ตอนที่แล้วกำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 394 แผนการทำลายล้าง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปกำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 396 พบกันจริงหรือ

กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 395 ความแค้น


กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 395 ความแค้น

“นายน้อย”

น้าหลานมองไปทางหอคอยกลไกสวรรค์ สีหน้าแฝงไปด้วยความสับสน นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งไม่รู้ว่าควรเอ่ยสิ่งใด

“น้าหลานมีเรื่องอันใดก็กล่าวมาเถิด”

ฟางหานกล่าว

น้าหลานเป็นญาติเพียงคนเดียวของเขาในโลกใบนี้ หากไม่มีน้าหลาน ด้วยพลังของเขาคงตายไปนานแล้ว

การเดินทางไปที่หอคอยกลไกสวรรค์ครั้งนี้ เขาคิดในใจว่าจะต้องหาวาสนาให้กับน้าหลาน

อย่างน้อยก็ต้องให้บรรลุระดับกึ่งจักรพรรดิ

เช่นนี้แล้ว พลังของน้าหลานจะแข็งแกร่งขึ้น เขาจะได้ตอบแทนนางที่คอยปกป้องเขา ส่วนความปลอดภัยของเขาก็จะเพิ่มขึ้น

“นายน้อย ท่านคิดว่าจะใช้สมบัติสุดท้ายของตระกูลฟาง เพื่อแลกเปลี่ยน...”

น้าหลานกล่าวถึงตรงนี้ก็หยุดพูด

แต่ความหมายของนาง ฟางหานเข้าใจดี

“น้าหลานไม่ต้องกังวลใจ สิ่งของบางอย่างอยู่ในมือของพวกเราก็เป็นเพียงวัตถุไร้ค่า ไม่สามารถใช้ได้ แล้วยังดึงดูดความโลภของผู้อื่น สู้แลกเปลี่ยนเป็นข่าวสารที่เป็นประโยชน์จะดีกว่า”

ฟางหานกล่าวอย่างใจเย็น

เรื่องบางอย่างเขาเข้าใจดี

สิ่งของที่บรรพบุรุษฟางทิ้งเอาไว้ แน่นอนว่าล้ำค่า แต่ตอนนี้เขายังใช้ไม่ได้

ตัวอย่างเช่น อาวุธเซียนหนึ่งชิ้น

แม้จะแข็งแกร่ง แต่ด้วยพลังของเขาและน้าหลาน ไม่สามารถควบคุมได้ การโจมตีเพียงครั้งเดียวก็อาจจะสูบพลังแก่นแท้ของพวกเขาจนหมดสิ้น

หากสามารถสังหารศัตรูได้ก็ยังดี หากสังหารไม่ได้ สถานการณ์ต่อจากนั้นคงต้องยอมให้ผู้อื่นเข่นฆ่า

“หากบรรพบุรุษยังมีชีวิตอยู่ คงไม่อยากเห็นลูกหลานของตระกูลฟางต้องพบเจอกับหายนะเพราะวัตถุไร้ค่า ทำให้ตระกูลฟางต้องสูญสิ้น”

ฟางหานกล่าวเสริมอีกประโยคหนึ่ง

เมื่อได้ยินดังนั้น

น้าหลานถอนหายใจเบา ๆ ไม่กล่าวสิ่งใดต่อ

“ในเมื่อนายน้อยตัดสินใจแล้ว ข้าก็จะไม่...”

นางกล่าวออกมา แต่ยังพูดไม่จบ

สุดขอบฟ้า ปรากฏดวงอาทิตย์สีดำขนาดใหญ่ขึ้นมาหนึ่งดวง

ภายในดวงอาทิตย์ มองเห็นรถม้าสีดำสนิท มังกรฟ้าสองตนลากรถม้า พุ่งทะยานผ่านท้องฟ้า เบื้องบนมีบุรุษผู้หนึ่งสง่างาม นั่งอยู่

ราวกับจักรพรรดิสวรรค์จุติ ปกครองใต้หล้า

ในช่วงเวลานี้ สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต่างก็หวาดกลัว ใจสั่น ราวกับต้องเผชิญหน้ากับเทพเจ้า มีผู้คนมากมายคุกเข่าลงบนพื้นดิน ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว

“มหาจักรพรรดิ!”

ฟางหานเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเขาแฝงไปด้วยความตกใจ

“กลิ่นอายนี้... ภูผาเมฆาล่อง!”

