ตอนที่แล้วChapter 30: ความชอบส่วนตัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 32: สันติภาพที่มาถึงช้า

Chapter 31: ค่ำคืนแห่งการนองเลือด


ทหารยามในค่ายดูไม่ค่อยมีสมาธิ ความสนใจของพวกมันถูกดึงไปหาเสียงระเบิดที่มาจากทิศทางหนึ่ง ทิศทางที่ตั้งฐานของนายพลเจินหนิง พวกมันแต่ละคนรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่นั่น แต่พวกมันก็ยังคงมีความหวังเล็ก ๆ ถ้าพันตรีซาหลูข่าชนะการต่อสู้ครั้งนี้ พวกมันก็จะมีชีวิตรอด จะไม่ถูกเอาไปเป็นเบี้ยบนโต๊ะเจรจา

ซาหลูข่าพูดไว้ดีมาก เขาได้ใจทหาร และไม่มีทหารคนไหนกังขาในตัวเขาเลย ณ ตอนนั้น

เพราะไม่มีสมาธิ พวกทหารยามจึงไม่ทันสังเกตเลยว่ามีเงาดำซุ่มซ่อนอยู่ระหว่างชั้นสามและหลังคา

ไม่เลย จนกระทั่ง...

ปัง!

เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัดและมือปืนกลที่ด่านหน้าของฐานก็ถูกเป่าหัว ร่างไร้หัวของมันหล่นจากหอสูงราว ๆ สิบเมตรลงมาที่พื้น

"มีผู้บุกรุก!" หน่วยลาดตระเวนตะโกนเสียงดัง

ฉินหรานยิงปืนออกไปอีกสองนัด สอยมือปืนกลที่หลบอยู่หลังเครื่องกีดขวาง สกิล [อาวุธปืน (ปืนกลเบา)] ระดับเริ่มต้นช่วยให้ฉินหรานสามารถยิงต่อเนื่องได้อย่างราบรื่น

ปัง! ปัง! ปัง!

หลังจากที่ฉินหรานจัดการกับสิ่งคุกคามใหญ่สุดทั้งสามได้แล้ว ทหารยามด้านล่างก็เริ่มรู้ตัวว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นและยิงสวนขึ้นมา

ฉินหรานโต้กลับด้วยห่ากระสุน จากนั้นก็ม้วนตัวไปข้าง ๆ หลบออกจากจุดซุ่มยิงแล้วหยิบปืนขึ้นมา ด้วยอัตรายิงกระสุนหนึ่งร้อยนัดต่อนาที ปากกระบอกปืน [HK-20] รัวกระสุนเข้าใส่ทหารยามเบื้องล่างราว ๆ ห้าคนเสียชีวิตในทันที

หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนกำลังตะโกนสั่งการเสียงดัง จรวดลูกหนึ่งพุ่งเข้าหามันทิ้งควันสีขาวจางเป็นทางตามหลังมา จรวดถูกยิงมาจากบนยอดตึก หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนหมดหวังทันที เมื่อเห็นความตายกำลังไล่ตามมา เขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากหลับตาลง

ตูม!

การระเบิดของจรวดนั้นรุนแรงกว่าของลูกระเบิดธรรมดามากนัก ไม่ว่าจะอำนาจหรือรัศมีทำลายล้าง แต่รัศมีทำลายล้างกว้างก็ไม่ได้ช่วยอะไรฉินหรานผู้ซึ่งไม่ได้เล็งเป้าให้ดีด้วยซ้ำเขาแค่ประมาณระยะยิงเอาเท่านั้น ทหารยามสองคนที่ซ่อนอยู่ด้านหลังกระโจมถูกระเบิดร่างเป็นชิ้น ๆ จรวดที่ยิงไปยังทะลุทะลวงกระโจมหลายหลังไปอีกระยะหนึ่ง

[ระเบิด: ก่อความเสียหาย 100 แต้มแก่เป้าหมาย เป้าหมายเสียชีวิต...]

[ระเบิด: ก่อความเสียหาย 100 แต้มแก่เป้าหมาย เป้าหมายเสียชีวิต...]

