Chapter 286 : นักสู้ชาวอินเดียโจมตีคุนหลุน – จี้รู่เยว่ลงมือ (3) (ฟรี)
กระบี่ยาวสีฟ้าเหมันต์เจาะทะลวงผ่านขั้วหัวใจของพวกเขาไป
ยิ่งไปกว่านั้นน้ำแข็งและเหมันต์ยังแช่แข็งร่างของพวกเขาด้วยความเร็วอันน่าสะพรึงและเพียงพริบตาเดียวพวกเขาก็สูญสิ้นสติไปอย่างสมบูรณ์
คนทั้งสองถูกเปลี่ยนกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งมีชีวิตในชั่วพริบตา
“ทลาย” จี้รู่เยว่เอ่ยเสียงเรียบ
รูปปั้นน้ำแข็งทั้งสองแตกสลายไปในพริบตา ระเบิดออกแปรเปลี่ยนเป็นก้อนน้ำแข็งกระจายเกลื่อนพื้น
นักสู้ขอบเขตที่9สองคนถูกสังหารลงในชั่วพริบตาง่ายๆเช่นนี้!
ภาพนี้ล้วนตกอยู่ในสายตาของลู่ผิงไห่ จ้าวติงซาน หลี่เหว่ยกั๋วและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆของกองพลก่อสร้าง
สตรีผู้นี้คือใครกัน?
เธอกลับสามารถสังหารนักสู้ขอบเขตที่9ได้ในกระบวนท่าเดียวอย่างเฉียบขาดและง่ายดายเช่นนี้
ยิ่งไปกว่านั้นหนิวเจียวกับการะยังไม่เคยถูกโจมตีเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ไม่ว่าจะเป็นพลังชีวิต พลังเวทย์หรือพลังกายพวกเขาทั้งสองล้วนมีกันเต็มเปี่ยม
ในการจัดการกับลู่ผิงไห่นั้นอีกฝ่ายใช้เพียงพลังจากกระดูกแขนแปลกประหลาดชิ้นนั้นเพียงเท่านั้น
กล่าวอีกนัยน์หนึ่งก็คือสตรีผู้นี้สามารถสังหารนักสู้ขอบเขตที่9ในสภาพสมบูรณ์พร้อมที่สุดได้ในการโจมตีครั้งเดียว!
กองพลก่อสร้างของพวกเขามีคนที่ทรงพลังเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ลู่ผิงไห่รู้ได้ทันควัน
เดี๋ยวสิก่อนนะอย่าบอกนะว่าเธอคือ...คนที่อาเจ๊เย่พูดถึง?
“ผู้นำลู่ไม่ต้องห่วงเธอยินดีจะลงมือช่วยดังนั้นพวกเราไม่เป็นไรเลย” เสียงของหลินเซวียนดังขึ้นจากทางด้านหลังของลู่ผิงไห่
จี้รู่เยว่พาเขามาที่นี่ด้วย
ลู่ผิงไห่จ้องมองหลินเซวียนด้วยแววตาตกตะลึงและพบว่ายากจะเชื่อนัก
หลังจากจี้รู่เยว่ลงมือสังหารหนิวเจียวกับการะเธอกลับยังไม่ได้จากไปหากแต่กลับจับจ้องมองดูกระดูกแขนที่ตกอยู่บนพื้นท่อนนั้นตาเขม็ง
ลำแสงเย็นเยียบถูกยิงออกมาจากหว่างนิ้วทั้งสองของเธอและเจาะทะลวงเข้าไปในกระดูกแขนชิ้นนั้น
ปัง
กระดูกแขนชิ้นนั้นพลันกระดอนออกไปและหลบการโจมตีไปได้อย่างเหนือคาด
จากนั้นสนามแม่เหล็กแปลกประหลาดก็ปรากฏออกมารอบๆกระดูกแขนก่อนที่ทั้งพื้นดิน ไม้และเลือดเนื้อจะถูกดูดเข้ามารวมกัน
เพียงเสี้ยวพริบตาเดียวมันก็ก่อร่างขึ้นเป็นช้างขนาดมหึมาโดยมีกระดูกแขนท่อนนั้นเป็นหัวใจ ดินละไม้เป็นผิวหนังและเลือดเนื้อเป็นแกนกลาง
ช้างยักษ์ตนนั้นอย่างน้อยก็มีขนาดลำตัวยาวกว่า10เมตรและมีเสียงคำรามที่สะเทือนฟ้าสะท้านดินยิ่งนัก
โดยเฉพาะงาคู่นั้นของมันที่ทั้งโค้งมนและแหลมคมยิ่ง
พวกมันแลดูหยาบกร้านและอันตรายราวกับสามารถเจาะทะลวงทุกสิ่งได้ก็ไม่ปาน
“เคล็ดวิชาควบกลั่นสร้างสรรค์งั้นรึ?” จี้รู่เยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อย
เธอสะบัดมือเบาๆและทันใดนั้นกระบี่สีดำขลับที่แขวนอยู่ตรงเอวของเธอก็พลันหลุดออกจากฝัก
ช้างยักษ์กระทืบเท้าลงบนพื้นอย่างแรงและกระโจนเข้าใส่ทันที!
