บทที่ 54 ทำกำไรมหาศาลอีกครั้ง
#
หลิวซือหานมองจางเยว่ ใบหน้าแสดงความมั่นใจ เหมือนกับว่าเธอรู้ทุกอย่าง
แต่จางเยว่กลับยิ้มเล็กน้อย “เหรอ? ถ้าผมเดาได้ล่ะ?”
“ไม่มีทาง!”
จางเยว่าส่ายหน้า “ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ เรื่องนี้ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย
แค่ยืนยันว่าจัวฉีหยู่เป็นคนทำ ที่เหลือก็สรุปได้หมด
จากประสบการณ์ของเขา สมัยเป็นนักเรียนเขาต้องมีชีวิตที่ยากลำบากมาก และคงได้เห็นด้านมืดของคนมามาก
ดังนั้นสำหรับเขาแล้ว กฎหมายและศีลธรรมแทบจะไม่มีขีดจำกัด
ถ้าผมเป็นเขา เมื่อได้เรียนที่มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกและกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเคมีวิเคราะห์อันดับต้นๆ ของโลก ความคิดแรกของผมคงเป็นว่าจะใช้ความรู้ที่เรียนมานั้นหาเงินได้อย่างไร
แน่นอน ผมสามารถได้รับข้อเสนอจากห้องทดลองชั้นสูงในต่างประเทศได้ไม่ยาก
แต่ในที่ที่มีแต่ชาวต่างชาติ เต็มไปด้วยภาษาที่ผมไม่คุ้นเคย มันจะยิ่งทำให้หัวใจที่โดดเดี่ยวอยู่แล้วของผมยิ่งโดดเดี่ยวมากขึ้น
นอกจากนี้ ความรวยที่ไม่กลับบ้าน ก็เหมือนสวมเสื้อผ้าหรูหราเดินในความมืด
ดังนั้นผมกลับมา
ส่วนวิธีการหาเงิน ง่ายมาก
อุตสาหกรรมไหนที่ทำกำไรได้มากที่สุด ก็เล่นอุตสาหกรรมนั้น
ไม่นานผมก็เล็งเห็นว่าอุตสาหกรรมเหล้าขาวนี้กำไรงาม
กำไรสูงและตรงกับสาขาวิชาของผมพอดี
เหล้าขาวที่มีชื่อเสียงที่สุดแน่นอนว่าเป็นเหมาไถ
แม้ว่าเหมาไถจะมีรสชาติที่ซับซ้อนกว่าเหล้าขาวอื่นๆ เพราะกระบวนการผลิตที่ยุ่งยาก
แต่สำหรับคนที่สามารถใช้สารเติมแต่งกว่าร้อยชนิดได้อย่างเชี่ยวชาญ และแสดงฝีมือทางวิทยาศาสตร์และเทคนิคต่างๆ ได้แบบนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่
แค่ใช้เวลาวิเคราะห์เพิ่มขึ้นอีกหน่อย ไม่ใช่ปัญหาเลย
แต่ถ้าจะเปลี่ยนสิ่งนี้ให้เป็นเงิน ต้องมีช่องทางและเครือข่ายคนรู้จัก
ดังนั้นผมจึงเล็งไปที่ตัวแทนจำหน่ายเหมาไถในจงโจว ใช้เขาเพื่อเรียนรู้ช่องทางการจัดจำหน่ายของเหมาไถ
เมื่อควบคุมทุกอย่างได้แล้ว ผมก็แอบติดต่อกับเจ้าของร้านเหล้าและบุหรี่เหล่านั้น ให้พวกเขาช่วยขายให้
ส่วนวิธีที่จะโน้มน้าวเจ้าของร้านพวกนั้น ง่ายมาก
ข้อแรก เหมาไถแท้หนึ่งขวด ราคาทุน 1,088 หยวน ขาย 1,288 หยวน กำไรขวดละ 200 หยวน
แต่เหล้าปลอมของผม ทุนแค่ 288 หยวน ขายขวดเดียวกำไร 1,000 หยวน พวกเขาย่อมยินดีทำแน่นอน
ข้อสอง เหล้าปลอมของผมเหมือนกับของแท้ทุกประการ แม้แต่นักชิมที่เก่งที่สุดก็ยังแยกไม่ออก
ถึงจะถูกสงสัย ขอแค่เจ้าของร้านยืนยันว่ามันเป็นของแท้ ก็ไม่มีใครทำอะไรพวกเขาได้
เรียกได้ว่าไม่มีความเสี่ยงเลย
แน่นอน ถ้ามีเจ้าของร้านที่ไม่อยากร่วมมือกับพวกเรา อันนี้ง่ายมาก แค่ลองทดสอบดู ถ้าไม่ร่วมมือก็ไม่เป็นไร”
พูดจบ จางเยว่ยิ้มถามหลิวซือหาน “ที่ผมวิเคราะห์มาถูกไหม?”
หลิวซือหานมองจางเยว่เหมือนมองอสุรกาย “คุณรู้ได้ยังไง...หรือว่าคุณแอบดักฟังโทรศัพท์ของฉัน?”
จางเยว่พูดอย่างหมดหนทาง “ขอเถอะ โทรศัพท์ของคุณถูกเข้ารหัส ผมจะมีความสามารถแอบดักฟังได้ยังไง แล้วจะมาเล่นสนุกอยู่ที่นี่ทำไม? ผมคงไปสวรรค์นานแล้ว!”
ทันใดนั้นหลิวซือหานก็ยิ้มหวาน “เก่งนะ คุณฉลาดมาก แต่ก็เดาถูกแค่ครึ่งเดียว
ที่เจ้าของร้านพวกนั้นไม่ยอมรับความจริงยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง”
จางเยว่พูดอย่างสงบ “อีกเหตุผลก็คือ การขายเหล้าปลอมเป็นการกระทำผิดกฎหมาย
เหล้าเหมาไถราคาค่อนข้างแพง แม้ว่าเดือนหนึ่งจะขายได้แค่ห้าขวด ก็ปาเข้าไปหกเจ็ดหมื่นหยวนต่อปี
เหล้าปลอมแบบนี้ขายมาในตลาดสามสี่ปี รวมกันก็เกินกว่า 200,000 หยวน
มาตรา 140 ของกฎหมายอาญา ‘ความผิดเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายสินค้าปลอม’ ระบุว่า
หากผู้ขายปลอมปนสินค้าที่ทำให้ดูเหมือนของแท้ และยอดขายเกิน 200,000 หยวนแต่ไม่เกิน 500,000 หยวน
จะถูกจำคุกไม่ต่ำกว่าสองปีและไม่เกินเจ็ดปี และปรับเงินตั้งแต่ 50% ถึงสองเท่าของยอดขาย
ถ้าสิ่งนี้ได้รับการยืนยัน เจ้าของร้านพวกนี้จะต้องคืนเงินที่หามาได้ในช่วงหลายปีนี้ และอาจต้องเข้าไปใช้แรงงานในคุก
พวกเจ้าของร้านที่ไม่โง่แน่ๆ คงไม่มีใครยอมรับง่ายๆ
ถึงแม้ว่าคุณจะเอาจัวฉีหยู่มาเผชิญหน้ากับพวกเขา หากไม่มีหลักฐาน พวกเขาก็จะยังปฏิเสธอยู่ดี”
หลิวซือหานถึงกับพูดไม่ออก
เพราะสิ่งที่จางเยว่พูดมาถูกต้องทุกอย่าง
และตอนนี้มีปัญหาหนึ่งที่ยุ่งยากมาก
เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกเปิดโปง การทำธุรกรรมระหว่างจัวฉีหยู่กับพวกเจ้าของร้านเหล่านั้นไม่มีใบเสร็จ และการชำระเงินก็เป็นเงินสดทั้งหมด
นอกจากนี้ยังมีคนที่เกี่ยวข้องเยอะมาก การที่จะสืบค้นให้ครบถ้วนภายในปีครึ่งนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
แน่นอน รายละเอียดพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับจางเยว่
เขามองหลิวซือหาน “คุณตำรวจหลิว ผมขอถามอะไรหน่อยได้ไหม?”
หลิวซือหาน “อะไร?”
“ดูเหมือนคุณจะทำงานด้านบริหารในอำเภอเหว่ยใช่ไหม? ทำไมถึง...”
นี่คือสิ่งที่เขาสงสัย
ครั้งแรกที่จางเยว่เจอหลิวซือหานที่จงโจว เขาคิดว่าเธอเป็นเพียงผู้ที่มีส่วนรู้เห็นและมาช่วยในการสืบสวนเรื่องเหล้าปลอมเหมือนกับเขา
แต่จากการที่ได้อยู่ด้วยกันสองสามวันนี้ เขาพบว่าฝ่ายหญิงมีตัวตนที่ไม่ธรรมดา
หลิวซือหานยิ้มเล็กน้อย “ลืมบอกไป ฉันจริงๆ แล้วเป็นตำรวจสายสืบฉุกเฉินของกองกำกับการตำรวจมณฑลหยู่
ก่อนหน้านี้แค่ถูกส่งไปฝึกงานที่อำเภอเหว่ย ตอนนี้ได้กลับมาประจำที่เดิมแล้ว”
ฝึกงาน? กลับมาประจำการ?
จางเยว่เงียบไปครู่หนึ่ง เมื่อคิดถึงประสบการณ์ของตัวเอง ก็เข้าใจในทันที
“ดังนั้น คุณได้กลับมาทำงานที่เดิมเพราะว่าคุณได้ทำผลงานในคดีเหล้าเหมาไถปลอมใช่ไหม?”
หลิวซือหานพยักหน้า “จะเข้าใจแบบนั้นก็ได้”
จางเยว่พูดทันที “อะไรที่เรียกว่าเข้าใจแบบนั้นก็ได้ นี่มันหมายความว่าคุณติดหนี้ผมนะ!
วันหลังต้องเลี้ยงข้าวผมนะ และต้องเป็นมื้อใหญ่ที่มีอย่างน้อยสี่จานด้วย”
คดีเหล้าเหมาไถปลอมมีความคืบหน้าอย่างรวดเร็ว
เมื่อยืนยันว่าจัวฉีหยู่เป็นผู้ต้องสงสัยหลัก ตำรวจจงโจวก็ประกาศหมายจับของเขาในวันรุ่งขึ้น
แน่นอน นอกจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ คนทั่วไปไม่ค่อยให้ความสนใจเรื่องนี้มากนัก
แต่ไม่นาน พวกเขาก็ค้นพบสิ่งแปลกๆ อีกอย่างหนึ่ง
ร้านขายเหล้าและบุหรี่ที่เคยกระจายอยู่ทั่วจงโจว สองในสามของร้านเหล่านั้นปิดทำการชั่วคราว
จนทำให้ผู้คนเริ่มสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับอุตสาหกรรมเหล้าและบุหรี่อีกแล้ว
พร้อมกันนั้นยังมีการขึ้นราคาของเหล้าหลายชนิด
โดยเฉพาะเหมาไถที่ดูเหมือนบ้าไปแล้ว ราคาพุ่งขึ้น 50% ภายในคืนเดียว
และแนวโน้มนี้ไม่เพียงแต่ไม่ลดลง แต่ยังเพิ่มขึ้นอีก
2,098 หยวน, 2,598 หยวน, 2,998 หยวน...
ห้าวันต่อมาพุ่งไปที่ราคาสูงสุดถึง 3,698 หยวน เรียกได้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะหาซื้อเหมาไถได้เลย
เห็นภาพนี้ จางเยว่ก็เข้าใจในที่สุดว่าทำไมราคาเหมาไถถึงพุ่งขึ้นสูงอย่างกระทันหัน
เพราะขาดแคลนของอย่างหนัก!
เมื่อหลายวันก่อนจางเยว่กวาดซื้อเหมาไถทั้งหมดที่มีในตลาดจงโจว รวมถึงที่ขนไปเก็บไว้ที่โกดังด้วย
แต่สิ่งนี้เป็นเพียงปัจจัยกระตุ้นเท่านั้น
สาเหตุที่แท้จริงคือ เมื่อยืนยันได้ว่าเหมาไถในตลาดเป็นของปลอม หลิวซือหานก็ร่วมมือกับเมิ่งหย่าจิงเพื่อรวบรวมของปลอมทั้งหมดกลับมา
เหล้าปลอมนี้ไม่ได้มีแค่ในจงโจว แต่ยังแผ่ขยายไปยังทุกอำเภอในมณฑลหยู่ และแม้แต่บางส่วนของมณฑลใกล้เคียง
ทำให้ทั่วพื้นที่ภาคกลางกลายเป็นตลาดสุญญากาศระยะสั้น
ดวงตาของจางเยว่เปล่งประกายราวกับแสงไฟ
นี่คือโอกาสครั้งใหญ่ที่หาได้ยากมาก
โดยไม่ลังเลเลย เขาเอารถอีเวโก้ที่เช่าไว้ออกมาแล้วเริ่มกระจายสินค้า
จุดแรกของเขาคือร้านเหล้าและบุหรี่ที่ยังเปิดทำการอยู่
เนื่องจากตำแหน่งที่กระจัดกระจาย จางเยว่จึงวางแผนเส้นทางล่วงหน้าหนึ่งวัน
ดังนั้นแม้จะวิ่งถนนเยอะแต่ก็ไม่ได้วุ่นวาย
ส่วนขั้นตอนการเข้าไปขายสินค้านั้นง่ายมาก
แม้ว่าตอนนี้ราคาเหมาไถจะแพง แต่เหล้าหรูๆ ไม่เหมือนกับของใช้ในชีวิตประจำวันอย่างถั่วเหลือง ไข่ หรือเนื้อหมู
ยิ่งแพง คนยิ่งอยากซื้อ
เขายังใช้ชื่อเฉิงไท่ผิงมารับประกันว่าสินค้าไม่มีปัญหา และให้ส่วนลดจากราคาตลาดเล็กน้อย ไม่นานก็ขายได้เกินครึ่งแล้ว
ส่วนสินค้าที่เหลือ เพื่อให้ได้กำไรสูงสุด จางเยว่เลือกที่จะขนไปขายยังเมืองใกล้เคียงอย่างลั่วเฉิงและเปี้ยนจิง
ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น
ใช้เวลาเพียงสามวัน จางเยว่ก็ขายสินค้าหมดทั้งหมด
เมื่อเห็นตัวเลขมหาศาลในบัญชีธนาคาร เขายิ้มจนแทบจะนอนไม่หลับทั้งคืน
