ก้าวข้ามความว่างเปล่า (9)
[แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ100คน ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบไม่มีการแก้คำผิด และยิบย่อยมากมาย ไปนั่นแหละ]
<เรื่องราวของอารอน ตอนที่ 49>
6. ก้าวข้ามความว่างเปล่า (9)
*****
ไม่นานหลังจากนั้น
อารอนก็ตระหนักถึงความทรงจำที่ถูกลืม
ความทรงจำที่เขาไร้ซึ่งพลังที่จะปกป้องครอบครัว
และไม่สามารถช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมได้
อารอนถูกครอบงำด้วยบาดแผลทางใจที่ฝังลึก
ผู้คนที่มายังสถานที่แห่งนี้เกือบทั้งหมดเป็นเช่นนั้น
ปกติแล้ว หากทำไม่ได้ พวกเขาก็จะยอมแพ้ ไม่ดิ้นรนจนถึงขั้นนี้
แต่อารอนไม่สามารถหยุดได้ แม้ว่าเขาจะต้องการหยุดมันก็ตาม
'เฮ้อ'
เขาได้ฆ่าคนไข้แบบนี้ไปกี่คนแล้ว?
เด็กชายพยายามกระตุ้นให้อารอนระลึกถึงเป้าหมายของเขา เพื่อกระตุ้นการรักษา
'เธอชื่อนีน่าใช่ไหม?'
ครอบครัวและน้องสาวของเขา
เพื่อเธอ อารอนบอกว่าเขาต้องมีชีวิตอยู่และกลับไป
ถ้าเป็นเช่นนั้น เขาไม่จำเป็นต้องแข็งแกร่งขึ้น
'แค่กลับไปก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ?'
แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ยอมแพ้
แม้จะถูกข่มขู่ว่าจะถูกไล่ออก อารอนก็ยังคงอยู่ที่นี่
หากเขายังมีชีวิตอยู่ เขาอาจจะได้พบกับน้องสาวของเขาอย่างปลอดภัย
เด็กชายก้มหน้าลง
ด้านหน้าพอร์ทัลที่เปิดอยู่
อารอนยังคงไม่สามารถก้าวเท้าเข้าไปได้
"เท้าขยับไม่ได้เหรอ?"
อารอนหันกลับมามองเด็กชาย
ดวงตาของเขาสั่นไหว
"ดูเหมือนเป้าหมายที่แท้จริงของนายไม่ใช่การได้พบกับน้องสาวสินะ"
"นั่น...เป็นเพราะผมกลัว...หรือเปล่าครับ? ผม..."
"ฉันคาดไว้แล้วล่ะ ว่ามันอาจจะเป็นแบบนี้ ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันก็แค่จะเตะนายออกไป..."
แต่เด็กชายไม่ได้ทำเช่นนั้น
"มันแปลกดีนะ"
เขาควรจะเรียกสภาพของตัวเองว่าอะไรดี
มันแตกต่างจากที่เคยเป็นมา
จิตใจและร่างกายของเขาดูเหมือนจะไม่ทำงานสอดคล้องกัน
"ผม...นีน่า..."
"เลิกพูดเถอะอารอน เลิกเสแสร้งได้แล้วนายมาที่นี่ไม่ใช่เพื่อน้องสาวของนายใช่ไหมล่ะ?"
ก็แน่นอนอยู่แล้ว
ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเจอคนแบบนี้
ตึง!
เด็กชายดีดนิ้ว ประตูมิติที่นำไปสู่เนลม์ไฮมฟ์ก็ปิดลง
"ตอนนี้เหลือแค่สิ่งเดียวที่ต้องรู้ นายจะกลายเป็นคนตายหรือก้าวไปสู่ขั้นต่อไป"
"...!"
"ฉันจะรอ"
ก็เป็นอย่างที่คิด
โรคทางใจของเขาไม่สามารถรักษาให้หายได้ง่ายๆ ขนาดนั้น
'...'
