ตอนที่แล้วตอนที่ 131 เจ้ากล้าดียังไง?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 133 ท่านี้จะต้องเท่มากแน่ ๆ

ตอนที่ 132 อย่าหาว่าข้าไม่มีจรรยาบรรนะ!


“อีกแล้วหรือ...องค์กรขโมยเต๋า!” ฮั่วหยุนเฟย รู้สึกสงสัยอย่างยิ่งว่าแท้จริงแล้วงค์กรขโมยเต๋าเป็นองค์กรแบบไหนกันแน่ องค์กรนี้สามารถชักจูงผู้ที่มีพลังระดับกึ่งจักรพรรดิสำเร็จขั้นสมบูรณ์ให้เข้าร่วมได้ แถมยังได้รับความไว้วางใจอย่างมาก การที่คิดถึงเรื่องนี้อย่างลึกซึ้งทำให้รู้สึกหวาดกลัว

องค์กรลึกลับนี้ปรากฏตัวขึ้นในยุคโบราณ แต่กลับไม่มีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ พวกเขาปรากฏตัวในทุกยุคทุกสมัย ราวกับเป็นมือมืดที่คอยควบคุมชะตากรรมของโลกและเปลี่ยนแปลงเส้นทางของเหตุการณ์ต่าง ๆ

“ความแตกต่างของระดับพลังจะทำให้เจ้ารู้สึกสิ้นหวัง” หญิงสาวในชุดกระโปรงสีดำก้าวออกไปหนึ่งก้าว เกิดคลื่นสะท้อนใต้ฝ่าเท้าของเธอและปรากฏเป็นค่ายกลที่แผ่ขยายออกมาคลุมทั้งสองคน ค่ายกลนี้ฝังรากลึกลงในดวงดาวและไม่สามารถทำลายได้ ทางเดียวที่จะออกไปได้คือต้องเอาชนะหญิงสาวในชุดกระโปรงสีดำ เธอปิดทางหนีของฮั่วหยุนเฟย ไว้หมดแล้ว

“เลือดของเจ้า คงจะช่วยข้าได้อีกแรงหนึ่ง” เธอหมายตาเลือดของฮั่วหยุนเฟย ต้องการนำเลือดของเขาไปผสมในยาหมื่นวิญญาณในหม้อทองสัมฤทธิ์ เธอได้สะสมเลือดของผู้มีพรสวรรค์เลิศล้ำมามากมาย จากหลายยุคสมัย เธอเดินทางผ่านดินแดนต่าง ๆ ค้นหาผู้มีพรสวรรค์ บางครั้งก็มีผู้ถูกเลือกแห่งยุคที่จบชีวิตลงด้วยมือของเธอ หยุดยั้งโชคชะตาของพวกเขาไปก่อนเวลาอันควร วันนี้เธอต้องการเอาเลือดของฮั่วหยุนเฟย มาช่วยในการพิสูจน์หลักการของเธอ

“เจ้าเข้าใจงค์กรขโมยเต๋าแค่ไหน?”ฮั่วหยุนเฟยพยายามสอบถามถึงอดีตและเป้าหมายของงค์กรขโมยเต๋าผ่านหญิงสาวในชุดกระโปรงสีดำ

ในช่วงที่เขาอยู่ที่วิหารร่างศักดิ์สิทธิ์เขาเคยเห็นร่างศักดิ์สิทธิ์และจักรพรรดิที่ออกเดินทาง บางคนกลับมาแต่บางคนก็หายไป ไม่รู้ว่าพวกเขาไปยังสถานที่เดียวกันหรือไม่? ผู้ที่หายไปมักประสบชะตากรรมที่ไม่ดีในที่สุด ส่วนคนที่กลับมาก็จะเผชิญกับเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ เช่นกรณีของจักรพรรดิ์เสวียนหวง แม้ภายนอกจะดูไม่มีบาดแผลใด ๆ แต่ก็ต้องตัดสินใจสละชีวิตราวกับว่าเขาไม่สามารถทนต่อไปได้อีก เขาไม่ยอมแพ้ วางแผนมานานสามหมื่นปีเพื่อให้กำเนิด หวงเสวียนเพื่อให้กลับมาต่อสู้อีกครั้ง งค์กรขโมยเต๋าก็ดูเหมือนจะเจาะลึกเรื่องอะไรบางอย่าง ค้นหาวิหารบรรพชนของร่างศักดิ์สิทธิ์ หรืออาจจะเพื่อใครบางคน ทุกอย่างล้วนเป็นปริศนา

ศิษย์ของเขาบางคนมีร่างศักดิ์สิทธิ์รกร้างยุคโบราณ และบางคนมีร่างศักดิ์สิทธิ์โบราณ พวกเขาต้องถูกดึงเข้าไปในวงโคจรนี้แน่นอน

“เจ้ารู้เรื่องงค์กรขโมยเต๋า ข้าก็ประหลาดใจ แต่รู้ได้แค่นี้ เจ้าคงไม่คู่ควรรู้มากกว่านี้” ใบหน้าขาวซีดของหญิงสาวในชุดกระโปรงสีดำ เต็มไปด้วยความเยือกเย็น เธอหายตัวไปจากจุดที่ยืนอยู่ และเมื่อปรากฏตัวอีกครั้ง เธอก็ยืนอยู่ตรงหน้าของ ฮั่วหยุนเฟยแล้ว ทั้งสองอยู่ห่างกันเพียงแค่สามนิ้ว สามารถสัมผัสลมหายใจของกันและกันได้

“ฝ่ามือขังสวรรค์!” มือของหญิงสาวในชุดกระโปรงสีดำราวกับสามารถคว้าดวงดาวมาไว้ในมือได้ ดาวฤกษ์ทั้งหลายเล็กกว่าเล็บของเธอ ปลายนิ้วทั้งห้าของเธอสามารถควบคุมทั้งดาราจักร นี่คือศาสตร์แห่งพื้นที่ แม้จะดูเหมือนห่างเพียงหนึ่งนิ้ว แต่แท้จริงแล้วคือหนึ่งดวงดาว หนึ่งดาราจักร…

“เปลี่ยนแปลงสรรพสิ่ง!” ฮั่วหยุนเฟยเองก็มีความสามารถในการใช้ศาสตร์แห่งพื้นที่เช่นกัน แต่พรสวรรค์ในศาสตร์พื้นที่ของหญิงสาวในชุดกระโปรงสีดำเป็นเพียงระดับเซียนขั้นสูงสุด ไม่สามารถเทียบกับของเขาได้ แต่เมื่อพูดถึงระดับพลัง พวกเขาแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน

ปัง! พื้นที่ถูกบีบอัดจนระเบิด เกิดพายุหมุนขึ้น เสียงดังก้องจากส่วนลึกของท้องฟ้า มีเสียงฟ้าร้องดังแว่วมา ทั้งสองปะทะมือกัน พลังอันรุนแรงของพื้นที่ที่ระหว่างฝ่ามือทั้งสองสร้างปรากฏการณ์ที่น่าสะพรึงกลัว

“เจ้าก็ไม่เลวนี่” หญิงสาวในชุดกระโปรงสีดำกล่าว “ถ้าเจ้าเข้าร่วม เลือดของเจ้าจะทำให้ยาหมื่นวิญญาณมีพลังมากยิ่งขึ้น และถ้าได้ร่างศักดิ์สิทธิ์ในยุคนี้มาเพิ่ม ความสำเร็จของข้าก็จะใกล้เข้ามาอีกขั้น”

เมื่อถูกขัดขวางด้วยผู้ฝึกที่มีระดับพลังต่ำกว่า หญิงสาวในชุดกระโปรงสีดำกลับยิ้มอย่างยินดี ดวงตาของเธอเปล่งประกาย ริมฝีปากสีแดงยิ้มโค้งขึ้น เธอรู้สึกคาดหวังอย่างยิ่ง

“บ้าไปแล้ว” ฮั่วหยุนเฟยตอบกลับอย่างเย้ยหยัน ผู้หญิงคนนี้บ้าคลั่งจนยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อให้ได้เป็นจักรพรรดิ เธอไม่มีสหาย แม้แต่งค์กรขโมยเต๋าก็เป็นเพียงเครื่องมือสำหรับเธอในการก้าวขึ้นสู่จักรพรรดิเท่านั้น

“เจ้าจะต้านทานข้าได้กี่กระบวนท่า? การต่อสู้ข้ามระดับต้องดูด้วยว่าเจ้าสู้กับใคร” หญิงสาวในชุดกระโปรงสีดำพูดเสียงต่ำ ดวงตาดำสนิทของเธอเปล่งประกายออกมาเป็นแสงหลากสีสันพุ่งตรงไปยังหน้าผากของ ฮั่วหยุนเฟยพยายามที่จะทะลวงเข้าสู่ทะเลจิตของเขา ยึดครองทารกเทพ และควบคุมวิญญาณของเขา

การโจมตีจิตวิญญาณครั้งนี้น่ากลัวมาก จนทำให้ฟ้าดินสะเทือน นี่คือการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดภายใต้ระดับจักรพรรดิ ผู้ที่อยู่ในระดับจุนตี้สมบูรณ์โดยทั่วไปไม่สามารถรับมือกับการโจมตีนี้ได้และไม่กล้าที่จะเผชิญหน้าตรง ๆ ต้องหลบหนีออกไป มีเพียงผู้ที่เป็นอัจฉริยะระดับจักรพรรดิเท่านั้นที่กล้าเผชิญหน้าโดยตรง

“การต่อสู้ข้ามระดับ?” ฮั่วหยุนเฟยพูดเสียงต่ำ “สำหรับข้าที่ฝึกฝนวิถีทางพิเศษนี้ มันไม่ต่างอะไรกับการหาความตาย บรรพจารย์ผู้อยู่ด้านบนคงจะตำหนิข้าแน่ ดังนั้น...ข้าจะเลือกวิธีที่มั่นคงที่สุดในการเอาชนะเจ้า”

“อย่าหาว่าข้าไม่มีจรรยานะ” เขากล่าวด้วยสีหน้าสงบนิ่งท่ามกลางการโจมตีจิตวิญญาณอันทรงพลังที่พุ่งตรงมาหาเขา เสื้อผ้าสีขาวของเขาปลิวไหวเล็กน้อย ขณะที่เขายืนอย่างมั่นคง

ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอาจพังทลายลงได้ แต่ไม่อาจสั่นคลอนเขาฮั่วหยุนเฟย ไม่เคยคิดจะต่อสู้ข้ามระดับ แม้ว่าเขาจะสามารถชนะได้ก็ตาม แต่การเผชิญหน้ากับคนบ้าคลั่งเช่นนี้นั้นอันตรายอย่างยิ่ง หากถูกบีบจนถึงขีดสุด เธอจะยิ่งอันตรายมากขึ้นไปอีก ในฐานะที่เป็นผู้ฝึกวิชาลับ เขาจำเป็นต้องกดขี่คู่ต่อสู้ในสถานการณ์ที่ปลอดภัยที่สุดเท่านั้น ดังนั้น...

“เกราะรบมา!” เกราะรบคุนเผิงบินออกมาจากตันเถียน เปล่งประกายแสงทองส่องสว่างทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว กฎสูงสุดแห่งเต๋ากวาดล้างทั่วทั้งเก้าแดน

“ข้ากำลังอัดอั้นอยู่พอดี จัดการนางเถอะ!” เกราะรบคุนเผิง กล่าวเช่นนั้น และหลอมรวมเข้ากับ ฮั่วหยุนเฟยทำให้เขากลายเป็นนักรบในชุดเกราะสีทองอร่าม พร้อมกับปีกสีทองที่กางออกเบื้องหลัง ทำให้รูปร่างของเขาดูสูงใหญ่

“หม้อมาด้วย!”หม้อศักดิ์สิทธิ์อาวุธจักรพรรดิบินออกมา กฎเต๋าของจักรพรรดิทำลายท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว หม้อนี้ลอยอยู่เหนือศีรษะของ ฮั่วหยุนเฟย

ฟึ่บ! เมื่อทั้งสองอาวุธทรงพลังมารวมกัน พลังของฮั่วหยุนเฟยก็พุ่งทะยานขึ้น การโจมตีวิญญาณของหญิงสาวในชุดกระโปรงสีดำถูกเขายกมือขึ้นทำลาย พลังระเบิดออกมาจากระหว่างนิ้วทั้งห้า แม้แต่เกราะรบคุนเผิงก็เกือบจะถูกเจาะทะลุโดยการโจมตีวิญญาณนี้ จนทำให้เกราะทองที่หุ้มนิ้วของเขาแทบจะแตกออก

“อาวุธสูงสุด เกราะรบคุนเผิง!”

“อาวุธจักรพรรดิ หม้อศักดิ์สิทธิ์!”

หยินเสวี่ยรู้สึกตกตะลึง ดวงตาของเธอล้ำลึก เธอเคยตื่นขึ้นมาในหลายยุคสมัยเพื่อค้นหาสมุนไพรล้ำค่าที่จะนำมาเป็นยาหมื่นวิญญาณ เธอเคยเห็นเกราะรบคุนเผิงในยุคสมัยหนึ่ง และรู้ว่านี่คืออาวุธสูงสุดของตระกูลนกผินเผิงที่จักรพรรดิปีกเงินเผิงจิ้นทิ้งไว้

ในยุคสมัยของหม้อศักดิ์สิทธิ์ เธอเคยตื่นขึ้นมาและเคยต่อสู้กับเจ้าของมันเช่นกัน หวังที่จะกลั่นกรองผู้ครอบครองหม้อศักดิ์สิทธิ์ แต่สุดท้ายเพราะมีเหตุผลอื่นทำให้ต้องยุติการต่อสู้

เดี๋ยวก่อน…

"ทำไม หม้อศักดิ์สิทธิ์จึงเป็นอาวุธของจักรพรรดิ?" หยินเสวี่ย เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติ หม้อศักดิ์สิทธิ์กลับปลดปล่อยกฎแห่งเต๋าของจักรพรรดิออกมา เธอเริ่มมีความสงสัยในสายตา และในที่สุดก็ได้คาดการณ์ถึงเหตุผล พร้อมหัวเราะเยาะเย้ย

"สิ่งที่เรียกว่าจักรพรรดิโอสถก็ไม่ต่างจากนี้ เพียงแค่อาวุธประจำกายได้สำเร็จเป็นอาวุธจักรพรรดิ แต่ตัวเขากลับดับสูญไป ช่างน่าขันจริง ๆ"

"เจ้าหัวเราะอะไร? เจ้าก็ไม่ต่างอะไรจากจักรพรรดิโอสถ!"ฮั่วหยุนเฟย ตะโกนเยาะเย้ย พลางปล่อยหมัดพุ่งออกไป ด้านหลังปรากฏดวงอาทิตย์สว่างเจิดจ้า

เคล็ดหมัดสุริยัน!หมัดของเขาเปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ที่ร้อนแรง สามารถบดขยี้นักรบระดับกึ่งจักรพรรดิได้อย่างง่ายดาย

“สถานะของเจ้า...ไม่ธรรมดาจริง ๆ!”

“เจ้ามีสมบัติล้ำค่ามากมายเช่นนี้เชียวหรือ?”

“แม้แต่ผู้ถูกเลือกแห่งยุคก็ไม่ต่างจากเจ้ามากนัก”

หยินเสวี่ยรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นความไม่ธรรมดาของ ฮั่วหยุนเฟยเธอจึงละทิ้งความประมาทในใจและเริ่มจริงจังมากขึ้น

"แล้วอาวุธสูงสุดล่ะ? อาวุธของจักรพรรดิล่ะ?"

“ข้าได้เดินทางมาถึงขีดสุดแห่งเต๋าแล้ว เว้นแต่จะมีจักรพรรดิ์มาเอง มิฉะนั้นไม่มีใครทำอะไรข้าได้”

รอบตัวของหยินเสวี่ย ปะทุออกมาเป็นพายุพลังวิญญาณ ทุกสิ่งที่พายุผ่านกลายเป็นค่ายกลนับพัน เธอคือร่างแห่งค่ายกล ร่างที่เกิดมาพร้อมกับความสามารถทางค่ายกล ทุกสิ่งที่เธอเคยเห็น สัมผัส หรือเคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว สามารถกลายเป็นค่ายกลได้

ฮั่วหยุนเฟยโจมตีเข้ามา แต่ก็เหมือนกับติดอยู่ในบึงโคลน ถูกค่ายกลนับพันดึงรั้งไว้จนไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ แม้ว่าหมัดของเขาจะสว่างเจิดจ้า มีพลังทำลายล้างทั้งดาราจักร แต่หากไม่สามารถโจมตีใส่ศัตรูได้ก็ไร้ประโยชน์

"ฟัน!" หยินเสวี่ยชักดาบสีดำอมฟ้าขนาดสามศอกออกมา ฟันออกไปหนึ่งครั้ง ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวถูกผ่าแยกออกจากกัน คมดาบที่แหลมคมพุ่งตรงไปหา ฮั่วหยุนเฟย

“เคล็ดวิชาไท่อี้!”ฮั่วหยุนเฟยชักดาบออกมาบ้าง ปรากฏว่าเป็นอาวุธสูงสุดอีกชิ้นหนึ่ง ฟันแสงดาบอันทรงพลังออกไปทำลายการโจมตีของหยินเสวี่ย

“เป็นอาวุธสูงสุดอีกชิ้นและเป็นเคล็ดวิชาจักรพรรดิ์อีก!”

“คนผู้นี้...มีสมบัติล้ำค่ามากมายเช่นนี้เชียวหรือ?”