ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 125 ทั้งหมดนี้คือแต้มต้นกำเนิด
ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 125 ทั้งหมดนี้คือแต้มต้นกำเนิด
ภายในวังสวรรค์
กู้ชิงเฟิงได้ทราบข่าวการปรากฏตัวของนิกายพุทธแห่งภูเขาหลิงซาน ภายในใจของเขาราวกับเกิดคลื่นยักษ์ซัดสาด ทำให้จิตใจไม่อาจสงบนิ่งได้
หลังจากได้รับความรู้จากหยางเจี่ยนและนาจา ภายในใจของเขาก็รู้สึกต่อต้านนิกายพุทธแห่งภูเขาหลิงซานเป็นอย่างยิ่ง
เพราะอีกฝ่ายสามารถชำระล้างจิตใจของผู้อื่นได้อย่างเงียบเชียบ วิธีการอันแปลกประหลาดเช่นนี้ ช่างเหลือเชื่อเกินกว่าจะจินตนาการได้
เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน!
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีตถาคตแห่งภูเขาหลิงซานผู้นั้นที่ปราบปรามราชันอสูรไร้เทียมทานอย่างซุนหงอคงด้วยฝ่ามือเดียว
ทั้งหมดนี้ทำให้กู้ชิงเฟิงรู้สึกหวาดกลัวนิกายพุทธแห่งภูเขาหลิงซานอย่างที่สุด แม้ว่าเขาจะไม่เคยพบเจอก็ตาม
“พวกเขาปรากฏตัวที่ใดในมณฑลเทพจงถู”
กู้ชิงเฟิงเอ่ยถาม
ในใจของเขาตัดสินใจแล้วว่าสถานที่แห่งนั้นเขาจะไม่ย่างกรายเข้าไปอย่างเด็ดขาด
“ไม่มี พวกเขาไม่ได้อยู่ในมณฑลเทพจงถู”
จี๋อวิ๋นควบคุมหุ่นเชิดหยางเจี่ยนส่ายหน้า “ในยุคอมตะ พวกเขามักจะอาศัยอยู่ทางทิศตะวันตก เป็นใหญ่ที่สุดในดินแดนสุขาวดีทางทิศตะวันตก”
“ดังนั้น ตอนนี้หลังจากที่พวกเขาปรากฏตัวขึ้น ก็ย่อมเดินทางไปยังมณฑลเทพซีหวง”
มณฑลเทพซีหวงเช่นนั้นหรือ
เมื่อกู้ชิงเฟิงได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกโล่งใจอย่างยิ่ง
โชคดีที่มณฑลเทพซีหวงอยู่ห่างไกลจากที่นี่มาก คาดว่าอีกนานกว่าจะได้พบเจอ
ราวกับว่ารู้ความคิดของกู้ชิงเฟิง จี๋อวิ๋นควบคุมหุ่นเชิดหยางเจี่ยนมองดูอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มอันแปลกประหลาด
“อีกหนึ่งปี เจ้าคงจะได้พบเจอกับคนของนิกายพุทธแล้ว”
อืม?
กู้ชิงเฟิงรู้สึกสับสน
“อีกหนึ่งปี ฟ้าดินกำลังจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อถึงเวลานั้น ห้ามหามณฑลเทพจะหลอมรวมกัน กลายเป็นทวีปอันกว้างใหญ่ไพศาล”
เสียงของหยางเจี่ยนดังขึ้น
ทำให้กู้ชิงเฟิงตกใจอย่างที่สุด
เวรเอ๊ย! เรื่องสำคัญเช่นนี้ เหตุใดเจ้าจึงเพิ่งบอกข้า!
แท้จริงแล้วจี๋อวิ๋นก็เพิ่งรู้เรื่องนี้เช่นกัน
เขาได้ทราบความลับนี้ตอนที่สืบค้นวิญญาณของจื่อเทียนฉี
แต่เขาไม่ได้สนใจ เรื่องหลอมรวมก็ปล่อยให้หลอมรวมเถิด สำหรับเขาแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องดี
อย่างน้อยก็ไม่ต้องใช้ประตูมิติ ยิ่งเหมาะสมกับการรวมโลก!
ทว่ากู้ชิงเฟิงกลับตกใจ
“ไม่ได้แล้ว เวลาของข้าเหลือน้อยแล้ว!”
