บทที่ 15 การโจมตีของข้าศึก
บทที่ 15 การโจมตีของข้าศึก
ณ ทะเลทรายชายแดน โจรทะเลทรายกว่า 5000 นายกำลังควบม้าฝ่าฝุ่นหนาทึบมุ่งหน้าบุกโจมตีค่ายทหารชายแดนอย่างดุดัน
แผ่นดินสั่นสะเทือนราวกับจะแยกออก พวกมันทิ้งร่องรอยฝุ่นคลุ้งไว้เบื้องหลัง แต่ละคนสวมใบหน้าเหี้ยมเกรียมพร้อมรอยยิ้มอำมหิต
"ฮ่าๆๆ ฆ่า!"
พวกโจรทะเลทรายจากทุ่งหญ้าเหล่านี้ชำนาญการยิงธนูบนหลังม้าเป็นอย่างยิ่ง
แม้ยังไม่ทันถึงค่ายทหาร บางคนก็ได้ง้างธนูยิงลูกธนูไฟออกไป พุ่งตรงเข้าเป้าหมายกระโจมด้านหน้าอย่างแม่นยำ
ทันใดนั้น ลูกธนูไฟนับร้อยนับพันก็พุ่งกระหน่ำลงมาจากท้องฟ้าราวกับสายฝน
เพียงชั่วพริบตา ทั้งค่ายก็กลายเป็นทะเลเพลิง ควันหนาทึบลอยขึ้นฟ้า คลื่นความร้อนซัดมาเป็นระลอก ราวกับนรกบนดิน
ท่ามกลางความวุ่นวาย เสียงร้องตะโกนไปทั่วค่าย
"ข้าศึกบุก! ข้าศึกบุก!"
"โจรทะเลทรายจากทุ่งหญ้า พวกมันบุกเข้ามาแล้ว!"
"อะไรนะ?! เป็นไปไม่ได้!"
แต่ส่วนใหญ่เป็นเสียงร้องโหยหวน บางคนถูกไฟลุกท่วมร่าง กลิ้งไปมาบนพื้นพยายามดับไฟ
ทว่าเปลวไฟบนลูกธนูเหล่านี้เคลือบด้วยไขมัน เมื่อเกาะติดร่างกายแล้วยากจะดับลง
พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า ในยามที่แม่ทัพหยวนเซียวนำกำลังออกรบ ฝ่ายตนจะถูกโจรทะเลทรายโจมตีอย่างฉับพลัน
พวกเขาก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมยามรักษาการณ์ที่ค่อยส่งสัญญาณและสายลับมากมาย ของกองทัพอู่หลี่วางไว้ตลอดทาง ถึงไม่ได้ส่งข่าวการบุกของโจรทะเลทรายกลับมาทันการณ์ ปล่อยให้พวกมันบุกเข้ามาอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้
หลี่ชิงก็รู้สึกตกตะลึงไม่แพ้กัน เขาเพิ่งกลับจากโรงครัวหลังกินอิ่ม ยังไม่ทันได้นั่งลงในกระโจมของตน ก็ได้ยินเสียงลูกธนูไฟตกลงมา
แล้วลูกธนูนับไม่ถ้วนก็พุ่งลงมาจากฟ้าราวห่าฝน ทำเอาเขาตกใจแทบสิ้นสติ
"เป็นไปได้ยังไง ตลอดทางมียามรักษาการณ์ที่ค่อยส่งสัญญาณและสายลับมากมาย ทำไมถึงไม่มีข่าวส่งกลับมาเลย? นี่พวกเขาทรยศกันหมดแล้วหรือ?" หลี่ชิงพึมพำด้วยความสงสัย
โอกาสที่ทุกคนจะทรยศพร้อมกันแทบเป็นไปไม่ได้เลย
เหลือเพียงความเป็นไปได้เดียว คือพวกโจรทะเลทรายรู้ตำแหน่งยามทั้งหมดตลอดทาง แล้วกำจัดพวกเขาไปอย่างเงียบเชียบ
กองทัพหลวงที่จะมาช่วยชายแดน ไม่มีทางมาทันการ ส่วนโจรทะเลทรายเลือกจู่โจมในจังหวะนี้ ช่างจับเวลาได้เหมาะเจาะเหลือเกิน
"ในกองทัพชายแดนมีคนทรยศ!"
เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ หลี่ชิงก็ตัวสั่นไปทั้งตัว
"วิ่งเร็ว! รีบหนีเร็ว!"
"ไปเมืองหวังหยวน ไปเมืองหวังหยวน! วิ่งไปทางเมืองหวังหยวน!"
เสียงตะโกนอลหม่านจากภายนอกดังเข้าหูหลี่ชิง และมุมปากของเขาก็กระตุกอย่างช่วยไม่ได้
หนีงั้นหรือ? จะหนีรอดได้หรือ?
พวกโจรทะเลทรายขี่ม้ามา ส่วนเมืองหวังหยวนอยู่ห่างจากค่ายทหารไม่ต่ำกว่าสิบลี้ แม้แต่ยอดฝีมือขั้นพลังภายนอกก็ยังวิ่งไม่เร็วเท่าม้า
ผลสุดท้ายของการหลบหนีไปทุกทิศทางน่าจะนำไปสู่ความตาย เส้นทางด้านหลังราบเรียบไร้ที่กำบัง ไม่มีทางหนีรอด มีแต่จะกลายเป็นเป้านิ่งให้ถูกล่าเท่านั้น
"ให้ตายเถอะ! กะทันหันเกินไป ไม่มีสัญญาณเตือนเลยสักนิด ข้ายังไม่ทันได้เตรียมตัวด้วยซ้ำ!"
เหงื่อผุดซึมที่หน้าผากของหลี่ชิง เขาพยายามสงบสติอารมณ์ คิดอย่างรวดเร็วว่าควรทำอย่างไรจึงจะดีที่สุด
"แผนสู้การเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เอาเสบียงไปหลบภัยในโลกแห่งรัตติกาลดีกว่า!" หลี่ชิงกัดฟันตัดสินใจ
ทันใดนั้น เขาก็วิ่งตรงไปยังคลังเสบียง หวังจะเอาอาหารติดตัวไปให้พอกินได้สักระยะ
กระโจมส่วนใหญ่ถูกเผา ยกเว้นแต่บริเวณคลังเสบียงที่ไม่มีไฟลุก
ภาพที่เห็นทำให้มุมปากของเขาก็กระตุกอย่างช่วยไม่ได้อีกครั้ง
พวกโจรทะเลทรายรู้ตำแหน่งคลังเสบียงชัดเจน ยิงธนูหลบเลี่ยงบริเวณนี้โดยเฉพาะ
เห็นได้ชัดว่ารู้ข้อมูลละเอียดขนาดนี้ ถ้าบอกว่าในกองทัพไม่มีคนทรยศ หลี่ชิงขอตัดหัวตัวเองเลยดีกว่า
-------
คนอื่นๆ ต่างวิ่งหนีอย่างไร้ทิศทางไปทางเมืองหวังหยวน ไม่มีใครสนใจสภาพคลังเสบียง ขอแค่วิ่งให้ไกลที่สุดก็พอ
หลี่ชิงเตะประตูคลังเสบียงที่ปิดสนิทเปิดออก แต่ยังไม่ทันได้ขนอาหาร เขาก็เห็นคนที่คาดไม่ถึง หรืออาจจะคิดไว้ก็ตาม
"อู๋อ้วน? ทำไมนายยังอยู่ในคลังเสบียงล่ะ?" หลี่ชิงตกตะลึง
ในคลังเสบียง ร่างอ้วนกลมกำลังนั่งอยู่บนกองเนื้อแห้ง ยัดอาหารเข้าปากไม่หยุด
"ขะ...ข้าเห็นที่นี่ไม่มีไฟ ก็เลยหลบไฟอยู่ในนี้น่ะ" อู๋ชงพูดเสียงสั่น แก้มอ้วนๆ สั่นระริก
"เจ้าโง่! พวกโจรทะเลทรายมาปล้นเสบียงโดยเฉพาะ นายอยู่ที่นี่ก็เท่ากับหาที่ตายน่ะสิ!" หลี่ชิงตวาดเสียงดัง
อู๋ชงอ้าปากค้าง แล้วพูดอ้อมแอ้ม "แล้วจะทำยังไงล่ะ ข้าวิ่งไม่ไหว เมืองหวังหยวนก็ไกล ข้าวิ่งไปคงตายก่อนถึง หรือไม่ก็โดนพวกโจรทะเลทรายไล่ทัน"
เจ้าอ้วนนี่รู้ทันสถานการณ์ดีกว่ากว่าพวกทหารเสียอีก รู้ว่าสองขาสู้สี่ขาม้าไม่ได้ หลี่ชิงแอบด่าในใจ
ยังไม่ทันพูดอะไร อู๋ชงก็พูดอย่างสิ้นหวัง "ยังไงก็ตายอยู่ดี งั้นข้าขอตายอิ่มท้องที่นี่ยังดีเสียกว่า!"
"ข้าจะกิน! กินให้เต็มที่!"
หลี่ชิงอดขำไม่ได้ เจ้านี่ใกล้ตายแล้วยังคิดแต่เรื่องกิน ไม่รู้จะพูดอะไรดี
"เจ้าอ้วน! อยากรอดตายก็ฟังข้า!" หลี่ชิงดึงอู๋ชงลุกขึ้น แล้วพูดอย่างรวดเร็ว "จำที่ฝังศพอาจารย์ข้าได้ไหม?"
"ตอนนี้รีบวิ่งไปที่สุสานนั่น หาหลุมศพสักหลุมซ่อนตัว พวกโจรทะเลทรายคงไม่ไปค้นหาถึงที่นั่นหรอก!"
พอได้ยินอย่างนั้น ตาของอู๋ชงก็เป็นประกาย
"ใช่แล้ว! ทำไมข้านึกไม่ถึงกันนะ?"
รู้ว่ามีทางรอด ร่างอ้วนของอู๋ชงก็พลันแสดงความอยากมีชีวิตรอดอย่างน่าทึ่ง เขาลุกพรวดขึ้นแล้วถาม "แล้วเจ้าล่ะ? ยังอยู่ทำไม รีบวิ่งไปด้วยกันสิ!"
"เจ้าไปก่อนเถอะ ข้าเอาของกินนิดหน่อยแล้วจะตามไปทันที!" หลี่ชิงตบตัวอู๋ชง บอกให้รีบวิ่งไป
"งั้นก็ได้ อย่าลืมเอาเนื้อแห้งไปเยอะๆ นะ อย่าให้พวกโจรทะเลทรายบ้านั่นได้ไปล่ะ!"
สั่งเสร็จ ร่างกลมป้อมของอู๋ชงก็ออกแรงวิ่งสุดชีวิต พุ่งออกจากคลังเสบียงไปอย่างรวดเร็ว
หลี่ชิงนึกอะไรขึ้นได้ รีบตะโกนไล่หลัง "เจ้าอ้วน! อย่าลืมนะ ห้ามมุดหลุมศพอาจารย์ข้าเด็ดขาด!"
ไม่รู้ว่าอู๋ชงได้ยินหรือเปล่า หลี่ชิงก็ไม่มีเวลาสนใจแล้ว เขารีบแบกข้าวสารและเนื้อแห้งจำนวนมากจากในคลัง หลับตา เริ่มขนย้ายอาหารครั้งใหญ่
เขาตั้งใจจะขนอาหารให้พอกินได้นานๆ แล้วหลบไปในโลกแห่งรัตติกาลสักพัก รอให้เหตุการณ์ที่นี่สงบก่อนค่อยว่ากัน
ขอรับการติดตามและแนะนำด้วยนะครับ!
(จบบทที่ 15)