ตอนที่แล้วบทที่ 460: พวกมันยังมีวากิวเป็นตัวอยู่อีกงันเรอะ! เป็นไปได้ไงกัน!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 462: อิทธิพลที่เพิ่มขึ้น! หุบเขาลึกลับ!

บทที่ 461: สิ่งที่ขายคือวากิวปลอมจริง ๆ! กลับไปไม่ได้แล้ว!


ยานางิยามะยาชิโระไม่เพียงแต่พบว่านี่คือลูกวากิวเท่านั้น  แต่หลังจากเข้าไปตรวจสอบและดูจากประสบการณ์ของตน  เจ้าตัวสามารถระบุได้อย่างง่ายดายว่าลูกวากิวตัวนั้นมีคุณภาพสูงมาก

ตอนนี้ต้องตื่นตระหนกแล้วล่ะ

กลายเป็นว่าฟาร์มชิงหลินมีวากิวอยู่จริง ๆ แล้วพอมองไปในโรงเลี้ยงที่มีลูกวากิวตัวอื่น ๆ ก็เห็นพวกมันสบตากลับมา

จากประสบการณ์อันโชกโชนแล้วไอ้พวกตรงนั้นก็เป็นลูกวากิวด้วยเช่นกัน

บรรดาเจ้าของฟาร์มเองก็เข้าไปตรวจสอบลูกวากิวอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะอุทานกันยกใหญ่

“เป็นวากิวจริง ๆ ด้วย!”

“ฟาร์มชิงหลินโคตรสุดยอด  เพาะพันธุ์วากิวได้แล้วจริง ๆ”

“แถมเจ้าพวกนี้ยังสภาพโคตรดีอีก!”

“...”

สีหน้าของพวกที่ยานางิยามะยาชิโระพามาล้วนแต่แสดงออกว่าประหลาดใจ

เพราะที่อุตส่าห์แก่กันมาก็เพื่อจะมาเปิดโปงความปลอมของฟาร์มชิงหลิน  แต่ตอนนี้กลับเกิดเรื่องที่ไม่ใช่ขึ้นมาซะงั้น

หลังจากที่ยืนยันว่าฟาร์มฟาร์มชิงหลินมีวากิวแล้วบรรดาเถ้าแก่ฟาร์มวัวต่างก็ต้องทึ่ง

เจ้าของฟาร์มคนหนึ่งพูดว่า “อาจารย์ทั้งสาม  ไม่ทราบว่าตอนนี้วากิวพ่อพันธุ์อยู่ไหนเหรอครับ”

“นั่นสิ ๆ คุณให้พวกเราดูได้ใช่มั้ย” เจ้าของฟาร์มอีกคนก็ถามต่อ

“ไม่ต้องห่วงครับ  หากอยากเห็นแล้วล่ะก็เดี๋ยวเราจะไปพาตัวพ่อพันธุ์ทั้งคู่มาให้เดี๋ยวนี้แหละครับ” วากิวบรีดเดอร์ทั้งสามได้ต้อนลูกวากิวกลับเข้าคอกไป

จากนั้นก็พากันไปต้อนเอาพ่อพันธุ์วากิวขนเหลือง 2 ตัวมาจากอีกด้านหนึ่ง

บรรดาเถ้าแก่ฟาร์มวัวต่างก็หันคอไปดูทันทีที่พวกมันปรากฏตัว

อย่างที่รู้ว่าทุกคนที่นี่ต่างก็เลี้ยงวัว  ซึ่งทั้งหมดบอกได้เลยว่าวัวคู่นี้คือดีมาก ๆ ซึ่งไม่ต้องรอให้พวกมันเดินมาหา  พวกเถ้าแก่ฟาร์มวัวต่างเดินเข้าไปหามันเองโดยไม่รู้ตัว

ทางด้านยานางิยามะยาชิโระเมื่อเห็นวัวทั้งสองตัวเดินออกมาหัวใจก็หล่นลงตาตุ่ม

เพราะสามารถบอกได้ทันทีที่เห็นเลยว่าพวกมันทั้งคู่เป็นวากิวพ่อพันธุ์คุณภาพสูงแน่นอน

นี่คือฝีมือที่เจ้าตัวมี

ไม่งั้นก็คงไม่ได้เป็นนายกสมาคมวากิว

แล้วไหนไอ้ฟาร์มยามากิมันบอกว่าขายวัวปลอมให้บ้านไร่ชิงหลินล่ะวะ!

แล้วทำไมมันถึงกลายเป็นวัวจริงได้!

หลังจากได้ตรวจสอบดูพ่อพันธุ์วากิวทั้งคู่แล้วบรรดาเจ้าของฟาร์มวัวทั้งหลายก็พูดกันอื้ออึง

“อย่างสวย  พ่อพันธุ์วากิวคู่นี้นี่สวยสุด ๆ ไปเลย!”

“ผมเคยไปดูงานที่ฟุโซมาก่อน  บอกได้เลยว่าในบรรดาวากิวบรีดเดอร์ของที่นั่นมีคนที่ทำได้ระดับนี้น้อยมาก”

“ก็สมกับเป็นสมบัติชาติของฟุโซนั่นล่ะนะ”

“ไอ้พวกสมาคมฟุโซวากิวเอาไอ้นี่มาเล่นแล้วเป็นไงล่ะ  ไม่ได้รู้เรื่องเลยว่าฟาร์มชิงหลินมีวากิวระดับนี้อยู่ด้วย”

“...”

‘สัดเอ๊ย...’ ยานางิยามะยาชิโระสบถในใจด้วยความโมโห

ปรากฎว่าไอ้ฟาร์มยามากิเป็นคนทรยศ

ไม่แค่นั้น  มันยังขายชาติอีกด้วย

กล้าเอาพ่อพันธุ์วากิวระดับนี้มาที่ประเทศนี้ไม่พอ  ยังขายให้กับไอ้ฟาร์มเชี่ยนี่จนพวกมันเอามาทำให้วากิวของตัวเองต้องอับอายอีก!

กลับมาที่ตอนนี้

เจ้าของฟาร์มต่างถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นสุดขีด

“อาจารย์  ฟาร์ชิงหลินของพวกคุณเต็มใจให้เราผสมมันจริงๆ  เหรอ”

“นั่นสิ  นี่มันวากิวระดับพรีเมียมเลยนะ!”

“...”

แม้ว่าเจ้าของฟาร์มเหล่านี้จะมาที่นี่เพื่อเรื่องนี้เท่านั้นอยู่แล้วก็ตาม  แต่เมื่อได้เห็นวากิวของฟาร์มชิงหลินแล้วก็ชักไม่แน่ใจแล้วว่าจะได้จริงรึเปล่าจึงต้องถามเพื่อเช็กให้ชัวร์ก่อน

วากิวบรีดเดอร์คนหนึ่งหัวเราะ “จะมาสงสัยอะไรอีก  ที่ผ่านมาพวกเราเคยโกหกด้วยเหรอ  ฟาร์มชิงหลินเราได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว  เพราะงั้นเราย่อมอนุญาตให้ทุกคนมาผสมพันธุ์ได้แน่นอนอยู่แล้วสิ”

อีกคนก็พูดเสริม “ก็ตามนั้นแหละ  มันก็แค่วากิวไม่ใช่รึไง  เถ้าแก่ของเราบอกว่าถึงชาวฟุโซจะถือว่าเจ้าพวกนี้เป็นสมบัติชาติก็เถอะ  แต่กับประเทศเราแล้วก็ไม่เห็นมันจะมีอะไร  ทุกคนสามารถมาซื้อสเปิร์มของพวกมันได้ในราคาสองร้อยหยวน”

“ซึ่งเถ้าแก่ของเรามีคำขอเพียงข้อเดียวเท่านั้น  คือต้องขยายพันธุ์เจ้าพวกนี้ไปให้ทั่วแผ่นดิน  เปลี่ยนสบัติชาติของพวกฟุโซให้กลายเป็นอาหารธรรมบนโต๊ะกินข้าวของประชาชนบ้านเรา!”

เป็นคำตอบที่ทำให้บรรดาเจ้าของฟาร์มต้องหัวเราะออกมาอย่างสะใจ  ขณะเดียวกันในใจก็แอบชื่นชมเจ้าของฟาร์มชิงหลินจากใจจริง  มีแค่อีกฝ่ายเท่านั้นที่สามารถทำอะไรอย่างนี้ได้

ถ้าเป็นคนอื่นล่ะก็วากิวถือว่าเป็นสมบัติที่ยังประโยชน์ให้ตนเองได้อย่างมหาศาล  และจะไม่มีใครหน้าไหนเอามันออกมาแบบเสียเปล่าแบบนี้แน่..

พวกที่ยานางิยามะยาชิโระพามานั้นต่างจ้องมองไปที่เจ้าตัวกันหมดด้วยแววตาตั้งคำถาม

เห็นได้ชัดว่ากับภาพตรงหน้านี้คือไม่สามารถทำตามแผนการที่วางไว้ได้เลย

“กลับ!” ยานางิยามะยาชิโระพูดกับคนเหล่านั้นด้วยสีหน้าซีดเซียวแล้วรีบจากไป

ฉากนี้ดึงดูดความสนใจของคนอื่น ๆ ชวนให้สงสัยว่าทำไมคนพวกนี้ถึงรีบกลับเร็วนัก

ยังไม่ทันได้พูดคุยเรื่องการขยายพันธุ์วัวกันเลย

ทว่าแน่นอนว่าตอนนี้ ความโกรธของยานางิยามะยาชิโระนั้นเกินกว่าจะควบคุมไหวไปแล้ว

และไม่มีทางยอมปล่อยให้ฟาร์มชิงหลินขายสเปิร์มจากพ่อพันธุ์วากิวระดับพรีเมียมนั่นในราคาแค่ 200 หยวนแน่นอน

พวกมันกำลังดูหมิ่นวากิวของตนอยู่แถมยังอยากทำให้วากิวกลายเป็นของไร้ค่าไร้ราคา  ดังนั้นเรื่องนี้มันต้องประท้วง  และต้องให้ทางการทูตประท้วงด้วย

ไอ้ฟาร์มยามากิที่มันกล้าทำเรื่องแบบนี้เองก็ด้วย  ไม่มีวันปล่อยให้มันลอยนวล

หลังจากออกจากฟาร์มชิงหลินแล้วยานางิยามะยาชิโระก็รีบนั่งรถกลับไปที่มณฑลฝูเจี้ยน  ขณะเดียวกันก็โทรหากระทรวงการต่างประเทศโดยเร็วที่สุด

...............................................................................................

แน่นอนว่าผู้คนจำนวนมากในเมืองหลวงต่างให้ความสนใจกับการกระทำของพวกสมาคมฟูโซวากิว

ทุกคนต่างเข้าใจว่าชาวฟุโซพวกนี้มีไว้เพื่อร่วมมือกับเป้าหมายของประเทศฟุโซก่อนหน้านี้ที่บอกว่าจะโจมตีฐานทัพหลักตามแนวชายฝั่ง  ดังนั้จุดประสงค์ของพวกมันล้วนชัดเจนในตัวมันเอง

แน่นอนว่าคนที่จับตาเรื่องนี้อีกหนึ่งก็คือรัฐมนตรีหลู่  เมื่อเห็นสิ่งที่บ้านไร่ชิงหลินทำกับวัวของประเทศฟุโซแล้วก็บอกได้แค่ว่าทำได้ดีมาก

ถามตรง ๆ เถอะ  ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่สมาคมเนื้อวัวสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องระหว่างประเทศกันฟะ

นี่เป็นตัวอย่างทั่วไปของการไม่รู้จักสถานะของตน  ดังนั้นจึงถูกเถ้าแก่ฉินปราบปรามลงได้โดยเจ้าตัวไม่สามารถก่อคลื่นลมอะไรได้เลย

สมบัติชาติเหรอ  อีกเดี๋ยวมันก็กลายเป็นอดีตละ

ขณะที่รัฐมนตรีหลู่กำลังคิดอยู่นั้นเองจู่ ๆ ก็มีสายเข้า  ซึ่งคนโทรมาคือท่านผู้นำของตน “ครับท่าน  มีอะไรจะสั่งรึเปล่าครับ”

เสียงของผู้นำดังขึ้น “ทางฟุโซกำลังประท้วงต่อต้านการเผยแพร่น้ำเชื้อวากิวอย่างไร้มารยาทของฟาร์มชิงหลินที่ขายในราคาสองร้อยหยวน  บอกว่าเรากำลังดูหมิ่นสมบัติชาติของพวกมันน่ะสิ”

รัฐมนตรีหลู่ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี  “ถามจริง ๆ นะครับท่าน  สมองไอ้พวกนั้นมันยังดีอยู่มั้ย  พวกมันมาหาเรื่องก่อนแท้ ๆ แต่ยังกล้ามาประท้วงอีก”

ผู้นำยิ้ม “เพราะงั้นเบื้องบนจึงตัดสินใจอนุมัติเงินจำนวนหนึ่ง  คุณไปเขียนใบคำร้องเพื่อเปิดโครงการการวิจัยวากิวโดยเฉพาะเพื่อช่วยส่งเสริมการขยายพันธุ์วากิวซะนะ  เราจะพยายามให้ทุกครัวเรือนได้กินเนื้อวากิวให้เร็วที่สุด  และแน่นอนว่าต้องราคาถูก”

“ครับท่าน!” รัฐมนตรีหลู่หัวเราะกับคำสั่งนี้

นี่แหละวิถีที่มันควรจะเป็น

ถ้าหากสมาคมวากิวเล็ก ๆ จากฟุโซกล้ามาหาเรื่องกันโดยไม่รู้จักเจียมตัวล่ะก็  วงการของพวกมันทั้งวงการก็ควรจะถูกทำลายทิ้งไปซะ  สมบัติชาติของพวกมันเองก็ควรถึงคราวไร้ค่าได้แล้ว

รัฐมนตรีหลู่ลงมือเขียนใบคำร้องโดยไม่เสียเวลารอช้า  และยังได้ประกาศออกไปอีกว่าสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติจะจัดตั้งกลุ่มวิจัยวากิวและจัดตั้งกองทุนวิจัยพิเศษเพื่อช่วยส่งเสริมการเลี้ยงวากิว

ประกาศนี้แทบจะออกมาพร้อม ๆ กันกับข่าวการประท้วงของพวกชาวฟุโซ

การประท้วงของสมาคมฟุโซวากิวแน่นอนว่าต้องทำให้ทุกคนตื่นเต้น

เพราะว่าไม่ต้องสงสัยเลยว่าฟาร์มฟาร์มชิงหลินได้เพาะเลี้ยงวากิวได้สำเร็จแล้วจริง ๆ ทำให้พวกฟุโซทำอะไรไม่ได้แล้ว  ไม่งั้นพวกมันจะออกมาประท้วงเพื่อ?

และแน่นอนว่าทุกคนต่างก็โล่งใจด้วย

เป็นไงล่ะ  จริงจังกับเนื้อวากิวนักใช่มั้ย  กร่างนักใช่มั้ย  แล้วทำไมมาประท้วงแล้วล่ะหืม?

การจะจัดการพวกต่างชาติเหล่านี้ล้วนขึ้นอยู่กับบริษัทชิงหลินจริง ๆ

และทุกคนยิ่งโล่งใจมากขึ้นจากประกาศของทางสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติที่จะส่งเสริมการเลี้ยงวากิว

หรือก็คือทางเบื้องบนไม่ได้สนใจพวกชาวฟุโซเลย  ถึงขนาดดูหมิ่นเลยด้วยซ้ำ

เจอสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติช่วยส่งเสริมวากิวแบบนี้พวกฟุโซมันจะรอดไปได้ด้วยเหรอ  ป่านนี้คงหาที่นั่งร้องให้แล้วมั้ง

