แสงสว่างแห่งจิตใจ (12)
[แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ100คน ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบไม่มีการแก้คำผิด และยิบย่อยมากมาย ไปนั่นแหละ]
<เรื่องราวของอารอน ตอนที่ 44>
5. แสงสว่างแห่งจิตใจ (12)
******
“....ฮา”
เขาหายใจเข้าลึกๆ
เบื้องหน้ามีหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่
พื้นผิวของที่ราบถูกพลิกคว่ำอย่างน่าเกลียดเผยให้เห็นภายใน
ทุ่งหญ้าสีเขียวและดอกไม้ที่เคยสวยงามหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“ออกมา”
อารอนพูดขณะพยายามระงับอารมณ์
「ว้าว!」
ตรงกลางของหลุมอุกกาบาตที่ลึก
เงาสีแดงปรากฏตัวขึ้น
「อ่า สนุกจริงๆ สนุก」
“....”
「นายไม่ต้องการพลังที่แข็งแกร่งกว่านี้เหรอ? ถ้านายยอมรับฉัน ฉันจะสามารถปลดปล่อยทักษะที่มีพลังมากกว่านี้อีกหลายเท่าได้อย่างง่ายดาย」
“....”
「นั่นไม่ใช่พลังที่นายต้องการหรอกเหรอ? ใช้พลังที่เหนือชั้นไม่มีใครเทียบได้เพื่อพลิกสถานการณ์ แม้แต่พี่ชายของนาย ฮาน อิสรัต ก็ไม่มีพลังแบบนี้」
เงาสีแดงพูด
「ผู้ชายคนนั้นอ่อนแอ เขาเป็นแค่ไอ้ขี้แพ้ที่ยอมจำนนต่อเรื่องเล็กน้อยแค่นั้น」
“พี่ชายฉันไม่เคยยอมแพ้”
「ถ้างั้นมันคืออะไร? ดูเหมือนว่าผู้ชายคนนั้นจะยอมจำนนต่อความจริงนะ」
“หุบปาก”
「คนอ่อนแอที่ยอมแพ้ได้ง่ายๆ ขนาดนั้น มันจะมีประโยชน์อะไรที่คนแข็งแกร่งอย่างนายจะไปช่วย?」
เงาสีแดงหัวเราะเยาะ
「อ่า ใช่แล้ว! ใช่เลย! ความแข็งแกร่งของจิตใจที่ไม่สูญเสียตัวเอง แม้จะต้องอยู่คนเดียวเป็นพันๆ หมื่นๆ หรือแม้กระทั่งร้อยล้านปี! นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันอยากจะกลืนกินนาย ถ้าดูดซึมนายเข้าไปได้... เมื่อนั้น ฉันจะกลายเป็นปิศาจที่แท้จริง」
ถึงเวลาตัดสินแล้ว
เงาสีแดงพึมพำและชูหอกสีดำขึ้น
พลังสีแดงเริ่มรวมตัวกันที่หอก
ความเข้มข้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
พลังสีแดงหมุนวนปกคลุมด้ามหอกและคมหอก
วิ้ว~~~~~~~~~
เงาหลายชั้นที่ถูกบีบอัดจนถึงขีดสุดหมุนวนอย่างรุนแรง
เวลาเริ่มบิดเบี้ยว
ที่ปลายคมหอก รอยแตกของมิติที่ฉีกขาดเปิดออกเป็นหลุมดำ
อารอนจับหอกแน่น
วู้มมมม!
หอกสีเงินเริ่มสั่นอย่างรุนแรง
เงามากมายที่ซ้อนทับกันและกรีดร้อง
ตึง!
ควันลอยขึ้นพร้อมกับกลิ่นอบอวลที่ไม่อาจบรรยายได้
พื้นที่รอบปลายหอกโค้งงอจากแรงโน้มถ่วงมหาศาล
ตอนนี้
หอกแต่ละเล่มมีน้ำหนักเท่ากับดวงดาวหนึ่งดวง
พวกมันทำให้กาลอวกาศสั่นสะเทือน
หอกทั้งสองเหมือนหลุมดำขนาดเล็ก
อารอนและเงาสีแดงเล็งหอกไปที่กันและกัน
พวกเขาไม่เคยคิดที่จะหลบตั้งแต่แรก
ปะทะและแตกสลาย พิสูจน์ว่าความฝันของใครแข็งแกร่งกว่ากัน
「อ่า ดีจริงๆ」
เงาสีแดงหัวเราะ
จากนั้นอารอนก็พุ่งออกไป
ไม่ใช่แค่เขา
แม้แต่เงาที่จะใช้ก็ทุ่มพลังลงที่ปลายหอก
เขาวิ่งไปแทงหอกเข้าสู่แก่นกลางของเงาสีแดง
อีกฝ่ายคงคิดแบบเดียวกัน
‘เข้ามาเลย’
เงาสีแดงพุ่งไปข้างหน้า
หอกสีแดงที่หมุนวนเหมือนสว่านพุ่งเข้าหาอารอนเพื่อเจาะทะลุหัวใจของเขา
ต่างฝ่ายต่างรู้ดี
ถ้าโดนหอกนั้นจะเป็นอย่างไร
แม้แต่พลังของกรรมก็ไม่สามารถฟื้นคืนชีพได้
เพราะมันคือหอกที่มีพลังที่จะปลิดชีพนับหมื่นนับพันในคราวเดียว
[รวม]
[เงาแห่งดวงดาว]
เสียงของโลกถูกลบหายไป
ตอนนี้แม้แต่ลมก็ไม่พัด
ในโลกที่เงียบสงบ หอกทั้งสองปะทะกัน
สีดำและสีแดงสด
โลกถูกฉีกออกเป็นสองสี
โลกหลากสีที่ถูกแบ่งแยกบิดเบี้ยว
มันถูกกัดกร่อน
เจาะทะลุ
และแตกสลาย
ความฝันของใครแข็งแกร่งกว่ากัน?
ความฝันของใครหนักกว่ากัน?
ใครจะอยู่รอดเป็นคนสุดท้าย?
บทสรุปได้ถูกกำหนดแล้ว
“....”
อารอนบิดด้ามหอกที่กำแน่น
เปรี้ยง!
คมหอกที่แทงเข้าไปในหัวใจของเงาสีแดงบิดและคว้านเข้าไปข้างใน
「ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า....」
มันยังไม่จบแค่นั้น
เงาที่ผลิบานจากปลายหอกเริ่มกลืนกินเงาสีแดง
การกลืนกิน
ดูดซับเงาของคู่ต่อสู้และพัฒนาเป็นกรรมที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ดูดซับตัวตนของมัน
ถ้าแค่ฆ่ามัน การต่อสู้ครั้งนี้ก็คงมีแต่เสียกับเสีย
「แล้วแกจะ... เสียใจ」
เงาสีแดงพูดขึ้น
「แกจะเสียใจและทรมานไปตลอดกาล จนกว่าตัวตนของแกจะหายไป แกจะเสียใจไม่ยอมรับฉัน」
เงาสีแดงหัวเราะ
มันกำลังจะหายไป และถูกกลืนกินด้วยเงาดำ
แต่มันคงไม่ตายในทันที
เพราะผลจากกรรมมันเป็นแบบนั้น
บางทีมันอาจจะพูดไร้สาระอยู่ข้างๆ เขาไปอีกสักพัก
แต่การหายไปของมันนั้นแน่นอนแล้ว
ในไม่ช้า มันก็จะไม่มีตัวตนอยู่
「อารอน」
เสียงของเงาสีแดงมีความชัดเจนขึ้นเล็กน้อย
ดี
ถ้าเป็นคำพูดสุดท้าย อารอนจะฟังมัน
「ฉันจะสาปแช่งแกไปตลอดชีวิต」
“....”
「จงเจ็บปวด จงสิ้นหวัง จงท้อแท้」
“....”
「จงรับคำสาปของฉันไปชั่วนิรันดร์」
เงาสีแดงเริ่มสลายไปเหมือนควัน
‘อ่า’
มันหายไปแล้ว
พลังงานอันชั่วร้ายที่ซ่อนอยู่ในใจ
ตอนนี้อารอนเป็นอิสระแล้ว
ในที่สุดเขาก็ทำได้
เขาจะไม่ถูกควบคุมโดยความฝันที่บริสุทธิ์อีกต่อไป
เขาสามารถควบคุมพลังแห่งกรรมได้ด้วยเจตจำนงของเขาเอง
“อาจารย์”
อารอนพึมพำ
“ผม... ทำสำเร็จแล้ว...ผม…เอาชนะมันได้แล้ว…”
.
.
.
.
อารอนค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้น
ตอนนี้ร่างกายของเขายืนนิ่งอยู่หน้ากระท่อม
“กลับมาแล้วเหรอ?”
เขากระพริบตาหลายๆครั้ง
หนึ่งครั้ง สองครั้ง
โลกสงบสุขราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ร่องรอยของการต่อสู้หายไปอย่างไร้ร่องรอย
“ที่นี่คือ...”
“จะที่ไหนล่ะ ก็หน้าบ้านไง”
อารอนหันไปมอง
เด็กชายที่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ยืนอยู่ตรงนั้น
“อาจารย์”
“ว่าไง?”
“ผม... สู้กับเงาสีแดง”
เพื่อที่จะหลุดพ้นจากปีศาจที่พยายามจะฆ่าจิตใจของเขา
“แล้ว?”
“ในที่สุดผมก็ชนะ”
“ก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นนะ เจ็บตรงไหนไหม?”
“ไม่เป็นไรเลยครับ มันเหมือนกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น”
เขามองไปรอบๆ
เงาสีแดงไม่ปรากฏให้เห็นเลย
โลกสงบสุข
เสียงกระซิบที่ไม่เคยหยุดก็ไม่ได้ยินอีกต่อไป
“ถ้าอย่างนั้น... เราไปกันเถอะ”
“ห่ะ? ไปไหนครับ?”
“ก็บอกแล้วไงว่าถ้านายควบคุมกรรมได้แล้ว เราจะออกไปจากที่นี่”
อ่า เขานึกออกแล้ว
เขาเคยสัญญากับอาจารย์ไว้
“ผม...ทำมันได้แล้วเหรอครับ?”
“ใช่แล้ว เจ้าปีศาจนั้นจะไม่มารบกวนนายอีก ตราบใดที่นายไม่หักโหมจนเกินไป”
เขาชนะแล้วงั้นเหรอ?
เขาชนะจริงๆ เหรอ?
สีหน้าของอารอนสดใสขึ้น
“แต่ว่า อย่าเพิ่งดีใจไป ข้างนอกตอนนี้กำลังวุ่นวายมากเลยนะ คงไม่ง่ายแบบที่นายคิด”
ข้างนอกวุ่นวาย
อารอนทบทวนคำพูดนั้น
‘วิญญาณที่ถูกรวบรวม...’
ความทรงจำเลือนราง
วิญญาณที่ถูกรวบรวมคืออะไร?
เขาไม่รู้
เขารู้สึกเหมือนเพิ่งตื่นจากฝันอันยาวนาน
ใช่แล้ว
อารอนฝัน
ฝันอันยาวนาน
ในความฝัน เขาต่อสู้กับเงาสีแดง และในที่สุดก็ได้รับอิสรภาพ
‘แล้วความฝันของอาจารย์...’
ว่าแต่ ความฝันของอาจารย์คืออะไรนะ?
เขาตัดสินใจว่าจะถามอาจารย์เมื่อออกไปข้างนอกแล้ว
ความทรงจำของเขามันสับสนอย่างประหลาด
เหมือนมีใครมาเล่นกับมัน
“เอาล่ะอารอน”
“ครับ”
“นายมีพลัง พลังที่จะไม่ยอมแพ้ต่อความยากลำบาก”
“นั้นต้องขอบคุณอาจารย์ครับ”
“ไม่ว่าจะเจอกับอะไรก็ตาม อย่ายอมแพ้”
“แน่นอนครับ”
มันคือพลังที่จะปกป้องทุกคน
ข้างนอกนั่นต้องมีความยากลำบากมากมายรออยู่แน่ๆ
เขามีลางสังหรณ์เช่นนั้น
มันอาจจะเป็นความจริงที่น่ากลัวเกินกว่าจะจินตนาการได้
แต่แปลกที่เขาไม่รู้สึกกลัว
อารอนได้เรียนรู้จากอาจารย์ของเขา
วิธีที่จะไม่ยอมแพ้
“ตอนนี้ ประตูที่เชื่อมไปยังเนลม์ไฮมฟ์คงเปิดออกแล้วล่ะ”
เด็กชายเริ่มเดินนำ
อารอนเดินตามเขาไป
“อาจารย์ครับ”
“ว่าไง?”
“เมื่อออกไปแล้ว อาจารย์จะทำอะไรครับ?”
“ไม่รู้สิ ฉันว่าจะเกษียณแล้วล่ะ”
“อะไรนะครับ?”
“มีที่ไหนเหมาะๆ แนะนำบ้างไหม? ที่ที่เหมาะสำหรับพักผ่อน”
“อาจารย์...”
“ไม่เป็นไร เจ้าหนู นายทำแทนฉันได้!”
เด็กชายยิ้มและตบหลังอารอน
“นายทำได้ อย่าดูถูกตัวเอง”
อารอนพยักหน้า
เขาจะไม่ยอมแพ้
ไม่ว่าอะไรจะอยู่ข้างหน้าก็ตาม
“ไปกันเถอะ”
“ครับ”
อาจารย์และลูฏศิษย์เดินเคียงข้างกัน
อารอนให้คำมั่นสัญญากับตัวเอง
ว่าเขาจะไม่ยอมแพ้ต่อความยากลำบาก เขาให้คำมั่นสัญญากับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า….