือน

ตามที่ได้ซ้อมไว้ในช่วงหลายวันก่อน เฉินซิงจะต้องกล่าวปิดท้ายภารกิจ จากนั้นจะส่งต่อภาพกลับไปยังห้องออกอากาศของงานรัฐบาล

ก่อนที่เฉินซิงจะตอบ นักข่าวของรัฐบาล เสิ่นเฟย ก็เดินเข้ามาหาจ้าวเฉินกวงเพื่อสอบถามเรื่องของดาวเทียม เป่ยโต่ว

“ดาวเทียมเข้าสู่วงโคจรที่กำหนด แผงพลังงานแสงอาทิตย์ก็ขยายได้ตามปกติ ท่านจ้าว นั่นหมายความว่าภารกิจปล่อยดาวเทียมในครั้งนี้…”

“กรุณาเดินตามผมไป” จ้าวเฉินกวงไม่ได้ตอบ แต่ให้ทั้งนักข่าวและวิศวกรย้ายไปยังที่อื่น

ภาพถ่ายทอดสดก็ถูกตัดกลับไปยังห้องออกอากาศ พิธีกรทั้งสองกล่าวชื่นชมเทคโนโลยีการนำทางของดาวเทียม เป่ยโต่ว สักครู่ จากนั้นภาพก็เปลี่ยนกลับไปยังศูนย์ปล่อยจรวดชางซีอีกครั้ง

แต่ภาพนี้ไม่ได้อยู่ที่ห้องควบคุมแล้ว แต่อยู่ที่ห้องประชุมหนึ่ง

เฉินซิงยืนอยู่บนเวทีขนาดเล็กที่ด้านหน้ามีโต๊ะบรรยายขนาดไม่ถึงเมตร มีตัวอักษรสีทองขนาดใหญ่เขียนว่า “ศูนย์ปล่อยดาวเทียมชางซีของจีน” อยู่ด้านหน้า

เมื่อภาพถ่ายทอดกลับมา เฉินซิงก็หยิบสคริปต์ขึ้นมาและอ่านออกเสียงว่า:

“ระบบนำทางดาวเทียม เป่ยโต่ว กลุ่มแรกได้เข้าสู่วงโคจรที่กำหนด แผงพลังงานแสงอาทิตย์ถูกกางออกเรียบร้อย สถานะของดาวเทียมเป็นปกติ ตอนนี้ผมขอประกาศว่าภารกิจการปล่อยดาวเทียมในครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์!”

คำว่า “ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์” ดังเหมือนกับค้อนหนักที่ทุบลงมา ทำให้เหล่าวิศวกรต่างพากันรู้สึกตื่นเต้น และตามมาด้วยเสียงปรบมือดังสนั่น

เสียงอันทรงพลังและหนักแน่นของเฉินซิงถูกส่งต่อไปทั่วทั้งประเทศผ่านทางอินเทอร์เน็ต

“พวกเราแฟนคลับของเฉินซิงช่างมีหน้ามีตาเสียจริง ตำแหน่งนี้ปกติแล้วจะเป็นของท่านจ้าว แต่ตอนนี้กลับให้คุณเฉินขึ้นไปพูดปิดงาน นี่แหละคือการได้รับเกียรติอย่างแท้จริง!”

“การปล่อยดาวเทียม เป่ยโต่ว กลุ่มแรกสำเร็จแล้ว นี่หมายความว่าเรามีระบบนำทางทั่วโลกเป็นของตัวเองแล้วใช่ไหม?”

“ในฐานะคนในวงการอวกาศ ผมขออธิบายว่า ดาวเทียมกลุ่มแรกหมายถึงดาวเทียมหนึ่งดวง ปกติแล้วการระบุตำแหน่งต้องใช้ดาวเทียมสี่ดวง ซึ่งตามระบบดาวเทียมคู่ของ เป่ยโต่ว ก็ต้องใช้สี่กลุ่ม นั่นหมายความว่าเรายังต้องปล่อยดาวเทียมอีกสามครั้งเพื่อสร้างระบบนำทาง เป่ยโต่ว ขั้นต้น”

“ถูกต้องครับ! ในฐานะสมาชิกของวงการอวกาศเหมือนกัน แม้ว่าจะต้องปล่อยดาวเทียมอีกสามครั้งเพื่อสร้างระบบนำทาง เป่ยโต่ว ขึ้น แต่การเริ่มต้นนั้นยากที่สุด เมื่อเราเริ่มก้าวแรกได้สำเร็จแล้ว หนทางข้างหน้าจะราบรื่นมากขึ้น”

“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ขอปรบมืออย่างหนักแน่นให้กับการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศของจีน!”