เดิมทีเขาวางแผนจะออกไปฝึกฝน แต่หลังจากที่รู้เรื่องนี้แล้ว ยังคิดจะฝึกฝนอะไรอีก
รีบกลับไปบำเพ็ญเพียรเถิด!
เมื่อมองดูท่าทางรีบร้อนของกู้ชิงเฟิง จี๋อวิ๋นก็อดรู้สึกจนใจไม่ได้
บุตรแห่งสวรรค์ผู้นี้ ดูเหมือนว่าจะเสียสติไปแล้ว
“ทว่ากายามรรคาแต่กำเนิดของเขาเห็นทีจะอ่อนแอเกินไป คงต้องหาวิธียกระดับให้เขา เพิ่มความสามารถให้กับเขา”
จี๋อวิ๋นกล่าวในใจ
ยุคสมัยกำลังจะเปลี่ยนแปลง
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น เพียงแค่เส้นทางแห่งการตรัสรู้มรรค ก็ยากลำบากยิ่งกว่าเดิม
ยอดอัจฉริยะแห่งยุคสมัยต่างก็ถูกผนึกไว้ในแก่นเทวะ รอคอยการเกิดใหม่ในยุคสมัยนี้
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีบุตรของเทพอีกมากมาย กล่าวได้ว่ายุคสมัยนี้ เต็มไปด้วยอัจฉริยะ ยอดฝีมือ ยากที่จะหาช่วงเวลาใดเปรียบได้
อัจฉริยะมากมายต่างก็แย่งชิงตำแหน่งเทพ แม้แต่กายามรรคาแต่กำเนิดเห็นทีจะไม่เพียงพอ
“ยังเร็วเกินไป คงต้องรอดูสถานการณ์”
ยังมีเวลาอีกหนึ่งปี ซึ่งเพียงพอแล้ว
อืม?
ทันใดนั้น จิตใจของจี๋อวิ๋นก็สั่นไหว “หุ่นเชิดของนิกายพุทธ เดินทางมาถึงมณฑลเทพซีหวงแล้วหรือ”
……………
ณ มณฑลเทพซีหวง
แตกต่างจากมณฑลเทพจงถูที่เจริญรุ่งเรืองโดยสิ้นเชิง
ไม่มีดอกไม้งดงาม ไม่มีผู้คนมากมาย ไม่มีพืชพรรณ
พื้นดินแห้งแล้ง เต็มไปด้วยดินสีแดง หินสีน้ำตาล ไร้ซึ่งชีวิต
กว้างใหญ่ไพศาล ไร้ซึ่งสัญญาณชีพ
ขอบฟ้ามีเพียงภูเขาหินที่ดูอ้างว้างอยู่ไกล ๆ
เห็นได้ชัดว่าที่นี่เป็นดินแดนรกร้าง ไร้ซึ่งชีวิต ไร้ผู้คน เต็มไปด้วยความตาย
ในเวลานี้ จี๋อวิ๋นกำลังควบคุมหุ่นเชิดพระวัชระสามพันรูปและหุ่นพระเชิดพระอรหันต์สิบแปดรูปเดินทางมาถึงที่นี่
“บัดซับ! ช่างสมกับคำร่ำลือ ไม่มีแม้แต่ต้นหญ้า”
ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ผู้บำเพ็ญยังยากที่จะมีชีวิตรอด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนธรรมดา
ผู้ที่ถูกเนรเทศมายังที่แห่งนี้คงตายไปนานแล้ว
แต่สิ่งที่จี๋อวิ๋นควบคุมคือหุ่นเชิด ไม่จำเป็นต้องกิน ไม่จำเป็นต้องหายใจ
ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการดำรงชีวิต
…………
“อัญเชิญวัดเสี่ยวลุ่ยอิมออกมาก่อนเถิด”
จากนั้นจี๋อวิ๋นก็ควบคุมหุ่นเชิดพระอรหันต์ปราบมังกร อัญเชิญวัดเสี่ยวลุ่ยอิมออกมา
ตู้ม—!
