ตอนที่แล้วบทที่ 239 ฉันจะจัดการเธอก่อน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 241 การซื้อรถยนต์

(ฟรี) บทที่ 240 การต่อสู้กลางดึก


เฉิงลู่ไม่ได้โกรธที่สวี่ชิวเหวินไม่ตอบข้อความหรือโทรหาเธอ น้ำเสียงของเธอฟังดูค่อนข้างมีความสุข

สวี่ชิวเหวินยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้น เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วริเริ่มกล่าวออกมา “ฉันขอโทษ ลู่ลู่”

เขามักจะเรียกเธอว่าเฉิงลู่ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเรียกเธอว่าลู่ลู่

เฉิงลู่ไม่ได้รู้สึกอึดอัดใดๆ เธอตอบด้วยรอยยิ้ม “ไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอก ฉันไม่ได้โกรธ”

สวี่ชิวเหวินตอบรับโดยไม่ได้อธิบายเพิ่มเติมใดๆ

“ฉันคิดถึงเธอ ลู่ลู่” สวี่ชิวเหวินพูดอย่างเสน่หา

เฉิงลู่เม้มริมฝีปากเป็นรอยยิ้ม “ฉันไม่เชื่อคุณหรอก...”

จากนั้นเธอก็หยุดชั่วคราวแล้วพูดต่อ “ทำไมวันนี้ปากหวานจัง คุณทำอะไรผิดต่อฉันหรือเปล่า?”

สวี่ชิวเหวินจงใจพูดด้วยน้ำเสียงหดหู่ “ทำไมเธอถึงมองฉันในแง่ร้ายแบบนั้นล่ะ? นอกจากนี้มหาลัยก็แทบจะร้างแล้ว ฉันจะทำผิดต่อเธอได้ยังไง”

เฉิงลู่คิดอยู่ครู่หนึ่งโดยตระหนักว่าเขามีเหตุผลและหัวเราะออกมาเบาๆ

“ฉันไม่สนใจ คุณเป็นเจ้าหมูโง่ของฉัน คุณต้องคิดถึงฉันทุกวัน เข้าใจไหม?”

สวี่ชิวเหวินตอบรับ “ไม่ต้องห่วง เธอคือคนเดียวในใจฉัน ฉันไม่แม้แต่จะมองผู้หญิงคนอื่นด้วยซ้ำ”

“ปากหวาน” เฉิงลู่หัวเราะอีกครั้งก่อนจะเงียบไป

สวี่ชิวเหวินเกือบจะคิดว่าสายหลุด แต่หลังจากตรวจสอบ เขาก็พบว่ามันยังอยู่ดี

ขณะที่เขากำลังจะถาม เสียงกระซิบเบาๆของเฉิงลู่ก็ดังออกมา “ฉันก็คิดถึงคุณเหมือนกัน”

“อะไรนะ?”

“ไม่ได้ยินก็เรื่องของคุณ!” เฉิงลู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ฮี่ฮี่ ฉันได้ยิน เธอบอกว่าคิดถึงฉันสินะ”

เฉิงลู่ไม่ปฏิเสธ “ฉันเพิ่งรู้หลังจากกลับมาบ้านว่าฉันไม่คุ้นเคยกับการไม่เห็นคุณ”

สวี่ชิวเหวินยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “แล้วทำไมตอนอยู่มหาลัยเธอไม่อ่อนโยนกับฉันหน่อยล่ะ?”

เฉิงลู่ถามกลับ “คุณไม่ชอบเหรอ?”

สวี่ชิวเหวินหัวเราะเบาๆ “แน่นอนว่าฉันชอบ ฉันชอบทุกอย่างไม่ว่าเธอจะเป็นยังไง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่มีเสื้อผ้า นั่นเป็นสิ่งที่ฉันชอบที่สุด”

“โรคจิต!” เฉิงลู่ตำหนิและกล่าวเสริม “ฝันไปเถอะ ฉันไม่ให้คุณเห็นหรอก”

“ไม่ช้าก็เร็ว... เมื่อเราแต่งงานกัน เธอยังจะปฏิเสธอีกหรอ?”

เมื่อได้ยินคำว่า “แต่งงาน” เฉิงลู่ก็เงียบไป

จากนั้นเธอก็พูดเบาๆ “เจ้าหมู ฉันแทบรอไม่ไหวให้วันนั้นมาถึงจริงๆ”

หญิงสาวคนหนึ่งบอกว่าเธอตั้งตารอคอยจะแต่งงานกับคุณ สวี่ชิวเหวินไม่รู้ว่าคนอื่นจะตอบสนองอย่างไร แต่เขารู้สึกสะเทือนใจมาก

เขาเงียบไปสองสามวินาทีก่อนจะพูดอย่างจริงจัง “ฉันก็อยากให้วันนั้นมาถึงเร็วๆเหมือนกัน”

......

ทั้งสองคุยกันสักพัก ก่อนที่สวี่ชิวเหวินจะริเริ่มหาเหตุผลวางสาย

สวี่ชิวเหวินปรับอารมณ์ของเขาแล้วเปิดข้อความของถังเว่ยเว่ย

มันเรียบง่ายมาก: “ฉันถึงบ้านแล้ว” เพียงสี่คำสั้นๆโดยไม่มีเนื้อหาเพิ่มเติม

สวี่ชิวเหวินคิดที่จะตอบกลับ แต่สุดท้ายก็เลือกโทรไปแทน

ถังเว่ยเว่ยรับสายเร็วมาก

“สวัสดีค่ะ ถังเว่ยเว่ยรับสาย”

นี่เป็นประโยคแรกที่ถังเว่ยเว่ยพูดทุกครั้งเมื่อรับโทรสัพท์ ราวกับกังวลว่าอีกฝ่ายจะไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร

“เว่ยเว่ย เธอถึงบ้านแล้วหรอ?”

“อือ ฉันเพิ่งถึงได้ไม่นาน แล้วคุณล่ะ?”

“ฉันยังอยู่ที่มหาลัย”

“อา... คุณหาซื้อตั๋วไม่ได้หรอ?” ถังเว่ยเว่ยถามด้วยความกังวล

สวี่ชิวเหวินหัวเราะเมื่อรู้สึกถึงความกังวลของเธอและอธิบาย “ไม่ต้องห่วง ต่อให้ฉันจะซื้อตั๋วรถบัสไม่ได้ แต่ฉันก็ยังนั่งแท็กซี่กลับได้ มันไม่แพงมาก”

หลังจากได้ยินสิ่งนี้ถังเว่ยเว่ยก็รู้สึกโล่งใจ

สวี่ชิวเหวินเห็นว่าถังเว่ยเว่ยเงียบไปจึงถามอีกครั้ง “เว่ยเว่ย เธอเจอคุณยายหรือยัง?”

“ใช่ ฉันเจอแล้ว”

“สุขภาพของคุณยายเป็นยังไงบ้าง?”

“คุณยายสุขภาพดีมาก”

ถังเว่ยเว่ยมักจะเป็นแบบนี้เสมอ เธอตอบทุกสิ่งที่สวี่ชิวเหวินถามเหมือนเด็กทารกที่เชื่อฟัง

จู่ๆสวี่ชิวเหวินก็ถามด้วยรอยยิ้มว่า “แล้วเธอได้ถามคุณยายเรื่องการมีแฟนหรือยัง?”

ถังเว่ยเว่ยหน้าแดงอย่างกะทันหันและไม่รู้จะตอบอย่างไร

ทันใดนั้นคุณยายของเธอก็เรียกจากลานบ้าน

เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วพูดอย่างรวดเร็ว “คุณยายกำลังเรียกฉัน”

ถังเว่ยเว่ยไม่เคยวางสายก่อน นี่เป็นหนึ่งในบุคลิกของเธอ และสวี่ชิวเหวินรู้เรื่องนี้ดี ดังนั้นเขาจึงริเริ่มวางสาย

จากนั้นสวี่ชิวเหวินก็ตรวจสอบข้อความของเซียวโหยวหราน

เซียวโหยวหราน: “นายกลับบ้านหรือยัง?”

คราวนี้สวี่ชิวเหวินไม่ได้โทรออก แต่ตอบกลับด้วยข้อความแทน “มีธุระบางอย่างที่มหาลัย ฉันเลยยังกลับไม่ได้”

เซียวโหยวหรานตอบกลับมาทันที “แล้วนายจะกลับเมื่อไหร่? ปีใหม่กำลังใกล้เข้ามาแล้ว ถ้านายไม่กลับมาป้าหนิงคงจะกังวล”

เมื่อเห็นคำว่า “ป้าหนิง” สวี่ชิวเหวินก็นึกถึงแม่ของเขาและถอนหายใจ

“ฉันเข้าใจ ฉันจะรีบทำธุระและกลับบ้านโดยเร็วที่สุด ตอนนี้มีบางอย่างต้องทำ ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง”

ถัดจากนั้นคือข้อความของเสิ่นหมินเหยาแจ้งเขาว่าเธอกลับถึงต้าเหลียนแล้ว ข้อความถูกส่งมาในตอนเช้า

สวี่ชิวเหวินตอบกลับอย่างเรียบง่าย “ดีแล้วที่ถึงบ้านอย่างปลอดภัย”

เสิ่นหมินเหยาตอบกลับทันทีเช่นกัน และเนื้อหาก็สั้นมาก เพียงคำว่า “อืม”

จากนั้นสวี่ชิวเหวินก็ตรวจสอบข้อความจากหญิงสาวคนอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดล้วนบอกว่าพวกเธอกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว สวี่ชิวเหวินจึงตอบกลับทีละคนว่า “ดีแล้วที่ถึงบ้านอย่างปลอดภัย”

หลังจากส่งข้อความหาสาวๆแล้ว สวี่ชิวเหวินก็โทรหาแม่ของเขาเช่นกัน

ผลลัพธ์คือไม่อาจติดต่อได้ สวี่ชิวเหวินจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากส่งข้อความบอกเธอว่าเขาจะกลับไปในอีกสองสามวันข้างหน้าและไม่ต้องกัวล

สวี่ชิวเหวินวางโทรศัพท์ลง และตัดสินใจงีบหลับเพื่อเติมพลัง

เขาหลับได้ไม่นานเมื่ออันซือซือกลับมาพร้อมอาหารสองชุด

สวี่ชิวเหวินสวมเสื้อคลุมของเขา จากนั้นลุกจากเตียงแล้วเริ่มทานอาหารเย็นกับอันซือซือ

หลังอาหารเย็น ทั้งสองเพลียนิดหน่อยจึงเพียงกอดกันและหลับไป

สวี่ชิวเหวินนอนหลับจนถึงเที่ยงคืนก่อนจะตื่นขึ้นมากลางดึก

หลังจากได้พักผ่อนเป็นเวลานานสวี่ชิวเหวินก็เต็มไปด้วยพลัง ด้วยบังเอิญมีสาวงามอยู่ในอ้อมแขน เขาจึงไม่สามารถแสร้งทำเป็นสุภาพบุรุษได้

เขาปลุกอันซือซือและเริ่มการต่อสู้ทันที

ทั้งสองพัวพันกันตลอดคืนและไม่ได้หยุดพักจนถึงรุ่งสาง

......

เที่ยงของวันรุ่งขึ้น

แสงแดดอันอบอุ่นของฤดูหนาวส่องผ่านหน้าต่าง ปลุกสวี่ชิวเหวินให้ตื่นพร้อมกับความหิวโหย

หลังจากตื่นนอน เขาเห็นอันซือซือยังคงหลับอยู่ ใบหน้าของเธอมีรอยน้ำตาจางๆ ซึ่งเป็นหลักฐานถึงค่ำคืนอันเร่าร้อนของพวกเขา

สวี่ชิวเหวินปลุกอันซือซือขึ้นมา จากนั้นทั้งสองก็อาบน้ำแต่งตัว แล้วออกไปกินข้าวข้างนอกด้วยกัน

เนื่องจากยังเป็นคุณป้าคนเดิมที่ปฏิบัติหน้าที่ สวี่ชิวเหวินจึงไม่จำเป็นต้องซ่อนหรือหาข้อแก้ตัวใดๆ เขาเดินออกจากหอพักหญิงอย่างเปิดเผย กระทั่งทักทายอีกฝ่ายผ่านหน้าต่างด้วยซ้ำ

ทั้งสองมาถึงถนนตะวันออกและพบร้านอาหารแห่งหนึ่ง

หลังมื้อกลางวัน สวี่ชิวเหวินไม่ได้พาอันซือซือกลับไปที่หอพักเพื่อสานต่อเรื่องราว เขายังมีสิ่งอื่นที่ต้องทำ

/////