[ระเบิด: ก่อความเสียหาย 100 แต้มแก่เป้าหมาย เป้าหมายเสียชีวิต...]

...

การแจ้งเตือนอันแล้วอันเล่าเด้งขึ้นตรงหน้าฉินหราน

นี่เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น

เมื่อได้ครอบครองอาวุธยุทธภัณฑ์ของทหาร เขาก็ไม่จำเป็นต้องต่อสู้อย่างประหยัดฉินหรานโหลดเครื่องยิงจรวดอันอื่น และยกขึ้นบ่า

"ไปชดใช้กรรมของพวกแกในนรกก็แล้วกัน!" เขาตะโกนในขณะที่กดไกปืน

ตูม!

เครื่องยิงจรวดสำแดงอานุภาพการทำลายล้างอีกครั้ง

ตูม! ตูม! ตูม!

จรวดอีกสามลูกถูกยิงออกไป ทั้งค่ายตกอยู่ในเปลวเพลิง และทหารเกือบทั้งหมดถูกเผาจนแทบเป็นซาก

แต่ไม่ทั้งหมด

ยังมีทหารอีกสองคนซ่อนตัวอยู่ในมุมที่พ้นไปจากความโกรธแค้นของฉินหรานพอดี ฉินหรานยก [Tekken-II] ลงจากบ่าและโหลดกระสุดอีกครั้งอย่างรวดเร็ว เล็งไปที่ประตูเหล็กที่ชั้นบนของตึก พวกทหารกำลังมาตามจับฉินหรานและประตูเหล็กที่ล็อกไว้ไม่สามารถขวางพวกมันเอาไว้ได้หากพวกมันตั้งใจลงมือ ไม่ช้าฉินหรานก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากทางบันได เขาคิดภาพทหารสองคนพุ่งตรงเข้ามาทางตน

ปัง!

กระสุนนัดหนึ่งถูกยิงออกมาทำลายล็อกของประตูเหล็ก ในเวลาเดียวกัน ฉินหรานก็เหนี่ยวไกเครื่องยิงจรวดในมือ จรวดพุ่งเป็นเส้นตรงไปที่ประตูเหล็ก คลื่นความร้อนและประกายไฟจากการระเบิดเปลี่ยนทหารทั้งสองคนเป็นเถ้าถ่าน

[ระเบิด: ก่อความเสียหาย 100 แต้มแก่เป้าหมาย เป้าหมายเสียชีวิต...]

[ระเบิด: ก่อความเสียหาย 100 แต้มแก่เป้าหมาย เป้าหมายเสียชีวิต...]

หลังจากอ่านข้อความแจ้งเตือน ฉินหรานก็เริ่มเก็บรวบรวมอาวุธจากบนดาดฟ้า ที่จริงแล้ว ฉินหรานไม่สามารถนำอาวุธจากคลังอาวุธของซาหลูข่าไปได้ทั้งหมด แต่เขาก็ยังรู้ว่าควรเลือกชิ้นที่สามารถแบกไปได้ง่ายกว่า

เขาเจอกระเป๋าใบใหญ่จากในกระโจมหลังหนึ่งและยึดเอามาเป็นของตัวเองเพื่อใช้แบกอาวุธที่เลือกไว้ เครื่องยิงจรวด ปืนกลเบา ระเบิด ลูกกระสุน... เขาคว้าทุกอย่างที่สามารถใส่ลงในกระเป๋าได้ เขาจัดการทุกอย่างอย่างรวดเร็วเสร็จภายในเวลาแค่สองนาที เมื่อเขาสะพายกระเป๋าเข้ากับตัวเองก็รู้สึกว่าสัมภาระพิเศษหนักมาก

แม้ว่าค่าสถานะของเขาจะเลื่อนขึ้นไประดับหนึ่งแล้ว มันก็ยังเป็นน้ำหนักมากเกินแบกอยู่ดี แต่นั่นก็ไม่ได้ยับยั้งเขาจากการพยายามนำอาวุธกลับไป