เสียงดังสนั่น พลันมีแสงพุทธปรากฏขึ้น เหนือขอบฟ้าปรากฏวัดโบราณอันยิ่งใหญ่
แสงสว่างเจิดจรัสส่องไปทั่ว ทะลวงผ่านท้องฟ้า กว้างใหญ่ไพศาล
ศักดิ์สิทธิ์ ยิ่งใหญ่ ไร้ขอบเขต!
หลังจากวัดเสี่ยวลุ่ยอิมปรากฏขึ้น พื้นดินที่แห้งแล้งรอบ ๆ ก็เปลี่ยนแปลง
…………
ต้นโพธิ์ปรากฏขึ้น กลีบดอกกล้วยไม้ร่วงหล่น กลิ่นหอมอบอวลไปทั่ว
“สมกับเป็นสมบัติล้ำค่า มีพลังเปลี่ยนแปลงฟ้าดิน”
จี๋อวิ๋นรู้สึกทึ่ง เพียงแค่วัดเสี่ยวลุ่ยอิมก็สามารถเปลี่ยนแปลงพื้นที่โดยรอบแสนลี้
หากเป็นวัดต้าลุ่ยอิม เห็นทีจะสามารถเปลี่ยนมณฑลเทพซีหวงให้กลายเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้
หากสุ่มได้ภูเขาหลิงซาน ไม่เพียงแค่มณฑลเทพซีหวงเท่านั้น แม้แต่ห้ามหามณฑลเทพ หรือแม้แต่ความว่างเปล่า จักรวาล ก็ยังได้รับผลกระทบ!
“พักอยู่ที่นี่ก่อนเถิด”
จากนั้นจี๋อวิ๋นก็ให้หุ่นเชิดพระอรหันต์สิบแปดรูปอาศัยอยู่ในวัดเสี่ยวลุ่ยอิม
ส่วนหุ่นเชิดพระวัชระสามพันรูป เขาควบคุมให้แยกย้ายกันไป ใช้วิชาอ่านโชคชะตา ค้นหาหินต้นกำเนิด
เมื่อมาถึงสถานที่แห่งนี้แล้ว ไหนเลยจะปล่อยให้หลุดมือไปได้
ในเวลานี้ จี๋อวิ๋นเริ่มใช้วิชาอ่านโชคชะตา
บนพื้นดินอันกว้างใหญ่ไพศาล มีโชคชะตาลอยวนอยู่
แม้ว่าจะไม่แข็งแกร่งเช่นสิ่งมีชีวิต แต่ตราบใดที่ยังคงมีโชคชะตา แม้เพียงเล็กน้อย ก็ไม่อาจหลบหนีจากสายตาของเขาได้
เขามองไปรอบ ๆ แม้ว่าจะไม่มากมาย แต่ก็ไม่น้อยเช่นกัน
“ทั้งหมดนี้คือแต้มต้นกำเนิด………”
จี๋อวิ๋นรู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่ง ราวกับนักสำรวจที่พบสมบัติ
ทันใดนั้น เขาก็ควบคุมหุ่นเชิดพระวัชระสามพันรูป ออกเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อทำการขุด
เช่นนั้นเอง จี๋อวิ๋นก็เริ่มต้นขุดหินต้นกำเนิดอย่างมีความสุข
วันแล้ววันเล่า เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หนึ่งเดือนผ่านไป
………………
วันหนึ่ง บนความว่างเปล่าแห่งหนึ่งในมณฑลเทพซีหวง ทันใดนั้นก็มีลมหมุนก่อตัวขึ้น จากนั้นก็มีร่างเงาสี่ร่างเดินออกมา
เป็นบุรุษสามคน เด็กสาวหนึ่งคน
พวกเขาล้วนสวมชุดคลุมสีขาว ปลายแขนเสื้อปักลายเส้นสีทอง
บุรุษทั้งสาม เดินอย่างสง่างาม พลังโลหิตราวกับสายน้ำ เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีร่างกายที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง
ยิ่งไปกว่านั้น เลือดที่ไหลเวียนภายในร่างกายของพวกเขา… เป็นสีทอง!
หากสิ่งมีชีวิตจากมณฑลหนานเห็นภาพนี้ คงต้องตกใจอย่างยิ่ง
เพราะสัญลักษณ์เช่นนี้ เป็นสัญลักษณ์เฉพาะของเชื้อสายกายาศักดิ์สิทธิ์ ผู้ปกครองมณฑลหนาน!