ตอนที่แล้วก้าวข้ามความว่างเปล่า (6)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปก้าวข้ามความว่างเปล่า (8)

ก้าวข้ามความว่างเปล่า (7)


[แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]

[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด]

[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ100คน ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบไม่มีการแก้คำผิด และยิบย่อยมากมาย ไปนั่นแหละ]

<เรื่องราวของอารอน ตอนที่ 48>

6. ก้าวข้ามความว่างเปล่า (7)

*****

เนลม์ไฮมฟ์ของโลกิเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ

ไม่เคยแพ้ในการต่อสู้ PVP มากมาย

พวกเขาเคลียร์ด่านที่มีความยากระดับสุดยอดได้อย่างต่อเนื่อง

ศูนย์กลางของชัยชนะนั้นคือปาร์ตี้ที่ 1

ถึงไม่มีเด็กชายก็ไม่เป็นไร

ในตอนแรกพวกเขาอาจจะยังไม่ลงรอยกัน แต่ตอนนี้พวกเขาสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นโดยไม่ต้องมีเด็กชายคอยไกล่เกลี่ย

หน้าที่ของเขาจบลงแล้ว

ถ้ายังมีสิ่งที่ต้องทำเหลืออยู่ ก็มีเพียงสิ่งเดียว

นั่นคือการพิชิตหอคอยชั้นที่ 80

ชั้นที่เป็นก้าวสำคัญในการก้าวขึ้นเป็นผู้เล่นระดับแนวหน้าของโลกอย่างแท้จริง

เหล่าผู้เล่นระดับสูงที่อยู่เหนือโลกิล้วนต้องพบกับความล้มเหลว ณ ที่แห่งนี้ จนต้องลบบัญชีหรือเลิกเล่นเกมไป

'อย่างนี้นี่เอง'

โลกิเองก็เคยพยายามพิชิตชั้นที่ 80 มาแล้ว และสูญเสียกำลังพลไปไม่น้อย

การที่ปาร์ตี้ที่ 1 รอดมาได้นั้นถือเป็นปาฏิหาริย์

ชั้นที่ 80

ถ้าข้ามผ่านตรงนี้ไปได้ สิ่งที่เด็กชายจะทำเพื่อปาร์ตี้ที่ 1 ก็จะจบลง

เด็กชายปลดปล่อย "พลังแห่งกรรม" จนถึงขีดสุด

พลังแห่งกรรม

พลังนี้แตกต่างจากมานาที่เพิ่มขึ้นตามธรรมชาติ มันจะไม่เพิ่มขึ้นหากไม่ใช้เวลา

ดังนั้นหากมีเวลาเหลือเฟือ ก็สามารถสะสมได้ไม่จำกัด

ดังนั้นเด็กชายจึงตัดสินใจทำมัน

เขาปลดปล่อยพลังแห่งกรรมที่สะสมมาตลอดกาลเวลาในชั้นที่ 80 ออกมาจนหมด

และสะสมใหม่จนเกือบถึงชั้นที่ 81

ปลดปล่อยพลังแห่งกรรมที่สะสมมานานกว่าร้อยล้านปีออกมาอีกครั้งในชั้นที่ 81

และสะสมมันขึ้นมาใหม่

ก่อนหน้านี้เขาใช้มันอย่างประหยัด แต่จากนี้ไปเขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้อีกแล้ว

จนมาถึงชั้นที่ 85

เด็กชายคิดหาวิธีที่จะไม่ต้องให้ใครมาเสียสละชีวิต

นั่นคือการชาร์จและปลดปล่อยพลังซ้ำๆ ภายในด่าน

ไม่จำเป็นต้องอยู่ในเมืองหลวงตลอดเวลา

แค่มีเวลาจดจ่อสักหน่อย เขาก็สามารถเรียกมิติต่างๆ เข้ามาในจินตนาการของเขาได้

ดังนั้นหลังจากปลดปล่อยพลังทั้งหมดในด่านแล้ว เขาจะให้เพื่อนร่วมทีมช่วยซื้อเวลาให้เขาเรียกโลกแห่งจินตนาการออกมา

จากนั้นเขาก็จะสะสมพลังนั้นอีกครั้งในโลกที่หยุดนิ่งนั้น

"มูเด็น!"

มีคนตะโกนเรียกเขา

"แบบนี้ไม่ได้นะ! ไม่มีใครต้องการวิธีการเอาชนะแบบนี้หรอก!"