ในเวลานั้นแลดูราวกับภูเขาขนาดยักษ์ที่กำลังล่วงหล่นลงจากฟ้าสู่พื้นดินและหมายจะกำราบทุกสรรพสิ่งก็ไม่ปาน
จี้รู่เยว่แทงกระบี่ออกไป
กระบี่นั้นดูเหมือนจะช่วงชิงแสงสว่างทั้งหมดไปด้วย
สายตาของพวกเขาทุกคนล้วนพากันมองไปยังการห้ำหั่นนั้นไม่วางตา
ตูม!
กระบี่สีดำประหนึ่งมังกรทมิฬก็ไม่ปาน
พริบตาที่มันปะทะเข้ากับร่างของช้างยักษ์ งาข้างช้างตัวนั้นพลันแตกละเอียดและร่างกายของมันเองก็กระจัดกระจายสลายไปราวกับก้อนเต้าหู้!
เพียงเสี้ยวพริบตาเดียวร่างของช้างยักษ์ก็แปรเปลี่ยนเป็นเถ้าธุลีอย่างง่ายดายราวกับกิ่งไม้แห้งตายซาก
พรวด
กระดูกแขนเองก็ดูเหมือนจะสูญสิ้นพลังไปจนหมดและหล่นลงบนพื้น
จี้รู่เยว่เดินเข้าไปและขยับนิ้วสองนิ้วไปมาเล็กน้อยเพื่อสลักอักขระแปลกประหลาดบางอย่างลงบนกระดูกแขนท่อนนั้นก่อนจะเก็บมันเข้ากระเป๋าไป
“ข้าจะกลับไปยังซากโบราณสถานคุนหลุนก่อน ถ้าเจ้ามีคำถามอะไรก็จงมาหาข้า” หลังจากจี้รู่เยว่เอ่ยจบเธอก็กลับเข้าไปยังซากโบราณสถานคุนหลุนอย่างรวดเร็วเหมือนขามา
ลู่ผิงไห่และคนอื่นๆสัมผัสได้เพียงสายลมหอบใหญ่ที่พัดผ่านไปก่อนที่ร่างของอีกฝ่ายจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“เพียงไม่ถึงสามนาทีก็มีนักสู้ขอบเขตที่9ตายไปแล้วสองคนแถมช้างยักษ์น่าสะพรึงนั่นก็ยังหายไปด้วย...” ลู่ผิงไห่เอ่ยออกมาด้วยแววตาโง่งม
เนื่องจากหนิวเจียวอัญเชิญช้างน่าสะพรึงนั่นออกมาผ่านกระดูกแขนท่อนนั้นนั่นเองทำให้เมืองคุนหลุนตกอยู่ในสภาพน่าสังเวชเช่นนี้
ในความคิดของลู่ผิงไห่ช้างยักษ์ตัวนั้นอย่างน้อยก็เป็นขอบเขตที่9เลเวล9หรือบางทีอาจจะเหนือกว่าด้วยซ้ำ
“หลินเซวียนนายไปตามผู้หญิงคนนั้นมาช่วยหรอ?” ลู่ผิงไห่ถามขึ้น
หลินเซวียนพยักหน้ารับ “ผู้นำลู่ผมรู้ว่าคุณน่าจะมีเรื่องให้ถามมากมาย ค่อยถามเธอตอนเธออารมณ์ดีๆเถอะ”
“ตกลง!” ลู่ผิงไห่ไม่ใคร่สนใจอาการบาดเจ็บของตนเท่าไหร่นัก
เขาปาดเลือดบนร่างกายออกและพุ่งหายเข้าไปในซากโบราณสถานคุนหลุน
หลินเซวียนกับหลี่เหว่ยกั๋วสบตามองกัน
“ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามันเกิดอะไรขึ้น...” หลี่เหว่ยกั๋วยกมือขึ้นเกาหัว
หลินเซวียนโยนโพชั่นฟื้นฟูพลังชีวิตชั้นเยี่ยมหลายขวดให้กับเขา “เอาน่าเหล่าหลี่...คุณรู้น้อยเกินไปดังนั้นไม่เข้าใจก็ไม่แปลก”
หลี่เหว่ยกั๋วเอ่ย “...ฉันว่าคำพูดนายมันฟังดูแปลกๆนะ”