ตอนที่แล้วตอนที่ 334 ได้เวลาทำธุระสำคัญแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 336 ก็น่าจะใช่นะ ผมเพิ่งหยิบมันมาจากบริษัทน่ะ

ตอนที่ 335 ครั้งหน้าไม่พลาดแน่ๆ


“คุณเย่ ผมขอแนะนำหน่อยนะครับ นี่คือคุณหู หมิงเย่ นักธุรกิจชื่อดัง”

หนิง เจิ้งชิง แนะนำชายวัยกลางคนที่สวมแว่นตาซึ่งยืนอยู่ข้างๆ เขา

“สวัสดีครับ คุณเย่”

หลังจาก หนิง เจิ้งชิง พูดจบ หู หมิงเย่ ก็รีบกล่าวทักทายด้วยความสุภาพอย่างนอบน้อม

“ก่อนหน้านี้ผมเคยได้ยิน คุณหนิง พูดถึง คุณเย่ มาก่อน วันนี้ได้พบตัวจริง คุณเย่ ดูสง่างามมากจริงๆ ไม่เพียงแค่หล่อเหลา แต่ยังเต็มไปด้วยความสามารถที่ไม่ธรรมดา...”

คำพูดจริงใจของ หู หมิงเย่ ทำให้ หนิง เจิ้งชิง และเมิ่ง เต๋อผิง พยักหน้าอย่างเห็นด้วย

“สวัสดีครับ”

เย่เฉิน พยักหน้าตอบ

“คุณหนิง คุณหู สวัสดีครับ ผมเมิ่ง เต๋อผิง”

เมิ่ง เต๋อผิง แนะนำตัวเองโดยไม่ต้องรอให้ เย่เฉิน แนะนำ

หลังจากที่ทุกคนรู้จักกันแล้ว พวกเขาก็เริ่มคุยเรื่องธุรกิจกัน

หู หมิงเย่ ได้พัฒนาธุรกิจในเมืองหางโจวมานานหลายปีแล้ว และรู้จักผู้มีความสามารถมากมายในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีได้มีการพัฒนาเติบโตไปอย่างรวดเร็ว การทำธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้จึงเป็นทางเลือกที่ดีอย่างแน่นอน

ดังนั้น หู หมิงเย่ จึงมีความคิดที่จะก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยีขึ้นมา

แต่เนื่องจาก หู หมิงเย่ เองก็มีธุรกิจอื่นมากมาย ทำให้เขาไม่สามารถรวบรวมเงินทุนเริ่มต้นจำนวนมากได้

หลังจากได้ทำความเข้าใจสถานการณ์ของ หู หมิงเย่ โดยคร่าวๆ แล้ว เมิ่ง เต๋อผิง ก็แนะนำเกี่ยวกับตัวเขาเองเล็กน้อย

ทางฝั่งของ หู หมิงเย่ มีเครือข่ายบุคคลสำคัญ ในขณะที่ เมิ่ง เต๋อผิง มีเงินทุนมากมาย ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นพันธมิตรที่สมบูรณ์แบบ

นอกจากนี้ยังมี เย่เฉิน และหนิง เจิ้งชิง เป็นพยาน ทำให้ความร่วมมือครั้งนี้น่าเชื่อถือมากขึ้น

สุดท้ายหลังจากการหารือกันนานกว่าหนึ่งชั่วโมง แผนการเริ่มต้นก็ถูกกำหนดขึ้น

หู หมิงเย่ และเมิ่ง เต๋อผิง จะร่วมทุนกันก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยีขึ้นมา โดยมีเงินทุนเริ่มต้นระหว่าง 7-8 พันล้านถึง 1 หมื่นล้านหยวน

หู หมิงเย่ จะวางแผน และลงเงินทุนบางส่วน โดยเขาจะมุ่งเน้นในการหาคนเก่งที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยีเป็นหลัก

ส่วน เมิ่ง เต๋อผิง จะลงทุนเป็นส่วนใหญ่ ทั้งสองคนจะแบ่งหุ้นของบริษัทกันคนละครึ่ง

และเพื่อเป็นการขอบคุณ เย่เฉิน และหนิง เจิ้งชิง, หู หมิงเย่ และเมิ่ง เต๋อผิง ก็ตกลงที่จะมอบหุ้นบริษัทให้ เย่เฉิน และหนิง เจิ้งชิง คนละ 15% ทำให้ เย่เฉิน และหนิง เจิ้งชิง กลายเป็นกรรมการบริษัทไปโดยปริยาย

ด้วยการเข้าร่วมของสองบุคคลสำคัญอย่าง เย่เฉิน และหนิง เจิ้งชิง บริษัทนี้จึงมีอนาคตที่สดใสแน่นอน

ภายหลังจากการเชื้อเชิญอย่างแข็งขันจาก เมิ่ง เต๋อผิง และหู หมิงเย่ เย่เฉิน และหนิง เจิ้งชิง จึงไม่สามารถปฏิเสธได้

ดังนั้นบริษัทเทคโนโลยีนี้จึงกลายเป็นบริษัทที่เกิดจากความร่วมมือของคนสี่คน

โดย เมิ่ง เต๋อผิง เป็นคนลงทุน หู หมิงเย่ จัดหาบุคลากร และบริหารบริษัท ส่วน เย่เฉิน และหนิง เจิ้งชิง เพียงแค่ถือชื่อไว้ในบริษัทเท่านั้น

ทุกอย่างจึงเสร็จสิ้นเรียบร้อย

ก่อนที่ เย่เฉิน จะออกจากศาลาหลิงหลง เถียน จื่อสง ก็กลับมา

เนื่องจากเงินจำนวน 2 พันล้านหยวนนั้นไม่ใช่จำนวนเงินเล็กน้อย เขาจึงไม่สามารถรวบรวมเงินทั้งหมดได้ในทันที

ดังนั้น เถียน จื่อสง จึงนำเงินบางส่วนมาให้ เย่เฉิน ก่อน และส่วนที่เหลือจะเตรียมให้เสร็จภายในไม่กี่วัน หลังจากนั้นเขาจะนำไปมอบให้ เย่เฉิน ด้วยตนเอง

หลังจากที่ส่ง เย่เฉิน ออกไปแล้ว เถียน จื่อสง ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

เขารู้สึกเสียใจที่ปล่อยให้ เสิ่น หยุนเหล่ย เข้ามาบริหารธุรกิจเพียงเพราะฟังคำพูดของภรรยาลับ

คราวนี้เขาเสียหายหนักมาก

แต่หากมองในมุมกลับกัน การที่เขาได้รู้จักกับ คุณเย่ ก็ไม่ถือว่าเสียหายแต่อย่างใด กลับจะถือว่าเป็นผลดีเสียด้วยซ้ำ

……..

เมื่อกลับมาถึงโรงแรมโฟร์ซีซั่น หางโจว แอท เวสท์เลค เย่เฉิน พลันนึกขึ้นมาได้ว่า…

เมื่อครั้งก่อนที่เขา กับซู หนิงซวง ไปเที่ยวด้วยกัน มันเป็นการเดินทางที่เร่งรีบมากจนทำให้พวกเขาไม่ได้เที่ยวสนุกกันอย่างเต็มที่เลย

ตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอมฤดูหนาว ..จึงมีเวลาเหลือเฟือ อีกทั้งงานเลี้ยงประจำปีของตระกูลซูก็ยังไม่ถึงเวลา

นอกจากนี้พ่อแม่ของเขา และพ่อแม่ของ ซู หนิงซวง ก็จะมาถึงหางโจวในอีกสักพัก ทำไมไม่ใช้เวลานี้ออกไปขับรถเที่ยวให้เต็มที่สักหน่อยล่ะ?

หลังจากกลับมาถึงวิลล่า เย่เฉิน จึงบอกความคิดนี้กับ ซู หนิงซวง

“ดีเลย ดีเลย”

ซู หนิงซวง ตอบตกลงอย่างกระตือรือร้น แน่นอนว่าเธอยินดีที่จะออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก

เย่เฉิน และซู หนิงซวง ได้วางแผนร่วมกันว่าจะไปเที่ยวที่ซูเฉิงก่อน เพื่อเที่ยวชมสถานที่ที่พวกเขาพลาดไปในครั้งที่แล้วให้ครบ

หลังจากนั้นหากยังมีเวลาอยู่ พวกเขาจะตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวที่อื่นต่อดีหรือไม่

“ใช่แล้ว เย่เฉิน ฉันควรชวน หลิงเอ๋อร์ ไปด้วยไหม?”

ซู หนิงซวง ถามขึ้น เนื่องจากเธอเพิ่งคุยโทรศัพท์กับ ซู หลิงเอ๋อร์ ไปเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน ดังนั้นเธอจึงถามโดยอัตโนมัติว่า :

“เมื่อกี้ หลิงเอ๋อร์ บ่นว่าอยากใช้เวลาช่วงปิดเทอมเที่ยวให้สนุกสักครั้ง”

ซู หลิงเอ๋อร์ กำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย และช่วงปิดเทอมนี้ยังค่อนข้างสบายอยู่

แต่ถ้าจบมัธยมปลายไปแล้ว ตั้งแต่ปิดเทอมฤดูร้อนปีหน้า เธอจะต้องเริ่มเตรียมตัวสำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย และจะไม่มีเวลาเหลืออีกแล้ว

“ได้สิ”

เย่เฉิน พยักหน้า

“ว่าแต่ทำไม หลิงเอ๋อร์ ถึงไม่มาที่หางโจวพร้อมเราล่ะ?”

