Chapter 31: ค่ำคืนแห่งการนองเลือด
ทหารยามในค่ายดูไม่ค่อยมีสมาธิ ความสนใจของพวกมันถูกดึงไปหาเสียงระเบิดที่มาจากทิศทางหนึ่ง ทิศทางที่ตั้งฐานของนายพลเจินหนิง พวกมันแต่ละคนรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่นั่น แต่พวกมันก็ยังคงมีความหวังเล็ก ๆ ถ้าพันตรีซาหลูข่าชนะการต่อสู้ครั้งนี้ พวกมันก็จะมีชีวิตรอด จะไม่ถูกเอาไปเป็นเบี้ยบนโต๊ะเจรจา
ซาหลูข่าพูดไว้ดีมาก เขาได้ใจทหาร และไม่มีทหารคนไหนกังขาในตัวเขาเลย ณ ตอนนั้น
เพราะไม่มีสมาธิ พวกทหารยามจึงไม่ทันสังเกตเลยว่ามีเงาดำซุ่มซ่อนอยู่ระหว่างชั้นสามและหลังคา
ไม่เลย จนกระทั่ง...
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัดและมือปืนกลที่ด่านหน้าของฐานก็ถูกเป่าหัว ร่างไร้หัวของมันหล่นจากหอสูงราว ๆ สิบเมตรลงมาที่พื้น
"มีผู้บุกรุก!" หน่วยลาดตระเวนตะโกนเสียงดัง
ฉินหรานยิงปืนออกไปอีกสองนัด สอยมือปืนกลที่หลบอยู่หลังเครื่องกีดขวาง สกิล [อาวุธปืน (ปืนกลเบา)] ระดับเริ่มต้นช่วยให้ฉินหรานสามารถยิงต่อเนื่องได้อย่างราบรื่น
ปัง! ปัง! ปัง!
หลังจากที่ฉินหรานจัดการกับสิ่งคุกคามใหญ่สุดทั้งสามได้แล้ว ทหารยามด้านล่างก็เริ่มรู้ตัวว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นและยิงสวนขึ้นมา
ฉินหรานโต้กลับด้วยห่ากระสุน จากนั้นก็ม้วนตัวไปข้าง ๆ หลบออกจากจุดซุ่มยิงแล้วหยิบปืนขึ้นมา ด้วยอัตรายิงกระสุนหนึ่งร้อยนัดต่อนาที ปากกระบอกปืน [HK-20] รัวกระสุนเข้าใส่ทหารยามเบื้องล่างราว ๆ ห้าคนเสียชีวิตในทันที
หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนกำลังตะโกนสั่งการเสียงดัง จรวดลูกหนึ่งพุ่งเข้าหามันทิ้งควันสีขาวจางเป็นทางตามหลังมา จรวดถูกยิงมาจากบนยอดตึก หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนหมดหวังทันที เมื่อเห็นความตายกำลังไล่ตามมา เขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากหลับตาลง
ตูม!
การระเบิดของจรวดนั้นรุนแรงกว่าของลูกระเบิดธรรมดามากนัก ไม่ว่าจะอำนาจหรือรัศมีทำลายล้าง แต่รัศมีทำลายล้างกว้างก็ไม่ได้ช่วยอะไรฉินหรานผู้ซึ่งไม่ได้เล็งเป้าให้ดีด้วยซ้ำเขาแค่ประมาณระยะยิงเอาเท่านั้น ทหารยามสองคนที่ซ่อนอยู่ด้านหลังกระโจมถูกระเบิดร่างเป็นชิ้น ๆ จรวดที่ยิงไปยังทะลุทะลวงกระโจมหลายหลังไปอีกระยะหนึ่ง
[ระเบิด: ก่อความเสียหาย 100 แต้มแก่เป้าหมาย เป้าหมายเสียชีวิต...]
[ระเบิด: ก่อความเสียหาย 100 แต้มแก่เป้าหมาย เป้าหมายเสียชีวิต...]
[ระเบิด: ก่อความเสียหาย 100 แต้มแก่เป้าหมาย เป้าหมายเสียชีวิต...]
...
การแจ้งเตือนอันแล้วอันเล่าเด้งขึ้นตรงหน้าฉินหราน
นี่เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น
เมื่อได้ครอบครองอาวุธยุทธภัณฑ์ของทหาร เขาก็ไม่จำเป็นต้องต่อสู้อย่างประหยัดฉินหรานโหลดเครื่องยิงจรวดอันอื่น และยกขึ้นบ่า
"ไปชดใช้กรรมของพวกแกในนรกก็แล้วกัน!" เขาตะโกนในขณะที่กดไกปืน
ตูม!
เครื่องยิงจรวดสำแดงอานุภาพการทำลายล้างอีกครั้ง
ตูม! ตูม! ตูม!
จรวดอีกสามลูกถูกยิงออกไป ทั้งค่ายตกอยู่ในเปลวเพลิง และทหารเกือบทั้งหมดถูกเผาจนแทบเป็นซาก
แต่ไม่ทั้งหมด
ยังมีทหารอีกสองคนซ่อนตัวอยู่ในมุมที่พ้นไปจากความโกรธแค้นของฉินหรานพอดี ฉินหรานยก [Tekken-II] ลงจากบ่าและโหลดกระสุดอีกครั้งอย่างรวดเร็ว เล็งไปที่ประตูเหล็กที่ชั้นบนของตึก พวกทหารกำลังมาตามจับฉินหรานและประตูเหล็กที่ล็อกไว้ไม่สามารถขวางพวกมันเอาไว้ได้หากพวกมันตั้งใจลงมือ ไม่ช้าฉินหรานก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากทางบันได เขาคิดภาพทหารสองคนพุ่งตรงเข้ามาทางตน
ปัง!
กระสุนนัดหนึ่งถูกยิงออกมาทำลายล็อกของประตูเหล็ก ในเวลาเดียวกัน ฉินหรานก็เหนี่ยวไกเครื่องยิงจรวดในมือ จรวดพุ่งเป็นเส้นตรงไปที่ประตูเหล็ก คลื่นความร้อนและประกายไฟจากการระเบิดเปลี่ยนทหารทั้งสองคนเป็นเถ้าถ่าน
[ระเบิด: ก่อความเสียหาย 100 แต้มแก่เป้าหมาย เป้าหมายเสียชีวิต...]
[ระเบิด: ก่อความเสียหาย 100 แต้มแก่เป้าหมาย เป้าหมายเสียชีวิต...]
หลังจากอ่านข้อความแจ้งเตือน ฉินหรานก็เริ่มเก็บรวบรวมอาวุธจากบนดาดฟ้า ที่จริงแล้ว ฉินหรานไม่สามารถนำอาวุธจากคลังอาวุธของซาหลูข่าไปได้ทั้งหมด แต่เขาก็ยังรู้ว่าควรเลือกชิ้นที่สามารถแบกไปได้ง่ายกว่า
เขาเจอกระเป๋าใบใหญ่จากในกระโจมหลังหนึ่งและยึดเอามาเป็นของตัวเองเพื่อใช้แบกอาวุธที่เลือกไว้ เครื่องยิงจรวด ปืนกลเบา ระเบิด ลูกกระสุน... เขาคว้าทุกอย่างที่สามารถใส่ลงในกระเป๋าได้ เขาจัดการทุกอย่างอย่างรวดเร็วเสร็จภายในเวลาแค่สองนาที เมื่อเขาสะพายกระเป๋าเข้ากับตัวเองก็รู้สึกว่าสัมภาระพิเศษหนักมาก
แม้ว่าค่าสถานะของเขาจะเลื่อนขึ้นไประดับหนึ่งแล้ว มันก็ยังเป็นน้ำหนักมากเกินแบกอยู่ดี แต่นั่นก็ไม่ได้ยับยั้งเขาจากการพยายามนำอาวุธกลับไป
อย่างไรเสียของพวกนี้ก็เป็นของที่เขาลูทมาได้นะ
ฉินหรานเดินลงจากชั้นสามและออกจากค่าย เขารู้ว่าระเบิดและเปลวไฟลุกโชนสว่างไสวจะไม่มีชาวเมืองผู้รอดชีวิตหรือโจรไหนกล้าบุกเข้ามา แต่ถ้าพวกทหารที่ตอนนี้กำลังต่อสู้อยู่กับกองกำลังของนายพลเจินหนิงสังเกตเห็นพวกมันต้องถอยทัพกลับมาแน่ ๆ
แค่คิดถึงจำนวนของทหารและรถถังพวกนั้นฉินหรานก็อดจะตัวสั่นนิด ๆ ไม่ได้
เขาเร่งฝีเท้าขึ้น แอ่งและหลุมจากการระเบิดถ่วงเวลาเขา พื้นคอนกรีตที่เคยเรียบถูกเปลี่ยนเป็นซากปรักหักพังและยังคงมีเปลวไฟลามเลียไปทั่วบริเวณ มันให้ความรู้สึกคุ้นเคยมาก มันทำให้เขานึกถึงพื้นที่ที่เขาจากมา
ฉินหรานเดินอ้อมหลุมบนพื้น
ส่วนซากร่างที่ถูกเผาอยู่ก้นหลุมน่ะเหรอ?
เขาเคยเห็นที่แย่กว่านี้มาแล้ว เขาไม่รู้สึกกลัวแล้ว
"การที่เรื่องพวกนี้กลายเป็นเรื่องปกตินี่น่ากลัวแฮะ" เขาหัวเราะกับตัวเองในขณะที่กระโดดข้ามร่างที่ถูกเผาร่างหนึ่ง
จู่ ๆ ร่างนั้นก็ขยับ!
มันยังไม่ตาย!
ฉินหรานพยายามหลบ แต่น้ำหนักที่เขาแบกมาทำให้เขาหลบไม่พ้น ทหารที่ถูกเผานั้นถูกกระตุ้นด้วยสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดสุดท้าย มันพยายามที่จะลากฉินหรานตายไปด้วยกันกับมัน
เปลวไฟวูบไหวภายใต้จันทร์เสี้ยวขณะที่กริชคมกริบเล่มหนึ่งพุ่งไปที่ส่วนท้องของฉินหราน
ก่อนที่กริชเล่มนั้นจะแทงถูก ฉินหรานก็รู้สึกได้ถึงความเย็นเยียบ ถ้ามันแทงเขาเข้าจริง ๆ ช่องท้องของเขาจะถูกเปิดออก และอวัยวะภายในก็จะทะลักออกมานอกร่างเสมือนของเขา ทำให้เขาตายได้
เขากัดฟันแน่นและพยายามหมุนตัว
เขาไม่อยากตาย
ดันเจี้ยนมือใหม่กำลังจะจบลงและเขาลูทของได้มากมาย
ฉินหรานไม่ได้เตรียมตัวมาตายเอาตอนนี้ หัวใจของเขาไม่ยินยอม
ความไม่ยินยอมนี้กลายเป็นเหมือนน้ำพุแห่งความหวังท่ามกลางความสิ้นหวังและทำให้ฉินหรานสามารถบิดตัวหลบคมมีดที่ไม่ควรหลบได้ได้
แม้ว่าฉินหรานจะเปลี่ยนท่าทางกะทันหัน แต่ทหารกึ่งเป็นกึ่งตายก็ไม่ได้หยุดมือ มันพุ่งมาข้างหน้าด้วยปรารถนาทั้งหมดที่เหลืออยู่ การเบี่ยงตัวหลบของฉินหรานเปิดช่องว่างบริเวณเอวให้มัน กริชที่พุ่งเข้ามาเกือบจะแทงผ่านผิวหนังและกรีดไตของเขาเป็นสองส่วน
"อ๊ากกก!" ทหารร้องคำรามเรียกหาความตายให้ฉินหรานและตัวเอง มันรู้ดีว่าการบาดเจ็บของมันรุนแรงเกินกว่าที่จะรอดชีวิตไปได้ แต่ถ้ามันสามารถลากฉินหรานตายไปกับมันได้ มันก็คุ้มค่าแล้ว
ความคิดนี้เปลี่ยนไปเป็นแรงกระตุ้น แรงกระตุ้นของมันกับความไม่ยินยอมของฉินหรานคุมเชิงกันอยู่อย่างนั้น
เหมือนกับว่าเวลาถูกหยุดไว้
มีเสียงเคร้งดังชัดจากกริชที่ปักไปบริเวณเอวของฉินหราน
สายตาของทหารใกล้ตายเปลี่ยนเป็นว่างเปล่า มันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมคมมีดถึงถูกหยุดไว้ได้? สายตาของทหารล่องลอย หลังจากการลงมือครั้งสุดท้ายชีวิตของมันก็สิ้นสุดลง
