ตอนที่ 9 การชี้แนะ
ตอนที่ 9 การชี้แนะ
“นั่นคือ... อักขระบนเม็ดยา!”
“สวรรค์! ข้าโชคดีเหลือเกินที่ได้เห็นเม็ดยาที่มีอักขระปรากฏเช่นนี้!”
เสียงอุทานนี้ทำให้สายตาของปรมาจารย์จูเก๋อและคนอื่นๆ ทันใดนั้นก็จ้องเขม็งไปยังเม็ดยาเก้าจุดกำเนิดที่ลอยอยู่ตรงหน้าของเยี่ยหาน
ในทันใดนั้น ลานกว้างทั้งลานตกอยู่ในความเงียบงัน
ทุกคนเบิกตากว้าง แม้แต่จะหายใจก็ไม่กล้าทำ...
เม็ดยาที่กลมเกลี้ยงนั้นปรากฏลวดอักขระสีแดงชาดชัดเจนและถูกปกคลุมด้วยแสงเรืองรอง
อักขระบนเม็ดยา... มันคืออักขระบนเม็ดยาจริงๆ!
เยี่ยหานไม่เพียงแค่ปรุงเม็ดยาเก้าจุดกำเนิดสำเร็จ แต่ยังทำให้เม็ดยานั้นเกิดอักขระที่หายากยิ่งขึ้นมาอีกด้วย!
“อักขระบนเม็ดยา... มันเป็นไปไม่ได้!”
ปรมาจารย์จูเก๋อดวงตาเบิกโพลง กำหมัดแน่น
เป็นที่รู้กันดีว่าเม็ดยาที่มีอักขระบนเม็ดนั้นมีค่ามากกว่ายาธรรมดาถึงร้อยเท่า!
เม็ดยาที่มีอักขระเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง และแม้ว่าจะปรุงยาเป็นหมื่น ๆ เม็ดก็ยังไม่แน่ว่าจะได้เม็ดยาที่มีอักขระเพียงเม็ดเดียว
แม้ว่าปรมาจารย์จูเก๋อจะมีชีวิตมายาวนานกว่าร้อยปี แต่เขาไม่เคยปรุงยาให้เกิดอักขระบนเม็ดยาได้สำเร็จเลยสักครั้งเดียว
แต่ตอนนี้เด็กหนุ่มผู้มีอายุยังน้อยกลับปรุงยาให้เกิดอักขระบนเม็ดยาได้อย่างง่ายดาย!
ชางหลันและเหล่าผู้อาวุโสของสมาคมนักปรุงยาต่างก็ตกตะลึงจนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้
ส่วนดวงตาของหลิวชิงถันเต็มไปด้วยความตื่นตะลึงที่ยากจะบรรยาย!
เม็ดยาเก้าจุดกำเนิดขั้นสาม!
และมันยังมีอักขระบนเม็ดยาตามตำนานอีกด้วย!
นางยอมรับว่าต่อให้มีเวลาอีกยี่สิบปีก็ยังไม่มีทางที่จะปรุงยาเช่นนี้ได้สำเร็จ
“นักปรุงยาขั้นสามอายุสิบเจ็ดปี ไม่ต้องพูดถึงแค่ในเมืองเยียนเลย แม้แต่ในป่าทะเลทรายหรือดินแดนโบราณก็คงจะเป็นที่ฮือฮาอย่างแน่นอน!”
“ฮ่าฮ่า ใครกันที่หัวเราะเยาะเขาเมื่อกี้ ตอนนี้คงถูกตบหน้ากันหมดแล้ว!”
“เจ้าพวกมองอะไรแค่เบื้องหน้า!”
ทั้งลานเกิดเสียงพูดคุยอย่างอึกทึก ครึกโครม
นักปรุงยาขั้นสามนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การเป็นนักปรุงยาขั้นสามในวัยสิบเจ็ดปีนั้นช่างน่าตกใจเกินไปสำหรับสมาคมนักปรุงยา!
“ท่านอาจารย์เยี่ย ข้ายอมแพ้แล้ว”
ไม่นานนัก ปรมาจารย์จูเก๋อก็ยอมรับด้วยใจเต็มเปี่ยม จากความหยิ่งยโสและดูถูกก่อนหน้านี้กลับกลายเป็นความเคารพนับถือแทน
เขายอมรับในความสามารถของเยี่ยหานซึ่งในวัยเพียงสิบเจ็ดปี กลับมีทักษะการปรุงยาที่เหนือกว่าตนเอง!
“ปรมาจารย์จูเก๋อถ่อมตัวเกินไปแล้ว”
เยี่ยหานไม่ได้ใช้โอกาสนี้ในการทำให้ปรมาจารย์จูเก๋อเสียหน้า แต่กลับให้ทางออกอย่างสง่างามแทน ซึ่งยิ่งทำให้ปรมาจารย์จูเก๋อรู้สึกชื่นชมและขอบคุณเขายิ่งขึ้น
“ท่านชางหลัน ขอบคุณสำหรับไฟปรุงยาของท่าน ไฟนี้ก็ถือว่าใช้ได้ดีทีเดียว”
หลังจากกล่าวจบเยี่ยหานดีดนิ้วเบา ๆ เปลวเปลวไฟราชสีห์ที่รุนแรงก็พุ่งกลับเข้าไปในจุดศูนย์กลางของหน้าผากของชางหลันอย่างรวดเร็ว ราวกับแสงวิญญาณที่พุ่งตรงเข้าไป
“ท่านอาจารย์เยี่ย ไม่ต้องเกรงใจ”
ชางหลันยกมือคำนับด้วยความเคารพ ในใจเขานั้นเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง!
เปลวไฟราชสีห์ที่เคยรุนแรงและดุเดือด กลับกลายเป็นเชื่องและอ่อนนุ่มในมือของเยี่ยหานช่างสมกับที่เป็นปรมาจารย์จริง ๆ!
ผู้คนที่มุงดูอยู่รอบ ๆ เมื่อเห็นชางหลันและปรมาจารย์จูเก๋อเรียกเด็กหนุ่มคนนี้ว่าปรมาจารย์ ทั้งหมดรู้สึกเหลือเชื่อ
ต้องเข้าใจว่าแม้แต่เจ้าเมืองเยียนก็ยังไม่สามารถทำให้พวกเขาเคารพเช่นนี้ได้!
“ปรมาจารย์จูเก๋อ เม็ดยาเก้าจุดกำเนิดนี้ข้ามอบให้ท่าน แต่สำหรับเถาเต่ามรกต ข้าหวังว่าท่านจะรักษาสัญญา”
เยี่ยหานสะบัดแขนเสื้อเบา ๆ เม็ดยาเก้าจุดกำเนิดก็ตกลงไปในมือของปรมาจารย์จูเก๋อ
ปรมาจารย์จูเก๋อประคองเม็ดยานั้นด้วยมือที่สั่นเทา สายตาเต็มไปด้วยความชื่นชมเหมือนกำลังมองสมบัติล้ำค่า
ตลอดชีวิตของเขาที่ผ่านมานั้น เขาตามหาความสำเร็จในการปรุงยาให้เกิดอักขระบนเม็ดยา แต่เยี่ยหานกลับทำได้สำเร็จ!
“ได้ ๆ เชิญทางนี้แล้ว”
ปรมาจารย์จูเก๋อผู้ที่ปกติแล้วมักมีสีหน้าเย็นชา บัดนี้กลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม พร้อมทั้งยื่นมือเปิดทางให้
จากนั้นภายใต้การนำทางของเหล่าผู้อาวุโสเยี่ยหานก็เดินเข้าไปในหอคอยของสมาคมนักปรุงยา...
…
สมาคมนักปรุงยา หอโอสถ
ในหอคอยสูงตระหง่านแห่งหนึ่ง ขณะนี้มีศิษย์จำนวนมากแอบทยอยกันเข้ามาอย่างเงียบ ๆ
บางคนแอบมองจากนอกหน้าต่าง บางคนปีนขึ้นไปบนเสา เหมือนกับพยายามแอบดูเหตุการณ์ภายในหอคอย
“พวกเจ้าได้ยินหรือไม่? ดูเหมือนว่าจะมีอัจฉริยะนักปรุงยาเข้ามาในสมาคมของเรา ข้าฟังมาว่าทักษะการปรุงยาของเขาเหนือกว่าปรมาจารย์จูเก๋อเสียอีก!”
เด็กสาวคนหนึ่งพูดเสียงเบา ๆ
“ได้ยินว่าเด็กหนุ่มคนนั้นอายุเพียงสิบเจ็ดปี เท่ากับศิษย์พี่หลิวเลย แต่ดูเหมือนว่าทักษะการปรุงยาของศิษย์พี่หลิวยังเทียบเขาไม่ได้!”
เด็กหนุ่มร่างอ้วนอีกคนหนึ่งกล่าวเสริม
“อย่าเบียดกัน ข้าเห็นเขาแล้ว!”
“สวรรค์ หล่อเหลายิ่งนัก!”
เด็กสาวบางคนถึงกับตกอยู่ในภวังค์และจินตนาการไปไกล
“เอะอะเสียงดังกันเช่นนี้ ช่างไร้ระเบียบเสียจริง!”
ทันใดนั้น เสียงของผู้เฒ่าดังขึ้นจากด้านหลัง
“ท่านอาจารย์หยุนหลง!”
ศิษย์หลายร้อยคนรีบยืนตัวตรง ก้มหน้าลงด้วยความเคารพ
“หยุดแอบมองแล้ว เข้าไปข้างในกันเถอะ”
หลังจากที่ผู้เฒ่าผมขาวกล่าวจบ เหล่าศิษย์ชายหญิงทั้งหลายก็พากันกรูเข้าไปในโถงใหญ่ ยืนเรียงกันเป็นแถวอย่างเรียบร้อย
ภายในหอโอสถ กลิ่นหอมของกำยานลอยฟุ้งในอากาศ บรรยากาศเคร่งขรึมและสง่างาม
เยี่ยหานนั่งอยู่บนที่นั่งสำหรับแขกผู้มีเกียรติ โดยมีเหล่าผู้อาวุโสของสมาคมนักปรุงยานั่งอยู่ทั้งสองข้าง
ปกติแล้วผู้อาวุโสเหล่านี้มักจะมีท่าทีสูงส่ง แต่ในขณะนี้ทุกคนกลับมีรอยยิ้มประจบประแจงบนใบหน้า แสดงความเคารพอย่างยิ่งต่อเยี่ยหาน
ศิษย์หลายคนมองดูด้วยความตกตะลึง นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นผู้อาวุโสที่เคยเคร่งขรึมแสดงความเคารพต่อคนรุ่นหลังถึงเพียงนี้ ช่างหาได้ยากจริงๆ
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับคนที่สามารถเอาชนะปรมาจารย์จูเก๋อในการปรุงยาได้ในวัยเพียงสิบเจ็ดปี ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะได้รับความเคารพเช่นนี้
ไม่เพียงแค่ศิษย์เหล่านี้ แม้แต่ประธานของสมาคมนักปรุงยาก็ยังต้องแสดงความเคารพเช่นกัน!
“ท่านอาจารย์เยี่ย โปรดรอสักครู่ ปรมาจารย์จูเก๋อได้ไปเตรียมสมุนไพรให้ท่านแล้ว”
ชางหลันเอ่ยพลางลูบเคราของเขาด้วยรอยยิ้ม
เยี่ยหานค่อย ๆ จิบชาและพยักหน้าเบา ๆ
“ข้าไม่ทราบว่า ท่านอาจารย์เยี่ยจะกรุณาชี้แนะการปรุงยาให้ข้าได้หรือไม่ ข้าติดอยู่ที่นักปรุงยาขั้นสองระดับสูงมาหลายปีแล้ว”
ขณะนั้นเองผู้เฒ่าหยุนหลงพูดขึ้นอย่างเกรงใจ
ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ต่างก็มีประกายแห่งความหวังในดวงตา พวกเขาเองก็ต้องการฟังคำชี้แนะจากปรมาจารย์เช่นกัน!
“ได้ ข้าจะดูท่านปรุงยาสักรอบ”
เยี่ยหานวางถ้วยชาลงแล้วพยักหน้าให้คำอนุญาต
เสียงลมหวีดหวิวดังขึ้น หยุนหลงพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นเขาก็หยิบเตาปรุงยาออกมาและเริ่มปรุงยา เม็ดยาวิญญาณเทวะ ซึ่งเป็นยาที่เขาถนัดที่สุดต่อหน้าเยี่ยหาน
เยี่ยหานเฝ้าสังเกตอย่างตั้งใจ จนกระทั่งเตาปรุงยาตกลงสู่พื้น จากนั้นเขาจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงใคร่ครวญว่า
“พลังวิญญาณของท่านอาจารย์หยุนหลงนั้นแข็งแกร่ง แต่ทักษะการควบคุมไฟยังขาดความละเอียดอ่อน งั้นข้าจะมอบเทคนิคการควบคุมไฟให้ท่านสักอย่างหนึ่ง”
หลังจากพูดจบเยี่ยหานก็เริ่มสาธิตวิธีการควบคุมไฟ
เปลวไฟที่เคยรุนแรงในมือของเขากลับกลายเป็นเรียบลื่นราวกับไหลไปตามสายลม!
“ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมมาก!”
“สมแล้วที่เป็นทักษะควบคุมไฟระดับปรมาจารย์!”
เหล่าผู้อาวุโสต่างประทับใจและพากันอุทานออกมาอย่างทึ่งในความสามารถของเขา ทุกคนต่างมองหน้ากันด้วยความตื่นตะลึง
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ปรมาจารย์จูเก๋อจะแพ้!
โครม——
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
“ข้าได้บรรลุเป็นนักปรุงยาขั้นสามแล้ว!”
ครึ่งชั่วยามต่อมา เสียงหัวเราะดังลั่นก็พลันดังขึ้น หลังจากหยุนหลงได้รับคำชี้แนะจากเยี่ยหานก็สามารถทะลวงผ่านสภาวะตีบตันได้สำเร็จ
คอขวดที่เขาติดอยู่เป็นเวลาสิบปีกลับถูกทำลายลงเพียงเพราะคำชี้แนะเพียงไม่กี่คำของเยี่ยหาน ทำให้เขาก้าวเข้าสู่ระดับนักปรุงยาขั้นสามได้สำเร็จ!
“ท่านอาจารย์เยี่ย ช่วยชี้แนะข้าด้วย ข้ายังควบคุมพลังวิญญาณได้ไม่ดีพอ!”
“ข้าก็อยากเรียนรู้วิธีควบคุมไฟนี้ด้วย!”
“ท่านอาจารย์เทียนเชวี่ย อย่าแซงข้าสิ ข้ามาก่อนท่าน!”
เหล่าผู้อาวุโสเห็นหยุนหลงบรรลุเป็นนักปรุงยาขั้นสาม ต่างก็รู้สึกอิจฉาและตื่นเต้น พวกเขาไม่ยอมพลาดโอกาสนี้ ต่างแย่งกันขอให้เยี่ยหานชี้แนะการปรุงยาอย่างหน้าแดงก่ำ เหล่าศิษย์ที่ยืนดูอยู่ด้านข้างก็ได้แต่มองด้วยความตกตะลึง
เยี่ยหานในฐานะที่เคยเป็นปรมาจารย์แห่งการปรุงยา แม้จะชี้แนะเพียงเล็กน้อยก็สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเหล่าผู้อาวุโสได้อย่างไม่สิ้นสุด
หลังจากได้รับคำชี้แนะจากเยี่ยหาน บางผู้อาวุโสก็สามารถยกระดับพลังวิญญาณของตนได้ บางคนก็พัฒนาทักษะการควบคุมไฟได้ดีขึ้น และเหล่าศิษย์ที่เข้าร่วมสังเกตการณ์ก็ได้รับประโยชน์ไปด้วยเช่นกัน
ครึ่งชั่วยามต่อมาปรมาจารย์จูเก๋อและหลิวชิงถันก็เดินเข้ามาในโถงใหญ่...