"พลังนั่น...ไม่ใช่สิ่งที่ต้องใช้เวลาฝึกฝนหลายหมื่นปีเพื่อสะสมมันเหรอ? แล้วจะมาทำซ้ำๆ ในภารกิจเนี่ยนะ?"

"ต่อให้เป็นนาย ก็ต้องพังทลายลงแน่ๆ!"

พวกเขาไม่รู้อะไรเลย

เด็กชายหัวเราะ

เขาไม่มีหัวใจ

เขาต่างจากพวกเพื่อนร่วมทีมที่เป็นมนุษย์

"ไม่เป็นไร"

เด็กชายพูด

"เราจะได้ไม่ต้องรู้สึกเสียใจต่อกันและกัน"

การที่ปาร์ตี้ที่ 1 รอดชีวิตทั้งหมดระหว่างการพิชิตชั้นที่ 80 นั้นเป็นเรื่องของโชค

แต่ครั้งต่อไปจะพึ่งพาโชคไม่ได้อีกแล้ว

"นายท่านก็เห็นด้วยกับวิธีนี้นะ"

"ถ้านายท่านได้รับคำอธิบายที่ดี นายท่านคงจะยกเลิกมัน การเคลียร์ด่านโดยให้คนๆ เดียวแบกรับภาระแบบนี้..."

"บอกว่าไม่เป็นไรไง"

พวกเขาไม่รู้อะไรเลย

ไม่รู้จักเขาเลยสักนิด

เด็กชายพยายามฝ่าการโจมตี

'ไม่เป็นไร'

ปลดปล่อยพลังแห่งกรรมที่สะสมมานานกว่าร้อยล้านปีออกมาจนหมด

ในช่วงเวลาที่ซูเปอร์โนวาระเบิดออกมานั้น ไม่มีใครในปาร์ตี้ที่ 1 สามารถตามเด็กชายได้ทัน

และเขาก็สะสมมันขึ้นมาใหม่

การเรียกโลกแห่งจินตนาการออกมาใช้เวลาเพียง 30 นาที

เรียกโลกที่เวลาหยุดนิ่งออกมา แล้วสะสมพลังแห่งกรรมอีกครั้ง

หลังจากลืมตาขึ้น ก็ปลดปล่อยมันออกมาซ้ำๆ

หลังจากทำซ้ำทั้งหมด 17 ครั้ง ในที่สุดเนลม์ไฮมฟ์ก็สามารถเคลียร์ชั้นที่ 85 โดยมีการสูญเสียน้อยที่สุด

'ไม่เป็นไร'

เพราะเด็กชายไม่มีหัวใจ

ทุกอย่างจะไม่เป็นไร

มันเป็นไปไม่ได้สำหรับมนุษย์ แต่มันเป็นไปได้สำหรับสัตว์ประหลาด

ชั้นที่ 86

ชั้นที่ 87

ชั้นที่ 88

ช่วงเวลานั้นถือเป็นยุคทองของเด็กชายอย่างแท้จริง

เขาเปล่งประกายมากกว่าใครๆ

แต่แสงของซูเปอร์โนวานั้นจะดับลงหลังจากผ่านไปชั่วพริบตา

แกร๊ก

เด็กชายได้ยินเสียงนั้น

เสียงบางอย่างที่อยู่ลึกลงไปกำลังฉีกขาดและแตกออก

'มาถึงจุดนี้แล้วสินะ'

ไม่ว่าจะเทน้ำลงในไหที่ร้าวเท่าไหร่ น้ำก็จะไม่เต็ม

เด็กชายอ่อนแอลงทุกวัน

เขื่อนที่พังทลายลงครั้งหนึ่งไม่เคยหยุดกัดกินวิญญาณของเด็กชาย

ในเวลานั้น เด็กชายมีลางสังหรณ์

ถึงความจริงที่ว่าเขาจะต้องสลายไปในไม่ช้า

'ไม่เป็นไร'

เพราะเด็กชายไม่มีหัวใจ

อย่างน้อยเขาก็ทำหน้าที่สำเร็จแล้ว

สิ่งที่เหลืออยู่ก็แค่รอคอยจุดจบ

ไม่นานหลังจากนั้น

นายท่านโลกิหายตัวไปจากเนลม์ไฮมฟ์

หลังจากนั้นไม่นานเซริส รองนายท่านก็หายไป ทำให้เกิดความวุ่นวายในเนลม์ไฮมฟ์

'…….'