"อ๊ากกก!" ทหารส่งเสียงคำรามอย่างไม่พอใจและขยับมือของมันอีกนิด คราวนี้ปลายกริชแทงเข้าตัวฉินหรานแล้ว ทหารสายตาล่องลอยมองการโจมตีที่ได้ผลของตน รู้สึกพึงพอใจกับความสำเร็จ แต่ก็ไม่สามารถหนีพ้นจากชะตากรรมได้
ฉินหรานปลดกระเป๋าเป้หลังลงและถอยออกไปอย่างรวดเร็ว หลีกเลี่ยงการจู่โจมที่อาจจะตามมาและชกเข้าที่กระหม่อมของทหารอย่างแรง ฉกฉวยลมหายใจสุดท้ายของมัน
[ชก: จู่โจมถึงตาย ก่อความเสียหาย 6 แต้มต่อเป้าหมาย (การต่อสู้มือเปล่า (พื้นฐาน) 3x2) เป้าหมายเสียชีวิต...]
[ถูกแทง: ก่อความเสียหาย 35 แต้ม ติดสถานะเลือดไหล...]
หลังจากฉินหรานยืนยันการสังหารสำเร็จ เขาก็เลิกชายเสื้อขึ้นตรวจดูบาดแผล มันเป็นแผลยาวประมาณสิบเซนติเมตร เลือดก็ทะลักออกมาเรื่อย ๆ เมื่อเขาขยับตัว
ถัดไปด้านล่างบาดแผลคือ [M1905] ของเขา
การจู่โจมสุดท้ายของทหารนั่นโดนเข้าที่ด้ามปืนพอดี ฉินหรานหลบการลงมือครั้งสุดท้ายของทหารคนนั้นไม่พ้นแต่เขาคิดได้ว่าที่เอวมี [M1905] อยู่ แม้ว่ามันจะเป็นอาวุธแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะใช้เป็นอุปกรณ์ป้องกันไม่ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์สิ้นหวังสุด ๆ แบบนี้
ฉินหรานพยายามหมุนตัวเพื่อใช้ [M1905] ที่เอวเป็นเกราะ แม้ว่ามันจะใช้ได้ผล เขาก็ยังได้รับบาดเจ็บ
แต่เขาก็ยังมีชีวิตอยู่
เขามองไปที่ศพทหารอีกครั้ง สัญญากับตัวเองว่าจะจดจำเหตุการณ์นี้เอาไว้
นี่เป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของฉินหราน
"ถ้าพลาดก็ถูกตีสินะ ฮึ? ดี หวังว่าแม็กกี้จะทำแผลเก่งอย่างที่เธอเคยบอกแล้วกัน!" ฉินหรานพึมพำกับตัวเอง
หลังจากปิดแผลและเอาของบางอย่างออกจากกระเป๋าให้เบาลง เขาก็มุ่งหน้ากลับไปยังที่ซ่อนที่คอลลีนและแม็กกี้รออยู่
ถึงแม้ว่ามันจะน่าเสียดาย แต่เขารู้ว่าเขาไม่สามารถแบกน้ำหนักกระเป๋าอย่างเต็มที่ได้เมื่อเขาบาดเจ็บ ไม่อย่างนั้นขากลับนี้อาจจะหมายถึงชีวิตเขาได้
เขาหนีจากความตายได้อีกครั้ง
เขาไม่อยากสบตากับยมทูตอีกครั้งเร็ว ๆ นี้หรอกนะ