ตอนที่ 329 สมแล้วที่เป็นพ่อแม่แท้ๆ ของเขา

[ขอแสดงความยินดีด้วยที่คุณได้รับรางวัลเพิ่มเติม — บริษัทกฎหมาย ซุ่นเหิง หนึ่งในสิบบริษัทกฎหมายชั้นนำของประเทศ]

รางวัลเพิ่มเติมของเกมในครั้งนี้กลับเป็นบริษัทกฎหมายที่ติดหนึ่งในสิบอันดับแรกของประเทศ

นี่คือสิ่งที่ เย่เฉิน ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลย

บริษัทกฎหมาย ซุ่นเหิง มีพนักงานมากกว่า 400 คน เป็นหนึ่งในบริษัทกฎหมายที่มีพนักงานมากที่สุดในประเทศ และยังมีทนายความชื่อดังหลายคนในประเทศอีกด้วย

นอกจากนี้ อัตราการชนะคดีของบริษัทกฎหมาย ซุ่นเหิง ยังสูงถึง 80 กว่าเปอร์เซ็นต์ และสามารถติดห้าอันดับแรกของประเทศได้ด้วยซ้ำ

ในประเทศ มีเพียงบริษัทกฎหมายเดียวที่มีอัตราการชนะคดีเกิน 90% และตั้งอยู่ในปักกิ่ง!

อัตราการชนะคดีเกิน 80% ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าประทับใจมากแล้ว

“บริษัทกฎหมาย ซุ่นเหิง ทำไมฟังดูคุ้นๆ จังนะ?”

เย่เฉิน พึมพำเบาๆ เขารู้สึกว่าชื่อบริษัทนี้เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน มันไม่ใช่ชื่อที่ไม่คุ้นหูเลย..

เย่เฉิน ตกอยู่ในความคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะนึกขึ้นมาได้

เขานึกออกแล้วว่าเคยได้ยินชื่อบริษัทกฎหมาย ซุ่นเหิง นี้จากในข่าวมาก่อน

เนื้อหาข่าวโดยสรุปคือ บริษัทกฎหมาย ซุ่นเหิง ที่มีชื่อเสียงในประเทศ กำลังมีแผนที่จะควบรวมบริษัทกฎหมาย ฮวาอี้ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นแล้ว

แม้ว่าบริษัทกฎหมาย ฮวาอี้ จะไม่ได้ติดอันดับสิบอันดับแรกของประเทศ และมีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ก็ยังมีชื่อเสียงอยู่ดี

และสาเหตุที่ทำให้เป็นที่รู้จักก็เพราะทนายความพิเศษคนหนึ่งที่ทำงานพาร์ทไทม์ที่บริษัทกฎหมายแห่งนี้

“ดี ดี”

เย่เฉิน ค่อนข้างพอใจกับรางวัลเพิ่มเติมนี้มาก

รางวัลที่ได้รับเพิ่มมานี้กลับดีกว่ารางวัลหลักของหลายๆ ความท้าทายซะอีก

แม้ว่าบริษัทกฎหมายนี้จะมีพนักงานเพียง 400 กว่าคน ซึ่งถือว่าน้อยที่สุดในบรรดาธุรกิจทั้งหมดของ เย่เฉิน จนดูไม่น่าสนใจเลยก็ตาม

แต่บริษัทกฎหมายชั้นนำนั้นมีความสำคัญมาก

โดยเฉพาะกับบริษัทที่มีอัตราการชนะคดีสูงถึง 80 กว่าเปอร์เซ็นต์อย่างนี้ การที่มีบริษัทกฎหมายนี้จะช่วยลดปัญหาของ เย่เฉิน ได้มากมาย และย่อมทำให้หลายๆ เรื่องราบรื่นขึ้น

ดูเหมือนว่าเกมครั้งนี้จะยอมรับการท้าทายของเขามาก จนกระทั่งรางวัลเพิ่มเติมที่มีโอกาสเพียง 10% ก็ยังให้มาดีออกขนาดนี้…

“เป็นอะไรไป?”

ซู หนิงซวง ที่นั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่บนโซฟาอีกฝั่งได้ยิน เย่เฉิน พึมพำก็ถามด้วยความประหลาดใจ

“ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร”

เย่เฉิน ส่ายหน้า

“อ้อ แล้วคุณลุงคุณป้าจะมาถึงเมื่อไหร่?”

เย่เฉิน รีบเปลี่ยนเรื่อง

“ฉันถามไว้ก่อนแล้ว พวกท่านน่าจะต้องใช้เวลาอีกประมาณหนึ่งสัปดาห์มั้ง”

ซู หนิงซวง ตอบ

ท้ายที่สุดแล้ว คุณพ่อของ ซู หนิงซวง ก็ยังคงบริหารบริษัทที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้านอยู่ การมาเมืองหางโจวครั้งนี้ แน่นอนว่าต้องอยู่ที่นี่สักระยะหนึ่ง

คุณพ่อของ ซู หนิงซวง จึงจำเป็นต้องจัดการเคลียร์เรื่องงานต่างๆ ภายในบริษัทให้เสร็จก่อนถึงจะมาได้

“ถ้าอย่างนั้น ตอนที่คุณลุงคุณป้ามาถึงหางโจว เราไปต้อนรับพวกท่านกัน”

เย่เฉิน พยักหน้า

เมื่อพูดถึงตรงนี้ เย่เฉิน เหลือบมองดูเวลา ตอนนี้พ่อแม่ของเขาน่าจะยังอยู่ที่ทำงาน

เขาอยากโทรหาพ่อแม่ของเขา เพื่อเชิญพวกท่านมาเที่ยวที่หางโจวจะได้พักผ่อนบ้าง ถ้าได้มาเทศกาลฤดูใบไม้ผลิในหางโจวด้วยก็ถือว่าไม่เลว

ท้ายที่สุดแล้วคุณตาคุณยายของเขาก็อยู่ที่หางโจว

แต่ตอนนี้พ่อแม่ของเขายังทำงานอยู่ คงไม่สะดวกที่จะรับโทรศัพท์

จนกระทั่งถึงตอนเย็น หลังจากมองเวลาแล้ว เย่เฉิน ก็วิดีโอคอลไปหาแม่ของเขา

หลังจากเชื่อมต่อ เย่เฉิน ก็พูดถึงความคิดของเขาโดยคร่าวๆ

พ่อแม่ของ เย่เฉิน ต่างก็ครุ่นคิด

ในขณะนั้น ซู หนิงซวง ที่ได้ยินเสียง เย่เฉิน คุยโทรศัพท์เธอก็เข้ามาช่วยเชิญด้วย

“สวัสดีคะคุณลุงคุณป้า”

ซู หนิงซวง ทักทายอย่างอบอุ่น

“หนิงซวง เหรอลูก?”

เมื่อเห็น ซู หนิงซวง พ่อแม่ของ เย่เฉิน ต่างก็ดีใจมาก

“คุณลุงคุณป้า ทำงานมาตลอดทั้งปี ถ้าไม่มีธุระด่วน ลองมาเที่ยวที่หางโจวหน่อยนะคะ ผ่อนคลายบ้าง คุณพ่อคุณแม่ของหนูเองก็จะมาถึงที่นี่ในอีกไม่กี่วันเช่นกันค่ะ”

ซู หนิงซวง ช่วย เย่เฉิน เชิญชวนพวกท่านด้วย

“อืม... ก็ได้จ้ะ”

แม่ของ เย่เฉิน พยักหน้า และตกลงในที่สุด

เมื่อเห็นว่าแม่ของเขายอมรับได้อย่างรวดเร็ว เย่เฉิน พลันรู้สึกเหมือนตัวเองถูกทำร้ายจิตใจอย่างหนัก

พ่อแม่ของเขาโดยปกติไม่ค่อยอยากจะออกไปไหน

เขาพูดอยู่นาน หาข้ออ้างไปตั้งมากมาย ก็ยังไม่สามารถทำให้พ่อแม่ของเขายอมมาที่จะมาหางโจวได้

ผลก็คือ ซู หนิงซวง ที่เพิ่งแนะนำหน่อยเดียว

พ่อแม่ของเขากลับยอมตกลงในทันที?!

นี่มันคือการเลือกปฏิบัติที่แตกต่างกันอย่างชัดๆ เลย

เมื่อเห็นว่าคุณพ่อคุณแม่ของ เย่เฉิน ตอบรับแล้ว ซู หนิงซวง ก็พลางส่งยิ้มหวานอย่างมีเลศนัยให้กับ เย่เฉิน

ความหมายของเธอนั้นชัดเจนมาก เธอกำลังอวดอยู่..

ถ้าเป็นคนอื่นมาอวดต่อหน้า เย่เฉิน เขามีวิธีเป็นร้อยพันที่จะทำให้คนอื่นรู้สึกเสียใจอย่างที่สุด

แต่เมื่อเป็น ซู หนิงซวง เขากลับทำอะไรได้เลย…

สมแล้วที่เป็นพ่อแม่แท้ๆ ของเขา

เย่เฉิน จึงพูดคุยกับพ่อแม่ของเขาเกี่ยวกับเวลาที่จะมาหางโจว

ตอนนี้ยังมีเวลาเหลืออีกกว่าครึ่งเดือนก่อนจะถึงสิ้นปี แน่นอนว่าพ่อแม่ของเขายังไม่สามารถมาได้ในตอนนี้

พวกเขาต้องรอสักระยะหนึ่งแล้วขอลางานเพื่อมาหางโจวด้วยกัน

เวลาที่แน่นอนก็ต้องรอดูกันอีกที

“โอเค พ่อกับแม่ ถ้าตัดสินใจได้แล้วว่าจะมาหางโจวเมื่อไหร่ บอกผมด้วยนะ ผมจะจองตั๋วเครื่องบินให้”

เย่เฉิน เน้นย้ำเป็นพิเศษ

ถ้าตัวเขาจองตั๋วเครื่องบินเอง แน่นอนว่าจะจองชั้นธุรกิจ แต่ถ้าพ่อแม่ของเขาจองเอง แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องเลือกชั้นประหยัด

“โอเค”

พ่อของ เย่เฉิน พยักหน้า

หลังจากคุยกับพ่อแม่ของเขาต่ออีกสักพัก เย่เฉิน ก็วางสาย

“จริงสิ เย่เฉิน ฉันมีเรื่องหนึ่งอยากถามความเห็นของคุณหน่อย”

เมื่อเห็นว่า เย่เฉิน วางสายแล้ว ซู หนิงซวง ก็พูดถามขึ้นมาทันที