ตอนที่ 24 ชำระแค้น!
ตอนที่ 24 ชำระแค้น!
ตูม! ตูม! ตูม!
เสียงระเบิดกึกก้องดังสนั่น ขณะที่มารอสนีซึ่งแผ่กลิ่นอายทำลายล้างตกลงมาจากท้องฟ้า!
พวกมันราวกับเคียวของยมทูตที่กวาดล้างและสังหารคนของตระกูลหลิว
ทุกครั้งที่สายฟ้าตกลงมา จะมีเงาร่างหนึ่งระเบิดกลายเป็นหมอกเลือดในทันที!
ปัง ปัง ปัง——
“อ๊าก!”
เสียงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งและโหยหวนราวกับเสียงของวิญญาณที่ถูกทรมาน ความหวาดกลัวดังก้องไปทั่วทั้งลานกว้าง ภาพนั้นช่างเหมือนกับนรกบนดิน เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมและนองเลือด!
ภายในเขตแดนของค่ายกล ร่างกายทับถมกันจนกลายเป็นภูเขา เลือดนองไปทั่วทุกหนแห่ง
“น่ากลัวเกินไปแล้ว…”
แม้แต่คนของตระกูลเยี่ยที่เห็นภาพนั้นก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายด้วยความหวาดกลัว หัวใจเต็มไปด้วยความสั่นสะท้าน
เยี่ยหานจ้องมองค่ายกลสีดำ ด้วยความตกตะลึงในใจ เขาไม่คิดว่ายันต์มารอสนีจะทรงพลังและน่ากลัวถึงเพียงนี้!
แม้แต่ผู้แข็งแกร่งอย่างหลิวเจิ้นเทียนก็ยังไม่สามารถต้านทานมารอสนีได้ สุดท้ายก็กลายเป็นหมอกเลือดทันที
ไม่นานนัก บนแท่นหินนั้นเต็มไปด้วยเลือดที่ไหลหลาก เศษซากศพกระจัดกระจาย และกลิ่นอายของความบ้าคลั่งและนองเลือดลอยคละคลุ้งไปทั่วอากาศ
ในตอนนั้นเอง คนของตระกูลหลิวเพิ่งจะตระหนักถึงความหมายที่แท้จริงของความสิ้นหวังและไร้หนทาง!
การสังหารที่เกือบจะโหดเหี้ยมนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น แต่คนของตระกูลหลิวต่างล้มตายจมกองเลือด ไม่มีใครเหลือรอด
เลือดที่หลั่งไหลซึมลงสู่พื้น เศษชิ้นส่วนของร่างกายกระจัดกระจายไปทั่วในสภาพที่น่าสยดสยองและน่าขยะแขยง
ครืน——
ในขณะนั้นบนท้องฟ้า พลังของมารอสนีใช้ไปเพียงไม่ถึงหนึ่งในสาม
แต่ไม่นานเมฆสายฟ้าสีดำก็ค่อย ๆ จางหายไป ม่านสายฟ้าที่ปกคลุมเหนือคฤหาสน์เยี่ยก็กลายเป็นโปร่งใสและเลือนหายไป
กลิ่นอายทำลายล้างและกดดันที่ปกคลุมอยู่จางหายไปทันที ทำให้คนของตระกูลเยี่ยได้หายใจอย่างโล่งอก
ส่วนตระกูลหลิว… ถูกทำลายสิ้น!
แม้แต่แมงป่องวิญญาณภูผาเองก็ถูกมารอสนีทำลายจนร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลและตายสนิท
ในตอนนั้นทุกสายตาหันไปยังแท่นหิน มองไปที่ร่างในชุดคลุมสีเขียวของเยี่ยหานด้วยความเคารพและเกรงขาม
การที่ตระกูลหลิวทั้งกองทัพถูกทำลาย ล้วนเป็นเพราะเขา!
“ไม่อยากเชื่อเลย ว่าผู้ที่ช่วยชีวิตพวกเราตระกูลเยี่ยจะเป็นเขา...”
ผู้อาวุโสใหญ่และเหล่าผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ต่างสบตากันด้วยความลึกซึ้ง พวกเขารู้ดีว่าหากไม่มีเยี่ยหานตระกูลเยี่ยคงจบสิ้นไปนานแล้ว
ในใจพวกเขารู้สึกละอายใจ เพราะเคยปฏิบัติต่อเยี่ยหานอย่างเย็นชาและดูถูกเหยียดหยามหลายครั้ง
เยี่ยหานมองดูศพที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นด้วยสายตาเรียบเฉย ก่อนจะเดินไปยังร่างอันใหญ่โตของแมงป่องวิญญาณภูผา
เมื่อเห็นว่าร่างของมันไร้ชีวิตโดยสิ้นเชิง ในใจเขารู้สึกเสียดายไม่น้อย
หากแมงป่องวิญญาณภูผานี้สามารถอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาได้ มันคงเป็นผู้ช่วยที่ทรงพลังยิ่ง
แต่ก็น่าเสียดาย ที่แมงป่องวิญญาณภูผาถูกมารอสนีทำลายร่างจนย่อยยับไปหมดแล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้ร่างจะถูกทำลายแต่ทรัพย์สมบัติบนร่างของมันยังคงอยู่
เมื่อคิดได้เช่นนั้นเยี่ยหานก็ห่อหุ้มฝ่ามือด้วยพลังสีทอง ก่อนจะฟันลงบนร่างของมัน
ฉึก!
หัวและท้องของแมงป่องวิญญาณภูผาถูกพลังฝ่ามือผ่าออก เผยให้เห็นกลุ่มแสงสีส้มน้ำตาลและกระดูกใสเป็นประกายที่หล่นออกมา
“นี่คือ... วิญญาณของแมงป่องวิญญาณภูผา!”
เมื่อเห็นกลุ่มแสงนี้ ผู้อาวุโสใหญ่และคนอื่น ๆ ต่างเข้ามามองด้วยสายตาลุกวาว
ในกลุ่มแสงขนาดเท่าฝ่ามือนี้ มีวิญญาณขนาดย่อส่วนของแมงป่องวิญญาณภูผาซ่อนอยู่ นี่คือวิญญาณสัตว์อสูร!
วิญญาณสัตว์อสูรเป็นทรัพย์สมบัติล้ำค่าที่ใช้สำหรับการฝึกฝน
โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ระดับจิตวิญญาณพิสุทธิ์จำเป็นต้องใช้วิญญาณสัตว์อสูรในการฝึกฝน
ยิ่งวิญญาณสัตว์อสูรมีระดับสูง พลังที่ได้รับก็ยิ่งแข็งแกร่ง
หากเยี่ยไป่หลี่สามารถใช้วิญญาณของแมงป่องวิญญาณภูผานี้ในการฝึกฝนมาก่อน โอกาสชนะในการต่อสู้กับหลิวเจิ้นเทียนคงจะสูงกว่านี้
“เยี่ยหาน! วิญญาณของแมงป่องวิญญาณภูผานี้ไม่ธรรมดา มันเป็นวิญญาณระดับเก้า หากเจ้าใช้มันในการฝึกฝนหลังจากที่เจ้าทะลวงเข้าสู่ระดับจิตวิญญาณพิสุทธิ์พลังของเจ้าจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างมากแน่นอน”
ผู้อาวุโสใหญ่กล่าวด้วยสายตาเฉียบแหลมและน้ำเสียงจริงจัง
“ใช่แล้ว ด้วยพรสวรรค์ของเจ้า ข้าเชื่อว่าในอีกไม่กี่ปีเจ้าจะต้องบรรลุถึงระดับจิตวิญญาณพิสุทธิ์ได้แน่นอน วิญญาณนี้สำคัญสำหรับเจ้ามาก”
เหล่าผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ต่างลูบเคราและพยักหน้าเห็นด้วย
แต่ในใจของเยี่ยหานกลับไม่สนใจวิญญาณระดับเก้านี้เลย
เขาวางแผนไว้ว่าหากเขาต้องทะลวงเข้าสู่ระดับจิตวิญญาณพิสุทธิ์ เขาจะต้องใช้วิญญาณที่มีระดับสูงกว่านี้แทนวิญญาณของแมงป่องวิญญาณภูผา
แน่นอนว่าเยี่ยหานก็ไม่มีทางมอบวิญญาณสัตว์อสูรนี้ให้กับเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลเยี่ยแน่
ท้ายที่สุดแล้ว เขายังไม่ลืมการกระทำที่โหดร้ายที่พวกเขาเคยทำต่อเขาในอดีต
“ไม่รู้ว่ากระดูกอสูรชิ้นนี้จะมีวิชาวิญญาณอยู่หรือไม่”
เยี่ยหานเก็บวิญญาณสัตว์อสูรไว้ ก่อนจะหันไปมองกระดูกอสูรในมือ
ในกระดูกของสัตว์อสูร มักมีโอกาสที่จะเกิดวิชาวิญญาณขึ้นได้
เช่นเดียวกับวิชาพยัคฆ์สวรรค์คำรามทลายทองที่เขาเคยได้มาจากกระดูกของสัตว์อสูรสิงโตเพลิงมาก่อน
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้เยี่ยหานก็ส่งพลังจิตแทรกเข้าไปในกระดูกอสูรนั้น ผ่านไปไม่กี่นาที เขาก็ถอนหายใจเล็กน้อยด้วยความผิดหวัง ก่อนจะโยนกระดูกอสูรทิ้งไป
เพราะในกระดูกอสูรชิ้นนี้ ไม่มีวิชาวิญญาณใด ๆ อยู่เลย
จากนั้นเยี่ยหานหันไปมองผู้อาวุโสใหญ่ และกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
“ท่านผู้อาวุโสใหญ่ รวมกำลังคนให้พร้อม ตอนนี้แหละคือเวลาที่ดีที่สุดในการชำระแค้นกับตระกูลหลิว…”
“ชำระแค้นตระกูลหลิว?!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนต่างตกใจและสูดหายใจเข้า
เหล่าผู้อาวุโสหลายคนพยักหน้าเห็นด้วย นี่เป็นโอกาสที่จะตัดรากถอนโคนให้สิ้นซาก!