อย่างไรเสียของพวกนี้ก็เป็นของที่เขาลูทมาได้นะ

ฉินหรานเดินลงจากชั้นสามและออกจากค่าย เขารู้ว่าระเบิดและเปลวไฟลุกโชนสว่างไสวจะไม่มีชาวเมืองผู้รอดชีวิตหรือโจรไหนกล้าบุกเข้ามา แต่ถ้าพวกทหารที่ตอนนี้กำลังต่อสู้อยู่กับกองกำลังของนายพลเจินหนิงสังเกตเห็นพวกมันต้องถอยทัพกลับมาแน่ ๆ

แค่คิดถึงจำนวนของทหารและรถถังพวกนั้นฉินหรานก็อดจะตัวสั่นนิด ๆ ไม่ได้

เขาเร่งฝีเท้าขึ้น แอ่งและหลุมจากการระเบิดถ่วงเวลาเขา พื้นคอนกรีตที่เคยเรียบถูกเปลี่ยนเป็นซากปรักหักพังและยังคงมีเปลวไฟลามเลียไปทั่วบริเวณ มันให้ความรู้สึกคุ้นเคยมาก มันทำให้เขานึกถึงพื้นที่ที่เขาจากมา

ฉินหรานเดินอ้อมหลุมบนพื้น

ส่วนซากร่างที่ถูกเผาอยู่ก้นหลุมน่ะเหรอ?

เขาเคยเห็นที่แย่กว่านี้มาแล้ว เขาไม่รู้สึกกลัวแล้ว

"การที่เรื่องพวกนี้กลายเป็นเรื่องปกตินี่น่ากลัวแฮะ" เขาหัวเราะกับตัวเองในขณะที่กระโดดข้ามร่างที่ถูกเผาร่างหนึ่ง

จู่ ๆ ร่างนั้นก็ขยับ!

มันยังไม่ตาย!

ฉินหรานพยายามหลบ แต่น้ำหนักที่เขาแบกมาทำให้เขาหลบไม่พ้น ทหารที่ถูกเผานั้นถูกกระตุ้นด้วยสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดสุดท้าย มันพยายามที่จะลากฉินหรานตายไปด้วยกันกับมัน

เปลวไฟวูบไหวภายใต้จันทร์เสี้ยวขณะที่กริชคมกริบเล่มหนึ่งพุ่งไปที่ส่วนท้องของฉินหราน

ก่อนที่กริชเล่มนั้นจะแทงถูก ฉินหรานก็รู้สึกได้ถึงความเย็นเยียบ ถ้ามันแทงเขาเข้าจริง ๆ ช่องท้องของเขาจะถูกเปิดออก และอวัยวะภายในก็จะทะลักออกมานอกร่างเสมือนของเขา ทำให้เขาตายได้

เขากัดฟันแน่นและพยายามหมุนตัว

เขาไม่อยากตาย

ดันเจี้ยนมือใหม่กำลังจะจบลงและเขาลูทของได้มากมาย

ฉินหรานไม่ได้เตรียมตัวมาตายเอาตอนนี้ หัวใจของเขาไม่ยินยอม

ความไม่ยินยอมนี้กลายเป็นเหมือนน้ำพุแห่งความหวังท่ามกลางความสิ้นหวังและทำให้ฉินหรานสามารถบิดตัวหลบคมมีดที่ไม่ควรหลบได้ได้

แม้ว่าฉินหรานจะเปลี่ยนท่าทางกะทันหัน แต่ทหารกึ่งเป็นกึ่งตายก็ไม่ได้หยุดมือ มันพุ่งมาข้างหน้าด้วยปรารถนาทั้งหมดที่เหลืออยู่ การเบี่ยงตัวหลบของฉินหรานเปิดช่องว่างบริเวณเอวให้มัน กริชที่พุ่งเข้ามาเกือบจะแทงผ่านผิวหนังและกรีดไตของเขาเป็นสองส่วน

"อ๊ากกก!" ทหารร้องคำรามเรียกหาความตายให้ฉินหรานและตัวเอง มันรู้ดีว่าการบาดเจ็บของมันรุนแรงเกินกว่าที่จะรอดชีวิตไปได้ แต่ถ้ามันสามารถลากฉินหรานตายไปกับมันได้ มันก็คุ้มค่าแล้ว

ความคิดนี้เปลี่ยนไปเป็นแรงกระตุ้น แรงกระตุ้นของมันกับความไม่ยินยอมของฉินหรานคุมเชิงกันอยู่อย่างนั้น

เหมือนกับว่าเวลาถูกหยุดไว้

มีเสียงเคร้งดังชัดจากกริชที่ปักไปบริเวณเอวของฉินหราน

สายตาของทหารใกล้ตายเปลี่ยนเป็นว่างเปล่า มันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมคมมีดถึงถูกหยุดไว้ได้? สายตาของทหารล่องลอย หลังจากการลงมือครั้งสุดท้ายชีวิตของมันก็สิ้นสุดลง

"อ๊ากกก!" ทหารส่งเสียงคำรามอย่างไม่พอใจและขยับมือของมันอีกนิด คราวนี้ปลายกริชแทงเข้าตัวฉินหรานแล้ว ทหารสายตาล่องลอยมองการโจมตีที่ได้ผลของตน รู้สึกพึงพอใจกับความสำเร็จ แต่ก็ไม่สามารถหนีพ้นจากชะตากรรมได้

ฉินหรานปลดกระเป๋าเป้หลังลงและถอยออกไปอย่างรวดเร็ว หลีกเลี่ยงการจู่โจมที่อาจจะตามมาและชกเข้าที่กระหม่อมของทหารอย่างแรง ฉกฉวยลมหายใจสุดท้ายของมัน

[ชก: จู่โจมถึงตาย ก่อความเสียหาย 6 แต้มต่อเป้าหมาย (การต่อสู้มือเปล่า (พื้นฐาน) 3x2) เป้าหมายเสียชีวิต...]

[ถูกแทง: ก่อความเสียหาย 35 แต้ม ติดสถานะเลือดไหล...]

หลังจากฉินหรานยืนยันการสังหารสำเร็จ เขาก็เลิกชายเสื้อขึ้นตรวจดูบาดแผล มันเป็นแผลยาวประมาณสิบเซนติเมตร เลือดก็ทะลักออกมาเรื่อย ๆ เมื่อเขาขยับตัว

ถัดไปด้านล่างบาดแผลคือ [M1905] ของเขา

การจู่โจมสุดท้ายของทหารนั่นโดนเข้าที่ด้ามปืนพอดี ฉินหรานหลบการลงมือครั้งสุดท้ายของทหารคนนั้นไม่พ้นแต่เขาคิดได้ว่าที่เอวมี [M1905] อยู่ แม้ว่ามันจะเป็นอาวุธแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะใช้เป็นอุปกรณ์ป้องกันไม่ได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์สิ้นหวังสุด ๆ แบบนี้

ฉินหรานพยายามหมุนตัวเพื่อใช้ [M1905] ที่เอวเป็นเกราะ แม้ว่ามันจะใช้ได้ผล เขาก็ยังได้รับบาดเจ็บ

แต่เขาก็ยังมีชีวิตอยู่

เขามองไปที่ศพทหารอีกครั้ง สัญญากับตัวเองว่าจะจดจำเหตุการณ์นี้เอาไว้

นี่เป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของฉินหราน

"ถ้าพลาดก็ถูกตีสินะ ฮึ? ดี หวังว่าแม็กกี้จะทำแผลเก่งอย่างที่เธอเคยบอกแล้วกัน!" ฉินหรานพึมพำกับตัวเอง

หลังจากปิดแผลและเอาของบางอย่างออกจากกระเป๋าให้เบาลง เขาก็มุ่งหน้ากลับไปยังที่ซ่อนที่คอลลีนและแม็กกี้รออยู่

ถึงแม้ว่ามันจะน่าเสียดาย แต่เขารู้ว่าเขาไม่สามารถแบกน้ำหนักกระเป๋าอย่างเต็มที่ได้เมื่อเขาบาดเจ็บ ไม่อย่างนั้นขากลับนี้อาจจะหมายถึงชีวิตเขาได้

เขาหนีจากความตายได้อีกครั้ง

เขาไม่อยากสบตากับยมทูตอีกครั้งเร็ว ๆ นี้หรอกนะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด