ตอนที่แล้วตอนที่ 335 ครั้งหน้าไม่พลาดแน่ๆ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 337 พี่เขย นี่พี่หมายความว่ายังไง?

ตอนที่ 336 ก็น่าจะใช่นะ ผมเพิ่งหยิบมันมาจากบริษัทน่ะ


เช้าวันรุ่งขึ้น ทั้งสามคนออกเดินทาง เริ่มต้นทริปขับรถเที่ยวที่แสนสุขอีกครั้ง

เวลานี้ ถนนค่อนข้างโล่ง ดังนั้น เย่เฉิน จึงขับรถไปอย่างช้าๆ

ระหว่างนั้นก็ได้ชมวิวทิวทัศน์ทั้งสองข้างทางไปด้วย

เมื่อขับรถมาถึงทะเลสาบแห่งหนึ่ง เย่เฉิน และพวกเธออีกสองคนก็พบว่าทิวทัศน์ของที่นี่สวยงามมากๆ

ดังนั้นตามคำแนะนำของ ซู หนิงซวง เย่เฉิน จึงหาที่จอดรถ

ที่ริมทะเลสาบนั้นก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่มาถ่ายรูป และชมวิวทิวทัศน์เหมือนกับพวกเขา

แสงแดดส่องสะท้อนบนผิวน้ำเป็นประกายระยิบระยับ งดงามอย่างมาก

“สวยจังเลย”

ซู หนิงซวง พูดขึ้นอย่างชื่นชมในความงดงามของผืนน้ำ

“อากาศที่นี่ก็บริสุทธิ์มากเช่นกัน”

เย่เฉิน สูดลมหายใจลึกๆ หลังจากขับรถมานานก็ยืดเส้นยืดสายสักหน่อย

ส่วน ซู หลิงเอ๋อร์ ก็เร็วกว่าใคร เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเริ่มถ่ายรูปทันที

หลังจากถ่ายไปหลายรูป และเซลฟี่อีกสองสามภาพ ซู หลิงเอ๋อร์ ก็พูด กับเย่เฉิน ว่า :

“พี่เขย ช่วยมาถ่ายรูปให้หนู กับพี่สาวหน่อยได้ไหม?”

“ได้สิ”

เย่เฉิน พยักหน้า

ซู หลิงเอ๋อร์ และซู หนิงซวง เข้าไปยืนใกล้ๆ กัน ก่อนจะไปหามุมสวยๆ เพื่อถ่ายรูป

เย่เฉิน รับโทรศัพท์มือถือจาก ซู หลิงเอ๋อร์ ถอยหลังไปสองสามก้าวแล้วเริ่มถ่ายรูป

แต่เมื่อถ่ายรูปแรกออกมา เย่เฉิน ก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าไร

รูปถ่ายจากโทรศัพท์มือถือนั้นธรรมดาเกินไป

ควรจะใช้กล้องมืออาชีพน่าจะดีกว่า และเพื่อการท่องเที่ยวครั้งนี้ เย่เฉิน เตรียมตัวมาอย่างดี

ตอนที่ไปบริษัท เซิ่งไห่ เอนเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป เขาได้หยิบกล้องจากบริษัทมาชุดหนึ่ง ซึ่งพกพาง่าย และคุณภาพดีทีเดียว

“พวกคุณรอก่อนนะ”

เย่เฉิน พูดพร้อมกับส่งโทรศัพท์มือถือคืนให้ ซู หลิงเอ๋อร์ แล้วเดินไปที่รถ Bentley ที่จอดอยู่ไกลๆ เพื่อหยิบกล้อง

ในขณะที่ ซู หลิงเอ๋อร์ กับซู หนิงซวง เตรียมจะถ่ายเซลฟี่กันเอง

“พวกคุณเสร็จหรือยัง?”

ตอนนั้นเอง คู่สามีภรรยาวัยประมาณสามสิบก็เดินเข้ามา

ฝ่ายชายพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ

“พวกเธออยู่ตรงนี้นานเกินไปแล้ว ถึงคราวเราถ่ายรูปบ้าง”

ฝ่ายผู้หญิงคนนั้นก็เอ่ยเสริมโดยไม่อ้อมค้อม ท่าทีของพวกเขาเหมือนพร้อมที่จะไล่คนอื่นออกไป

ถ้าสองคนนี้พูดจาดีๆ มีมารยาทสักหน่อย พวกเธอก็อาจจะยอมให้ถ่ายรูปบ้างก็ได้

แต่หลังฟังจากน้ำเสียงของพวกเขาแล้วนั้น ..ไม่ดีเอาเสียเลย

อีกอย่างที่นี่ก็ไม่ใช่จุดถ่ายภาพในสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องให้ผู้มาเยือนผลัดกันถ่ายภาพเสียหน่อย

และสถานที่ตรงนี้ เป็นพวกเธอที่เป็นคนหาได้ก่อน

“ทำไมล่ะ?”

ซู หลิงเอ๋อร์ โต้เถียงกับทั้งสองทันที

“พวกเรามาก่อน ถ้าคุณอยากถ่ายรูปก็ไปหาที่อื่นเถอะ ที่นี่กว้างมาก”

“แต่ฉันคิดว่าที่นี่เหมาะที่สุดสำหรับการถ่ายรูป”

แต่ฝ่ายผู้ชายคนนั้นไม่สนใจ และยังคงกดดันให้ ซู หลิงเอ๋อร์ และซู หนิงซวง หลีกทางให้

“ช่วยหลีกทางไปหน่อยเถอะ”

ผู้หญิงคนนั้นพูดพลางแสดงท่าทางรังเกียจโทรศัพท์มือถือของ ซู หลิงเอ๋อร์ อย่างเห็นได้ชัด

“แค่ใช้โทรศัพท์ถ่ายรูป จะได้รูปดีๆ ได้ยังไง มันเปลืองวิวที่นี่เปล่าๆ”

เธอพูดพร้อมกับเหลือบมองกล้องในมือสามีอย่างภาคภูมิใจ และอวดให้ ซู หลิงเอ๋อร์ กับซู หนิงซวง ฟังว่า :

“เห็นไหม สามีฉันมีกล้องมืออาชีพนะ”

“นี่คือ Canon 1Ds-Mark III พร้อมเลนส์ระดับท็อป มันแพงมากเลยล่ะ”

พอได้ยินภรรยาของเขาพูด ผู้ชายคนนั้นก็เอ่ยอย่างภูมิใจว่า :

“อุปกรณ์ชุดนี้น่ะ ฉันจ่ายไปเกือบแสนเลย”

จริงๆ แล้ว เมื่อเทียบกับอุปกรณ์มืออาชีพแบบนี้ การถ่ายรูปด้วยโทรศัพท์มือถือก็อาจจะดูธรรมดาเกินไป

“เห็นไหมๆ นี่แหละคืออุปกรณ์ถ่ายภาพชั้นยอด โทรศัพท์มือถือของพวกเธอมันจะแค่ไหนกัน?”

ผู้หญิงคนนั้นพูดต่อ

“ไปเถอะ อย่ามาขวางให้สามีฉันถ่ายรูป…”

พูดไปเธอก็ทำท่าพร้อมจะไล่คนออกจากจุดถ่ายรูป

“เกิดอะไรขึ้น?”

ตอนนั้น เย่เฉิน ก็กลับมาพร้อมกับกล้องในมือ

“สองคนนี้เป็นเพื่อนของคุณใช่ไหม บอกให้พวกเธอหลีกไป เราจะถ่ายรูปกัน”

พอเห็น เย่เฉิน ผู้หญิงคนนั้นก็พูดจาอย่างไม่สุภาพ

“เราจะไปทำไม ในเมื่อเรายังถ่ายรูปไม่เสร็จ”

เย่เฉิน ถามกลับ

“โอ้ คุณก็มีกล้องเหมือนกันเหรอ แต่กล้องของคุณเป็นยี่ห้ออะไรล่ะ?”

เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นกล้องในมือของ เย่เฉิน เธอก็พูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม

เธอไม่รู้จักกล้องดีๆ หรอก นอกจากกล้องของสามีเธอเพียงไม่กี่ตัวที่บ้านเท่านั้น

“กล้องสามีฉัน.....”

ขณะที่เธอพูด ผู้หญิงคนนั้นก็พลางมองไปที่สามีของเธอ

แต่ในวินาทีต่อมา เธอกลับพบว่าสามีของเธอมีท่าทางแปลกๆ ไป

ในขณะนี้ สามีของเธอกำลังจ้องมองกล้องในมือของ เย่เฉิน ไม่วางตา ราวกับกลายเป็นคนทื่อไปเสียแล้ว(ไก่ไม้)

“ที่รัก ที่รัก คุณเป็นอะไรไป”

ผู้หญิงคนนั้นรีบเข้าไปถามสามีด้วยความกังวล

อย่างไรก็ตาม.. ดูเหมือนว่าผู้ชายคนนั้นจะไม่ได้ยินคำพูดของภรรยาของเขา และเขายังคงยืนนิ่ง พลางจับจ้องกล้องในมือของ เย่เฉิน แทบไม่กระพริบตา

“ที่รัก”

ผู้หญิงคนนั้นผลักสามีของเธอเบาๆ

“หือ?”

เมื่อถูกภรรยาผลัก ผู้ชายคนนั้นพลันสะดุ้งตื่นจากภวังค์

“ขอโทษนะครับ นี่คือ…กล้อง Phase One XT ใช่ไหม?”

ผู้ชายคนนั้นถาม เย่เฉิน ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ไม่สนใจที่จะพูดคุยกับภรรยาของเขาเลย

“Phase One? ก็น่าจะใช่นะ ผมเพิ่งหยิบมันมาจากบริษัทน่ะ”

เย่เฉิน ตอบ

ตอนหยิบมา พนักงานในบริษัทบอกเขาว่าเป็นกล้อง Phase One นี่แหละ แต่ เย่เฉิน ไม่ได้ใส่ใจเท่าไรนัก

“ไม่ผิดแน่ ไม่มีทางผิดแน่ๆ”

ผู้ชายคนนั้นพูดด้วยความตื่นเต้นราวกับโดนมนต์สะกด

กล้อง Phase One XT คือความใฝ่ฝันของคนรักการถ่ายภาพทุกคน เขาจะจำผิดได้อย่างไร!

นี่มันคือกล้อง Phase One XT ในตำนานชัดๆ!

“คุณเป็นอะไรไปหรือเปล่า”

“นี่มันไม่ใช่แค่กล้องตัวหนึ่งหรอกเหรอไง?”

ผู้หญิงคนนั้นพึมพำอย่างสับสน

“แค่กล้องตัวหนึ่งเองเหรอ? คุณพูดง่ายเกินไปแล้ว!”

“คุณรู้ไหมว่า กล้อง Phase One XT มันมีความหมายยังไง และคุณรู้ไหมว่ามันล้ำค่าแค่ไหน?!”

สามีรีบโต้ตอบภรรยาทันทีหลังจากที่เธอพูดจบ ซึ่งทำให้เธอประหลาดใจมาก

“ฉันไม่รู้หรอก”

ผู้หญิงคนนั้นส่ายศีรษะ

เมื่อเห็นว่าเธอไม่เข้าใจเรื่องนี้ สามีของเธอจึงอธิบายด้วยคำพูดที่เข้าใจง่ายๆ ว่า :

“คุณรู้ไหมว่ากล้อง Phase One XT ชุดนี้ราคาเท่าไร?”

“เท่าไรล่ะ น่าจะไม่แพงเท่าไหร่หรอกใช่ไหม?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด