ก้าวข้ามความว่างเปล่า (2)
[แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ100คน ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบไม่มีการแก้คำผิด และยิบย่อยมากมาย ไปนั่นแหละ]
<เรื่องราวของอารอน ตอนที่ 45>
6. ก้าวข้ามความว่างเปล่า (2)
*****
"คุณรู้ได้ยังไงครับ?"
อารอนถาม
ยูเน็ตตอบกลับทันทีว่า
"ตั้งแต่แรกที่ฉันเจอนาย ฉันรู้สึกถึงอะไรที่ไม่เข้ากันหลายอย่างมาโดยตลอด แต่กว่าจะรู้ว่ามันคืออะไร ก็ต้องใช้เวลานานกว่านั้น"
"คุณ...รู้จักชื่ออาจารย์เหรอครับ?"
"พวกเราเองก็ไม่รู้…ทั้งชื่อและหน้าตา พวกเราจำไม่ได้ สิ่งที่เรารู้มีเพียงสิ่งเดียว นั่นคือเขาเคยเป็นเพื่อนของพวกเรา"
เหตุผลที่พวกเขามารวมตัวกันที่นี่มีเพียงข้อเดียว
เพื่อนำเพื่อนที่ตกสู่ห้วงลึกแห่งการหลงลืมกลับคืนมา
"อารอนฉันต้องการความร่วมมือจากนายเพื่อนำเขากลับมา"
"จะให้ผมร่วมมืออะไรครับ? ในเมื่อผมเป็นคนฆ่าเขา ผม ผม..."
"ใช่ แกนั่นแหละที่ฆ่าเจ้านั้น"
เสียงทุ้มของชายคนหนึ่งดังขึ้น
เป็นเสียงของรีเจียน
"ไม่ใช่แค่ฆ่า แต่แกทำลายเขาจนสิ้นซาก"
"..."
"ทุกครั้งที่ฉันเห็นแก ฉันก็รู้สึกถึงอะไรที่มันแปลกๆ มันทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดเวลาอยู่ใกล้แก"
ก็แน่นอนอยู่แล้ว
ตัวปลอมฆ่าตัวจริงและเข้ามาแทนที่
"แล้วแกจะนอนหมอบอยู่ตรงนั้นอีกนานไหม?"
รีเจียนพูดพร้อมกับกัดฟันแน่น
"แกจะนอนหมอบอยู่ตรงนั้นเหมือนขยะ ปฏิเสธตัวเองไม่รู้จบ และทำให้อาจารย์แกต้องอับอายขายขี้หน้าหรือไง?"
"ผม...เพื่อนร่วมทีมของคุณ..."
"แกฆ่าเขา…แล้วมันยังไง? การตายมันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ?"
อารอนหันกลับไปมอง
"นักรบเกิดมาเพื่อตาย สิ่งสำคัญไม่ใช่ความตาย แต่เป็นวิธีการตาย ตายเพื่ออะไร และตายโดยบรรลุเป้าหมายหรือไม่ก็แค่นั้น"
ดวงตาของรีเจียนเปล่งประกายคมกริบ
"มีแต่แกเท่านั้นที่สามารถพิสูจน์เรื่องราวชีวิตของเขาได้ มีแต่แกเท่านั้นที่เป็นพยานและยืนยันมันได้ พวกเรามาที่นี่ก็เพราะหวังเช่นนั้น"
"..."
"ลุกขึ้นซะ"
แกร๊ก
รีเจียนลุกขึ้นจากเก้าอี้
"เจตจำนงของแกที่แม้แต่กาลเวลาอันเป็นนิรันดร์ก็ไม่อาจทำลาย จะให้มันพังทลายลงตรงนี้งั้นเหรอ?"
"ผม..."
"บอกพวกเราสิ ว่าเขาใช้ชีวิตอย่างไรและตายอย่างไร?"
ดวงตาของอารอนพร่ามัว
"ลุกขึ้นเถอะอารอน มันยังไม่จบ"
"ความทรงจำของผมมันจบลงแล้ว ผมไม่มีอะไรจะให้ดูหรือพูดอีกแล้ว"
ความทรงจำเกี่ยวกับเด็กชายจมหายไปในแม่น้ำแห่งการหลงลืม
ความลับทั้งหมดที่ซ่อนไว้ลึกที่สุดก็ถูกเปิดเผย
อารอนไม่มีอะไรจะพูดได้อีก
"ความทรงจำของนายอาจจะจบลงแล้ว แต่ยังมีบางสิ่งหลงเหลืออยู่"
อารอนมองไปที่ยูเน็ต
เธอยื่นมือออกมาหาเขา
"มาเถอะ จับมือฉันไว่สิ"
มือขาวๆเล็กๆยื่นออกมา
อารอนยื่นมือออกไป แต่ก็ไม่กล้าจับมือเธอ
"ลุกขึ้น อารอน"
เซริสพูด
"แสดงความกล้าหาญของอาจารย์ของนายให้พวกเราเห็นหน่อย"
"ความกล้าหาญ..."
"แสดงให้พวกเราเห็นถึงชีวิตที่ผ่านมาของอาจารย์ของนาย ที่แม้เผชิญหน้ากับการหลงลืมก็ยังคงสงบนิ่ง และไม่เคยสูญเสียความสงบแม้ในความสิ้นหวัง"
"ถ้าจบแค่นี้ มันก็ไม่มีความหมายอะไรเลย"
นิฮากุเสริม
"รุ่นพี่คนนั้นไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอกนะ แม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด เขาก็ยังคงก้าวต่อไปข้างหน้าราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น"
คนๆนั้นไม่ยอมแพ้
แม้ในสถานการณ์ที่โหดร้ายที่สุด
บางทีอาจเป็นเพราะเขาไม่มีหัวใจ?
'ไม่ใช่'
อารอนนึกถึงช่วงเวลาสุดท้ายของเด็กชาย
ภาพแผ่นหลังของเขาที่เดินจากไปราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เด็กชายรู้ว่าตัวเองกำลังจะหายไป แต่เขาก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมา ไม่บอกใคร และเดินเข้าสู่ความมืดอย่างเงียบๆ
"..."
ตอนนี้อารอนจำชื่อของเด็กชายไม่ได้แล้ว
อารอนจำใบหน้าและเสียงของเขาไม่ได้
เขารู้เพียงเลือนรางว่า 'เคยมีคนแบบนี้อยู่'
"ผมควรทำยังไงดีครับ? ความทรงจำของผมจบลงแล้ว และตอนนี้ผมก็จำอะไรไม่ได้เลย”
"ไม่ใช่นะอารอน ยังมีร่องรอยของเขาหลงเหลืออยู่"
ที่ไหน?
อารอนมองยูเน็ตด้วยสายตาว่างเปล่า
"นายถือ 'กุญแจ' ดอกนั้นไว้ ดังนั้น ได้โปรดลุกขึ้นเถอะพวกเราต้องการความกล้าหาญของนาย"
มือของเขาสั่น
ยังมีหลงเหลืออยู่งั้นเหรอ
จะทำยังไงดี
ถ้าความจริงที่เลวร้ายยิ่งกว่านี้ถูกเปิดเผยขึ้นมาล่ะ
จิตใจอารอนอาจจะพังทลายลง
ถึงอย่างนั้น อารอนก็ตัดสินใจที่จะจับมือยูเน็ต
เขาพยายามฝืนลุกขึ้นยืน
"ผมพอจะทำอะไรได้บ้างครับ?"
"ลองนึกดูนะ"
ยูเน็ตยิ้มอย่างอ่อนโยน
นึกเหรอ?
ความทรงจำของอารอนมันหายไปแล้ว
"ไม่ใช่ความทรงจำของนาย"
ยูเน็ตส่ายหัว
"ลองนึกถึงความทรงจำของเขาสิ"
"...!"
"มันต้องมีสิ แน่นอนว่าต้องมีอยู่ในใจของนาย แม้ว่าร่างเขาจะหายไปแล้ว แต่ร่องรอยของความฝันที่เขาเคยฝันยังคงอยู่"
"อยู่ในใจของผมเหรอครับ?"
"นายทำได้ เพราะว่า..."
ยูเน็ตพูดราวกับกำลังร้องเพลง
“พลังแห่งกรรม…คือความสามารถในการเปลี่ยนความฝันให้กลายเป็นจริง เปลี่ยนภาพลวงตาให้เป็นความจริง โดยใช้เวลาเป็นเครื่องสังเวย นายน่าจะทำได้ใช่ไหม? ความปรารถนาใดๆ ปาฏิหาริย์ที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ นายทำมันสำเร็จมาแล้ว”
"..."
"มีเพียงนายเท่านั้นที่ทำให้ความปรารถนาของเขาเป็นจริง"
ยูเน็ตจับมือทั้งสองข้างของอารอน
"เอาล่ะ แสดงให้พวกเราเห็นภาพของเขาอีกครั้ง"
"ผม..."
"ไม่เป็นไร….ไม่เป็นไร"
เขารู้สึกถึงไออุ่นจากมือที่จับอยู่
เขาจะทำได้ไหม
อารอนจะสามารถกู้คืนความทรงจำที่หายไปในห้วงลึกแห่งการหลงลืมได้หรือไม่
'อาจารย์'
ดวงตาของอารอนเป็นประกาย
เขาต้องก้าวต่อไป
เหมือนที่อาจารย์ของเขาเคยทำ
อารอนค่อยๆ ปล่อยมือจากยูเน็ตอย่างระมัดระวัง
จากนั้นเขาก็มองตรงไปข้างหน้า
มีเพียงชั้นหนังสือและหนังสือเรียงรายเต็มไปหมด
จากนนั้นภาพที่เห็นเริ่มเปลี่ยนไป
ภาพของห้องสมุดที่เต็มไปด้วยหนังสือและชั้นหนังสือหายไป
เงาเริ่มปรากฏขึ้นทั่วทุกแห่งปกคลุมโลกด้วยสีสันใหม่
อารอนยื่นมือออกไป
ใบไม้ที่ร่วงหล่นลงมาจากอากาศถูกจับไว้
ที่นี่กลายเป็นภาพในอดีตไปแล้ว
ในพริบตา พวกเขาก็ยืนอยู่บนที่ราบกว้างใหญ่ยามพระอาทิตย์ตกดิน
และดูเหมือนว่า
“......”
ที่นั้นมันสะท้อนแผ่นหลังของใครบางคน
แผ่นหลังของเด็กชายมองเห็นได้ผ่านหญ้าสีส้ม
ลมเริ่มพัดเบาๆ
แม้ว่าเดิมทีสถานที่แห่งนี้จะเป็นสถานที่ที่ไม่มีลมก็ตาม
แต่เด็กชายคนนั้นก็ยังคงยืนนิ่ง
"..."
ริมฝีปากของเขาไม่ขยับ มีเพียงเสียงที่ไร้ความหมายดังก้องอยู่ในปากของเขา
อารอนไม่สามารถเอ่ยชื่อของเด็กชายได้
เขาจำไม่ได้ว่าเด็กชายเป็นใคร
เขาใช้ชีวิตอย่างไร และตายอย่างไร
อารอนกัดริมฝีปากตัวเองอย่างแรง
รสชาติคาวของเลือด
ความเจ็บปวดปลุกสติของเขาให้ตื่น
เขาค้นหาความทรงจำของเด็กชายที่จมอยู่ในห้วงลึกแห่งการหลงลืมขึ้นมาทีละนิด
เหมือนกำลังต่อจิ๊กซอว์ที่แตกละเอียด
ในที่สุด อารอนก็สามารถเอ่ยชื่อของเด็กหนุ่มออกมาได้
มูเด็น ไนเดลค์
และในวินาทีนั้น ประตูก็เปิดออก