เมื่อเฉินซิงกล่าวปิดงาน จอภาพในห้องถ่ายทอดสดก็ถูกเติมเต็มด้วยข้อความจำนวนมาก และความนิยมของ Weibo ก็พุ่งขึ้นจนติดอันดับสูงสุด

ในตอนนี้เทรนด์อันดับหนึ่งของ Weibo ไม่ใช่เรื่องอื่นใดนอกจากเรื่องของ เป่ยโต่ว และคำว่า "เฉินซิงเข้าร่วม" ก็เป็นคำที่โดดเด่นที่สุดในหมู่พวกเขา

ในบัญชีทางการของ Dragonstar Technology โพสต์แสดงความยินดีล่าสุดที่แสดงความยินดีต่อการที่เฉินซิงได้รับมอบหมายให้เป็นผู้กดปุ่มปล่อยดาวเทียม เป่ยโต่ว ก็ถูกเติมเต็มด้วยความคิดเห็นจากผู้คนที่อยากรู้อยากเห็น

[โค้ก]: “ไม่เข้าใจเลย ขอถามหน่อยว่า คุณเฉินได้เข้าร่วมทีมงานของรัฐบาลแล้วหรือเปล่า? แล้วบริษัท Dragonstar Technology เองได้เข้าร่วมด้วยหรือเปล่า?”

[เฉินทื่อหลันเตียว]: “การเข้าร่วมไม่ใช่เรื่องแปลก ทุกคนรู้ว่าคนหล่อมักจะต้องถูกส่งตัวไปให้รัฐบาล คุณเฉินหล่อมาก การถูกส่งให้รัฐบาลก็ไม่แปลกเลย”

[ความหล่อเป็นบาป]: “ใช่เหรอ? ทำไมฉันที่มาจากจินซีเปิงไม่ได้เข้าร่วมด้วย ฉันก็อยากจะถูกส่งตัวให้รัฐบาลเหมือนกัน!”

[หวังหวังสือชง]: “อย่ามาล้อเล่นเลย พี่ชาย ลองดูรูปโปรไฟล์ของนายก่อน ดูเหมือนสัตว์ประหลาดเลย ใครๆ ก็คิดว่านายเป็นผู้รุกรานจากอีกโลกหนึ่งแน่ๆ! พวกเราในตะวันออกพูดกันตรงๆ อย่าถือสานะ”

[ความหล่อเป็นบาป]: “ฉัน**นาย**!”

แม้ว่าผู้คนนับล้านจะสงสัยว่าบริษัท Dragonstar Technology ได้เข้าร่วมเป็นหน่วยงานของรัฐบาลแล้วหรือยัง แต่ผู้ดูแลบัญชีก็ไม่กล้าตอบคำถามนั้นตรงๆ

เหตุผลง่ายๆ คือ แม้แต่เฉินหย่าผิงและเหลียงรั่วหลานก็ยังไม่รู้เรื่องการปรากฏตัวของเฉินซิงในงานรัฐบาลนี้เลย แล้วคนอื่นๆ ในบริษัทจะรู้ได้อย่างไร?

ในตอนนี้รองประธานจางเหอติง ผู้จัดการฝ่ายการตลาดเหยาน่าน่า และพนักงานทั้งบริษัทต่างก็ตกตะลึง พวกเขาไม่แน่ใจว่าบริษัทของตัวเองเป็นบริษัทเอกชนหรือไม่

จะบอกว่าเป็นก็ไม่แน่ใจ…

เพราะเมื่อพวกเขาเข้ามาทำงาน Dragonstar Technology ยังเป็นเพียงบริษัทเอกชนเท่านั้น

แต่จะบอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ได้…

เพราะเฉินซิงมีส่วนร่วมในโครงการนำทางดาวเทียม เป่ยโต่ว และยังได้รับหน้าที่เป็นผู้กดปุ่มปล่อยจรวดด้วย จะอธิบายเรื่องนี้อย่างไรดี?

ตอนนี้ไม่มีใครสามารถบอกได้แน่ชัดว่า Dragonstar Technology เป็นบริษัทเอกชนหรือรัฐวิสาหกิจ หรืออาจจะเป็นบริษัทชั้นนำของรัฐบาลกลางด้วยซ้ำ

……

ขณะที่ผู้คนทั่วประเทศกำลังเฉลิมฉลองความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียม เป่ยโต่ว รุ่นที่สาม กลุ่ม Belai ในอีกฟากหนึ่งของมหาสมุทรก็กำลังตื่นตระหนกหลังจากที่ได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดนี้

เมื่อมาเรีย ซึ่งเป็นรองหัวหน้ากลุ่ม ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เธอก็ตัดสินใจไปพบกับหัวหน้าใหญ่เพื่อรายงานและขอความคิดเห็น

เพราะพลังของเฉินซิงและ Dragonstar Technology นั้นเกินกว่าที่บริษัทเอกชนธรรมดาจะมีได้ เขาต้องมีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังแน่นอน

เมื่อเธอมาถึงหน้าสำนักงานของหัวหน้าใหญ่ มาเรียหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ก่อนจะเคาะประตู

“ก๊อกๆ——”

ไม่มีใครตอบ

ไม่กี่วินาทีต่อมา เธอเคาะอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีใครตอบ

“ไม่อยู่เหรอ?” มาเรียกำลังจะเดินจากไป แต่เสียงผู้ชายที่อ่อนโยนก็ดังขึ้นจากในห้องว่า: “ฉันรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว เธอไปทำงานเถอะ ถ้ามีอะไรให้ทำ ฉันจะแจ้งเธอทางอีเมล”

“!!!”

มาเรียตกใจในตอนแรก แต่เธอก็รีบตอบกลับไปว่า: “เข้าใจแล้ว ท่านหัวหน้า”

เธอไม่กล้าอยู่ต่อ หรือจะพูดอีกอย่างว่า เธอไม่กล้าขัดคำสั่งชายในห้องนั้น เธอจึงรีบเดินจากไปทันที

หลังจากที่มาเรียออกไป ชายในห้องซึ่งมีใบหน้าที่งดงามและผมยาวสีทอง ก็พิมพ์ข้อความลงในกล่องแชท เขาดูเหมือนกำลังทำงานอะไรบางอย่าง

ซอฟต์แวร์ที่เขาใช้อยู่มีเพียงช่องใส่ข้อความ ไม่มีส่วนอื่นๆ แม้แต่หน้าต่างสนทนาก็ไม่มี

สิบวินาทีต่อมา

เขาหยุดพิมพ์และหยิบแก้วกาแฟบนโต๊ะขึ้นมาจิบ พร้อมกับพูดกับตัวเองเบาๆ ว่า:

“Dragonstar Technology, เฉินซิง, ไม่น่าเชื่อว่าจะหาข้อมูลที่ลึกกว่านี้ของนายไม่ได้เลย ช่างน่าประหลาดใจจริงๆ”

แต่เขาก็ไม่ได้แปลกใจนัก การหาคนที่ตรวจสอบไม่ได้มีเยอะแยะไป แต่การตรวจสอบไม่ได้ก็แสดงให้เห็นถึงปัญหาแล้ว

คนที่ตรวจสอบได้คือคนธรรมดา

คนที่ตรวจสอบไม่ได้ แม้ว่าเขาจะดูเป็นคนธรรมดา แต่พลังที่อยู่เบื้องหลังย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน

ตอนนี้ไม่เพียงแค่ชายงดงามคนนี้ แต่ผู้มีอิทธิพลทั่วโลกต่างก็เชื่อมั่นแล้วว่า Dragonstar Technology และเฉินซิงต้องมีเบื้องหลังที่ลึกซึ้งกว่านี้ เพียงแต่ว่าข้อมูลเหล่านั้นถูกเข้ารหัสและไม่สามารถตรวจสอบได้

แต่ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ

เพราะวันนี้จีนไม่เพียงแค่แสดงให้เห็นเทคโนโลยีการปล่อยจรวดสองดาวเท่านั้น แต่ยังให้เฉินซิง ซึ่งเป็นผู้มีความสำคัญในวงการอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์ ได้ขึ้นเป็นผู้กดปุ่มปล่อยจรวดและเป็นผู้กล่าวสุนทรพจน์ในงาน นี่คือสัญญาณเตือนที่ชัดเจนสำหรับโลก

ไม่ว่าจะเป็น "ดวงตา" หรือแม้แต่ "สภานิติบัญญัติ" หรือแม้แต่บรรดาฉลามแห่งวอลล์สตรีทก็ควรชั่งน้ำหนักให้ดีก่อนจะก่อปัญหา มิฉะนั้นพวกเขาอาจจบชีวิตด้วยการทำลายตัวเอง