ตอนที่ 27 : คำตอบ
.
หลังจากเงียบไปสักพัก คนที่อยู่ในร้านเหล้าก็ระเบิดหัวเราะออกมา
.
“เจ้าอู๋ตัวน้อยเพิ่งจากไป นี่ก็มาอีกคนหนึ่งแล้ว เจ้าหน้าที่หม่าช่างจริงใจจริงๆ !”
“นายยังจะพูดอีกเหรอ? ถ้าเมื่อวานนายไม่บ้าขนาดนั้น เสี่ยวอู๋จะตกใจหนีไปเหรอ เด็กคนนั้นซื่อสัตย์มาก คงจะดีถ้าอยู่เล่นด้วยกันอีกสักสองสามวัน…”
“แต่ดูแล้วคนนี้ดูดีกว่าคนเมื่อวานมากนะ ดูไม่เลวเลย”
“วันนี้ระวังหน่อย เหล่าเฉียนบอกว่าถ้าเจ้าคนนี้หนีไปอีก ก็จะไม่มีใครเหลือแล้ว...”
"หนี ครั้งนี้อย่าคิดจะหนีซะให้ยาก" ชายร่างผอมลุกขึ้นยืนช้าๆ เบ้าตาลึกโบ๋เหมือนผีดิบจ้องมองไปที่เฉินหลิง
"ใช่ เขายังเด็กและหน้าตาดี ชิ้นส่วนบนร่างกายของเขาควรจะได้ราคาดีทีเดียว"
"กู่เตา ถ้าเล่นแรงเกินไปมันจะจบไม่สวยหรอกนะ..."
'หึ คนถนนปิงฉวนถูกภัยพิบัติฆ่าตายไปไม่น้อย เดิมทีมันเป็นความประมาทเลินเล่อของผู้คุมกฎ ทำไมล่ะ เราขอให้พวกเขาชดใช้ไม่ได้เหรอ?” ชายร่างผอมที่เรียกว่ากู่เตาหัวเราะเยาะ
ทุกคนภายในร้านมองเฉินหลิงที่ยืนอยู่หน้าประตู เหมือนกับกลุ่มสัตว์โลภมากและหิวกระหายกำลังตรวจสอบเหยื่อที่ผ่านเข้ามา
เฉินหลิงยืนอยู่ที่นั่น เขาทำเหมือนตนเองไม่ได้ยินสิ่งพวกนั้นพูด มือหยิบปากกาออกจากกระเป๋าแล้วเคาะที่แบบฟอร์ม
“กู่เตาใช่มั้ย?” เฉินหลิงเขียนชื่อ
“งั้นก็เริ่มจากคุณแล้วกัน…คุณอยู่ที่ไหนในคืนที่ถนนปิงฉวนถูกสังหารหมู่?”
เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกล้าตั้งคำถาม ทุกคนต่างมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ รู้อะไรไหมเมื่อวานนี้ตอนอู๋โหยวตงเห็นฉากนี้ เขาตกใจจนพูดไม่ออก...ส่วนเด็กคนนี้เป็นพวกมุทะลุหรือว่าโง่กันแน่?
กู่เตาหรี่ตายืนขึ้น เขาเดินช้าๆ ไปหาเฉินหลิง
“ฉันอยู่ที่ไหน?” กู่เตาเป่าเล็บมือสีดำของตนเอง จากนั้นข้อนิ้วสีซีดก็คว้าคอของเฉินหลิงราวกับกรงเล็บของนกอินทรี!
“ฉันอยู่บนเตียงแม่แกไง!!”
ท่ามกลางสายฟ้าแลบ ดวงตาเฉินหลงพลันปรากฎความเย็นยะเยือก มือขวาที่ถือปากกาแทงสวนอย่างรุนแรง ปลายปากกาทะลุฝ่ามือของกู่เตา !
ภายใต้ความเจ็บปวดที่ยากจะลืม กู่เตากรีดร้อง ก่อนที่เขาจะได้ตอบโต้ มือข้างหนึ่งก็เคลื่อนเข้ามาอย่างรวดเร็วในขอบเขตการมองเห็นของกู่เตา จากนั้นกดหัวของเขากระแทกลงบนพื้น!
เส้นทางการทหาร [การพิพากษา] ระดับสาม - [ระบำสังหาร]!
.
ปัง--! -
.
เศษไม้กระเด็นไปทุกทิศทาง เลือดสีแดงสดไหลออกมา
ทุกคนตื่นตระหนกเมื่อชายหนุ่มทุ่มกู่เตาลงบนพื้นด้วยมือเดียว เสื้อคลุมผ้าฝ้ายหนาปลิวสะบัดเล็กน้อย คนทั้งร้านตกอยู่ในความเงียบงัน
“การทำร้ายผู้คุมกฎ ถือเป็นความผิดทางอาญา” เฉินหลิงกล่าวอย่างใจเย็น
เขาค่อยๆ ยืดตัวขึ้น ตบฝ่ามือเปื้อนเลือดแล้วมองดูทุกคน
.
[ค่าความคาดหวังของผู้ชม +2]
.
[ค่าความคาดหวังของผู้ชม...]
.
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ทุกคนในโรงเตี๊ยมก็รู้สึกตัว ในดวงตาของพวกเขาปรากฏความตกใจแต่ถูกปกปิดด้วยเจตนาฆ่าอันรุนแรง สามคนในนั้นชักปืนออกมาแล้วเล็งไปที่เฉินหลิง!
"เด็กน้อย ช่างเป็นการต่อสู้ที่ดันทุรังเสียจริง!”
เฉินหลิงรู้มานานแล้วว่าพวกเขามีปืน ดังนั้นทันทีที่พวกเขาชักปืนออกมา เขาก็ล้มโต๊ะเหล้าตรงหน้าลง!
โต๊ะขนาดใหญ่พลิกคว่ำกลางอากาศ คนบางกลุ่มถอยกลับไปด้านข้างทันที คนด้านหน้าอยู่ในความสับสนวุ่นวาย ในเวลาเดียวกันเฉินหลิงก็ก้มตัวลงและใช้โต๊ะเป็นที่กำบัง เขาหยิบขวดเหล้าขึ้นมาขว้างใส่หน้ามือปืนที่ยืนใกล้ที่สุด!
.
เพล้ง!
.
ขวดเหล้าแตกกระจาย เศษแก้วข่วนแก้มของชายคนนั้น ทิ้งรอยเลือดสีแดงไว้หลายรอย
เฉินหลิงใช้ศอกกระแทกท้องอีกฝ่ายอย่างจัง แล้วจับทุ่มลงพื้น
ทันใดนั้นเปลวไฟสองลูกก็ระเบิดมาจากระยะไกล กระสุนพุ่งตรงไปหาเฉินหลิง!
ในความมืด ร่างของเฉินหลิงเคลื่อนไหวรวดเร็วราวกับผี เสื้อคลุมผ้าฝ้ายหนาๆ ของเขากระพือหมุนเปลี่ยนทิศทางเมื่อถูกกระสุนสองนัดแทงทะลุ แต่ไม่มีเลยสักนัดที่สามารถฝังบนตัวเฉินหลิงได้
นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินหลิงใช้ [ระบำสังหาร] ความรู้สึกที่ชัดเจนที่สุดคือร่างกายของเขาไร้น้ำหนักไม่ต่างกับผี
ในร้านที่คับแคบและวุ่นวายเช่นนี้ เขาเสมือนปลาที่ว่ายอยู่ในน้ำ ตราบใดที่เขาสามารถสังเกตการณ์เคลื่อนไหว ก็สามารถคาดเดาการเล็งปืนของศัตรูล่วงหน้าได้ เขาจึงหลีกเลี่ยงกระสุนได้...และคนที่ถือปืนก็มีไม่มากนัก
ในขณะที่เขาจัดการมือปืนคนแรก อีกสองคนพลันรู้สึกถึงอันตรายเหมือนถูกสัตว์ร้ายเพ่งเล็ง
สายตาของพวกเขาพยายามติดตามตำแหน่งของเฉินหลิง แต่เมื่อเฉินหลิงคว่ำโต๊ะและเก้าอี้ทีละตัวเพื่อบังการมองเห็นของพวกเขา มันแทบจะมองไม่เห็นอะไรเลย พวกเขาได้ยินเพียงแค่เสียงกรีดร้อง ครู่ต่อมาใครบางคนก็ถูกตีหัวอย่างแรงและหมดสติไป
เฉินหลิงจัดการกับมือปืนอีกครั้ง คว้าปืนพลิกฝ่ามือแย่งปืนมา จากนั้นเหนี่ยวไกยิงทีละคน ชายร่างใหญ่หลายคนพุ่งเข้ามาหาเขาพร้อมกับมีด
.
ปัง ปัง ปัง——!
.
ดอกไม้สีเลือดหลายดอกผลิบานบนขาพวกเขา พวกเขาต่างส่งเสียงกรีดร้องก่อนจะล้มลงกับพื้นทีละคน
เสียงคำราม เสียงด่าสาปแช่ง เสียงปืน และเสียงโต๊ะเก้าอี้ตกลงสู่พื้นดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายในสามสิบวินาทีหลังจากที่เฉินหลิงเข้ามาในร้านเหล้า คนทั้งหมดจากสิบสามสิบสี่คนตอนนี้นอนระเนระนาดบนพื้น!
เฉินหลิงถือโอกาสทิ้งตลับลูกปืนไว้ข้างๆ แล้วก้าวข้ามชายร่างใหญ่ที่ซี่โครงหักสี่ซี่จากการเตะ เดินช้าๆ ไปที่ประตูซึ่งยังไม่บุบสลายเพียงแห่งเดียวในที่นี้
"เถ้าแก่ วิสกี้แก้วหนึ่ง“เฉินหลิงเตะชายร่างใหญ่อีกครั้งเขาก็ส่งเสียงกรีดร้องอีกครั้ง”จำได้ว่าตีหัวนี่”
เถ้าแก่ตาเดียวที่ยืนอยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์มาโดยตลอด กลับมามีสติและจ้องมองดวงตาของเฉินหลิง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกลัว
ด้วยความสามารถเปิดร้านเหล้าบนถนนปิงฉวนได้ จนกลายเป็นสถานที่ทำกิจกรรมสำหรับผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่นั้น เถ้าแก่ตาเดียวคนนี้จึงไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน เขาเคยเดินทางผ่านเจ็ดเขตและได้พบกับผู้คนมากมาย แต่ชายหนุ่มอย่างเฉินหลิงที่เป็นคนทั้งเด็ดขาดทั้งโหดเหี้ยม นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอ
ที่นั่งสำรองนี่ใช่แน่เหรอ?
ถ้าเกิดบอกว่าผู้ชายคนนี้ เป็นผู้พิทักษ์เขาก็เชื่อ!
เถ้าแก่ตาเดียวทิ้งปืนพกที่แอบซ่อนไว้อย่างชาญฉลาด ลดศีรษะลงแล้วหยิบแก้วไวน์ออกมาเริ่มเตรียมวิสกี้
“ชื่อ” เฉินหลิงกอดอก วางแบบฟอร์มไว้บนขาแล้วพูดอย่างใจเย็น
ภายในร้านเหล้าเงียบสงบไม่มีใครตอบ
“ถามคุณ!”
เขาเตะชายร่างใหญ่ที่ซี่โครงหัก
“อะอา...หลี่หม่าง! หลี่หม่าง!” ชายร่างใหญ่ยอมแพ้ทันที
“คืนนั้นคุณอยู่ที่ไหนตอนที่ภัยพิบัติบุกเข้ามา?”
“ฉัน ฉันอยู่ที่นี่ที่ร้านเหล้า”
“คุณเห็นการปรากฏตัวของภัยพิบัติมั้ย?”
“ฉันคิดว่าฉันจำได้...ตอนนั้นออกมาคลายเครียด เลยบังเอิญเห็นมันบนถนน...มันควรจะเป็นตุ๊กตาตัวหนึ่ง” ชายร่างใหญ่ตัวสั่นแล้วบอกความจริง
เฉินหลิงนิ่งเงียบ เขายืนขึ้นหยิบวิสกี้มาจากเคาน์เตอร์ แล้วเขย่ามันสองครั้ง ก้อนน้ำแข็งก็ส่งเสียงใสๆ เมื่อชนขอบแก้ว
หลังจากนั้น เขายกแก้วไวน์ขึ้นมาแล้วเทลงไปบนบาดแผลของชายร่างใหญ่ทีละนิดๆ...
"อ๊าาาาา!!!" เสียงกรีดร้องดังก้องไปทั่วถนน
"สิ่งที่ฉันพูดเป็นความจริง!! จริงทั้งหมด!!!”
"คุณรู้มั้ย? ในกรณีที่ไม่มีหลักฐานแน่ชัด แค่ใช้คำว่า 'เหมือนจะ' หรือ 'คิดว่า' รายงานสถานการณ์ไปยังหน่วยงานผู้คุมกฎ...มันถือว่าเป็นข่าวลือทั้งหมด"
ดวงตาเฉินหลิงหรี่ลงเล็กน้อย “ขอถามอีกครั้ง...คุณเคยเห็นมันหรือเปล่า?”
“ฉัน ฉัน...ฉัน…” แก้วไวน์ในมือเฉินหลิงค่อยๆ เอียง วิสกี้ก็เทลงไปมากขึ้นเรื่อยๆ ความเจ็บแสบจากบาดแผลทำให้ชายร่างใหญ่ตัวสั่น!
"...ไม่!! ไม่เห็น!! ไม่เห็นอะไรเลย!!!"
.
.