บทที่ 700: จุดเริ่มต้นของอาชีพราชาแห่งการประชุม อุปกรณ์ใหม่ที่ควีนติดตั้ง
[แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ100คน ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบไม่มีการแก้คำผิด และยิบย่อยมากมาย ไปนั่นแหละ]
บทที่ 700: จุดเริ่มต้นของอาชีพราชาแห่งการประชุม อุปกรณ์ใหม่ที่ควีนติดตั้ง
แบรนนิว นาวาตรีประจำกองทัพเรือ เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการ มีความสามารถพิเศษในการรวบรวมข้อมูลข่าวสาร นับตั้งแต่ค้นพบพรสวรรค์นี้ การประชุมจำนวนมากของกองทัพเรือก็ได้รับมอบหมายให้เขารวบรวมข้อมูลและถ่ายทอดข่าวสารล่าสุดไปยังนายทหารทุกระดับ
"เมื่อห้าวันก่อน กลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรได้โจมตีอาณาจักรสแตนติน และปล้นเรือรบสิบลำของอาณาจักรสแตนตินต่อหน้าสาธารณชน"
ทหารเรือที่อยู่ด้านล่างไม่ได้รู้สึกงุนงงกับเรื่องนี้ ด้วยความสามารถของกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูร การที่พวกเขาไม่สามารถทำแบบนี้ได้ถือเป็นเรื่องผิดปกติ เจ็ดเทพโจรสลัดมีความสามารถในการโค่นล้มประเทศได้ ประเทศสมาชิกเพียงประเทศเดียวที่ต้องเผชิญหน้ากับจักรพรรดิแห่งท้องทะเลในโลกใหม่นั้นไม่มีอำนาจใดๆเลย
"แต่ปัญหาหลักคือวิธีที่พวกเขาปล้นเรือ"
รูปถ่ายของบันกิราสและเอ็นบูโอถูกขยายขึ้นบนหน้าจอ หอยทากสื่อสารบนเรือของกลุ่มโจรสลัดบิ๊กมัมได้บันทึกภาพที่น่ากลัวไว้ เช่น การปล่อยลำแสงทำลายล้าง และเรือที่ถูกทำลาย
นอกจากนี้ ยังมีภาพการต่อสู้ในอดีตของราชาแห่งเปลวเพลิงที่บันทึกโดยกองทัพเรือ
"เมื่อสิบห้าปีก่อน อาวุธชีวภาพที่กลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรเรียกว่าราชาแห่งเปลวเพลิงได้ปรากฏตัวขึ้นในทะเล เป็นที่ทราบกันดีว่ามันมีความสามารถในการควบคุมเปลวไฟ และมีพลังต่อสู้มากกว่าเผ่าพันธุ์ยักษ์ทั่วไป"
การอธิบายความแข็งแกร่งของบุคคลหนึ่งต้องมีการเปรียบเทียบ นี่คือหนึ่งในเหตุผลของการมีระบบค่าหัว แม้ว่าจะมีบางกรณีที่ความแข็งแกร่งและค่าหัวไม่ตรงกัน แต่ค่าหัวสามารถบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของคนส่วนใหญ่ได้
กลุ่มโจรสลัดแต่ละกลุ่มมีวิธีการจัดลำดับชั้นที่แตกต่างกัน กองทัพเรือต้องเผชิญหน้ากับทะเลทั้งหมด ไม่มีเวลาจดจำลำดับชั้นทั้งหมดเพื่อทำการแปลง ค่าหัวจึงกลายเป็นมาตรฐานที่ง่ายที่สุดในการวัดความแข็งแกร่งในการต่อสู้
ผ่านค่าหัว กองทัพเรือสามารถเข้าใจระดับภัยคุกคามของโจรสลัดได้คร่าว ๆ
สำหรับอาวุธชีวภาพเหล่านี้ รัฐบาลโลกไม่ได้ออกประกาศค่าหัว ดังนั้นแบรนนิวจึงเปลี่ยนมาใช้ตัวเปรียบเทียบที่ชัดเจน นั่นคือเผ่าพันธุ์ยักษ์
ขนาดร่างกายมีข้อได้เปรียบในหลายๆด้าน เผ่าพันธุ์ยักษ์ที่เข้าร่วมกองทัพเรือส่วนใหญ่ล้วนมีตำแหน่งพลโท และเมื่อเผชิญหน้ากับเผ่าพันธุ์ยักษ์ คนส่วนใหญ่ไม่มีความสามารถในการต่อต้านพวกเขา
การที่แข็งแกร่งกว่าเผ่าพันธุ์ยักษ์ทั่วไป ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นถึงภัยคุกคามของพวกมันแล้ว
"ในช่วงสิบห้าปีที่ผ่านมา เราไม่เคยพบสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกันตัวที่สอง เราเคยคิดว่านี่เป็นเพียงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่การปรากฏตัวของสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้ทำลายความคิดนั้น"
ไม่ใช่ว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตแปลกๆ ตรงกันข้าม ยังมีอีกมากมาย แต่ในทะเลมีสิ่งมีชีวิตแปลกๆมากมายอยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้กองทัพเรือตื่นตัว
แม้จำนวนของพวกคอยคิงและเกียราดอสจะไม่น้อย แต่การปรากฏตัวของพวกมันจำนวนมากทำให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ มีทฤษฎีที่ว่าเกียราดอสเป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกดัดแปลง แต่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์
จนถึงตอนนี้ เกียราดอสยังไม่ได้เข้าร่วมการปฏิบัติการของกลุ่มร้อยอสูรโดยตรง มีเพียงข้อมูลจากคาเวนดิชเท่านั้นที่ทำให้ไม่สามารถระบุข้อมูลเฉพาะได้
แต่บันกิราสนั้นแตกต่าง ถ้ามีแค่เอ็นบูโอตัวเดียวก็ถือว่าเป็นกรณีพิเศษ แต่การปรากฏตัวของสัตว์ประหลาดตัวที่สองนั้นพิเศษมาก ถ้าสามารถสร้างตัวที่สองได้ ก็อาจมีตัวที่สาม ตัวที่สี่ หรือแม้แต่กองทัพสัตว์ประหลาดทั้งหมด
"นี่คือความสามารถที่มันแสดงออกมา ปืนใหญ่อานุภาพทำลายล้างสูง และความสามารถในการควบคุมฝุ่นทราย อานุภาพของปืนใหญ่นั้นเพียงพอที่จะทำลายเรือรบได้ในการโจมตีครั้งเดียว หากพบเรือขนาดใหญ่ของกลุ่มร้อยอสูร อย่าต่อสู้กับมันในทะเล
จากข้อมูลในปัจจุบัน สัตว์ประหลาดขนาดยักษ์สองตัวนี้ดูเหมือนจะเชื่อฟังคำสั่งของแจ็ค เขาอาจเป็นผู้บัญชาการกองทัพสัตว์ประหลาดนี้"
นี่คือเหตุผลที่รูปถ่ายของแจ็คถูกนำมาแสดงด้วย จำนวนสองตัวนั้นไม่มาก แต่เนื่องจากขนาดและอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวของมัน การมองว่ามันเป็นกองทัพเดี่ยวก็ไม่ใช่เรื่องไร้เหตุผล
"เอาล่ะทุกท่าน นี่คือข้อมูลหลักที่ต้องแจ้งในการประชุมครั้งนี้ ต่อไปเป็นคำถามที่สำคัญกว่านั้นอีก นั่นคือควีน"
รูปถ่ายของเอ็นบูโอและบันกิราสถูกนำออก เหลือเพียงรูปถ่ายของควีน
"ควีนแห่งโรคระบาด ผู้อาวุโสของกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูร อดีตสมาชิกกลุ่มวิจัย MADS สงสัยว่าเขาได้ทำการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับพิมพ์เขียวแห่งชีวิต
จากข้อมูลที่ได้รับจากหน่วยงาน CP ของรัฐบาลโลก การปรากฏตัวครั้งแรกของสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ที่มีรหัสว่าราชาแห่งเปลวเพลิงอยู่ภายใต้การบัญชาการของควีน แน่นอนว่าคนข้างบนยังคงสงสัยในเรื่องนี้อยู่เสมอ"