น้าหลานเอ่ยขึ้น นางรีบหยิบจี้หยกออกมาหนึ่งชิ้น เปิดใช้งาน แสงสีฟ้าปรากฏขึ้น ก่อตัวเป็นม่านแสง ปกคลุมทั้งสองคนเอาไว้

กลิ่นอายภายนอกทั้งหมดถูกปิดกั้นเอาไว้

นี่คือวัตถุคุ้มกายที่ฟางหานในอีกหนึ่งแสนปีข้างหน้ามอบให้พวกเขา ตราบใดที่พลังของอีกฝ่ายไม่เหนือกว่าฟางหานในอนาคต แทบจะไม่สามารถมองทะลุเข้ามาได้

แม้แต่มหาจักรพรรดิก็ยังทำไม่ได้

“ตู้ม!”

รถม้าเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว พุ่งทะยานไปไกลหลายสิบล้านลี้

เพียงชั่วพริบตาก็พุ่งผ่านฟางหานกับน้าหลาน

บนรถม้า เงาร่างสีดำ สง่างาม ราวกับเทพเจ้าจุติ ดวงตาของเขากวาดมอง ห้วงมิติสั่นสะเทือน บิดเบี้ยว ราวกับไม่สามารถทนทานต่อพลังอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้

รังสีอำนาจอันยิ่งใหญ่แผ่กระจายออกไปทุกสารทิศ เก้าชั้นฟ้า สิบดินแดนต่างก็สั่นสะเทือน

ในตอนนี้ ภายในโลกสวรรค์ก่อกำเนิด มีผู้แข็งแกร่งมากมายถูกปลุกให้ตื่นจากการบำเพ็ญเพียร พวกเขามองไปยังหอคอยกลไกสวรรค์ด้วยความสงสัย ภายในโลกสวรรค์ก่อกำเนิด เหตุใดจึงปรากฏมหาจักรพรรดิผู้นี้ขึ้นมา

ยิ่งไปกว่านั้น มหาจักรพรรดิผู้นี้ยังแสดงพลังอย่างโจ่งแจ้ง ราวกับกลัวว่าคนอื่นจะไม่รู้ว่าเขากำลังเดินทางไปที่หอคอยกลไกสวรรค์

ในอดีต มหาจักรพรรดิทุกคนล้วนเดินทางไปที่หอคอยกลไกสวรรค์อย่างลับ ๆ พวกเขาปิดบังตัวตน ปิดบังร่องรอย เพื่อทำให้ศัตรูประมาท

แต่คนผู้นี้กลับทำตรงกันข้าม

ทำให้ผู้คนมากมายสงสัย อยากรู้ว่าเขาคือใคร ถึงได้แข็งแกร่งเช่นนี้

“หากข้าคาดเดาไม่ผิด คนผู้นี้คงจะเป็นมหาจักรพรรดิยมราชแห่งภูผาเมฆาล่อง”

น้าหลานพึมพำ

“ยมราช?”

ฟางหานเอ่ยขึ้น เสียงของเขาเย็นชา แฝงไปด้วยจิตสังหาร หากพลังของเขาแข็งแกร่งเพียงพอ เขาคงลงมือสังหารอีกฝ่ายไปแล้ว แม้แต่ไพ่ตายสุดท้ายก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา

เพียงแค่บดขยี้ เขาก็จะกลายเป็นมหาจักรพรรดิ โจมตีมหาจักรพรรดิยมราช

แต่น่าเสียดาย ช่วงเวลาสุดท้ายถูกน้าหลานห้ามเอาไว้

“นายน้อย ไพ่ตายของพวกเราเหลือเพียงครั้งเดียว อย่าปล่อยให้ความแค้นบดบังดวงตา หากผู้นำตระกูลยังมีชีวิตอยู่ คงไม่อยากเห็นสถานการณ์เช่นนี้”

น้าหลานถอนหายใจเบา ๆ กล่าวอย่างช้า ๆ

นางเข้าใจความรู้สึกของฟางหานเป็นอย่างดี

เพราะว่าตอนที่ภูผาเมฆาล่องบุกโจมตีตระกูลฟาง มหาจักรพรรดิยมราชผู้นี้ลงมืออย่างโหดเหี้ยม สังหารผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลฟางไปหลายคน แล้วยังทำร้ายบิดาของฟางหาน

ตอนนั้น บิดาของฟางหานเป็นผู้นำตระกูลฟาง ต้องเผชิญหน้ากับภูผาเมฆาล่อง ตำหนักเซียนผันยุค และขุมอำนาจอื่น ๆ มหาจักรพรรดิสามคนร่วมมือกันโจมตี สุดท้ายบิดาของเขาก็ต้องตาย

หากเขายังมีชีวิตอยู่ แม้จะไม่ติดอยู่ในรายนามจักรพรรดิ ก็คงไม่ต่างกันมากนัก

“ความหมายของน้าหลาน ข้าเข้าใจแล้ว!”

ฟางหานสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ หน้าอกของเขาสั่นสะเทือน ผ่านไปเนิ่นนาน เขาก็ระงับโทสะในใจ กล่าวขึ้น

ตอนนี้เขาไม่สามารถต่อกรกับมหาจักรพรรดิยมราชได้ แม้จะรวมกับน้าหลานก็คงไม่ต่างอะไรกับมดปลวก หากไม่มีไพ่ตายอยู่ในมือ เมื่อครู่พวกเขาคงต้องตาย

เพราะว่ามหาจักรพรรดิเดินทางมาถึง ทุกสิ่งทุกอย่างในรัศมีหลายสิบล้านลี้ ล้วนอยู่ในสายตาของเขา หากเขาต้องการ เพียงแค่คิด ฟางหานก็จะพบเจอกับหายนะ

“นายน้อย พวกเรายังจะไปที่หอคอยกลไกสวรรค์หรือไม่”

น้าหลานถามอย่างแผ่วเบา

หอคอยกลไกสวรรค์ไม่มีอันตราย แต่หากมีมหาจักรพรรดิยมราชอยู่ก็ต่างออกไป หากพวกเขายังเดินทางไปที่หอคอยกลไกสวรรค์ ไม่ต่างอะไรกับการเดินเข้าไปในกับดัก

“ไป!”

ฟางหานกล่าว พร้อมกับถามกลับไปว่า “เหตุใดจึงไม่ไป”

“แต่ว่า... นายน้อย”

น้าหลานพยายามห้ามปราม

ต้องเผชิญหน้ากับมหาจักรพรรดิ นางไม่มีความมั่นใจว่าจะสามารถปกป้องฟางหานได้ หากเกิดความผิดพลาด ตระกูลฟางคงต้องพบเจอกับหายนะ

“น้าหลานไม่ต้องกังวลใจ แม้มหาจักรพรรดิยมราชจะแข็งแกร่ง แต่เขาจะกล้าลงมือในเมืองต้าฮวงหรือ”

ฟางหานกล่าวอย่างสบายใจ

น้าหลานนึกถึงพลังของเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ ในใจจึงรู้สึกผ่อนคลายลง แต่คำว่ามหาจักรพรรดิยมราชยังคงทำให้นางไม่สบายใจ

เพราะว่าอีกฝ่ายเดินทางไปที่หอคอยกลไกสวรรค์ก่อน ใครจะรู้ว่าเขาจะได้รับข่าวสารอันใด

หากเป็นข่าวสารที่ส่งผลร้ายต่อพวกเขา คงจะลำบาก

“เป็นเพราะข้าทำให้ท่านต้องลำบาก”

น้าหลานกล่าวอย่างจนใจ

พวกเขาออกเดินทางล่วงหน้าหนึ่งปี ตอนนั้นโลกทั้งสองเพิ่งจะหลอมรวมกัน ภูผาเมฆาล่องยังไม่ได้เดินทางมายังโลกเซียนปฐพี แต่อีกฝ่ายกลับใช้เวลาเพียงหนึ่งปี สู้รบกับคนของโลกเซียนปฐพี

ยังสามารถเดินทางมาถึงหอคอยกลไกสวรรค์ก่อนพวกเขา นี่แสดงให้เห็นว่าความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายต่างกันราวกับฟ้ากับเหว ยากที่จะข้ามผ่าน

ผู้แข็งแกร่งเดินทางมาถึงก่อน เหมือนกับการกินข้าว ดื่มน้ำ ง่ายดายยิ่งนัก

“น้าหลานไม่ต้องกล่าวเช่นนี้ หากไม่มีท่าน ข้าคงตายไปนานแล้ว จะเดินทางมาถึงวันนี้ได้อย่างไร”

ฟางหานกล่าวด้วยรอยยิ้ม ปลอบใจน้าหลาน

กล่าวจบ เขามองไปยังหอคอยกลไกสวรรค์ กล่าวอีกครั้งว่า “พวกเราก็ควรออกเดินทางได้แล้ว ระยะทางหลายสิบล้านลี้ คงต้องใช้เวลาอีกนาน”

“เจ้าค่ะ”

น้าหลานพยักหน้า

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด