บทที่258 ริวอุนมาคุยกับสี่คาเงะ ฟรี
“ฉันเห็นด้วยกับคาเสะคาเงะ” โฮคาเงะ รุ่นที่ 3 ยกมือสนับสนุน จากนั้นก็มองไปยังไรคาเงะและซึจิคาเงะ “มิซึคาเงะ รุ่นที่ 5 แข็งแกร่งมาก หากเราไม่ร่วมมืิอกันเพื่อจัดการกับเขา เราก็มีแต่จะพ่ายแพ้ไปทีละคนเท่านั้น”
ตอนนี้โคโนฮะสูญเสียหนักมาก แถมยังหมู่ติดกับคิริงาคุเระ ขั้นกลางก็แค่ทะเล ซึ่งทะเลก็มีกองกำลังของคิริงาคุเระควบคุมอยู่
ในบรรดาสี่แคว้นใหญ่ แคว้นไฟอยู่ในสภาพอันตรายที่สุด
ดังนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม การประชุมสี่คาเงะครั้งนี้ เขาจะต้องส่งเสริมพันธมิตร มีเพียงวิธีนี้ที่จะรักษาโคโนฮะเอาไว้ได้
“เอาเถอะ มาร่วมมือกันก็ได้ ชิบะ ริวอุนมันทะเยอทะยาน เราต้องไม่ปล่อยให้มันทำสำเร็จ” ไรคาเงะกระแทกกำปั้นลงบนโต๊ะดังตึง
ทั้งคุโมะและโคโนฮะเป็นเหยื่อที่ถูกริวอุนทำลาย ยิ่งต้องเผชิญหน้ากับคิริงาคุเระซึ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ เขาจึงทนความอัปยศครั้งนั้นไม่ไหว
ถ้าทั้งสี่แคว้นยังแยกกันเหมือนเดิม สุดท้ายก็ต้องแตกพ่ายไปทีละคนเท่านั้น
ในเวลานั้น ด้วยความเก่งกาจของริวอุน อีกฝ่ายอาจรวบรวมโลกนินจาได้เลยก็เป็นไปได้
“สามแคว้นตกลงกันแล้ว ท่านซึจิคาเงะ ท่านเลือกอะไรล่ะ?” ราสาและอีกสองคนหันมามอง
“ไอ้เด็กไม่มีสัมมาคารวะนี่ ยังไงอิวะก็ไม่มีเหตุผลให้เข้าร่วมอยู่ดี” โอโนกิตะคอกใส่ราสะ
หากทั้งสามแคว้นร่วมมือกัน พวกเขาจะมีความแข็งแกร่งในการต่อสู้กับคิริงาคุเระในปัจจุบันแน่นอน ในเมื่อสามารถสู้ได้ ทำไมอิวะจะต้องเข้าร่วมด้วย?
อิวะแค่รอให้สี่แคว้นสู้กันแล้วรอฉวยผลประโยชน์ มันก็ยังไมสายเกินไป
“ตาแก่ซึจิคาเงะ นี่คุณอยากให้เปลวไฟสงครามลามไปถึงอิวะก่อนถึงค่อยลงมืองั้นเหรอ?” ไรคาเงะตะโกนใส่โอโนกิ
“แม้ว่าทั้งสามแคว้นอย่างไฟ ลมและสายฟ้าจะเกิดสงคราม เปลวไฟสงครามที่ว่านั้นก็จะไม่ลามมาถึงแคว้นหินหรอก” ซึจิคาเงะ โอโนกิหัวเราะพร้อมสายตาคมกริบ
ปึง!
ไรคาเงะตบโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน สีหน้าเอาเรื่องสุด ๆ ในเวลาเดียวกัน สายฟ้าก็แล่นไปทั่วร่างกายของเขา
“อะไร? นี่อยากสู้กันใช่ไหม?” ซึจิคาเงะ รุ่นที่ 3 ไม่กลัวเลย
ร่างเล็กของเขาลอยขึ้นและมีแสงสีขาวอยู่ในมือ
“เดี๋ยวก่อน ท่านซึจิคาเงะ ท่านไรคาเงะ ทั้งสองคนใจเย็น ๆกันก่อนนะ” มิฟุเนะปาดเหงื่อแล้วรีบเข้ามาห้ามปรามทันที
นี่คือแคว้นเหล็ก หากทั้งสองคนสู้กันที่นี่ มันจะลำบากเขาที่สุด
“เฮ้อ... พวกนายสองคนนั่งลงคุยกันดี ๆเถอะนะ” โฮคาเงะ รุ่นที่ 3 ถอนหายใจ
“ใช่” คาเสะคาเงะเองก็พยักหน้า
“ฮึ!” ไรคาเงะหยุดความโกรธลงแล้วนั่งลงที่เดิมพร้อมกับสายฟ้ารอบตัวที่หายไป
โอโนกิเห็นก็หัวเราะ แสงสีขาวในมือหายไป เมื่อตอนเขายังเด็ก เขาเคยเห็นคนน่ากลัวกว่าเอ นั่นก็คืออุจิวะ มาดาระ คนอื่นกลัวริวอุนกันแต่เขาไม่กลัว
หากต้องการดึงอิวะงาคุเระลงไปด้วย ไม่มีทางที่เขาจะเห็นด้วยกับพันธมิตรนี้
“ฟังนะ หากอิวะงาคุเระยินดีเข้าร่วมพันธมิตรกับเรา ในอนาคตหากอิวะมีการต่อสู้กับคิริงาคุเระ ซึนะงาคุเระเต็มใจช่วยเหลือเต็มที่และยินดีมอบผลประโยชน์สิบเปอร์เซ็นต์ให้กับอิวะ” ราสะกัดฟันกล่าว ผลประโยชน์สิบเปอร์เซ็นต์ไม่ใช่น้อย ๆเลย
ยิ่งกับหมู่บ้านซึ่งถูกตัดงบทางทหารอย่างซึนะด้วยแล้ว ยิ่งมีความหมาย
แต่ตอนนี้เขากลัวจริง ๆ เพราะสามแคว้นรอบ ๆคิริงาคุเระคือลม ไฟและสายฟ้า ตอนนี้ทั้งคุโมะและโคโนฮะต่างถูกโจมตีไปแล้ว เป้าหมายต่อไปของริวอุนอาจจะเป็นซึนะงาคุเระก็ได้
“แคว้นไฟก็เช่นกัน” โฮคาเงะ รุ่นที่ 3 ก็ยอมเสียสละ
เอเพียงคนเดียวที่ไม่อยากทำแบบนั้น อย่างไรก็ตาม โฮคาเงะกับคาเสะคาเงะได้เริ่มไปแล้ว เขามีแต่ต้องเลือกยอมยกผลประโยชน์บางส่วนให้ซึจิคาเงะเหมือนกัน
“คุโมะก็ด้วย”
“ถ้าอย่างนั้นอิวะก็เต็มใจจะร่วมมือ” โอโนกิพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
ทุกคนต่างรู้ว่าซึจิคาเงะมันเชื่อใจไม่ได้หากไม่มีผลประโยชน์ร่วมกัน นั่นหมายความว่าตอนนี้ที่อีกฝ่ายยอมตกลงก็เพราะผลประโยชน์ที่ได้มันมากพอแล้วนั่นเอง
‘ไอ้จิ้งจอกเฒ่าเอ๊ย!’ ราสะลอบกัดฟันกรอด
พวกเขาสี่คนได้ประชุมกันต่อ โดยผลการประชุมออกมาที่ทั้งสี่แคว้นจะเริ่มปิดล้อมทั้งด้านการทหาร การค้าและเสบียง
พวกเขาเตรียมดักจับแคว้นน้ำไม่ให้สื่อสารกับแคว้นนินจาไหน ๆได้ ด้วยวิธีนี้ถึงจะทำให้ทั้งสี่แคว้นสามารถพัฒนาต่อได้อย่างสบายใจ
ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี จนกระทั่งมีนินจาคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาแล้วกระซิบข้างหูมิฟุเนะ
หลังจากฟังจบ สีหน้าของมิฟุเนะก็เปลี่ยนไป
“เกิดอะไรขึ้น?” เห็นสีหน้ามิฟุเนะแปลกไป ราสะก็เกิดสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้น
“เมื่อสักครู่ฉันได้รับแจ้งมาว่า มิซึคาเงะ รุ่นที่ 5 ชิบะ ริวอุนได้แบ่งกองกำลังออกเป็นสามกลุ่มและส่งกองกำลังหลักทั้งสามเข้าโจมตีแคว้นไฟ แคว้นลมและแคว้นสายฟ้า” สีหน้ามิฟุเนะกลายเป็นน่าเกลียด
“อะไรนะ?!” ราสะผุดลุกขึ้นด้วยสีหน้าซีดเซียว ไม่ว่าจะเป็นคาเสะคาเงะ ไรคาเงะหรือโฮคาเงะต่างก็ตกใจจนใจหายหล่นไปยังตาตุ่ม
แม้พวกเขาคิดว่าริวอุนจะทำการโจมตีในระหว่างการประชุม แต่ก็ไม่คิดว่าริวอุนจะกล้าหาญขนาดนั้น เขามุ่งหน้าโจมตีทั้งสามแคว้นพร้อมกันราวกับว่าจะก่อสงครามในโลกนินจาขึ้น
“การประชุมจบลงแค่นี้ หลังจากนี้เราจะสื่อสารกันผ่านจดหมาย” ไรคาเงะรีบจบการประชุมทันที จากนั้นก็คว้าหมวกไม่ไผ่แล้วรีบออกไปข้างนอกห้อง
คาเงะทุกคนต่างก็รีบมุ่งหน้ากลับไปยังแคว้นของตน ทว่าก่อนที่พวกเขาจะได้ออกไปนอกห้องประชุม เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นในห้องอย่างผิดแปลก
“ทำไมคาเงะทั้งสามคนถึงรีบออกไปแบบนั้นล่ะ?” เสียงหัวเราะเบา ๆอันคุ้นเคยของสามคาเงะดังขึ้นในโสตประสาท
ทุกคนต่างเบิกตาโพลง พร้อมกันนั้นมวลอากาศก็บิดเบี้ยว ชายในชุดคลุมได้ยืนอยู่ต่อหน้าทุกคน
และชายคนนี้ก็คือ มิซึคาเงะ รุ่นที่ 5... ชิบะ ริวอุน!
**************************