เย่เฉิน ถามด้วยความสงสัย

เมื่อครั้งที่ เย่เฉิน กับซู หนิงซวง มาหางโจว ซู หลิงเอ๋อร์ ก็อยู่ใกล้ๆ ด้วย และทุกครั้งที่ เย่เฉิน กับซู หนิงซวง จะออกไปเที่ยว ซู หลิงเอ๋อร์ ก็มักจะรีบเข้าร่วมด้วยเช่นกัน

แต่คราวนี้เธอกลับไม่สนใจมาหางโจวเลย ซึ่งมันเป็นเรื่องที่แปลกมาก

ในเวลานั้น เย่เฉิน คิดว่า ซู หลิงเอ๋อร์ อาจจะตั้งใจจะใช้ช่วงปิดเทอมนี้ในการทบทวนบทเรียนเพื่อเตรียมตัวสำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะคิดผิด..

“อืม...หลิงเอ๋อร์ ไม่ค่อยชอบหางโจวนิดหน่อยน่ะ”

ซู หนิงซวง อธิบาย

ตามหลักแล้ว ทรัพย์สินโดยส่วนใหญ่ของตระกูลซูอยู่ในหางโจว แต่เนื่องจากพ่อของ ซู หนิงซวง ไม่ได้รับความสำคัญจากตระกูลมากนัก มิหนำซ้ำชายชราตระกูลซูยังไม่ได้โปรดปรานลูกชายคนนี้เท่าไหร่นัก

เลยเป็นเหตุให้คุณปู่ของเธอส่งพ่อของเธอไปบริหารธุรกิจที่เมืองเจียงโจว

ในบรรดาลูกชายทั้งสี่ของชายชราตระกูลซู มีเพียงพ่อของ ซู หนิงซวง เท่านั้นที่อยู่ในเมืองเจียงโจว

ดังนั้นแล้วทำไม ซู หลิงเอ๋อร์ และแม่ของเธอจึงย้ายไปอยู่ที่เจียงโจว ขณะที่พ่อของ ซู หลิงเอ๋อร์ ซู กวางหยวน ลูกชายคนที่สี่ของตระกูลซูกลับอาศัยอยู่ที่หางโจว?

จริงๆ แล้ว เป็นเพราะเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้พ่อแม่ของ ซู หลิงเอ๋อร์ เกิดความขัดแย้งรุนแรง

แม่ของ ซู หลิงเอ๋อร์ จึงพา ซู หลิงเอ๋อร์ ย้ายไปอยู่ที่เจียงโจว

“อย่างนี้เอง”

เย่เฉิน พยักหน้า นี่เป็นเรื่องในครอบครัวของ ซู หลิงเอ๋อร์ เย่เฉิน จึงไม่อยากถามมากจนเกินไป

หลังจากนั้น ซู หนิงซวง ก็ได้ติดต่อ ซู หลิงเอ๋อร์ และพวกเขาก็ได้นัดพบกันที่เมืองข้างเคียงใกล้กับหางโจว

“ยังไงก็เถอะ ควรจะชวน ซูซวน มาด้วยไหม?”

ซู หนิงซวง ถามต่อ

“ไว้คราวหน้าเถอะ ครั้งหน้าไม่พลาดแน่ๆ”

เย่เฉิน นึกถึงการเดินทางครั้งก่อนที่มีผู้หญิงสามคน และรู้สึกปวดหัวไม่น้อย

ถ้าครั้งนี้พวกเธอสามคนรวมตัวกันอีก เย่เฉิน คงทนไม่ไหว ดังนั้นไว้คราวหน้าค่อยชวนแล้วกัน

หลังจากกลับจากเที่ยวครั้งนี้ เขาจะชวนพี่สาวมาที่หางโจวเพื่อเที่ยวบ้าง และเย่เฉิน จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้เอง

รถ Rolls-Royce Cullinan ที่ซื้อไว้เมื่อครั้งก่อนยังจอดอยู่ที่ ‘เย่เยวียน’ ในซูเฉิง ตอนนี้เขาจึงต้องเตรียมรถ SUV ใหม่

ด้วยความคิดที่ว่าไม่ควรสิ้นเปลือง และควรจะเรียบง่ายเข้าไว้ เย่เฉิน จึงนำรถ Bentley Bentayga แสนจะธรรมดาจากบริษัท เซิ่งไห่ เอนเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป มาใช้

เมื่อเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เย่เฉิน และซู หนิงซวง ก็ออกเดินทางในวันนั้นเลย

ในคืนนั้น เย่เฉิน และซู หนิงซวง ก็ได้พบกับ ซู หลิงเอ๋อร์ ที่เมืองใกล้เคียง พวกเขาตัดสินใจพักที่นั่นหนึ่งคืน และจะออกเดินทางต่อในวันรุ่งขึ้น

4 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด