ตอนที่ 22 แมงป่องวิญญาณภูผา
ตอนที่ 22 แมงป่องวิญญาณภูผา
บนพื้นหินหยก มีคราบเลือดสีแดงฉานขยายตัวไปไกลหลายสิบเมตร
เมื่อมองไปยังปลายทาง จะเห็นร่างของผู้อาวุโสหลิวสือนอนราบกับพื้นอย่างหมาเน่า พลังชีวิตของเขาอ่อนแรงเต็มที
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยคราบเลือด มองเห็นความเจ็บปวดอย่างชัดเจน กระดูกซี่โครงหลายซี่ถูกเสียงคำรามทำลายจนแหลกเป็นผุยผง!
เยี่ยหานหยิบดาบเล่มหนึ่งจากพื้น ก่อนจะเดินตรงไปยังร่างของผู้อาวุโสหลิวสือ เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพูดเสียงเรียบ ๆ ว่า
“เจ้าจะลอกหนังข้าไม่ใช่หรือ?”
แม้คำพูดจะฟังดูสงบเยือกเย็น แต่กลับแฝงด้วยความเย็นเยียบ ราวกับเสียงสะท้อนจากความลึกของนรกอันลี้ลับ
เมื่อเห็นใบหน้าอันเยือกเย็นนั้น หลิวสือรู้สึกราวกับตกลงไปในห้วงลึกของหุบเหว ร่างกายทั้งร่างเย็นเยียบจนขนลุก สายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ในใจของเขาหวาดผวาอย่างที่สุด เขาไม่คาดคิดเลยว่าตัวเองจะพ่ายแพ้ให้กับเด็กหนุ่มจากตระกูลเยี่ย!
“อย่าดีใจเร็วไปนัก! ตระกูลหลิวของข้าจะฆ่าล้างพวกเจ้าตระกูลเยี่ยในไม่ช้านี้!”
ตูม!
สายตาของหลิวสือเปล่งประกายชั่วร้ายในส่วนลึกของดวงตา ทันใดนั้นพลังวิญญาณพลันปะทุขึ้นจากฝ่ามือของเขา เขาตั้งใจใช้พลังเฮือกสุดท้ายในการโจมตีลอบกัด!
แต่เยี่ยหานมองเห็นทุกอย่างชัดเจน เขาจะยอมให้ตาเฒ่าผู้นี้ทำตามแผนได้อย่างไร?
เยี่ยหานไม่ลังเลแม้แต่น้อย มือยกขึ้นแล้วดาบก็ฟาดลงมา ทันใดนั้นแสงสีเงินก็วาดผ่านอากาศ!
ฉับ!
“อ๊าก——”
เสียงกรีดร้องดังลั่น เลือดพุ่งทะยานขึ้นสูงหลายเมตร และจากนั้นหัวของหลิวสือก็กลิ้งตกลงมากระแทกพื้น
“ผู้อาวุโสหลิวสือถูกฆ่าแล้ว!”
เหล่าศิษย์ตระกูลหลิวที่กำลังต่อสู้ต่างหันมองเห็นหัวของหลิวสือกลิ้งไปบนพื้น ร่างกายพวกเขาเริ่มสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว
พวกเขาหันไปมองเยี่ยหานที่ยืนถือดาบอย่างไร้ความรู้สึก ดาบสีเงินในมือเขามีหยดเลือดหยดลงพื้นอย่างต่อเนื่อง
“เขาฆ่าผู้อาวุโสหลิวสือจริง ๆ!”
“เป็นไปได้อย่างไร! ผู้อาวุโสหลิวสือเป็นถึงผู้มีพลังทะเลจิตวิญญาณขั้นปลาย!”
ศิษย์ตระกูลหลิวพากันกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ
ส่วนเหล่าผู้อาวุโสคนอื่นที่กำลังต่อสู้อยู่ไม่ไกลก็ถึงกับสูดหายใจลึกด้วยความตกใจ เมื่อเห็นร่างไร้ชีวิตของหลิวสือพวกเขาต่างตะลึงงันอย่างที่สุด
แม้แต่ผู้อาวุโสลำดับที่สองยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถสังหารหลิวสือได้
“ดี! ฆ่าได้ดีจริงๆ!”
ผู้อาวุโสลำดับสองหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะฟาดฝ่ามือลงไปยังศิษย์ตระกูลหลิวคนหนึ่ง
ปัง!
ฝ่ามือที่เหี่ยวย่นของเขาปลดปล่อยแสงวิญญาณออกมาอย่างรุนแรง ระเบิดร่างของศิษย์คนนั้นจนกลายเป็นหมอกเลือด
ตูม! ตูม! ตูม!
ทั่วทั้งคฤหาสน์เยี่ย เต็มไปด้วยการต่อสู้ของร่างนับร้อย ดาบและกระบี่แหวกอากาศ พลังวิญญาณอันบ้าคลั่งกระแทกพื้นจนแตกละเอียด
ไม่นานนักลานหินหยกนั้นก็เต็มไปด้วยเลือดที่ไหลนอง ศพกองทับถมราวกับภูเขา
ทว่าเยี่ยหานเงยหน้าขึ้น มองไปยังร่างสองร่างที่กำลังเผชิญหน้ากันกลางอากาศ
เขารู้ดีว่าการต่อสู้เบื้องล่างแม้จะดุเดือดแค่ไหน แต่ผลลัพธ์ของสงครามนี้จะถูกตัดสินโดยผู้แข็งแกร่งระดับจิตวิญญาณพิสุทธิ์สองคนนี้ต่างหาก!
ตูม——
ผู้อาวุโสใหญ่ปลดปล่อยพลังวิญญาณออกมา รอบกายของเขาปรากฏวิญญาณรูปลักษณ์พยัคฆ์เพลิงเกราะทองคำรามก้องขึ้นที่เบื้องหลัง
นี่คือวิญญาณระดับเจ็ด พยัคฆ์เพลิงเกราะทอง!
ตูม——
พยัคฆ์เพลิงเกราะทองคำรามลั่นราวกับฟ้าผ่า ร่างมันพุ่งทะยานขึ้นฟ้า กรงเล็บที่แกร่งกร้าวกางออก มุ่งหน้าฉีกกระชากร่างของหลิวเจิ้นเทียน
เมื่อเห็นพยัคฆ์เพลิงเกราะทองพุ่งเข้ามาอย่างเกรี้ยวกราด สายตาของหลิวเจิ้นเทียนฉายแววเคร่งเครียดทันที มือของเขาปลดปล่อยพลังวิญญาณออกมาอย่างเจิดจ้า ราวกับหยกใส
“ฝ่ามือพลิกสวรรค์!”
ฝ่ามือของเขากดลงไปในอากาศ รอยฝ่ามือที่เปล่งประกายเจิดจ้าพุ่งออกไปปะทะกับพยัคฆ์เพลิงเกราะทอง
ตึง!
วิญญาณพยัคฆ์เพลิงเกราะทองปะทะกับรอยฝ่ามือ เกิดเสียงก้องสะท้าน พื้นที่รอบ ๆ สั่นไหวเป็นคลื่นราวกับว่าพื้นที่นั้นจะแหลกสลายเต็มที
ร่างของหลิวเจิ้นเทียนถูกกระแทกจนถอยออกไปไกลหลายร้อยเมตร เลือดในร่างพลุ่งพล่านอย่างรุนแรง
“หึ! เจ้านึกว่าเจ้ามีวิญญาณเพียงผู้เดียวหรือ!”
หลิวเจิ้นเทียนแค่นเสียงเยาะเย้ย พลังวิญญาณสีฟ้ากระจายออกจากร่างกายของเขา พร้อมกับความเย็นเยียบที่ปกคลุมทุกสิ่งรอบข้างจนกลายเป็นน้ำแข็ง
กรี๊ด!
พลังวิญญาณสีฟ้าเย็นเยือกก่อตัวขึ้นเป็นนกน้ำแข็งที่ปกคลุมไปด้วยความหนาวเย็นสุดขั้ว
นี่คือวิญญาณระดับแปด อินทรีหิมะขั้วโลก!
การเข้าสู่ระดับจิตวิญญาณพิสุทธิ์จำเป็นต้องฝึกฝนด้วยวิญญาณสัตว์อสูร และวิญญาณที่หลิวเจิ้นเทียนฝึกฝนนั้นแข็งแกร่งกว่าวิญญาณพยัคฆ์เพลิงของเยี่ยไป่หลี่อยู่เล็กน้อย!
นกอินทรีหิมะทั้งร่างเต็มไปด้วยพลังวิญญาณสีน้ำเงินเย็นเยือก มันกระพรือปีกสร้างลมแรงกระโชกไปทั่วบริเวณ
ฟู่—
พลังวิญญาณสีน้ำเงินเย็นถูกบีบอัดเป็นกระแสความหนาวเหน็บ พุ่งทะยานออกไปตามเส้นทาง ทำให้อาคารข้างล่างกลายเป็นน้ำแข็งในพริบตา
เมื่อเห็นเช่นนั้น สายตาของเยี่ยหานก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
หลิวเจิ้นเทียนมีความสามารถไม่ธรรมดาเลยจริงๆ!
ปัง!
พยัคฆ์เพลิงของเยี่ยไป่หลี่ถูกกระแสความเย็นกระแทกจนถอยไปหลายร้อยเมตร ทั้งร่างถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็งบาง ๆ แต่ไม่นานนักน้ำแข็งก็ละลายไป
ดูเหมือนว่าพยัคฆ์เพลิงของเยี่ยไป่หลี่จะมีคุณสมบัติที่ต้านทานกับความเย็นของอินทรีหิมะ แม้ว่าจะด้อยกว่าในระดับชั้น แต่ก็ยังไม่เสียเปรียบมากนัก!
สิ่งนี้ทำให้หลิวเจิ้นเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย
เขาก้มลงมอง เห็นว่าผู้คนของทั้งสองตระกูลกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด แต่ดูเหมือนว่าตระกูลเยี่ยจะมีความได้เปรียบเล็กน้อย
เมื่อเห็นสีหน้าของหลิวเจิ้นเทียนเช่นนี้ เยี่ยไป่หลี่ก็หัวเราะเย้ยหยันและกล่าวว่า
“หลิวเจิ้นเทียน เจ้าคิดว่าตระกูลหลิวของเจ้าจะกลืนกินตระกูลเยี่ยของข้าได้หรือ? ช่างฝันเฟื่อง! ตระกูลเยี่ยของข้าไม่ใช่ผลไม้นิ่ม ๆ ที่ใครจะมาขยี้เล่นได้ง่าย ๆ แต่ตระกูลหลิวของเจ้า ตอนนี้ก็สูญเสียผู้อาวุโสไปแล้ว หากยังดื้อดึงสู้ต่อไป ข้าเกรงว่าผู้ที่จะพ่ายแพ้คือตระกูลหลิวของเจ้า!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของหลิวเจิ้นเทียนก็ยิ่งมืดมนขึ้น การสูญเสียผู้อาวุโสไปหนึ่งคนเท่ากับว่าแขนซ้ายขวาของตระกูลหลิวหายไป เป็นกาสูญเสียที่ร้ายแรงอย่างแท้จริง!
เขาไม่สามารถปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อไปได้อีกต่อไป มิฉะนั้นจะเป็นอย่างที่เยี่ยไป่หลี่กล่าว ตระกูลหลิวจะเสียหายมากยิ่งขึ้น
เมื่อคิดได้เช่นนั้นหลิวเจิ้นเทียนสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะหัวเราะเยาะและกล่าวว่า
“อย่างนั้นหรือ? เยี่ยไป่หลี่ ข้าขอแนะนำว่าเจ้าอย่าเพิ่งดีใจไป!”
ฟู่——
ฝ่ามือของเขาปรากฏหยกโบราณขึ้นมา
เมื่อพูดจบหลิวเจิ้นเทียนยิ้มเย็นชา และหักหยกนั้นอย่างเด็ดขาด
ครืนครืน!
ทันทีที่หยกถูกทำลาย ก็ปรากฏพลังมหาศาลพุ่งเข้ามา จนทำให้ทั้งจวนสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!
“เกิดอะไรขึ้น?”
ทุกคนต่างหันมองไปยังศูนย์กลางของลาน ที่พื้นกำลังแตกออกเหมือนมีบางสิ่งกำลังจะโผล่ออกมาจากใต้ดิน!
ตูม!
แสงสีแดงเข้มพลันพุ่งทะยานออกมาจากใต้ดิน แมงป่องยักษ์ตัวหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน!
ทุกคนในตระกูลเยี่ยต่างตกตะลึง มองดูสิ่งมีชีวิตที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าอย่างช็อกจนยืนนิ่งไป
แมงป่องตัวนี้สูงกว่าสิบเมตร ถูกปกคลุมด้วยหมอกสีเทา ร่างกายของมันดูราวกับเป็นหินสีแดงหม่น ผิวหนังขรุขระราวกับก้อนหิน
ดวงตาสีแดงฉานของมันเหมือนโคมไฟสีเลือดที่ส่องแสงอย่างน่าสะพรึงกลัว
มันย่อตัวลงกับพื้น กรงเล็บขนาดใหญ่หดเก็บไว้ที่หน้าอก ส่วนหางของมันเป็นเข็มพิษแหลมคมที่ชูขึ้นเหนือศีรษะ
พลังอันน่าสะพรึงกลัวแผ่ออกจากร่างของมัน ราวกับจะบดขยี้ทุกสิ่ง!
“นี่มัน... สัตว์อสูรระดับจิตวิญญาณพิสุทธิ์ขั้นปลาย?”
เหล่าผู้อาวุโสของตระกูลเยี่ยมองดูสัตว์ยักษ์ตัวนี้ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตกตะลึง เสียงอุทานหลุดออกมาอย่างห้ามไม่ได้
“เยี่ยไป่หลี่ เจ้าไม่คิดฝันใช่หรือไม่… นี่คือสัตว์วิญญาณที่ตระกูลหลิวของข้าบำรุงเลี้ยงมากว่าสิบปี แมงป่องวิญญาณภูผา!”
หลิวเจิ้นเทียนยกคิ้วขึ้นด้วยความหยิ่งทะนง มองแมงป่องยักษ์ด้วยความภาคภูมิใจ
“อะไร?!”
เมื่อได้ยินคำนี้ สีหน้าของเหล่าผู้อาวุโสและสมาชิกในตระกูลเยี่ยก็ซีดเผือด พวกเขาไม่คาดคิดว่าตระกูลหลิวจะมีแผนสำรองเช่นนี้!
“ตระกูลเยี่ยถึงคราวจบสิ้นแล้ว!”
ผู้อาวุโสคนหนึ่งในตระกูลเยี่ยพูดด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
หากตระกูลหลิวมีเพียงหลิวเจิ้นเทียนซึ่งเป็นผู้มีพลังระดับจิตวิญญาณพิสุทธิ์ขั้นปลายเพียงคนเดียว ตระกูลเยี่ยก็ไม่จำเป็นต้องกลัวมากนัก แต่การที่ตระกูลหลิวมีสัตว์วิญญาณระดับจิตวิญญาณพิสุทธิ์ขั้นปลายเพิ่มขึ้นมาอีกตัว ทำให้สมดุลของพลังระหว่างทั้งสองตระกูลพังทลายลงทันที ความได้เปรียบตกไปอยู่ที่ตระกูลหลิวอย่างไม่ต้องสงสัย!
“ตระกูลหลิวยังมีแผนการเช่นนี้อีกหรือ?”
ในขณะนั้น สายตาของเยี่ยหานแสดงความคิดที่แปลกออกไปเล็กน้อย เขาค่อย ๆ หยิบยันต์สีเหลืองหม่นออกมาจากฝ่ามืออย่างลับ ๆ
ยันต์มารอสนี!
แต่เขาเองก็ไม่มั่นใจว่ายันต์มารอสนีนี้จะสามารถรับมือกับแมงป่องวิญญาณภูผาได้หรือไม่!
ฟู่——
พลังวิญญาณไหลเข้าสู่ยันต์ แต่ครั้งนี้ยันต์มารอสนีกลับไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ปรากฏ!
“เกิดอะไรขึ้น?”
เยี่ยหานตะโกนในใจ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในทันที
ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ ยันต์มารอสนีกลับไม่ทำงาน!
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“แมงป่องวิญญาณภูผา จงฆ่าล้างตระกูลเยี่ยให้สิ้นซาก!”
หลิวเจิ้นเทียนสะบัดแขนเสื้อ เสียงเย็นชาสะท้อนก้องไปทั่วจวนของตระกูลเยี่ย
ตูม!
ในขณะนั้น แมงป่องวิญญาณภูผาที่หมอบอยู่กับพื้นสะบัดหางขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เข็มพิษแหลมคมพุ่งตรงไปยังผู้อาวุโสใหญ่เป็นเป้าหมายแรก
"พยัคฆ์เพลิงทองคำ!"
โฮก——
ผู้อาวุโสใหญ่ยืนนิ่งด้วยสายตาที่เด็ดเดี่ยว ราวกับพร้อมจะสู้จนถึงตาย พลังวิญญาณทั้งหมดถูกปลดปล่อยออกมา
พยัคฆ์เพลิงทองคำพุ่งเข้าปะทะกับเข็มพิษแหลมคมนั้นด้วยร่างที่ห่อหุ้มด้วยเปลวไฟ
แต่เข็มพิษนั้นกลับทะลุผ่านร่างของพยัคฆ์เพลิงอย่างง่ายดาย ด้วยเสียง “ฉึก” เข็มพิษเสียบทะลุหน้าอกของพยัคฆ์เพลิงและทำลายมันจนแหลกสลาย!
ตูม!
เข็มพิษไม่หยุดแค่นั้น มันกลับเพิ่มความเร็วและพุ่งตรงไปยังเยี่ยไป่หลี่!
ใบหน้าของผู้อาวุโสใหญ่ซีดเผือดทันที เขารีบยกคทาในมือขึ้นเพื่อปัดป้องเข็มพิษ
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เสียง “ฉึบ” ดังขึ้น คทากลับสะท้อนแรงกระแทกอย่างรุนแรงและกระแทกเข้ากับหน้าอกของเขา
พรวด! เลือดสด ๆ พุ่งออกจากปากของเยี่ยไป่หลี่ ร่างของเขาลอยลงจากฟ้าเหมือนนกปีกหักกระแทกพื้นเบื้องล่าง
ในชั่วขณะนั้น ทุกคนในตระกูลเยี่ยรู้สึกเหมือนหัวใจของพวกเขาจมดิ่งลงสู่ก้นเหว ใบหน้าซีดเผือดด้วยความสิ้นหวัง...