แม้ว่าพวกเขาจะให้ความสนใจกับควีนเป็นพิเศษ แต่พวกเขาก็ไม่ได้มองข้ามอาร์เซอุสผู้ลึกลับ แต่การเคลื่อนไหวและการกระทำของอาร์เซอุสทำให้พวกเขาไม่เข้าใจ จากการรวบรวมข้อมูลข่าวกรองในอดีต การออกเดินทางของเขาดูไม่เหมือนโจรสลัด แต่เหมือนพ่อแม่พาลูกไปเที่ยวมากกว่า
ความเป็นไปได้นี้ถูกปฏิเสธทันทีที่มันเกิดขึ้น ในข้อมูลข่าวกรองที่นี่ แม้ว่าอาร์เซอุสจะเคลื่อนไหวน้อย แต่เขาก็เป็นมือขวาของกลุ่มร้อยอสูรอย่างแท้จริง คนแบบนี้จะพาลูกไปเที่ยวเล่นได้อย่างไร ต้องมีบางอย่างที่พวกเขาไม่รู้แน่
เป็นที่รู้กันว่าไคโดออกตามหาหินทั่วโลก แต่พวกเขาก็ได้ศึกษาหินก้อนนั้นแล้ว นอกจากความแข็งแกร่งแล้ว ก็ไม่พบลักษณะพิเศษอื่นใด พวกเขาไม่คิดว่าหินก้อนนี้มีความเกี่ยวข้องกับสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวเหล่านั้น
มีสิ่งลึกลับมากเกินไป พวกเขาไม่ได้มองข้ามมัน แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน จึงยังคงให้ความสำคัญกับควีนที่มีร่องรอยให้ติดตามมากกว่า
"คำสั่งของจอมพลเซ็นโงคุ ทุกท่านที่พบควีนระหว่างปฏิบัติภารกิจ สามารถเปลี่ยนภารกิจได้ทันที โดยให้ความสำคัญกับการจับกุมควีน และสามารถเรียกกำลังเสริมจากกองบัญญชาการใหญ่ได้"
การโจมตีฐานที่มั่นของจักรพรรดิแห่งท้องทะเลเหล่านั้นไม่ใช่ความคิดที่ดี ดังนั้นจึงมีคำสั่งนี้ออกมา แต่ประสิทธิภาพในการปฏิบัติตามคำสั่งนี้อาจไม่สูงนัก
พวกเขาไม่สามารถคาดการณ์ตำแหน่งที่ควีนจะปรากฏตัวได้ และตัวควีนเองก็มีความแข็งแกร่ง การจะจับกุมเธอไม่ใช่เรื่องง่าย
โดยเฉพาะกับเหล่าทหารเรือธรรมดา พลังของควีนนั้นไม่ต่างอะไรกับหายนะ หากปราศจากการป้องกันเป็นพิเศษ พวกเขาก็แทบจะไม่รอดจาก 'โรคระบาด' ที่ควีนปล่อยออกมา ดังนั้น กองทัพเรือจึงต้องผลิตอุปกรณ์ใหม่ขึ้นมา
"นี่คือหน้ากากกันพิษที่เตรียมไว้ให้ ใครที่ต้องปฏิบัติภารกิจในโลกใหม่บ่อยๆ เดี๋ยวให้คนไปรับที่แผนกส่งกำลังบำรุงนะ"
เดิมที อุปกรณ์แบบนี้มีไว้ให้เฉพาะหน่วยเฝ้ายามอิมเพลดาวน์กับพวกห้องทดลองต่างๆเท่านั้น เหล่าโจรสลัดส่วนใหญ่อย่าว่าแต่จะหามาใช้เลย แม้แต่ปืนใหญ่คุณภาพดีๆยังหาไม่ได้ยาก การที่ต้องเพิ่มหน้ากากกันพิษเข้ามา ก็เพราะต้องรับมือกับพลังบางอย่างของควีน
การที่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ประจำกายเพราะคนๆเดียว ก็แสดงให้เห็นว่าควีนนั้นเป็นที่จับตามองขนาดไหน
นี่เป็นปฏิบัติการภายในกองทัพเรือ นอกจากนี้ หน่วย CP ที่สังกัดรัฐบาลโลกก็กำลังเคลื่อนไหวเช่นกัน พวกเขาเก็บรวบรวมข้อมูลมากมายจากทั่วโลก แล้วส่งต่อให้เวก้าพังค์
เขาเป็นอัจฉริยะด้านการวิจัย แต่ข้อมูลจากโอฮาร่าก็ถูกกวาดต้อนไปจนหมด แม้แต่เหล่านักปราชญ์ก็โดนจับไปด้วย ทำให้เวก้าพังค์ขาดข้อมูลในการวิจัยบางอย่าง และต้องพึ่งพารัฐบาลโลกมากขึ้น
ในฐานะผู้กุมบังเหียนโลก พวกเขามีสิ่งต่างๆในมือมากกว่าใครๆ...