เด็กชายในตอนนั้นไม่สามารถทำอะไรได้เลย

เพราะเขาอ่อนแอเกินไป

เมื่อเวลาผ่านไปอีกครั้ง

'นายท่านตกลงไปในโมเบียส'

เป็นข่าวที่ยากจะเชื่อ

แต่มันเป็นเรื่องที่เขาต้องปล่อยผ่านไป

เพราะยังไงเขาก็เป็นแค่ศพที่รอคอยการลืมเลือน

ท่ามกลางความคิดนั้น

"มูเด็น นายท่านมีเรื่องจะขอร้อง"

"เรื่องอะไร?"

"นายท่านอยากให้นายรับลูกศิษย์สักคน"

"ลูกศิษย์? ลูกศิษย์อะไรกัน?"

"เขาไม่ได้อยู่ในสังกัดเนลม์ไฮมฟ์ เขาบอกว่ามาจากทาวน์เนีย"

คำพูดของยูเน็ตทำให้เด็กชายขมวดคิ้ว

"ลูกศิษย์อะไรกัน ยังไงก็ต้องตายอยู่แล้ว"

"นายท่านบอกว่าไม่เป็นไร"

"แม้ว่าฉันจะเป็นคนฆ่าเขาน่ะเหรอ?"

"ใช่"

ต้องปฏิเสธ

เด็กชายคิดอย่างมีเหตุผล

ไม่มีใครที่เรียนรู้พลังแห่งกรรมจากที่นี่แล้วรอดชีวิตออกไปได้สักคน

'…….'

อาจจะเป็นเพราะความแปรปรวนก็ได้

เรื่องนั้นเด็กชายก็ไม่สามารถเข้าใจได้

"ตามใจ"

"งั้นเดี๋ยวฉันจะพาเขามาเดี๋ยวนี้เลย อ้อ มีอีกคนด้วยนะ"

"เออๆ จะมากี่คนก็ตามใจ"

"ขอบคุณมาก"

ไม่รู้ว่าเพราะอะไร

ถึงรู้ว่าสุดท้ายก็ต้องตายอยู่ดี

'หรือเป็นเพราะความเสียดาย?'

เด็กชายเองก็ไม่รู้

เขาทำได้เพียงคาดเดา

'ถ้าพวกมันอ่อนแอ ก็แค่ไล่กลับไปก็พอ'

ไม่นานนัก คนสองคนก็ปรากฏตัวขึ้นในลัวนาน

หนึ่งคนมาจากเนลม์ไฮมฟ์

อีกคนมาจากทาวน์เนีย

"ผมจะตอบแทนบุญคุณทีหลัง ดังนั้นทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้นที"

ฮีโร่จากเนลม์ไฮมฟ์พูด

'ไร้สาระ'

เจ้านี้แค่ซ้อมมันนิดหน่อย เดี๋ยวมันก็ทำได้เอง

ส่วนอีกคนที่นายท่านฝากฝังไว้... ดูท่าทางจะทึ่มๆ

แค่ขู่หน่อยก็คงจะไล่กลับไปได้

เด็กชายดุชายหนุ่มด้วยคำพูด

"แต่ฉันไม่คิดอย่างนั้น"

ชายหนุ่มโต้แย้ง

"ความพยายามของคนโง่เขลาก็มีความหมายเช่นกันนะครับ"

โง่จริงๆ

เด็กชายได้แต่หัวเราะ

พวกนี้ไม่รู้จักโลกของลัวนานจริงๆสินะ

'อ้อ ใช่'

เรื่องลูกศิษย์อะไรนั่น ตอนนี้ไม่มีความหมายแล้ว

เขาตัดสินใจพูดอะไรก็ได้เพื่อไล่ชายหนุ่มทั้งสองออกไป

'อารอน เดลเคิร์ด แห่งทาวน์เนีย'

นั่นคือชื่อของเจ้าโง่นั้นสินะ

'ไม่น่าเบื่อแล้วสิ'

การเฝ้าดูคนโง่คนนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าสนใจสำหรับเด็กชาย

ยังไงซะเขาก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้วในที่แห่งนี้

สายตาของเด็กชายจับจ้องไปที่อารอน

'หรือว่าหมอนี่จะไม่มีพรสวรรค์ยิ่งกว่าเขาอีกนะ?'

“....”

ชายหนุ่มได้เพียงส่ายหน้า

พรสวรรค์ของอารอนนั้นแย่มาก…

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร , ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิก กระซิก ;-;

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด