ตอนที่ 1 นายน้อยแห่งตระกูลไป๋
ตอนที่ 1 นายน้อยแห่งตระกูลไป๋
โลกลับขนาดกลางที่แสนลึกลับ นามว่า "แดนหมื่นรังไหม"
หนึ่งในฐานที่มั่นหลักเจ็ดแห่งของมนุษย์ เมืองไป๋หลิน
ใจกลางเมืองไป๋หลิน มีคฤหาสน์สุดหรูหราตั้งตระหง่านอยู่
เบื้องหลังคฤหาสน์คือเนินเขา ที่ราบเบื้องล่างมีทะเลสาบใสสะอาด
แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องลงบนผิวน้ำระยิบระยับ ปลาวิญญาณมากมายกำลังแหวกว่ายอยู่ในนั้น
แต่รอบๆ เนินเขาและทะเลสาบแห่งนี้ กลับไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆ นอกจากคฤหาสน์หลังนี้
เพราะที่นี่คือสวนหลังบ้านของคฤหาสน์หลังนี้
นี่มันน่าเหลือเชื่อจริงๆ
แดนหมื่นรังไหมมีฐานที่มั่นหลักขนาดใหญ่เพียงเจ็ดแห่ง ซึ่งถือเป็นรากฐานของมนุษย์ในดินแดนแห่งนี้
ในฐานะหนึ่งในนั้น พื้นที่ของเมืองไป๋หลินจึงมีค่าดุจทองคำทุกตารางนิ้ว
แต่ใจกลางเมืองไป๋หลิน กลับมีที่พักอาศัยเช่นนี้ได้ มันเป็นอะไรที่ยากจะจินตนาการสำหรับคนนอกได้
บอกได้ว่า ผู้ที่ครอบครองที่พักอาศัยแห่งนี้ได้ จะต้องเป็นตระกูลที่มั่งคั่งและทรงอำนาจ
แท้จริงแล้ว ที่นี่คือจวนเจ้าเมือง ท่านเจ้าเมืองไป๋หลิน
ขณะเดียวกัน ในห้องพักบนชั้นสองของคฤหาสน์ เด็กหนุ่มอายุประมาณสิบสี่สิบห้าปี กำลังล้างหน้าล้างตาอยู่
เขาเงยหน้าขึ้นมองในกระจกก็พบใบหน้าของชายหนุ่มรูปงาม ผิวขาวผ่องราวกับหยก
“ถึงจะดูมาสิบห้าปีแล้ว แต่ก็ต้องยอมรับจริงๆ ว่าหน้าตาในชาตินี้มันหล่อเกินไปหน่อย”
ไป๋จื่ออันได้แต่ถอนหายใจอยู่ภายในใจ เขาดูเหมือนจะรู้สึกอับจนหนทางอยู่เล็กน้อย
ถูกต้องแล้ว เขาไม่ใช่ชาวโลกใบนี้ แต่เป็นคนที่ข้ามภพมาจากต่างโลก
ในชีวิตก่อน เขาเป็นทหารที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่
เขาเองก็ไม่คาดคิดว่าจะได้ข้ามภพมาอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยสัตว์วิญญาณแบบนี้
โลกที่ไป๋จื่ออาศัยอยู่นั้น สัตว์วิญญาณแต่ละชนิดล้วนมีพลังวิเศษ และมีผู้ใช้สัตว์วิญญาณอยู่มากมายนับไม่ถ้วน
แต่ทว่า สถานการณ์ของเขาดูเหมือนจะเป็นการกลับชาติมาเกิดมากกว่า ไม่ได้เข้าไปอยู่ในท้องแม่ตั้งแต่แรก แต่ค่อยๆ เติบโตขึ้นมาตามธรรมชาติ
เรียกได้ว่าไป๋จื่ออันไม่ต่างอะไรจากชาวโลกใบนี้เลย
ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือการที่เขามีความทรงจำของชาติภพก่อนหน้า
แต่เพราะในชาติก่อนเป็นทหาร พอมาเกิดใหม่ชาตินี้เลยกลายเป็นหนุ่มหน้าหวาน แถมยังเป็นหนุ่มหล๊อหล่ออีกต่างหาก ทำเอาไป๋จื่ออันรู้สึกไม่ค่อยชินเท่าไหร่
วู้ววว~
เสียงน้ำไหลดังมาแต่ไกล
ขณะเดียวกัน ก็มีลำตัวยาวราวกับริบบิ้นสีเงินปรากฏขึ้น มันกำลังลอยละลิ่วอยู่กลางอากาศ ก่อนจะมุ่งหน้ามาหาไป๋จื่ออัน
นั่นคือปลาวิญญาณที่มีลำตัวยาวเพรียว บาง ยาวเกือบสามเมตร
ดวงตาสีแดงของปลาเปล่งประกายสีทองจางๆ ทั่วทั้งตัวยังมีลายเส้นสีเงิน มันทำให้ปลาตัวนี้ดูไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ด้านล่างของปลาน้อยยังมีกระแสน้ำไหลวน ทำให้มันลอยอยู่กลางอากาศได้ ราวกับกำลังแหวกว่ายอยู่ในน้ำ
“ยินยิน~~”
คุณหนู ถึงเวลาอาหารเช้าแล้วจ้า~
“รู้แล้ว ปลาแถบเงินนัยน์ตาแดง บอกพ่อด้วยนะ ว่าล้างหน้าเสร็จแล้วเดี๋ยวลงไป”
ไป๋จื่ออันยิ้มบางๆ
แม้เสียงของปลาพลังวิญญาณจะไม่ใช่ภาษาของมนุษย์ แต่ไป๋จื่ออันก็ดูเหมือนจะเข้าใจในสิ่งที่มันสื่อสารfu
เจ้าปลาน้อยมหัศจรรย์ตัวนี้ คือสัตว์เลี้ยงพลังวิญญาณประจำกายของพ่อเขา "ปลาแถบเงินนัยน์ตาแดง"
แม้ว่าปลาแถบเงินนัยน์ตาแดงจะตัวไม่ใหญ่โตนัก แต่ก็เป็นสัตว์วิญญาณระดับทอง ถือว่ามันแข็งแกร่งมากทีเดียว
หลังจากล้างหน้าล้างตาเสร็จแล้ว ไป๋จื่ออันก็ลงไปยังห้องอาหารที่ชั้นหนึ่ง
เหล่าคนรับใช้ต่างเตรียมอาหารเช้าแสนหอมกรุ่น อาหารถูกวางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะ
บนโต๊ะอาหาร คู่สามีภรรยาวัยกลางคน และเด็กหญิงอายุราวๆ สิบขวบ กำลังรับประทานอาหารเช้าด้วยกันอย่างมีความสุข
พวกเขาคือพ่อ แม่ และน้องสาวของไป๋จื่ออัน
ในเวลาเดียวกัน ไป๋จื่ออันก็สังเกตเห็นว่า บนที่นั่งประธานของโต๊ะอาหาร มีชายชรารูปร่างกำยำนั่งอยู่
ชายชรามีผมสีดอกเลี้ยงผึ้ง ใบหน้าอ่อนเยาว์ ดูราวๆ ห้าสิบถึงหกสิบปี
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น
ใครที่รู้จักชายชราคนนี้ดี จะรู้ว่าอายุจริงของเขามากกว่านั้นเยอะ
เพราะชายชราผู้นี้นั่งอยู่ในตำแหน่งนี้มาห้าสิบปีแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น สีหน้าของชายชรายังดูเคร่งขรึม เดาได้ไม่ยากเลยว่าเป็นผู้มีอำนาจวาสนา ที่ครองอำนาจมามากกว่าค่อนชีวิต
“คุณปู่ มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ครับเนี่ย ทำไมวันนี้ไม่ยุ่งเหรอครับ?”
ทันทีที่เห็นชายชรารูปร่างกำยำ ไป๋จื่ออันก็ยิ้มออกมาอย่างยินดี ก่อนจะเดินเข้าไปหาชายชรา
ชายชราผู้นี้คือไป๋จิ้งฉง ปู่ของไป๋จื่ออัน
ท่านเจ้าเมืองไป๋หลินผู้โด่งดัง หนึ่งในเจ็ดจอมยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในแดนหมื่นรังไหม
จอมฝึกสัตว์วิญญาณระดับเพชร ผู้ครองเมืองไป๋หลินมานานกว่าห้าสิบปี
ภายในเมืองไป๋หลิน ชายชราไป๋จิ้งฉงผู้นี้คือบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุด เทียบเท่ากับเจ้าเมืองใหญ่ทั้งหกของเมืองหลัก
กล่าวได้ว่า จุดเริ่มต้นของชีวิตไป๋จื่ออันนั้น ถือว่าโชคดีราวกับเสือติดปีก เขามีภูมิหลังที่แข็งแกร่งมากๆ
พูดตามตรง ในฐานะคนที่ข้ามภพมาต่างโลก ไป๋จื่ออันไม่เพียงแต่มีภูมิหลังที่น่าทึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นลูกหลานของตระกูลที่ร่ำรวย
แถมยังมีครอบครัวที่อบอุ่นอีกต่างหาก
ไม่เพียงแต่พ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ ปู่ของเขายังเป็นหนึ่งในบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกอีกด้วย
จุดเริ่มต้นแบบนี้ ช่างยากที่จะจินตนาการจริงๆ
ไป๋จื่ออันอดสงสัยไม่ได้ว่า ตัวเองเป็นพระเอกหรือเปล่านะ?
ภูมิหลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้ แถมครอบครัวก็อบอุ่นแบบนี้ มันใช่สิ่งที่พระเอกควรจะมีได้จริงๆ น่ะเหรอ?
หรือว่าจริงๆ แล้วเขาจะไม่ใช่พระเอกนะ?
ไป๋จื่ออันมักจะสงสัยแบบนี้อยู่เสมอ
แต่เนื่องจากไป๋จิ้งฉงดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองไป๋หลิน ทำให้เขามักจะยุ่งอยู่เสมอ แทบจะไม่ค่อยได้กลับมาที่จวนเจ้าเมือง
ดังนั้น ไป๋จื่ออันจึงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับการมาเยือนของไป๋จิ้งฉง
“วันนี้เป็นวันพิธีปลุกพลังประจำปี ในฐานะเจ้าเมือง ฉันต้องไปกล่าวสุนทรพจน์และให้กำลังใจนักเรียนน่ะ”
“ปู่จำได้นะ เสี่ยวอัน ปีนี้หลานเองก็ต้องเข้าเรียนชั้นมัธยมปลายแล้ว ต้องเข้าร่วมพิธีปลุกพลังเหมือนกัน”
“บังเอิญจริงๆ ถ้างั้นปู่หลาน พวกเราไปหอปลุกพลังด้วยกันก็แล้วกัน”
เมื่อเห็นไป๋จื่ออันเดินเข้ามา ใบหน้าที่เคร่งขรึมของไป๋จิ้งฉงก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้น
พิธีปลุกพลัง มีชื่อเต็มว่า [พิธีปลุกพลังต่อสู้ของสัตว์วิญญาณประจำปีของสหพันธ์จิ่วโจว]
ทุกปีในช่วงสอบเข้ามัธยมปลาย รัฐจะเป็นผู้ดำเนินพิธีปลุกพลังเพื่อช่วยเหล่านักเรียนมัธยมปลายในการปลุกพลัง
ถ้าหากปลุกพลังได้สำเร็จ นักเรียนคนนั้นก็จะสามารถสมัครเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมปลายฝึกสัตว์วิญญาณ เพื่อศึกษาความรู้ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์วิญญาณได้
แต่ถ้าหากปลุกพลังไม่สำเร็จ นักเรียนผู้โชคร้ายคนนั้นก็ได้แค่ไปเรียนต่อที่โรงเรียนมัธยมปลายทั่วไป
นี่จึงเรียกได้ว่า เป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้
ทว่า ในฐานะนักเรียนมัธยมปลายปีสุดท้าย สีหน้าของไป๋จื่ออันกลับดูสงบนิ่ง
เพราะเมื่อหนึ่งเดือนก่อน เขาเพิ่งจะปลุกพลังการต่อสู้ของสัตว์วิญญาณด้วยตัวเองสำเร็จ
นี่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว
ถึงแม้ว่าการปลุกพลังของสัตว์วิญญาณด้วยตัวเองจะเป็นเรื่องยากมากก็ตาม
แต่ในฐานะทายาทสายตรงของไป๋จิ้งฉง ผู้ใช้สัตว์วิญญาณระดับเพชร เจ้าเมืองไป๋หลิน
ไป๋จื่ออันย่อมมีสายเลือดของจอมฝึกสัตว์วิญญาณไหลเวียนอยู่ในตัว
การจะปลุกพลังสัตว์วิญญาณ จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา
ด้วยเหตุนี้ ไป๋จื่ออันจึงปลุกพลังได้สำเร็จ เขาทำสำเร็จก่อนที่พิธีปลุกพลังจะเริ่มขึ้นซะอีก
ส่วนพลังของไป๋จื่ออันที่ตื่นขึ้นมานั้น ถือเป็นพรสวรรค์ที่ดีมากทีเดียว
นั่นก็คือพรสวรรค์ระดับ A : [สัญชาตญาณ]