เหลืออีกขั้นตอนเดียว
ความปรารถนาของอารอนนั้นเจือปนด้วยสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์หรือไม่
หรือมันเป็นความฝันที่ใสสะอาดและบริสุทธิ์
'ถ้าเป็นอย่างแรก เด็กชายคงจะฆ่าเขาทันทีไปแล้ว'
ถ้าเป็นอย่างหลัง เขาจะบรรลุถึง 'พลังแห่งกรรม'
แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ผลลัพธ์ก็ไม่ต่างกัน
'แม้ว่าเขาจะบรรลุถึง 'พลังแห่งกรรม' แต่ยังไงเขาก็ต้องตายอยู่ดี'
เด็กหนุ่มมองไปยังทุ่งราบที่อาบไปด้วยแสงอาทิตย์ยามเย็น
'ทำไมฉันไม่ไล่เขาออกไปนะ'
ยังไงเขาก็ต้องตายอยู่แล้ว
ถ้าอย่างนั้น การไล่เขาออกไปไม่ใช่สิ่งที่สมเหตุสมผลกว่าเหรอ?
แต่เด็กชายไม่ได้ทำอย่างนั้น
'เขาไม่เข้าใจ'
ทำไมถึงเป็นแบบนั้น?
ตลอดมา เขาสามารถคำนวณเหตุผลเบื้องหลังการกระทำของเขาได้ทั้งหมด
แต่ตอนนี้ เขากลับยิ่งจมดิ่งสู่ความสับสน
แรงกระตุ้น
ความสงสัย
ความไม่ไว้วางใจ
'ร่างกายของเขาขัดขืนคำสั่งของเขา'
เขาควรจะไล่อารอนออกไป
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เด็กชายกลับไม่ยอมปล่อยเขาไป
คำสั่งและผลลัพธ์ไม่ตรงกัน
'เขารู้ดี'
เขารู้ว่าอารอนจะเป็นยังไง รู้ว่าจุดจบของอารอนจะเป็นเช่นไร แต่เขาก็ยังไม่หยุด
ที่ผ่านมา เด็กชายรับลูกศิษย์มมาเพราะเขาเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่จะรักษาพวกเขาให้หายได้
เขาคิดว่าหากเขาค้นคว้าและพยายามอย่างหนัก สักวันหนึ่งจะมีใครสักคนเอาชนะโรคนี้ได้และบรรลุความฝันของพวกเขา
พวกเขาล้มเหลว
ไม่มีใครรอดชีวิต
นั่นไม่ใช่เหตุผลที่เขาตัดสินใจเหรอ?
เขาตัดสินใจที่จะเลิกรับลูกศิษย์
ด้วยเหตุนี้ เหล่าฮีโร่ที่เคยแห่กันมาที่ลัวนานด้วยความคึกคักในช่วงแรกจึงเงียบเหงาลงในตอนนี้
บางครั้งก็มีคนมา แต่เด็กชายก็ไล่พวกเขาออกไป
ไม่ว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จหรือไม่ เขาก็ทำแบบนั้นมาตลอด
อย่างน้อย 60 ปี
มากสุด 120 ปี เขาจะบังคับให้พวกเขาออกไป
เป็นการตัดสินใจหลังจากการคำนวณอย่างละเอียด
"ความไม่แน่นอน"
เด็กชายพึมพำกับตัวเอง
จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมาทันที
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ!”
อ่า ใช่แล้ว
เขาลืมไปเลย
เขามีบางอย่างที่ต้องทำ
ถ้าเป็นเช่นนั้น เขาจะปล่อยให้หมอนั่นไปไม่ได้
นี่มันช่างโง่เขลาจริงๆ
เขาเริ่มจะเหมือนหมอนั่นเข้าไปทุกทีแล้วหรือไงนะ?
เวลาผ่านไปนับร้อยปีแล้ว
สติของอารอนเลือนหายไปจนหมดสิ้น ตอนนี้เขากลายเป็นเหมือนตุ๊กตา
แต่เด็กหนุ่มไม่เป็นไรเลย
เพราะเขาไม่มีหัวใจ
"ฉันเคยเตือนนายแล้วใช่ไหม? ว่านายต้องกลับไป"
เด็กชายพูดพลางยิ้มเบาๆ
มาดูกันว่าผลลัพธ์ของการตกปลาครั้งนี้จะเป็นอย่างไร
บทสนทนาระหว่างอารอนและเด็กชายดำเนินต่อไป
"อาจารย์ต้องการอะไรบางอย่างจากผม นั่นเป็นเหตุผลเดียวที่อาจารย์ทิ้งผมไว้ที่นี่"
อ่า ใช่แล้ว อารอน
ฉันมีเหตุผลที่ต้องให้นายอยู่ที่นี่
คนโง่คนนั้นพูดต่อ
"ไม่เป็นไรแล้วครับ"
ไม่เป็นไรแล้ว
นั่นหมายความว่าเขาไม่สนใจอีกต่อไปแล้วว่าเพื่อนหรือสหายของเขาจะอยู่หรือตาย
แต่ถึงกระนั้น ในใจของอารอนก็ยังมีสิ่งหนึ่งหลงเหลืออยู่
'มาถูกทางแล้ว'
ความฝันอันบริสุทธิ์ที่จะแข็งแกร่งขึ้น
เขาได้รับสิทธิ์ที่จะบรรลุ 'พลังแห่งกรรม'
เยี่ยม เยี่ยมมาก
ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันต่อ
เด็กหนุ่มพูด
เขาบอกว่าเขาสามารถทำให้ความฝันของอารอนเป็นจริงได้
ความพยายามของอารอนนั้นคู่ควรแก่การได้รับรางวัล
และอารอนก็หลับตาลงพร้อมกับขอบคุณอาจารย์ของเขา
แล้วพบกันใหม่ เจ้าลูกศิษย์ของ"
เด็กชายพูดกับอารอนที่กำลังจะตาย
"..."
แล้วพบกันใหม่งั้นเหรอ
สีหน้าของเด็กชายแข็งค้าง
คำพูดเมื่อครู่นี้ไม่ได้ออกมาจากความตั้งใจของเขาที่ตะพูดออกไป
แต่สีหน้าสับสนดังกล่าวก็หายไปในไม่ช้า
เวลาผ่านไป
อารอนต้องทนทุกข์ทรมานและสิ้นหวัง แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้และสั่งสม 'พลังแห่งกรรม' อย่างต่อเนื่อง
เด็กหนุ่มคอยให้คำแนะนำอารอนเป็นครั้งคราว เพื่อให้เขาสามารถดึงพลังออกมาใช้อย่างเต็มที่เมื่อเขาฟื้นความทรงจำกลับคืนมา รวมถึงสอนวิธีใช้พลังแห่งกรรมที่หลากหลาย
เพื่อช่วยให้อารอนเติบโต เขาบางครั้งก็ออกไปข้างนอก
แม้แต่ในสายตาของเด็กหนุ่มเอง นี่ก็เป็นความทุ่มเทอย่างมาก
'เพราะว่า'
ในวินาทีที่ความฝันของหมอนั่นเป็นจริง ประตูนรกจะเปิดออก
ไม่มีใครหนีรอดได้
ยกเว้นแต่สัตว์ประหลาดอย่างเด็กหนุ่ม
มันเป็นของขวัญชิ้นสุดท้าย
ใช่แล้ว มันเป็นสิ่งที่เด็กชายมอบให้กับชายหนุ่มก่อนตาย
'ดูเหมือนว่าเขาจะตายเร็วไปหน่อย'
ถ้ายังไงก็ต้องตายอยู่แล้ว
ถ้ายังไงก็ต้องตายและหายไปจากเขา
การใช้มันในทางที่ดีกว่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องกว่าเหรอ
“ใช่ไหมอารอน?”
เด็กหนุ่มพูดกับตัวเอง
เขาสอนเรื่องกรรมให้แล้ว ดังนั้นก็ต้องตอบแทนเขา
เลิกคิดว่าอาจารย์ต้องให้ทุกอย่าง
‘เมื่ออารอนจมดิ่งลงสู่ความฝันอย่างสมบูรณ์’
กินมันจนหมดสิ้น
ทั้งสองความฝันรวมกันเป็นหนึ่งเดียวก็จะสามารถซ่อมแซมตัวตนที่กำลังจะหายไปของเขาได้
นี่คือหนทางที่ถูกต้อง
นั่นเป็นเหตุผลที่เด็กชายเก็บอารอนไว้
ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น มันก็ไม่มีเหตุผล
‘ดังนั้น’
คำพูดอบอุ่นที่มอบให้
คำให้กำลังใจที่เต็มไปด้วยความหวัง
ทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องโกหก
เพราะเด็กชายไม่มีหัวใจ
เป็นสัตว์ประหลาด ไม่ใช่มนุษย์
มันเป็นเพียงการเสแสร้งและการแสดงเพื่อหลอกลวงและใช้ประโยชน์จากเขา
“ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้อยู่ในสถานที่นั้น แต่จำไว้ว่าฉันอยู่กับนายเสมอ”
คำพูดแบบนี้ก็ไม่ใช่ความรู้สึกที่แท้จริงของเด็กชาย
“ผมขอเรียกคุณว่าอาจารย์ได้ไหมครับ?”
อ่า ได้สิ
เรียกตามใจชอบเลย
ยังไงนายก็ต้องตายด้วยน้ำมือของฉันอยู่แล้ว
อารอน เดลเคิร์ด
นายนี่ช่างถูกหลอกง่ายจริงๆ
ใช่แล้ว ถ้าคำนวณดูแล้ว คำตอบก็มีแค่นี้
เด็กชายกำลังเลี้ยงดูอารอนเพื่อยืดอายุของตัวเอง เพื่อที่จะกลืนกินเขา
ช่างไม่รู้อะไรเลย
อารอนถูกหลอกใช้โดยที่ไม่รู้ตัว เชื่อใจและทำตามโดยไม่สงสัย
ไม่ว่าจะพูดว่าอาจารย์หรืออะไรก็ไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น
ไม่สิ คนที่เคยเรียกเด็กชายว่าอาจารย์ เขาฆ่าพวกนั้นไปหมดแล้ว
ดังนั้น ในวินาทีที่เรียกเด็กชายว่าอาจารย์ อารอนก็ถูกกำหนดให้ตายแล้ว
อารอนยังไม่เข้าใจอีกหรือ?
หึ หัดมองความเป็นจริงและสังเกตบ้างเถอะ
“อาจารย์ครับ มีอะไรที่ผมพอจะช่วยอาจารย์ได้บ้างไหมครับ?”
ตอนที่เด็กชายบอกว่าไม่มีหัวใจ อารอนน่าจะรู้แล้วนะ
ตัวเขาจะช่วยอะไรได้?
“อาจารย์ได้เปิดทางให้ผม เช่นเดียวกันผมก็อยากจะตอบแทนอาจารย์”
เด็กชายมีงานที่ต้องทำ
เด็กชายจ้องเขม่งไปที่อารอน
มีเพียงสิ่งเดียวที่หมอนั่นจะทำเพื่อเขาได้
‘ทำให้เข้าใจถึงหัวใจ?’
จะเข้าใจในสิ่งที่ไม่มีได้อย่างไร
เช่นเดียวกับที่นายไม่สามารถเข้าใจถึงความว่างเปล่าได้ แม้จะบำเพ็ญเพียรมานับร้อยล้านปี เด็กชายก็ไม่สามารถเข้าใจถึงหัวใจได้ แม้จะผ่านกาลเวลามาเป็นนิรันดร์
ในทางกลับกัน การที่เขาไม่เข้าใจถึงหัวใจทำให้เขามีชีวิตอยู่ได้ตลอดกาล….