ตอนที่ 23 ปี1969 เหตุการณ์ตุ่มหน้ามนุษย์
ปู่หลัวพูดถึงปี 1969 สำหรับเหล่าหวง 69 เป็นปีที่แปลก การเติบโตของทุกคนดูเหมือนจะแยกไม่ออกจากเรื่องราวแปลกๆ ที่คนรุ่นก่อนเล่าให้ฟัง
เหล่าหวงจำได้ว่าในปี 1969 เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น
โรคระบาด!
ใช่แล้ว เป็นโรคระบาด!
ตอนนี้เหล่าหวงจำได้ว่าตอนที่เขายังเด็ก คุณยายเคยเล่าเรื่องเก่าๆ ให้เขาฟัง
ถึงแม้ว่าเรื่องที่เล่าบ่อยที่สุด จะเป็นเรื่องการต่อสู้กับญี่ปุ่น แต่เธอก็ชอบพูดถึงโรคระบาดในปี 1969
"ต้นฤดูใบไม้ผลิปี 1969 น่าจะเป็นช่วงหลังเทศกาลเช็งเม้ง ตอนเทศกาลเช็งเม้ง พวกเราจะไปไหว้หลุมศพบนภูเขา อ่างเก็บน้ำจุนซานถูกล้อมรอบไปด้วยสุสานของหมู่บ้านใกล้เคียง ตอนนั้น คนจากหลายๆ หมู่บ้านต่างก็ชวนกันไปไหว้หลุมศพบรรพบุรุษบนภูเขา หลายๆ คนบอกว่าจุดเทียนไม่ติด"
"เหมือนกับ.. เหมือนกับว่าเราจุดเทียนติดแล้ว แต่จู่ๆ ก็มีคนมาเป่าดับ ไม่นานมานี้มีละครเรื่องหนึ่ง มีคำพูดที่ว่าใครเป็นคนจุดเทียน มันเหมือนกับเรื่องที่เกิดขึ้นในปีนั้น"
"แต่สุดท้าย ทุกคนก็จุดเทียนติด แต่พอมืด คนในหมู่บ้านก็เห็นว่าบนภูเขามีแสงไฟสว่างไสว ถ้าไปไหว้หลุมศพช้า เทียนยังติดอยู่ก็ไม่แปลก แต่เทียนที่ฉันจุดหลังจากกินข้าวเที่ยงก็ยังติดอยู่!"
"ยืนอยู่ในหมู่บ้านก็เห็นแสงเทียนบนภูเขา ตอนนั้น หมู่บ้านแถวนี้ต่างก็แตกตื่น ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตั้งแต่พลบค่ำจนถึงดึก แสงเทียนก็สว่างไสว เลขาธิการพรรคของหลายๆ หมู่บ้านรู้สึกว่าไม่ปกติ แต่ตอนนั้นกว่าจะไปถึงอำเภอ ต้องเดินทางไกล ภูเขาก็สูง เรื่องเล็กๆ ก็เลยตัดสินใจกันเอง"
"เลขาธิการพรรคของหลายๆ หมู่บ้านรวมตัวกัน หลังจากปรึกษากันแล้วก็เลยจัดให้แต่ละหมู่บ้าน ส่งคนงานสองคนขึ้นไปดูบนภูเขา ตอนนั้น พวกเรากลัวว่าแสงเทียนจะทำให้ไฟไหม้ภูเขา ชาวบ้านต่างก็หวังพึ่งภูเขา ถ้าภูเขาถูกไฟไหม้ คนคงอดตายกันหมด ดังนั้น หนุ่มๆ เหล่านั้นจึงกระตือรือร้น ไม่กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นบนภูเขา"
"รวมๆ แล้วมี 20-30 คน พวกเขาขึ้นภูเขากันตอนกลางดึก แบ่งกลุ่มขึ้นไปตามภูเขาต่างๆ ถ้าเป็นแสงเทียนจริงๆ ก็ดับไฟ ภารกิจง่ายมาก การปีนเขาก็ไม่ยาก หนุ่มๆ 20-30 คนขึ้นไปบนภูเขา แต่คนในหมู่บ้านไม่มีใครนอน ต่างก็รอพวกเขา"
"ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง กลุ่มคนที่อยู่ใกล้ๆ ขึ้นไปดับเทียนบนภูเขา พอเห็นว่าหลุมศพและเนินเขามืดลง คนในหมู่บ้านก็รู้สึกโล่งอก หลังจากนั้น บนเขาก็มีแสงเทียนสว่างขึ้นมาอีกพอไฟดับ คนบนเขาก็เริ่มลงมา ตอนนั้นทุกคนรู้สึกสบายใจ หนุ่มๆ ที่ขึ้นไปบนเขาก็ลงมา หลายๆ หมู่บ้านยังรวมตัวกัน ทำอาหาร กินข้าว ดื่มเหล้า"
"วันนั้นครึกครื้นกว่าวันตรุษจีนอีก แต่พอฟ้าสาง ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ ทุกคนคิดว่าวันรุ่งขึ้นจะเป็นการเริ่มต้นใหม่ แต่สำหรับพวกเราแล้ว ปี 1969 เป็นฝันร้าย เริ่มจากหยางเหล่าซาน วันที่สองของเทศกาลเช็งเม้งบนมือของเขามีตุ่มขึ้นมา ตอนนั้น เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ต่อมาหยางเหล่าซานก็ขยับตัวไม่ได้ แล้วก็เป็นอู๋หมิง หลี่ฉางควน ฟางซื่อไห่.."
"ทุกคนเริ่มมีตุ่มขึ้นมาบนมือ ตอนแรกตุ่มเล็กเท่าเล็บ แต่หลังๆ ใหญ่เท่ากำปั้น เริ่มเป็นหนอง ไม่ถึงวัน ตุ่มหนองก็แตก สุดท้ายก็เป็นทั้งตัว ตุ่มหนองทุกอันพอแตกออกก็เหมือนกับใบหน้าคน ไม่ว่าจะเป็นหยางเหล่าซาน หลี่ฉางควน หรืออู๋หมิง ฟางซื่อไห่ต่างก็ไปหาหมอ โดยเฉพาะหลี่ฉางควน ฐานะทางบ้านดียังไปรักษาตัวที่ต่างจังหวัด"
"แต่ไม่มีใครรอด หลี่ฉางควนตายที่ต่างจังหวัด ไม่สามารถนำศพกลับมาได้ ก็เลยฝังไว้ที่นั่น หลังจากนั้น คนเป็นโรคตุ่มใบหน้าก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ เกือบทุกหมู่บ้านมีคนเป็น จนกระทั่งมีคนติดเชื้อเจ็ดแปดคน ทุกคนถึงได้นึกขึ้นได้ว่า คนที่เป็นโรคตุ่มใบหน้า ล้วนเป็นคนที่ไปดับเทียนบนภูเขาในคืนเทศกาลเช็งเม้ง!"
พอพูดถึงตรงนี้ ปู่หลัวก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้
เขาจับมือของเหล่าหวงแน่น "หนุ่มๆ 20-30 คน 20-30 ครอบครัวตายหมด ไม่มีใครรอด! หลังจากที่พวกเขาเสียชีวิต มีคนคำนวณว่า 49 วันจะมีอีกาบินมาทางอ่างเก็บน้ำจุนซาน"
"ก๊า.. ก๊า.. ก๊า.. เหมือนกับประตูนรกเปิดออก น่าสงสาร น่าสงสารจริงๆ ตอนที่พวกเขาเสียชีวิต ฉันไปดูทุกคน มือ เท้า เหยียดตรง เหมือนกับ.. เหมือนกับคนจมน้ำตาย แขน ขา เหยียดตรง หักไม่ได้!"
น้ำเสียงของปู่หลัว ไม่ได้เศร้าอีกต่อไป แต่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เรื่องที่เกิดขึ้นในปี 1969 น่ากลัวและน่าเศร้า แม้แต่เจียงเย่ก็ยังตกใจ เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่า 50 ปีก่อนในชนบทห่างไกล จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น!
"คุณปู่ แล้วพวกเขาถูกฝังไว้ที่ไหนครับ? ฝังไว้ที่อ่างเก็บน้ำจุนซานหรือเปล่า?" เหล่าหวงถามขึ้น
ปู่หลัวก้มหน้าลง กำหมัดแน่น "ตอนนั้น พ่อของฉันเป็นเลขาธิการพรรคของหมู่บ้านหลัว หลังจากที่หนุ่มๆ ที่ขึ้นไปบนภูเขาเสียชีวิต พ่อบอกว่าห้ามฝังพวกเขา มันเป็นลางร้าย ถ้าฝังแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พ่อของฉันบอกกับเลขาธิการพรรคของแต่ละหมู่บ้านว่าให้เผาพวกเขาด้วยกิ่งท้อ แล้วก็ฝังเหมือนกับการเผาศพในปัจจุบัน"
"ยังคงฝังอยู่ในบริเวณอ่างเก็บน้ำจุนซาน ตรงนั้นเป็นสุสานบรรพบุรุษ นอกจากที่นั่นก็ไม่มีที่ฝังแล้ว!"
ปู่หลัวพูดจบ เหล่าหวงก็ตกใจจนพูดไม่ออก
"แล้วทำไมผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน? ตอนที่ภรรยาผมเล่า เธอก็บอกแค่ว่ามีโรคระบาด คนตายเยอะ"
"คนข้างบนสั่งไม่ให้พูด บอกแค่ว่าเป็นโรคระบาด ไม่มีใครกล้าพูด กลัวว่าจะติดเชื้อ หลังจากนั้น ทุกคนก็ค่อยๆ ยอมรับว่าเป็นโรคระบาด แต่.. พ่อของฉันทนความรู้สึกผิดไม่ไหว ปีต่อมาตอนเช็งเม้ง ก็ไปผูกคอตายที่อ่างเก็บน้ำจุนซาน!"
พูดจบ ปู่หลัวก็ถอนหายใจยาว