ตอนที่ 327 ความสามารถของเธอไม่อนุญาตให้เธอขาดความมั่นใจ

เย่เฉิน ขมวดคิ้ว รู้สึกว่าฉายานี้ไม่เพียงแต่ดูถูกเท่านั้น แต่ยังเป็นการดูหมิ่นอย่างมากอีกด้วย

ด้วยความสงสัย เย่เฉิน จึงคลิกเข้าไปดูรายละเอียดของฉายา ‘เต่านินจา’

[ฉายาเต่านินจา : เมื่อได้รับแล้ว ผู้ถือครองจะได้รับรางวัลจากการภารกิจท้าทายลดลง 20% และคะแนนสะสม กับคะแนนค่าประสบการณ์จะลดลง 30%]

อะไรนะ?!

แต่เดิม เย่เฉิน คิดว่าฉายา ‘เต่านินจา’ เป็นแค่คำดูถูกอย่างรุนแรงเท่านั้น แต่ไม่คาดคิดว่าจะมีผลกระทบอย่างจริงจังเช่นนี้ด้วย!

ภารกิจท้าทายในแต่ละครั้งรางวัลลดลง 20%?!

หากเป็นความท้าทายที่มีมูลค่าประมาณ 2 พันล้าน การลดลง 20% นั่นก็หมายถึงเขาต้องสูญเสียเงินไปถึง 400 ล้านหยวน

400 ล้านหยวน นั่นคือเงินที่หลายคนไม่สามารถหาได้ทั้งชีวิต

ซึ่งนั่นยังเป็นเงินที่ เย่เฉิน สามารถซื้อรถหรูได้หลายคันเลยทีเดียว!

ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับคะแนนสะสม และคะแนนค่าประสบการณ์ลดลงถึง 30%.. เป็นสิ่งที่น่ากลัวยิ่งไปกว่านั้นอีก

ลืมเรื่องเงินไปได้เลย.. เงินยังพอทำใจได้

แต่คะแนนค่าประสบการณ์ และคะแนนสะสมนั้นเป็นสิ่งที่ล้ำค่าอย่างมาก

ตอนนี้การอัปเกรดของเขาก็ช้าอยู่แล้ว หากลดลงอีก ใครจะรู้ว่าเมื่อไหร่คะแนนมันถึงจะเต็ม

ฉายานี้ไม่ควรได้รับ!

นี่ไม่ใช่รางวัลเลย แต่มันคือบทลงโทษอย่างชัดเจน!

แม้ว่าจะไม่มี ‘บทลงโทษ’ นี้ เย่เฉิน ก็ยังจะเลือกที่จะรับความท้าทายนี้อยู่ดี

เมื่อครู่ เย่เฉิน สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยทางสีหน้าของ ซู หนิงซวง ทำให้เขารู้ระดับฝีมือการขี่ม้าของเธอ

หาก ซู หนิงซวง ลงแข่ง เธอคงชนะไม่ได้

หากเป็นเช่นนั้น ซู หนิงซวง คงจะต้องรู้สึกแย่มาก

ซึ่ง เย่เฉิน ไม่ต้องการให้เธอถูกทำร้าย หรือเสียใจใดๆ แม้แต่น้อย

มันก็แค่การแข่งขันเท่านั้น เขาจะจัดการเอง

ความท้าทายนี้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าหากเขารับคำท้าจาก ซู อิ่งหลวน แทน ซู หนิงซวง เขาจะได้รับทักษะการขี่ม้าระดับสูง

ตอนนี้นั้น ..การแข่งขันยังไม่เริ่มขึ้น

“เป็นอะไรไป ไม่กล้าสู้เหรอ?”

ซู อิ่งหลวน ที่นั่งอยู่บนหลังม้าพูดอย่างท้าทาย

“คุณยังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นคู่แข่งกับ หนิงซวง งั้นเอาแบบนี้ คุณมาแข่งกับผมแทนสิ”

เย่เฉิน พูดขึ้นว่า :

“ทักษะการขี่ม้าของผม หนิงซวง เป็นคนสอน ถ้าคุณเอาชนะผมไม่ได้ แล้วจะเอาชนะ หนิงซวง ได้ยังไง?”

เมื่อ เย่เฉิน พูดจบ บรรยากาศในที่นั้นก็เงียบลงทันที

“เย่เฉิน ให้ฉันลงแข่งเองเถอะ”

ซู หนิงซวง รีบพูดขึ้น พลางเดินเข้ากระซิบ กับเย่เฉิน ด้วยเสียงเบาๆ

ตอนที่ เย่เฉิน ลุกขึ้นยืนขึ้นมาอย่างกล้าหาญทำให้ ซู หนิงซวง รู้สึกซาบซึ้งใจมากแล้ว

แต่เธอเพิ่งสอน เย่เฉิน ขี่ม้าเพียงครั้งเดียวเอง ยังไม่แน่ใจเลยว่า เย่เฉิน ขี่ม้าเป็นหรือเปล่า

แต่อย่างไรก็ตามถ้าจะแพ้แล้ว ซู หนิงซวง ยอมที่จะแพ้เองมากกว่าการปล่อยให้ เย่เฉิน พ่ายแพ้

“เชื่อใจผมสิ”

เย่เฉิน พูดขึ้นเบาๆ ที่ข้างหูของ ซู หนิงซวง โดยไม่อธิบายอะไรเพิ่มเติม

เชื่อใจผมสิ.. (相信我)

แค่สามคำง่ายๆ เหล่านี้ก็ทำให้ ซู หนิงซวง รู้สึกเหมือนได้รับความมั่นใจขึ้นมา

แม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจว่า เย่เฉิน หมายถึงอะไร แต่หลังจากผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มาด้วยกันมากมาย ซู หนิงซวง ก็เชื่อมั่นในตัว เย่เฉิน อย่างเต็มที่แน่นอน

เธอเดาว่า เย่เฉิน อาจมีเทคนิคพิเศษ หรืออะไรบางอย่าง

ผู้ชายคนนี้จะลงแข่งกับ ซู อิ่งหลวน เหรอ?

เพื่อนๆ ของ ซู อิ่งหลวน แสดงความประหลาดใจอย่างมาก

ความสามารถของ ซู อิ่งหลวน ไม่มีข้อกังขา และแม้แต่ ซู หนิงซวง ก็ไม่สามารถสู้เธอได้

แล้ว เย่เฉิน ที่เรียนขี่ม้าจาก ซู หนิงซวง จะทำได้อย่างไร?

หรือว่าผู้ชายคนนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ซ่อนตัวอยู่?!

หลายคนอดไม่ได้ที่จะเริ่มคาดเดาในใจ

“มาเถอะ”

เมื่อ เย่เฉิน พูดแบบนี้ ซู อิ่งหลวน ก็ตอบรับด้วยการพยักหน้า ตัดสินใจที่จะเอาชนะแฟนหนุ่มของ ซู หนิงซวง ก่อน แล้วค่อยแข่งกับ ซู หนิงซวง อีกที

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อถึงงานเลี้ยงประจำปีของตระกูลซูในอีกไม่นานนี้

แฟนหนุ่มของ ซู หนิงซวง ก็จะเข้าร่วมงานด้วย เธอสามารถใช้เหตุการณ์นี้ในการทำให้ เย่เฉิน และซู หนิงซวง อับอายต่อหน้าคนทั้งตระกูลได้

“ฉันจะขี่ม้าของฉันตัวนี้ แล้วคุณล่ะ?”

ซู อิ่งหลวน ถาม

“แน่นอน ผมจะขี่ม้าเหงื่อโลหิตตัวนี้”

เย่เฉิน ตอบอย่างสงบ

“คุณคงไม่คิดว่าการขี่ม้าเหงื่อโลหิตแล้วจะทำให้คุณชนะได้หรอกนะ?”

“..ช่างไร้เดียงสาเกินไปจริงๆ”

ซู อิ่งหลวน ส่ายศีรษะ

การแข่งขันม้าไม่เหมือนกับการแข่งขันรถ

ในการแข่งรถ ปัจจัยของรถเป็นสิ่งที่สำคัญมาก

ตัวอย่างเช่น หากคุณใช้รถมูลค่าหลักแสนเทียบกับรถซุปเปอร์คาร์ที่มีมูลค่าหลายล้านหยวน

แม้ว่าจะเป็นรถเหมือนกัน แต่สมรรถนะ และการตกแต่งภายในนั้นต่างกันมากจนไม่สามารถเทียบกันได้

แต่ม้านั้นมันต่างออกไป…

แม้ว่าม้าเหงื่อโลหิตจะดีแค่ไหน ก็ยังคงเป็นแค่ ‘ม้า’ ที่มีสายมีเลือดสูงส่งเพียงตัวหนึ่งเท่านั้น

ก็แค่มีสายพันธุ์ที่ดีกว่าเท่านั้น..

แม้ว่าม้าของเธอจะไม่เท่าม้าเหงื่อโลหิต แต่มันก็ยังเป็นม้าพันธุ์ดีที่มีมูลค่าสูงถึงกว่าสิบล้านหยวน

การขี่ม้าเหงื่อโลหิต อย่างมากอาจให้ข้อได้เปรียบเล็กน้อยเท่านั้น

ซู อิ่งหลวน มั่นใจมากว่าถึงแม้ว่า เย่เฉิน จะขี่ม้าเหงื่อโลหิต เขาก็ยังคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอ

และความสามารถของเธอไม่อนุญาตให้เธอ ..ขาดความมั่นใจ

ไม่เพียงแต่เธอเท่านั้น คนอื่นๆ ที่อยู่ที่นั่นก็คิดเหมือนกันกับ ซู อิ่งหลวน

ไม่ว่าม้าเหงื่อโลหิตจะยอดเยี่ยมแค่ไหน แต่มันก็ยังคงเป็นแค่ ‘ม้า’ ตัวหนึ่ง

ยิ่งไปกว่านั้น ม้าของ ซู อิ่งหลวน ก็ไม่ธรรมดา

การพึ่งพาข้อได้เปรียบจากม้าที่ขี่เพื่อเอาชนะ ซู อิ่งหลวน ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

“ขึ้นม้าสิ”

ซู อิ่งหลวน พูดขึ้น

เย่เฉิน พยักหน้า แล้วขึ้นหลังม้าอย่างไม่คล่องแคล่วนัก

นี่เป็นครั้งที่สองที่ เย่เฉิน ขึ้นหลังม้า ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เขาจะไม่คุ้นเคยนัก

เมื่อ ซู อิ่งหลวน และเพื่อนๆ ของเธอเห็นเช่นนี้ พวกเขาต่างพากันหัวเราะเยาะ

ตอนแรกพวกเขาคิดว่า เย่เฉิน อาจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ซ่อนตัวอยู่

แต่ปรากฏว่าพวกเขาคิดมากเกินไป

ไม่มีทางที่ผู้เชี่ยวชาญจะขึ้นม้าได้อย่างงุ่มง่ามเช่นนี้ ดูอย่างไรก็รู้ว่าเขาเป็นมือใหม่ชัดๆ

มือใหม่ที่คิดจะเอาชนะ ซู อิ่งหลวน? ..ฝันกลางวันเหอะ

แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นเลยว่า หลังจากที่ เย่เฉิน ขึ้นหลังม้าไม่กี่วินาที

เขาก็หลับตาลงครู่หนึ่ง แล้วลืมตาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้ เย่เฉิน เผยรอยยิ้มที่แสดงออกถึงความมั่นใจอย่างเต็มที่ขึ้นมา

รางวัลจากภารกิจท้าทายมาถึงแล้ว!