และก็จริง ๆ คือยานางิยามะยาชิโระกับเดอะแก๊งที่เห็นประกาศแล้วก็แทบร้องให้เลย

เพราะไม่คิดมาก่อนเลยว่าแค่การแบนจะทำให้เรื่องราวมันบานปลายใหญ่โตมาจนถึงจุดนี้ได้

ไม่มีใครในที่นี้คิดมาก่อนเลยว่าการมอบหมายให้ทางคณะทูตประท้วงให้แล้วแท้ ๆ แต่อีกฝ่ายไม่เพียงแค่เพิกเฉยเท่านั้น  แต่ยังจะส่งเสริมให้มีการขยายพันธุ์วากิวอีกต่างหาก

นี่เป็นการเหยียบย่ำสมบัติชาติอย่างหนักหน่วงยิ่งนัก

จู่ ๆ ยานางิยามะยาชิโระก็รู้สึกเสียใจและเข้าใจแล้วว่าแผนสมคบคิดของตนนั้นโง่เขลาแค่ไหน

แล้วจู่ ๆ ก็มีชายคนหนึ่งก็รีบวิ่งเข้ามารายงาน “คุณยานางิยามะ  ผมไปตรวจสอบตามที่บอกแล้วครับ  ฟาร์มของไอ้ยามากิมีเงินโอนเข้าบัญชีห้าล้าน  ที่มาของเงินก็ยากในการตรวจสอบด้วย  มันโอนลอยเข้าบัญชีมาน่ะครับ”

แบบนี้ก็ชัดเลย  ไอ้ยามากิมันขายพ่อพันธุ์วากิว 2 ตัวในราคา 5 ล้านแก่ฟาร์มชิงหลินทำให้ฟาร์มชิงหลินสามารถเพาะพันธุ์วากิวได้

“ไม่...  จะปล่อยมันไว้ไม่ได้แล้ว  ไอ้คนทรยศขายชาตินั่นมันขายสมบัติชาติของเราในคาราแค่ห้าล้าน!” ยานางิยามะยาชิโระโกรธจนไม่รู้จะพูดอะไรดี

ต้นตอของเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพราะไอ้ยามากิที่ละโมบโลภมากนั่น

เพราะงั้นยกโทษให้มันไม่ได้อย่างแน่นอน

...............................................................................................

ที่ฟาร์มยามากิ  ยามากิกำลังดูสถิติการขายลูกวากิวปลอมในช่วงนี้อยู่เนื่องจากมันเกี่ยวข้องกับเงินที่สามารถทำได้

และในใจก็อยากรู้ว่าทางสามาคมวากิวจะจัดการเรื่องต่าง ๆ ยังไง

เพราะตัวเองได้แจ้งไปทางสมาคมแล้วว่าตัวเองเป็นคนขายวากิวปลอมให้กับฟาร์มชิงหลินเอง  ซึ่งทางสมาคมก็ควรที่จะเปิดเผยเรื่องนี้แล้ว  ไอ้พวกฟาร์มชิงหลินมันคงคิดไม่ถึงมาก่อนเลยล่ะสิท่า

ขณะที่ยามากิกำลังฝันหวานอยู่นั้นฉู่คุงก็รีบพรวดพราดเข้ามา “ยามากิคุง  วากิวที่เราขายที่เขตเมืองหมิงกลายเป็นของจริงได้ไงกัน”

ยามากิส่ายหน้า “คิดไรของนายอยู่น่ะฉู่คุง  วากิวพวกนั้นมันของปลอมล้วน ๆ นายก็รู้ดีหนิ  แล้วมันจะไปเป็นของจริงได้ไงกันเล่า”

แต่ฉู่คุงก็ยังเถียงว่า “มันก็ไม่น่าจะใช่นั่นแหละ  แต่มันมีข่าวออกมาแล้วว่าวากิวที่ฟาร์มชิงหลินเป็นของจริงหมดเลย  รวมถึงพ่อพันธุ์ทั้งสองตัวนั่นด้วย  หน้าตาของพวกมันแทบจะเหมือนกับสองในสิบตัวที่เราเคยขายไปด้วยนะ  ตอนนี้ทางคณะทูตฟุโซกำลังประท้วงกันอยู่  แต่ทางสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติได้ประกาศว่าจะจัดตั้งกองทุนพิเศษเพื่อช่วยในการเพาะพันธุ์วากิวพวกนั้น”