เมื่อพูดจบ กองกำลังของตระกูลเยี่ยรวมตัวกันอีกครั้ง และเคลื่อนพลอย่างยิ่งใหญ่ตรงไปยังคฤหาสน์ของตระกูลหลิว
……
ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิว
คฤหาสน์อันใหญ่โตและหรูหราแห่งนี้ยังคงมีผู้แข็งแกร่งของตระกูลหลิวหลายคนคอยลาดตระเวนและเฝ้าระวัง
ตรงแท่นหินกลางลาน มีผู้อาวุโสสองคนยืนอยู่ ทั้งสองคือหลิวเยวี่ยและหลิวเสวียนผู้อาวุโสผู้ดูแลคฤหาสน์
“ผ่านไปหลายชั่วยามแล้ว ทำไมท่านประมุขยังไม่มีข่าวใด ๆ กลับมาเลย หรือว่ามีอะไรผิดปกติ?”
ผู้อาวุโสหลิวเยวี่ยขมวดคิ้ว รู้สึกกังวลและไม่สบายใจ
“ไม่ต้องห่วง ครั้งนี้ตระกูลหลิวของเราส่งผู้แข็งแกร่งไปมากมายตระกูลเยี่ยไม่มีทางต้านทานได้ อีกทั้งเจ้ายังลืมไปหรือว่า เรามีสัตว์วิญญาณแมงป่องวิญญาณภูผาออกไปด้วย คิดว่าในตอนนี้ตระกูลเยี่ยคงถูกกวาดล้างจนสิ้นซากแล้ว”
ผู้อาวุโสหลิวเสวียนส่ายหน้าอย่างหยิ่งผยอง ก่อนจะกล่าวอย่างมั่นใจ
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้อาวุโสหลิวเยวี่ยก็พยักหน้าเห็นด้วย
อย่างน้อยก็มีหลิวเจิ้นเทียนและแมงป่องวิญญาณภูผา ผู้แข็งแกร่งระดับจิตวิญญาณพิสุทธิ์สองคน พลังของพวกเขาคงพอที่จะทำลายล้างตระกูลเยี่ยได้แล้ว
แต่ในขณะนั้นเอง เสียงอันเย็นเยียบก็ดังขึ้นจากที่ใดที่หนึ่ง
“ไม่ต้องรอ พวกเจ้า… ตระกูลหลิวทั้งกองทัพถูกกวาดล้างจนสิ้นซากแล้ว!”
ตูม! ตูม! ตูม!
“ศัตรูบุกโจมตี!”
“อ๊าก!”
เสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่วคฤหาสน์ตระกูลหลิว
ทันใดนั้นประตูของห้องโถงใหญ่ก็ถูกระเบิดจนแตกเป็นเสี่ยง ร่างของศิษย์ตระกูลหลิวที่เปื้อนเลือดและมีกระดูกแตกหักหลายคนถูกโยนลงมาต่อหน้าผู้อาวุโสทั้งสอง
“อะไรนะ?!”
ดวงตาของหลิวเยวี่ยและหลิวเสวียนหดแคบลง พวกเขาเงยหน้าขึ้นมองเห็นเหล่าคนชุดดำจากตระกูลเยี่ยที่เดินเรียงแถวเข้ามา
“กองกำลังของตระกูลเยี่ย!”
ในหัวของพวกเขาราวกับฟ้าผ่าลงกลางใจ ทั้งสองยืนนิ่งอย่างตกตะลึง ร่างกายแข็งค้างขยับไม่ได้
“ฆ่าพวกมันให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว!”
เยี่ยหานก้าวเข้าสู่ประตูใหญ่ของคฤหาสน์ตระกูลหลิว พร้อมกับสั่งด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
“รับทราบ!”
ตูม! ตูม! ตูม!
เหล่าศิษย์ตระกูลเยี่ยกว่าร้อยคนระเบิดพลังวิญญาณออกมา ก่อนพุ่งเข้าล้อมและสังหารศิษย์ตระกูลหลิวอย่างรวดเร็ว
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!
“อ๊าก!!”
ความโกลาหลเกิดขึ้นทั่วทั้งคฤหาสน์ตระกูลหลิว ศิษย์ทุกคนต่างตื่นตระหนกและสับสน
ในที่สุดผู้อาวุโสหลิวเสวียนและหลิวเยวี่ยก็ตื่นจากอาการช็อก ใบหน้าของพวกเขาซีดขาวดั่งกระดาษ และแทบทรุดลงกับพื้น
พวกเขารู้ดีแล้วว่า แผนการของหลิวเจิ้นเทียนในการล้อมปราบตระกูลเยี่ยล้มเหลวโดยสิ้นเชิง!