บทที่ 48: ช่วยเขาออกจากสถานการณ์ลำบาก
บทที่ 48: ช่วยเขาออกจากสถานการณ์ลำบาก
ในย่านบ้านพักหรูใจกลางเมือง เมื่อค่ำลง บรรยากาศก็สงบลงจนความวุ่นวายในเมืองดูเหมือนห่างไกลออกไป
บ้านของครอบครัวฉินเป็นบ้านสไตล์จีนสมัยใหม่ ดูสง่างามและมีบรรยากาศกวี ตัดกับบ้านสไตล์ยุโรปแบบราชวังรอบข้างอย่างชัดเจน
เจียงฟางมองดูด้วยความสนใจ แม้แต่ต้นไม้และดอกไม้ในสวนก็ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ศาลาและอาคารทุกหลังล้วนมีการก่อสร้างที่ประณีต
เขาอยู่ในสายงานนี้จึงรู้ว่าการออกแบบสไตล์นี้ไม่ได้ต้องการแค่ความคิดสร้างสรรค์ของนักออกแบบเท่านั้น แต่ต้องการเงินทุนมหาศาลด้วย
ฉินหว่านมักพูดว่าเธอเป็นเพียงคนทำงานธรรมดา แต่ความจริงแล้ว เธอมีความเป็นอิสระมาก ไม่ค่อยพึ่งพาพ่อแม่ และชอบอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ ในย่านเก่า ๆ แต่ใครจะคิดว่าครอบครัวของเธอจะมั่งคั่งขนาดนี้
เจียงฟางยิ้ม เขาไม่ใช่คนจนที่ไม่มีอะไรเลย แต่เมื่อเทียบกันแล้ว ก็ยังรู้สึกว่าฉินหว่านแต่งงานกับเขาเป็นการเสียเปรียบเธอไม่น้อย และก็ไม่แปลกใจที่พ่อแม่ของเธอมักจะมองเขาด้วยความไม่พอใจ
แม่ของฉินเห็นเจียงฟางถือของขวัญที่เลือกมาอย่างดีอยู่สองกล่อง จึงรับมาแล้วพูดพร้อมกับยิ้มว่า “หว่านหว่านนี่จริง ๆ เลย คุณจะมาทำไมไม่บอกก่อน”
“พอดีเพิ่งเคลียร์งานเสร็จ มีเวลาว่างพอดี” เจียงฟางเปลี่ยนมาใส่สูท ดูสง่างามอย่างมาก
คำพูดนี้แตกต่างจากที่ลูกสาวบอกเธอโดยสิ้นเชิง
แม่ของฉินมีสีหน้าที่แปลกใจอยู่บ้าง แต่เธอก็ปรับตัวได้อย่างรวดเร็วและเชิญลูกเขยเข้าบ้าน บอกว่าฉินหว่านอยู่ในห้องบนชั้นสอง
เจียงฟางไม่ได้เจอฉินหว่าน แต่กลับถูกพ่อของฉินเรียกไปที่ห้องทำงาน
เมื่อเผชิญหน้ากับพ่อตา เขาพูดคุยมากกว่าปกติเล็กน้อย พยายามรักษาบทสนทนาไม่ให้เงียบเกินไป แต่ก็ไม่มากจนดูประจบเกินไป
พ่อฉินดูพอใจกับการแสดงออกของเขา และถามถึงสถานการณ์ล่าสุดในสำนักงานของเขา
“พอดีเพิ่งเคลียร์โปรเจกต์ที่ทำอยู่เสร็จ ก็เลยมีเวลาว่างบ้าง แต่คงต้องไปทำงานต่างจังหวัดในอีกไม่กี่วัน” เจียงฟางตอบตามความจริง
พ่อฉินพยักหน้ารับฟัง ไม่ได้คัดค้านอะไร เพียงแต่เตือนว่า “งานจะยุ่งเมื่อไรก็ได้ แต่เธอยังหนุ่มอยู่ อย่ามองข้ามครอบครัวมากเกินไป”
เจียงฟางรับคำ นั่งตัวตรงไม่ผ่อนคลายสายตา แต่ทันใดนั้นก็เห็นประตูห้องทำงานแง้มออกเล็กน้อย
ฉินหว่านไม่รู้ว่าเธอยืนอยู่ตรงประตูมานานแค่ไหนแล้ว ฟังอะไรก็ไม่รู้เรื่อง มองอะไรก็ไม่เห็น เธอคิดถึงท่าทีของพ่อที่พูดถึงเจียงฟางในตอนเย็น แล้วรู้สึกกังวล
เธอเคยเห็นพ่อโกรธ แม้เขาจะไม่ตะโกนหรือทำร้ายใคร แต่แค่สบตาก็ทำให้คนอื่นกลัวได้แล้ว
ไม่ว่าเจียงฟางจะเก่งแค่ไหน เขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพ่อเธอหรอก
ป้าหลิวเพิ่งเดินผ่านมา เธอจึงรีบคว้ามือไว้ทันที
“ป้าหลิว เจียงฟางเข้าไปนานแค่ไหนแล้ว เขาคุยอะไรกับพ่อ ทำไมยังไม่ออกมาอีก?” ฉินหว่านไม่รู้สถานการณ์ จึงได้แต่กังวลใจ
“คุณหนูใหญ่ สบายใจเถอะค่ะ คุณหนูเขยรับมือได้อยู่แล้ว”
ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ฉินหว่านก็ยังไม่สบายใจ เธอจึงเดินลงไปในครัวแล้วถือถ้วยซุปโสมขึ้นมา เคาะประตูห้องทำงาน
“พ่อ เลิกคุยกันได้แล้วค่ะ มาดื่มซุปหน่อยนะคะ”
พ่อฉินเห็นเธอถือถ้วยซุปมา ยิ้มอย่างรู้ทัน ว่าเธอต้องมีอะไรแอบแฝงแน่ ๆ เขาวางพู่กันลงแล้วพูดว่า “ไม่มีเรื่องอะไรแอบแฝงอยู่ใช่ไหม?”
ฉินหว่านไม่กล้าสบตากับเจียงฟาง เธอวางซุปลงแล้วช่วยพ่อฝนหมึก "แม่เป็นคนใช้ให้หนูเอามาให้ค่ะ ถ้าพ่อจะบอกว่าหนูพยายามทำดีเอาใจพ่อ ก็คงไม่ใช่หนูหรอกค่ะ"
พ่อฉินหัวเราะเพราะลูกสาวเล่นลิ้น
ดูเหมือนพ่อจะอารมณ์ดีแล้ว
ฉินหว่านถือโอกาสนวดไหล่พ่อเบาๆ แล้วพูดถึงเจตนาที่แท้จริงของเธอ “พ่อ เจียงฟางมาหายากนะคะ พ่ออย่ากักเขาไว้นานเกินไปเลยค่ะ”
“เจอที่บ้านทุกวัน ตอนนี้พ่อแค่คุยด้วยหน่อยเธอก็กล้าจะมาเรียกร้องอะไรจากพ่อแล้วเหรอ?” พ่อฉินทำหน้าขึงขังแล้วพ่นลมหายใจออกเบาๆ
ฉินหว่านถูกดุจนไม่กล้าส่งเสียงอะไรออกมา แล้วเธอก็เหลือบไปเห็นรอยยิ้มที่เจียงฟางเก็บไว้ไม่อยู่
...จะมีความเกรงใจหน่อยไม่ได้เลยเหรอ? นี่เธอกำลังช่วยเขาอยู่นะ!
แต่เขาดันมาขำเธอ!!