“อะไรนะ!” สีหน้าของยามากิเปลี่ยนไปทันทีเลย

เพราะเรื่องที่ได้ยินมีอยู่ 2 เรื่อง

1. ฟาร์มชิงหลินมีวากิวของจริง

2. ทางฟุโซออกมาประท้วงแล้วแต่ถูกเพิกเฉย โดยสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติของประเทศนี้ได้ประกาศสนับสนุนการเพาะเลี้ยง

แล้ววากิวของฟุโซจะไม่ตายห่ากันหมดทั้งวงการเลยเหรอวะเนี่ย!

“ไม่สิ  นายบอกว่าเป็นวากิวที่เราขายเหรอ  มันจะเป็นไปได้ไงก่อน!” ทันใดนั้นยามากิก็ตระหนักถึงความหนักหนาของเรื่องนี้

ตลกแล้ว

เพราะวัวที่ขายไปนั้นเป็นของปลอมล้วน ๆ แล้วมันจะไปกลายร่างเป็นของจริงที่เขตเมืองหมิงได้ยังไงกัน

“อืม  ข่าวออกมาแล้ว” ฉู่คุงรีบหาข่าวแล้วยื่นให้ยามากิ

เมื่อยามากิดูข่าวสีหน้าก็ซีดขาวไร้สีเลือด

นี่...  คนอื่น ๆ คงไม่เข้าใจผิดว่ากูขายวากิวจริงให้ฟาร์มชิงหลินหรอกนะ

กูไม่ได้ทำ  ให้กูไปสาบานที่ไหนก็ได้ว่าที่ขายไปทั้งหมดเป็นวากิวปลอม  ไม่มีของจริงปนอยู่เลย

และในขณะนี้เองมือถือของยามากิก็มีสายเข้า  เบอร์ดังกล่าวเป็นเบอร์ที่โทรทางไกลมาจากต่างประเทศซึ่งต้นทางคือประเทศบ้านเกิด

เจ้าตัวก็รีบรับและขณะที่กำลังจะพูดก็ได้ยินเสียงเป็นกังวลของพ่อผู้ชราภาพดังขึ้นขัดจังหวะซะก่อน “ยามากิ  ทำไมแกถึงได้ขายวากิวให้คนประเทศนั้นได้วะ  ตอนนี้ทางนี้จะจับตัวนายข้อหาขายวัวแล้วนะเพราะงั้นอย่ากลับมาเด็ดขาด...  หนีไปให้ไกล...  โอ๊ย...”

มีเสียงทะเลาะกันดังมาจากปลายสายจากนั้นสายก็ตัดไป

“ขาย...  คนทรยศเหรอ  ไม่...  ไม่  กูขายวากิวปลอมจริง ๆ!” ยามากิตกตะลึงและตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้แล้ว

ถ้าประเทศคิดว่าตนขายวากิวจริงไปจริง ๆ ล่ะก็  แปลว่าทั้งชีวิตนี้คือกลับบ้านเกิดไม่ได้อีกแล้ว

ฉู่คุงเมื่อเห็นคู่หูของตนเป็นแบบนี้ก็เลยถามอย่างงุนงง “เป็นไรไปเหรอยามากิคุง”

ยามากิมองดูฉู่คุงราวกับว่าพึ่งเจอกับพระผู้ช่วยให้รอด “ฉู่คุง  นายเคยบอกว่ามีน้องสาวอยู่ไม่ใช่เหรอ  ช่วยแนะนำให้หน่อยสิ  พอดีฉันอยากเป็นน้องเขยนายเพราะงั้นขอฉันแต่งกะน้องสาวนายเถอะ  นั่นสินะแซ่นายคือฉู่  จะเรียกฉันฉู่มู่หรือฉู่ซานก็ได้หมดเลย” (山木 = ยามากิ, 楚 = ฉู่, 楚木 = ฉู่มู่, 楚山 = ฉู่ซาน)

“...?” ฉู่คุง

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด