บทที่ 17 : เคล็ดวิชาสงครามสวรรค์
หลังจากจบงานเลี้ยงของหมู่บ้าน และความแข็งแกร่งของฉินยี่ ก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง
เขาฝึกฝนกระบวนท่าฝึกฝนร่างกายทั้ง 36 กระบวนท่า ของ "เคล็ดวิชาเจิ้นหวู่ฟู่โม่เจวี๋ย" หลายครั้งต่อวัน นอกจากนั้นเขาก็ยังติดตามฉินหยวนไปที่สนามฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ เพื่อเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ขั้นพื้นฐาน เช่นยิงธนู ดาบ หอก กระบี่ และก็ยังมีเคล็ดวิชาเคลื่อนไหว หมัดมวย และอื่นๆ
อย่ามองว่าการฝึกฝนสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ไม่ดี แต่มันจะต้องมีประโยชน์มากอย่างแน่นอน
เมื่อพวกเขาพบกับฝูงหมาป่าอีกครั้ง พวกเขาก็คงไม่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นอย่างแน่นอน
การเคลื่อนไหวเหล่านี้เป็นทักษะขั้นพื้นฐาน แต่หลังจากที่ฉินยี่ ได้ศึกษาพวกมันทั้งหมดแล้ว เขาก็ค้นพบว่าการเคลื่อนไหวขั้นพื้นฐานเหล่านี้สามารถปรับปรุงได้!
ชื่อ : ทักษะหมัดเบื้องต้น
คำแนะนำ : ทักษะที่ประกอบไปด้วยท่าการฝึกฝนหมัดมวยที่เรียบง่าย ซึ่งเป็นทักษะระดับทั่วไปที่มีพลังการโจมตีต่ำ และมีฟังก์ชั่น ฝึกฝนร่างกายที่เรียบง่ายมาก
สถานะ : สามารถรวมเข้าด้วยกันได้
คะแนนความโกลาหลที่เหลืออยู่ : 141 คะแนน
ทักษะขั้นพื้นฐานอื่นๆ ฉินยี่ก็ฝึกฝนมาทั้งหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทักษะฝ่ามือ ทักษะดาบ ทักษะการเคลื่อนไหว และทักษะอื่นๆอีกมากมาย ฉินยี่ ได้เรียนรู้มาทั้งหมด
ทักษะขั้นพื้นฐานเหล่านี้นั้นฝึกฝนง่ายมาก และคนส่วนใหญ่สามารถเรียนรู้ได้ภายในหนึ่งหรือสองวัน
และหลังจากที่ฉินยี่ใช้เวลาประมาณครึ่งเดือนเขาก็ สามารถผสานทักษะการเคลื่อนไหวขั้นพื้นฐานทั้งหมดได้ และต้องใช้คะแนนความโกลาหลถึงหนึ่งร้อยคะแนน
ชื่อ : เคล็ดวิชาสงครามสวรรค์
คำแนะนำ : เคล็ดวิชาที่สร้างขึ้นมาจากการ ผสานทักษะการต่อสู้ไร้ระดับ ได้แก่ หมัด ฝ่ามือ ขา ลำตัว อาวุธยาวและอาวุธสั้น ซึ่งเป็นทักษะที่ฝึกฝนทุกส่วนของร่างกาย
สถานะ : สามารถอัพเกรดได้ โดยการรวมทักษะการต่อสู้จำนวนมาก
คะแนนความโกลาหลที่เหลืออยู่ : 41 คะแนน
ฉินยี่ ฝึกฝนหนักมากช่วงนี้
แต่หลังจากเรียนรู้เคล็ดวิชาสงครามสวรรค์แล้ว ฉินยี่ก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้ คะแนนความโกลาหลที่ต้องใช้ในการอัพเกรดเคล็ดวิชาสงครามสวรรค์ นั้นเยอะมาก
เมื่อฉินยี่อ่านบทนำแล้วเขาก็รู้ว่าเคล็ดวิชาสงครามสวรรค์ นั้นเป็นเคล็ดวิชาต่อสู้ที่ทรงพลังมาก!
แต่สิ่งที่ทำให้ฉินยี่ รู้สึกประหลาดใจคือทักษะการต่อสู้นี้ดูพิเศษเล็กน้อย
มีวิธีการอัพเกรด 2 วิธี วิธีแรกคือการอัพเกรดเคล็ดวิชาโดยการผสานทักษะการต่อสู้อื่นๆ เข้าด้วยกัน
และวิธีการที่สองคือการอัพเกรดผ่านการต่อสู้ ซึมซับแก่นแท้ของศิลปะการต่อสู้และศิลปะการป้องกันตัวของผู้อื่นจากการต่อสู้ เพื่อปรับปรุง และอัพเกรด
วิธีแรกฉินยี่ยังพอเข้าใจอยู่บ้าง สำหรับวิธีที่สองฉินยี่ถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้!
หลังจากที่ฉินยี่เรียนรู้เคล็ดวิชาสงครามสวรรค์ ข้อมูลจำนวนมากก็หลั่งไหลเข้าสู่จิตสำนึกของฉินยี่ ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดมาก
หลังจากนั้นไม่นานฉินยี่ก็รู้สึกว่าจิตวิญญาณของเขาแข็งแกร่งมากขึ้นทุกครั้ง ที่เขาได้รับข้อมูลจำนวนมาก
ฉินยี่ เคลื่อนไหวฝ่ามือของเขาแล้วชกออกไปอย่างช้าๆ เขารู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อภายในร่างกายและกระดูก การไหลเวียนของโลหิต และการเปลี่ยนแปลงของลมหายใจ
ซึ่งเขาไม่เคยเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้มาก่อน และเขาก็ทำได้เพียงพึ่งพาสัญชาตญาณการต่อสู้ของเขา ซึ่งทำให้เขาเสียพละกำลังและความอดทนของร่างกายไปเป็นจำมาก และสามารถแสดงศักยภาพออกมาได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
อย่างไรก็ตามมีอีกหลายวิธีในการดึงศักยภาพออกมาได้อย่างสมบูรณ์ ลดการสูญเสียพละกำลังและความแข็งแกร่งของร่างกายได้น้อยที่สุด และสามารถสร้างความเสียหายได้สูงสุด!
บางทีทักษะการต่อสู้นี้อาจไม่มีระดับ แต่ในใจของฉินยี่เคล็ดวิชาสงครามสวรรค์อย่างน้อยก็ต้องเป็นเคล็ดวชาต่อสู้ระดับเทพ!
ในอนาคตตราบใดที่เขาได้เรียนรู้ทักษะการต่อสู้ใดก็ตาม เขาก็สามารถนำเอาแก่นแท้ของทักษะนั้นมาผสานเข้ากับเคล็ดวิชาสงครามสวรรค์ได้!
หลังจากได้สติกลับคืนมาแล้ว ฉินยี่ก็พลิกตัวไปมาอยู่ภายในลานบ้าน ทำท่าทางแปลกๆ ทีละท่า เร็วบ้าง ช้าบ้าง แต่เมื่อพิจารณาอย่างดีแล้วก็จะเห็นว่าท่าทางเหล่านี้นั้นมันสอดคล้องกัน อย่างเป็นธรรมชาติ
เคล็ดวิชาสงครามสวรรค์ นั้นแบ่งออกเป็นสองส่วน
ส่วนแรกจะเป็นการฝึกฝนร่างกายเป็นหลัก โดยอาศัยความเชื่อมโยงระหว่างเส้นเอ็น กล้ามเนื้อ กระดูก เลือด และอวัยวะภายใน เพื่อขจัดสิ่งสกปรกภายในร่างกายของเขา และทำให้มันบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น
ส่วนที่สองคือวิธีการใช้พลังชีวิตที่เพาะบ่มไว้ภายในร่างกายเพื่อโจมตี ในส่วนนี้ไม่มีเนื้อหาอะไรมากนัก และน่าจะเป็นเพราะว่ามันยังไม่ได้รับการอัพเกรด
และนี้ก็เป็นเพียงส่วนแรกเท่านั้น มันลึกลับมาก! ฉินยี่ฝึกฝนเคล็ดวิชาสงครามสวรรค์เพียงชั่วครู่ เขาก็รู้สึกว่าประสิทธิภาพการต่อสู้ของเขาในปัจจุบันนั้นแข็งแกร่งมากกว่าเมื่อก่อนมาก
ฉินยี่ เริ่มเชี่ยวชาญการผสานกล้ามเนื้อส่วนเล็กๆ ภายในร่างกาย และทำให้เขาสามารถระเบิดพลังออกมาได้อย่างเต็มที่!
ชีวิตก่อนหน้านี้ของฉินยี่ เขาได้อ่านนวนิยายเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ของจีนอยู่หลายเล่ม และรู้สึกว่ามันมีความคล้ายคลึงกับศิลปะการต่อสู้ของจีนมาก
ฉินยี่ รู้ดีว่าตราบใดที่เขาสามารถฝึกฝนเคล็ดวิชาสงครามสวรรค์ไปทีละขั้นตอน เขาก็จะแข็งแกร่งมากขึ้น!
ฉินอยี่ไม่ได้สอนเคล็ดวิชาสงครามสวรรค์นี้ให้กับฉินหยวน ไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่ต้องการ แต่เพราะเขาไม่มีเวลาและโอกาส
ฉินหยวนกำลังจะออกเดินทางไปยังเขตฟูซาน และเข้าร่วมทีมฝึกฝนเยาวชน
ก่อนหน้านี้ฉินยี่ต้องการที่จะอัพเกรด : "เคล็ดวิชาเจิ้นหวู่ฟู่โม่เจวี๋ย" ส่วนที่ 1 ฝึกฝนร่างกาย แต่กลับล้มเหลวอย่างไม่คาดคิด
เดิมทีเขาคิดว่าคะแนนความโกลาหลมากกว่าหนึ่งร้อยคะแนนนั้นก็เพียงพอแล้ว แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่า มันจะต้องใช้คะแนนความโกลาหลถึง 1,000 คะแนน
เขารู้สึกปวดหัวมากเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ และก็ไม่รู้ว่าจะหาคะแนนความโกลาหลมากมายขนาดนั้นมาจากไหน
เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น ฉินหยวนก็เดินทางไปยังเขตฟูซานพร้อมกับฉินจ้าน ครูผู้ฝึกสอนศิลปะการต่อสู้ของหมู่บ้าน
จากหมู่บ้านไปยังเมืองฟูซานต้องใช้เวลาเดินทางอย่างน้อยหนึ่งวัน หากไปช้าประตูเมืองก็จะปิด ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องออกเดินทางตั้งแต่เช้า และรีบไปที่เมืองฟูซาน ก่อนที่ประตูเมืองจะปิด
ฉินยี่ไม่ได้รู้สึกกังวลใจเลยแม้แต่น้อย เพราะว่าหมู่บ้านกับเมืองฟูซางนั้น อยู่ไกลมาก แต่ก็สามารถเดินทางไปได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
และฉินหยวนเองก็เป็นคนฉลาด ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คนอื่นจะใช้ประโยชน์จากเขา ดังนั้นฉินยี่จึงไม่ได้กังวลมากนัก
หลังจากที่ฉินหยวนจากไปแล้ว ฉินยี่ก็ไม่ได้ขึ้นไปบนภูเขาเพื่อรวบรวมสมุนไพร และเขาทำได้เพียงแค่วางกับดักเพื่อดักสัตว์เท่านั้น
เพราะว่าเขานั้นเป็นเพียงนักรบระดับหนึ่งเท่านั้น ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะเทียบได้กับนักสู้ระดับสองแล้วก็ตาม และก็ยังมีเคล็ดวิชาสงครามสวรรค์ เขาก็ไม่กล้าเข้าป่าไปหาสมุนไพรอยู่ดี และมีเพียงแค่ตอนที่เขาทะลวงเข้าสู่นักรบระดับสองเท่านั้นเขาถึงจะกล้าเข้าไปในป่า
และยิ่งไปกว่านั้น สมุนไพรที่เขาเก็บมาก็ยังไม่ได้นำมาใช้เลย