ตอนที่ 11 พลังแห่งเงิน ไป๋จิ้งฉงถึงกับตะลึง!
ตอนที่ 11 พลังแห่งเงิน ไป๋จิ้งฉงถึงกับตะลึง!
การย่นระยะเวลาการเจริญเติบโต และการลบล้างผลกระทบด้านลบ
ผลข้างเคียงทั้งสองอย่างของมิติสัตว์วิญญาณระดับตำนาน สามารถช่วยเหลือไป๋จื่ออันได้มาก
แต่ในมุมมองของไป๋จื่ออันนั้น ผลข้างเคียงที่สามคือสิ่งที่น่าเหลือเชื่อที่สุด
การมีโอกาสในการปลุกพลังพรสวรรค์แฝง!
นี่มัน… บ้าไปแล้ว!
พรสวรรค์ของสัตว์วิญญาณ มักจะถูกกำหนดตั้งแต่มันเกิด มันเป็นของที่ยากจะเปลี่ยนแปลง
จะมีเพียงสมบัติล้ำค่าบางอย่างเท่านั้น ที่จะสามารถเพิ่มพลังหรือเปลี่ยนแปลงพรสวรรค์ได้
แต่ตอนนี้ มิติสัตว์วิญญาณของไป๋จื่ออันกลับสามารถปลุกพรสวรรค์แฝงของสัตว์วิญญาณ!
พูดง่ายๆ ก็คือ ถึงแม้จะเป็นสัตว์วิญญาณที่มีพรสวรรค์เดียว แต่พอเข้าไปอยู่ในมิติของเขาแล้วมันอาจจะมีพรสวรรค์เพิ่มขึ้นมาก็ได้
ผลข้างเคียงนี้มัน… ขี้โกงสุดๆ!
ด้วยเหตุผลนี้ ไป๋จื่ออันจึงให้ความสำคัญกับพรสวรรค์นี้มาก
ถ้าหากใช้มันให้เป็นประโยชน์ ผลข้างเคียงนี้จะต้องกลายเป็นไพ่ตายของเขา!
“มิติสัตว์วิญญาณระดับตำนานที่สมบูรณ์แบบ… สุดยอดไปเลย ไม่มีอะไรทำให้ฉันผิดหวังเลยจริงๆ”
ไป๋จื่ออันถอนหายใจ
ผลข้างเคียงสามอย่างนี้ อย่างไหนๆ ก็ทรงพลัง นี่มัน… ท้าทายสวรรค์ชัดๆ!
การตัดสินใจใช้ผลึกหลิงปี้ 999 ก้อนเพื่อสร้างมิติระดับตำนานที่สมบูรณ์แบบ… คุ้มค่าแล้วจริงๆ!
ไป๋จื่ออันรู้สึกขอบคุณในภูมิหลังของตัวเองจริงๆ
ถ้าเป็นนักเรียนทั่วไป คนที่ไม่มีภูมิหลังหรือว่าแต้มต่ออะไรเลย…
ต่อให้มีพรสวรรค์ที่สูงส่งแค่ไหน ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีผลึกหลิงปี้มากพอจะสร้างมิติระดับตำนานที่สมบูรณ์แบบได้
เพราะผลึกหลิงปี้ 1 ก้อนมีค่า 1 ล้านเหรียญ
ดังนั้น ผลึกหลิงปี้ 999 ก้อน… ก็ปาเข้าไป 999 ล้านเหรียญแล้ว!
การสร้างมิติสัตว์วิญญาณ ใช้งบประมาณเกือบพันล้านเหรียญ!
นี่เป็นเรื่องที่คนธรรมดา ยากจะจินตนาการและเอื้อมถึง!
ยิ่งคิด ไป๋จื่ออันก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองโชคดี
เส้นทางของผู้ใช้สัตว์วิญญาณ ไม่เพียงแต่ต้องพัฒนาสัตว์วิญญาณเท่านั้น แต่มันยังต้องใช้เงินจำนวนมากด้วย!
และในฐานะที่มีภูมิหลังไม่ธรรมดาแบบนี้ เขาจึงสามารถเดินไปบนเส้นทางนี้ได้อย่างมั่นใจ
ยิ่งคิด ไป๋จื่ออันก็ยิ่งรู้สึกซาบซึ้ง
ไม่นาน ไป๋จื่ออันก็จัดการตัวเองเรียบร้อย เขากำลังจะออกจากห้อง
มิติสร้างเสร็จแล้ว ถึงเวลาบอกเรื่องนี้กับคนในครอบครัวแล้ว
และ… ตอนนี้ ความวุ่นวายภายนอกก็คงสงบลงแล้วแหละมั้ง?
ไป๋จื่ออันเดินตรงไปที่ห้องรับแขกที่ชั้น 1 ทันที
ทันทีที่ไปถึง เขาก็เจอกับปู่ พ่อ และแม่ ทั้งหมดกำลังนั่งรอเขาอยู่ในห้อง
เรื่องนี้ทำให้ไป๋จื่ออันรู้สึกแปลกใจ ปกติแล้วพวกเขาต้องยุ่งอยู่กับงานไม่ใช่เหรอ?
ไป๋จิ้งฉงเป็นถึงเจ้าเมือง พ่อแม่ของเขาที่เป็นถึงผู้ใช้สัตว์วิญญาณระดับทอง พวกเขาไม่น่าจะมีเวลากลับบ้าน
แต่พอคิดดูดีๆ ไป๋จื่ออันก็นึกออก
ที่พวกเขารออยู่ที่นี่ ก็เพราะเรื่องของเขานี่เอง
"เสี่ยวอัน ในที่สุดลูกก็ออกจากห้องแล้ว รู้สึกยังไงบ้าง? "
"เสี่ยวอัน มิติสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอ?”
“เสี่ยวอัน พรสวรรค์ที่กลายพันธุ์ มันเป็นยังไง?”
ทันทีที่เขาเดินมาถึง ก็มีคำถามถาโถมเข้ามาใส่
ไป๋จื่ออันรีบหันไปพูดกับแม่
“แม่ครับ ผมหิวแล้ว กินข้าวก่อนเถอะนะครับ?”
แม้ว่าจะขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง แต่คนรับใช้ก็เอาข้าวมาส่งให้เป็นประจำ
แต่ในช่วงนั้น ไป๋จื่ออันไม่คิดที่จะอยากกินอะไรเลย เขากินนิดๆ หน่อยๆ ให้หายหิวก็พอ
และในเมื่อออกมาแล้ว เขาก็อยากจะกินอาหารดีๆ ให้เต็มอิ่มสักมื้อ
“ได้ๆ กินข้าวกันก่อนๆ”
หลี่ไฉหยุน แม่ของไป๋จื่ออันรีบพูด เธอมุ่งหน้าไปที่ห้องครัวทันที เพื่อให้คนรับใช้เตรียมอาหาร
ไม่นาน อาหารก็ถูกยกมาเสิร์ฟ
ไป๋จื่ออันจัดการทุกอย่างจนหมดเกลี้ยง
หลังจากทานอาหารเสร็จ ไป๋จื่ออันจึงเล่าเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
แน่นอน เขาเลือกที่จะเล่าแค่บางเรื่องเท่านั้น
เรื่อง [เนตรหยั่งรู้] พรสวรรค์ระดับตำนาน เขาไม่ได้บอกให้ใครรู้
เพราะเขามีลางสังหรณ์ ยิ่งมีคนรู้เรื่องนี้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นอันตรายต่อตัวเขามากขึ้นเท่านั้น
ไป๋จื่ออันจึงเลือกเล่าว่า พรสวรรค์ของเขากลายพันธุ์จาก [สัญชาตญาณ] ระดับ A กลายเป็น [สัญชาตญาณขั้นสูง] ระดับ S และเล่าเรื่องที่สร้างมิติสัตว์วิญญาณ
เพราะทางหอปลุกพลังก็ลงทะเบียนให้แบบนั้น เขาก็เลยได้แต่ทำเป็นยอมรับไป
ที่สำคัญ [สัญชาตญาณขั้นสูง] ก็สามารถหยั่งรู้และทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ เหมือนกับ [เนตรหยั่งรู้] นั่นแหละ
ดังนั้น ทำไมเขาจะต้องเปิดเผยพรสวรรค์ที่แท้จริงออกไป?
"ไม่คิดเลยว่า ลูกจะได้รับโอกาสแบบนี้ สมกับเป็นลูกชายฉัน!”
ไป๋เฉิงจือ พ่อของเขาถึงกับหัวเราะออกมา
ถึงแม้จะไม่รู้ว่ามันคือพรสวรรค์ระดับตำนาน แต่แค่การที่ไป๋จื่ออันสามารถปลุกพลังให้กลายเป็น "พรสวรรค์ระดับ S" ได้ เท่านี้เขาก็รู้สึกยินดีมากแล้ว
พรสวรรค์ระดับ S!
ทั้งมิติลับหมื่นรังไหมแห่งนี้ มีเพียงคนหยิบมือเดียวเท่านั้น ไป๋จื่ออันช่างโชคดีจริงๆ
ยิ่งบวกกับทรัพยากรของตระกูลไป๋ อนาคตของลูกชายคนนี้ต้องสดใสอย่างแน่นอน อาจจะมีโอกาสก้าวขึ้นเป็นผู้ใช้สัตว์วิญญาณระดับเทพก็เป็นได้
ไป๋เฉิงจือรู้สึกยินดีมาก
ลูกชายของเขากำลังเดินบนเส้นทางของผู้ใช้สัตว์วิญญาณระดับเทพ!
“หึๆ นั่นน่ะเหรอผลงานของนาย? อย่ามาอวดอ้างหน่อยเลย ถ้าไม่มีสายเลือดชั้นเลิศของข้าแล้ว เสี่ยวอันจะมีพรสวรรค์ขนาดนี้ได้ยังไง?”
ไป๋จิ้งฉงอดที่จะแซะลูกชายตัวเองไม่ได้
ไป๋เฉิงจือได้แต่ถลึงตาใส่พ่อ เขาหมดคำจะพูดแล้วจริงๆ
ไป๋จื่ออันได้แต่ยิ้มๆ เขาเลือกที่จะไม่ยุ่ง
สักพัก ไป๋จิ้งฉงก็ถามเรื่องมิติสัตว์วิญญาณ เขาอยากรู้ว่ามันมีผลข้างเคียงอะไรหรือเปล่า?
“เอ่อ… มิติของผมสามารถย่นระยะเวลาการเจริญเติบโตของสัตว์วิญญาณ แล้วก็ยังลบล้างผลกระทบด้านลบต่างๆ ได้ครับ”
ไป๋จื่ออันลังเลเล็กน้อยก่อนจะบอกผลข้างเคียงไปแค่ 2 อย่าง
ส่วนอย่างที่สาม… เขาเลือกที่จะเก็บไว้ เพราะมันเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อมากเกินไป มันอาจนำความวุ่นวายมาให้ก็ได้
แต่ถึงอย่างนั้น แค่ผลข้างเคียงสองอย่างก็ทำให้คนในครอบครัวถึงกับตกตะลึงแล้ว
เพราะพวกเขาไม่เคยได้ยินว่าจะมีใครที่สามารถสร้างมิติสัตว์วิญญาณที่มีผลข้างเคียง 2 อย่างได้มาก่อน
นี่มัน… เหลือเชื่อ!
แต่พอคิดถึงพรสวรรค์ที่กลายพันธุ์ของไป๋จื่ออัน ทุกคนก็คิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
เพราะพรสวรรค์กลายพันธุ์ มันคือพรสวรรค์ที่พิเศษที่สุดอยู่แล้ว จะมีความแตกต่างจากคนอื่นก็คงไม่แปลกอะไร
หลังจากตกตะลึงกันไปสักพัก ไป๋จิ้งฉงก็รู้สึกยินดีแทนหลานชาย
“เอ่อ… คุณปู่ครับ ตอนที่สร้างมิติ ผมใช้ผลึกหลิงปี้ไปประมาณพันก้อนได้ครับ”
ไป๋จื่ออันเลือกบอกเรื่องนี้ตอนที่ทุกคนกำลังดีใจ
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ใบหน้าที่กำลังยิ้มแย้มของไป๋จิ้งฉงก็แข็งค้าง
เสี่ยวอันพูดว่าไงนะ? ผลึกหลิงปี้พันก้อน?!
พรสวรรค์กลายพันธุ์ ใช้ผลึกสร้างมิติมากขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?!