บทที่ 26 ไม่มีทาง! เขาเก่งเกินไปแล้ว!
บทที่ 26 ไม่มีทาง! เขาเก่งเกินไปแล้ว!
"ไม่มีคนมาช่วยหรอก ระหว่างที่พวกเราโดนแมงกะพรุนจากห้วงลึกรุมล้อม การสื่อสารก็ขาดหายไป"
ลู่โหยวพูดไม่ทันจบ เครื่องบินก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอีกครั้ง แรงกระแทกมหาศาลผลักพวกเขาไปติดมุมห้องโดยสาร
เย่เหรินยกมือขึ้นป้องยวี้หลิงหลงกับเจียงซุ่ยโดยไม่รู้ตัว เขาขมวดคิ้ว มองออกไปนอกหน้าต่างด้วยแววตาครุ่นคิด
ถ้าเครื่องบินยังเป็นแบบนี้ต่อไป การจะร่วงก็เป็นแค่เรื่องของเวลา
แววตาของเจียงซุ่ยฉายแววเด็ดเดี่ยว เธอรู้ดีว่าถ้ายังนั่งรอความตายอยู่แบบนี้ ทุกคนต้องตาย และที่นี่ใครจะตายก็ได้ ยกเว้นเย่เหริน!
มือของเธอค่อยๆเอื้อมไปที่กริชที่เอว 'เครื่องสังเวยโลหิต' วัตถุผิดปกติที่สามารถกระตุ้นผลของการบิดเบือนความจริงเพื่อให้ความปรารถนาเป็นจริงได้ อาจเป็นความหวังเดียวในตอนนี้
"ใจเย็นๆไม่ขนาดนั้นหรอก" เย่เหรินสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของเจียงซุ่ย เขาจับมือเล็กๆของเธอไว้
เจียงซุ่ยไม่ได้พูดอะไร แต่แววตาที่สิ้นหวังของเธอบอกทุกอย่าง
ลู่โหยวกับยวี้หลิงหลงก็สังเกตเห็นการกระทำของเจียงซุ่ยเช่นกัน แต่ทั้งคู่ก็รู้สึกหมดหนทางกับสถานการณ์ปัจจุบัน
ก็ตอนนี้พวกเขากำลังอยู่บนเครื่องบินที่บินอยู่บนฟ้า ไม่รู้ว่าสูงจากพื้นดินกี่เมตร!
ถ้าเครื่องบินแตก แม้ว่าทุกคนจะไม่ถูกแมงกะพรุนห้วงลึกกิน ก็ต้องตกตายอยู่ดี
"พี่เย่เหริน ให้ฉันทำเถอะ..." น้ำเสียงของเจียงซุ่ยเรียบนิ่ง เธอพยายามดึงมือออกจากมือของเย่เหริน
แต่เย่เหรินจะยอมให้เธอทำตามใจอย่างนั้นหรือ?
ห้วงลึกแมงกะพรุนเป็นร้อยๆตัวอยู่ข้างนอก เจียงซุ่ยคงต้องแทงตัวเองตายถึงจะกระตุ้นเงื่อนไขให้ความปรารถนาเป็นจริงได้
"อย่าเสียสละตัวเองโดยเปล่าประโยชน์"
"แต่นี่เป็นทางเดียว..."
"เงียบหน่อย! ฉันกำลังคิดอยู่!"
เย่เหรินขัดเจียงซุ่ยที่ยังอยากจะพูดต่อ จู่ๆคิ้วของเขาก็คลายออก
ตอนนี้เย่เหรินดูใจเย็นอย่างน่ากลัว สมองของเขากำลังวิเคราะห์สถานการณ์ตรงหน้าอย่างรวดเร็ว
ความสามารถในการกัดกร่อนของแมงกะพรุนห้วงลึกทำให้เขานึกถึง 'ผู้นำมาซึ่งสุริยคราส ลาโธเทป' จ้าวแห่งห้วงลึกที่ว่ากันว่าควบคุมการกัดกร่อนและการสลาย
‘ลองเสี่ยงดูสักตั้งละกัน’
เย่เหรินหันกลับไปยังห้องคนขับ
"พี่ชาย ผมต้องการให้คุณตั้งค่าระบบขับอัตโนมัติ จากนั้นปล่อยมือจากคันบังคับเลยครับ"
คนขับเป็นชายหนุ่ม ใบหน้าซีดเผือด ร่างกายสั่นเทาด้วยความกลัว
หลังจากที่เย่เหรินเข้ามาและพูดประโยคเมื่อครู่ เขามองเย่เหรินราวกับมองคนบ้า
"คุณพูดอะไรนะ? ข้างนอกเต็มไปด้วยไอ้สัตว์ประหลาด คุณจะให้ผมปล่อยมือแล้วรอความตายเหรอครับ!?"
เย่เหรินขี้เกียจอธิบาย
"เชื่อผมเถอะ ถ้าคุณไม่ทำตามที่ผมบอก พวกเราทุกคนจะต้องตายที่นี่"
เหงื่อเย็นผุดขึ้นบนหน้าผากของคนขับ มือของเขากำคันบังคับแน่น ไม่กล้าผ่อนคลายแม้แต่น้อย
ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติไม่สามารถหลบการโจมตีของแมงกะพรุนห้วงลึกได้!
ในเวลานี้ ลู่โหยวสั่งด้วยสีหน้าเคร่งขรึม "ทำตามที่เขาบอก นี่คือคำสั่ง"
คนขับมีสีหน้าสิ้นหวัง ด้วยสถานะของลู่โหยว คำพูดของเขาคือคำสั่งเด็ดขาด
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ มือสั่นเทา กดปุ่มระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติบนแผงควบคุม
จากนั้นก็ปล่อยมือจากคันบังคับอย่างช้าๆ ร่างกายทั้งหมดทรุดลงบนเก้าอี้ราวกับสูญเสียเรี่ยวแรงทั้งหมด
"พวกเราทุกคนจะต้องตาย..." เสียงของคนขับมีแววสะอื้นไห้
เย่เหรินส่ายหัวช้าๆ
"ไม่ครับ รอดูสิ"
เขายืนอยู่ที่ประตูห้องคนขับ มือเอื้อมไปด้านหลังอย่างช้าๆ ในขณะที่เขาจับคมดาบโลหิต...
อากาศในห้องโดยสารทั้งหมดราวกับแข็งตัว ความกดดันที่มองไม่เห็นทำให้ทุกคนรู้สึกหายใจไม่ออก!
เมื่อเย่เหรินดึงคมดาบโลหิตออกมาจนสุด ปรากฏการณ์ปนเปื้อนที่รุนแรงก็แผ่กระจายออกมาในทันที
หมอกโลหิตสีแดงเข้มพวยพุ่งออกมาจากใบมีด กระจายไปทั่วเครื่องบินขนส่งอย่างรวดเร็ว ซึมผ่านหน้าต่าง และปกคลุมแมงกะพรุนห้วงลึกที่อยู่ข้างนอกอย่างรวดเร็ว
หมอกโลหิตราวกับมีชีวิต พลิ้วไหวไปมาในอากาศ
ภายใต้หมอกโลหิต แมงกะพรุนห้วงลึกที่กำลังอาละวาดรู้สึกถึงความกลัวอย่างแท้จริงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ร่างกายของพวกมันแข็งทื่อในหมอกโลหิต หนวดหยุดเต้นระบำ
ในขณะเดียวกัน สายสีดำเริ่มก่อตัวขึ้นภายในกลุ่มหมอกเลือด พวกมันคือเศษเสี้ยวของเงาจากลาโธเทป
เศษเสี้ยวเหล่านั้นปรากฏขึ้นและหายไปอย่างรวดเร็วภายในกลุ่มหมอก
เมื่อพวกแมงกะพรุนแห่งห้วงลึกสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของลาโธเทป พวกมันก็แตกตื่นราวกับหนูที่พบแมว
แมงกะพรุนแห่งห้วงลึกทั้งหมดล้วนเป็นบริวารของลาโธเทป ผู้เป็นจ้าวแห่งห้วงลึก พวกมันจึงยอมจำนนต่อพลังของลาโธเทปโดยสัญชาตญาณ
ภาพที่เห็นช่างน่าประหลาด
แมงกะพรุนแห่งห้วงลึกหลายร้อยตัวลอยนิ่งกลางอากาศราวกับรูปปั้น
เย่เหรินเอ่ยคำเดียว เพียงคำเดียว
"ไป"
ทันทีที่คำพูดนั้นหลุดออกจากปาก แมงกะพรุนแห่งห้วงลึกทั้งหมดก็แตกตื่น พวกมันบินหนีเข้าไปในกลุ่มเมฆและหายไปในพริบตา ราวกับไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน
"..."
ทุกคนในเครื่องบินขนส่งเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
โดยเฉพาะลู่โหยว เขาพึมพำโดยไม่รู้ตัว
"ตอนนี้...เหมือนกับตอนนั้น..."
ครั้งที่แล้ว เย่เหรินก็ใช้วิธีนี้ไล่ภูตผีในห้วงลึกไปเหมือนกัน
‘ไม่มีทาง! เขาเก่งเกินไปแล้ว!’
เครื่องบินขนส่งกลับมาบินอย่างราบรื่นอีกครั้ง ในไม่ช้าก็ทะลุผ่านกลุ่มเมฆและบินอยู่ใต้ท้องฟ้าสีครามอีกครั้ง
นักบินได้สติกลับคืนมา เขาเผลอมองไปที่เย่เหริน ดวงตาของเขาเปลี่ยนจากความหวาดกลัวเป็นสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ
"ผม...เมื่อกี้ผม..."
เสียงของนักบินสั่นเล็กน้อย ใบหน้าของเขาร้อนผ่าว เขาละอายใจที่เคยสงสัยเย่เหริน
เย่เหรินยิ้มกว้างและตบไหล่เขา
"ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ"
นักบินจับจมูกอย่างเขินอาย เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่รู้สึกเหมือนมีอะไรติดอยู่ในลำคอ สุดท้ายเขาได้แต่พูดเบาๆ
"เมื่อกี้...เมื่อกี้ผมยังคิดว่าคุณมันบ้า แต่คุณแม่งเจ๋งจริงๆครับ! ผมไม่ค่อยเก่งเรื่องชมคนอื่น แต่...คุณแม่งโคตรเท่!"
เย่เหริน "...ถ้าชมคนอื่นไม่เก่งก็ไม่ต้องชมก็ได้ครับ"
ใครมันจะเก่งกาจขนาดนี้?
พวกเราทุกคนยังปลอดภัยดี!
เจียงซุ่ยและคนอื่นๆ ในที่สุดก็ผ่อนคลายลงได้ ทุกคนเหมือนเพิ่งเดินผ่านประตูผีมา ตอนนี้ใจยังเต้นแรงอยู่เลย
"พี่ช่วยฉันไว้อีกแล้ว..." เจียงซุ่ยพูดกับเย่เหรินด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
เย่เหรินกลอกตา "ถ้าไม่ช่วยเธอแล้วใครจะทำอาหารให้ฉันกิน? ปากฉันถูกเธอเลี้ยงจนเคยชินแล้ว ไม่มีเธอฉันคงไม่ชินแล้วล่ะ"
หลายวันมานี้ เจียงซุ่ยทำอาหารอร่อยๆหลากหลายให้เย่เหรินกินทุกวัน
ความรู้สึกดีๆที่เย่เหรินมีต่อเธอเกือบล้นทะลักออกมาแล้ว
แต่ทั้งสองคนก็เป็นคนขี้อาย จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้สารภาพรักกัน
เอาเถอะ พวกคุณจิ้นกันไปเรื่อยๆ เดี๋ยวคู่นี้ก็เป็นแฟนกันเองแหละ
ยวี้หลิงหลงที่อยู่ข้างๆเบ้ปากเล็กน้อย รู้สึกไม่ค่อยพอใจนิดหน่อย
ในเวลานี้ เครื่องบินรบอีกหกเครื่องที่ขาดการติดต่อไปก็กลับมาติดต่อได้แล้ว ลำตัวเครื่องบินแต่ละลำได้รับความเสียหายในระดับต่างๆ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องเผชิญความยากลำบากในการต่อสู้กับแมงกะพรุนแห่งห้วงลึกเช่นกัน
ผู้ยิ่งใหญ่คนอื่นๆในเครื่องบินรบต่างสอบถามสถานการณ์ผ่านวิทยุด้วยความร้อนใจ น้ำเสียงของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวล
"ยวี้หลิงหลง! สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง? เมื่อกี้เราขาดการติดต่อไป เด็กคนนั้นไม่เป็นอะไรใช่ไหม?" เสียงของหวังผิงอันดังมาจากวิทยุ
ยวี้หลิงหลงรับวิทยุ ใบหน้าของเธอปรากฏรอยยิ้มที่ภาคภูมิใจ
"แน่นอนว่าเขาไม่เป็นอะไร~ ถ้าเขาเป็นอะไรไป พวกนายจะรอดออกมาได้ยังไงล่ะ?"
หวังผิงอันที่อยู่อีกฝั่งถึงกับอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเบิกตากว้าง
"งั้นที่พวกแมงกะพรุนแห่งห้วงลึกถอยทัพไปกะทันหันก็เป็นเพราะ..."
"ใช่แล้ว ก็เป็นเพราะเสี่ยวเย่ปลดปล่อยมลทินระดับจินตภาพ ทำให้พวกแมงกะพรุนกลัวจนหนีไปเลย~"
ยวี้หลิงหลงพูดด้วยความภาคภูมิใจราวกับเป็นแม่จิ้งจอก
ภายในช่องสัญญาณวิทยุเงียบไปครู่หนึ่ง
"เด็กคนนั้น... ช่วยพวกเราเหรอ..." ผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งพูดเสียงเบา
"บทมันไม่ใช่อย่างนี้นี่ ไม่ใช่ว่าพวกเราควรจะเป็นฝ่ายปกป้องเขาเหรอ?" ผู้ยิ่งใหญ่อีกคนพูดติดตลกอย่างอึ้งๆ
"เฮ้อ ไม่ต้องพูดแล้ว พวกเราขายหน้าหมดแล้วเนี่ย!"
เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ต่างเอามือปิดหน้ามองฟ้าด้วยความอับอาย