ตอนที่ 8 แต่งตัวหน้ากระจกทองเหลือง
คำพูดของเสี่ยวรุ่ยทำให้ผู้คนรู้สึกงุนงงเล็กน้อย
ทุกๆ เช้าที่เสี่ยวรุ่ยตื่นขึ้นมา เพื่อนร่วมชั้นของเธอจะมีหน้าตาไม่เหมือนเดิม?
"คุณเป็นคนเดียวที่คิดว่าพวกเธอเปลี่ยนไปงั้นเหรอ"
เจียงเย่ถามขึ้นอย่างแผ่วเบา เสียงของเสี่ยวรุ่ยเบามากตลอดเวลา ดูเหมือนว่าเธอกำลังขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ตอนนี้น่าจะอยู่ในหอพัก
"ใช่ค่ะ ฉันเคยเล่าให้คนอื่นฟังแล้ว แต่ไม่มีใครเชื่อฉันเลย บางคนยังบอกว่าฉันอิจฉา คิดว่าพวกเธอสวยขึ้นแล้วฉันรู้สึกไม่พอใจ!"
เจียงเย่พยักหน้าเล็กน้อย "ทุกอย่างย่อมมีที่มาที่ไป งั้นเสี่ยวรุ่ยเล่ามาตั้งแต่ต้นเลยก็ได้"
"ค่ะ"
"เรื่องมันเริ่มต้นขึ้นในช่วงวันหยุดแรงงาน ฉันเป็นนักเรียนต่างถิ่น บ้านอยู่ห่างจากวิทยาลัยศิลปะหลูหยางเจ็ดแปดร้อยกิโลเมตร ดังนั้นนอกจากปิดเทอมฤดูหนาวและฤดูร้อนแล้ว ฉันก็แทบจะไม่ได้กลับบ้านเลย แต่นักเรียนในหลูหยางส่วนใหญ่เป็นคนในเมือง เพื่อนร่วมห้องของฉัน ชิงชิง เสี่ยวหลิง และอาหยูล้วนเป็นคนหลูหยาง
"หลังวันหยุดแรงงาน นักเรียนทุกคนก็ทยอยกลับมาเรียน อาหยูเป็นคนแรกที่กลับมา วันนั้นที่เธอกลับมา เธอดูมีความสุขมาก แล้วก็ขนของกินพื้นเมืองกลับมาเพียบเลย ฉันเป็นนักกินตัวยง ชอบกินเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะเบคอนรมควันที่แม่อาหยูทำให้ มันอร่อยมาก"
"แต่ตอนที่กำลังกินกันอย่างเอร็ดอร่อย อยู่ๆ อาหยูก็ถามฉันว่าเสี่ยวรุ่ย เธอคิดว่าฉันน่าเกลียดหรือเปล่า?พอเธอถามแบบนี้ ฉันก็ทำตัวไม่ถูกเลย ในห้องมีผู้หญิงอยู่ด้วยกันสี่คน อาหยูอ้วนๆ หน่อยแล้วก็มีรอยสิวเต็มหน้า เรียกว่าไม่สวยเลยก็ได้ แต่ฉันเองก็ไม่ได้ดูดีกว่าเธอตรงไหน เพราะฉันตะกละ รูปร่างเลยพอๆ กับอาหยู แต่ฉันไม่มีสิวหรือรอยอะไรบนหน้า ตอนนั้นฉันก็เลยบอกเธอไปว่าไม่นะ อาหยูของเราน่ะสวยที่สุดแล้ว"
"อาหยูรู้ว่าฉันปลอบใจเธอ เธอก็เลยยิ้มๆ แล้วก็เงียบไป แต่เงียบได้ไม่กี่นาที เธอก็บอกกับฉันว่าตอนที่เธอกลับบ้านไปครั้งนี้ เธอแอบเข้าไปในศาลบรรพบุรุษในหมู่บ้านมา อ้อ.. ว่าไปแล้ว ฉันต้องเล่าเรื่องหมู่บ้านของอาหยูก่อน หมู่บ้านของเธอเคยโด่งดังไปทั่วประเทศ เป็นหมู่บ้านค้ายาเสพติดชื่อดัง!"
"คนในหมู่บ้านนั้นยึดถือเรื่องตระกูล เรื่องเชื้อสายมาก และมีเป็นพันครัวเรือน มีคนอยู่เป็นหมื่นถึงสองหมื่น หัวหน้าตระกูลก็เป็นเลขาธิการพรรคของหมู่บ้าน แล้วก็เป็นหัวหน้าแก๊งค้ายาเสพติดด้วย ไม่ต้องเดาให้ยาก ฉันบอกตรงนี้เลยว่า มันคือหมู่บ้านที่พวกคุณคิดนั่นแหละ หมู่บ้านของอาหยูค่อนข้างยึดติดกับขนบธรรมเนียม โดยปกติแล้วผู้หญิงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในศาลบรรพบุรุษ กฎในหมู่บ้านล้วนถูกกำหนดโดยหัวหน้าตระกูลและรองหัวหน้าตระกูล"
"ในคืนวันที่สองของวันหยุดแรงงาน อาหยูก็แอบเข้าไปในศาลบรรพบุรุษ แต่ก่อนเธอไม่เคยกล้าขนาดนี้หรอก แต่ตอนกินข้าวเย็น พ่อแม่อาหยูเผลอพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้อาหยูสนใจ พ่อแม่ของเธอบอกว่าในหมู่บ้านมีครอบครัวหนึ่ง ลูกสะใภ้ไม่ท้องมาหลายปี หลังจากนั้นก็ไปขอให้หัวหน้าตระกูลไปทำพิธีที่ศาลบรรพบุรุษ ปรากฏว่าลูกสะใภ้บ้านนั้นท้องขึ้นมาจริงๆ!"
"ตอนนั้นอาหยูดีใจมาก เพราะพวกเรารู้ดีว่าเธอเป็นคนขาดความมั่นใจมาตลอด ตั้งแต่เด็กๆ เธอไม่มั่นใจในรูปร่างหน้าตาของตัวเอง เคยแอบชอบผู้ชาย แต่ก็ไม่กล้าจีบเพราะไม่มั่นใจในตัวเอง ไม่เคยกล้าใส่เสื้อผ้าสวยๆ ชอบแต่งตัวมิดชิด พอได้ยินเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์ของศาลบรรพบุรุษจากปากพ่อแม่ เธอก็เลยแอบเข้าไป"
"แต่อาหยูไม่ได้เล่าให้พวกเราฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอในศาลบรรพบุรุษ แล้วพวกเราก็ไม่รู้ว่าเธอเข้าไปได้ยังไง ปกติแล้วหมู่บ้านที่มีขนบธรรมเนียมเคร่งครัดแบบนั้น ศาลบรรพบุรุษต้องมีคนเฝ้าอยู่แล้ว แต่อาหยูก็เข้าไปจนได้ คืนนั้นพอเธอกลับมาถึงหอพัก เธอก็เรียกฉัน ชิงชิง กับเสี่ยวหลิงมารวมตัวกัน"
"ฉันจำได้แม่นเลย ตอนนั้นพวกเรานอนกันหมดแล้ว เธอยืนถือเทียนกับธูปสามดอกในมือทั้งสองข้างอยู่ข้างๆ เตียง พูดซ้ำไปซ้ำมาด้วยเสียงเบาๆ เรียกพวกเราให้ตื่น พอพวกเราตื่นขึ้นมาก็ตกใจกันหมด แต่ก็ไม่ได้โกรธอะไรเธอ แค่ถามเธอว่ากลางดึกดื่น ไม่นอน มาทำอะไรน่ากลัวแบบนี้"
"อาหยูไม่พูดอะไร วิ่งไปหยิบกระจกมา แล้วก็ส่องหน้าตัวเอง ถามพวกเราว่าเธอสวยขึ้นหรือเปล่า"
พูดมาถึงตรงนี้ เสียงของเสี่ยวรุ่ยก็เงียบหายไปกะทันหัน
เจียงเย่อดไม่ได้ที่จะถามว่า "เกิดอะไรขึ้น เสี่ยวรุ่ย"
"เปล่า.. ไม่มีอะไรค่ะ แค่.. นึกขึ้นได้ว่าตอนเช้า ฉันเอากระจกมาไว้ใต้หมอน ขอฉันเอาไปเก็บก่อนนะคะ"
ว่าแล้วก็ได้ยินเสียงลุกจากเตียงเหล็กดังเอี๊ยดอ๊าด แต่ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงของเสี่ยวรุ่ยดังขึ้น
"ผู้ดำเนินรายการ ยังอยู่มั้ยคะ"
"อยู่ครับ เสี่ยวรุ่ย เล่าต่อเลย"
"ค่ะ ตอนนั้น แสงเทียนส่องกระทบกระจก พวกเรามองเห็นอาหยูในกระจก เธอดูสวยขึ้นจริงๆ แต่ตอนนั้น พวกเราคิดว่าเธอแต่งหน้าเลยพูดไม่ออก ได้แต่ถามว่าดึกป่านนี้แล้วแต่งหน้าทำไม?แล้วปากก็ทาแดงแจ๋เลย!"
"อาหยูไม่สนใจคำพูดของพวกเรา เอาแต่ถามว่าเธอสวยขึ้นหรือเปล่า พวกเรามองเธอดีๆ แล้วก็พบว่าถึงแม้ว่าเธอจะแต่งหน้า แต่อาหยูก็สวยขึ้นจริงๆ โดยเฉพาะตอนที่อาหยูล้างเครื่องสำอางออก แล้วยืนอยู่ตรงหน้าพวกเรา พวกเราทุกคนก็พบว่ารอยสิวบนใบหน้าของเธอดูจางลง"
"ผู้หญิง ไม่ว่าจะเด็กหรือแก่ ต่างก็ไม่มีใครต้านทานความงามได้ พอเห็นอาหยูหน้าเรียวขึ้น รอยสิวก็จางลง สาวๆ ในห้องก็เลยรุมถามเธอใหญ่ว่าทำยังไงมา? อาหยูเอานิ้วแตะริมฝีปาก มุมปากยกยิ้มอย่างแปลกๆ แล้วพูดว่า พวกเธอ.. มองที่กระจกของฉันสิ"
"กระจกที่อาหยูถือไม่ใช่กระจกที่เธอใช้ประจำ แต่เป็นกระจกทองเหลือง แต่มันก็เป็นกระจกธรรมดาๆ ด้านหลังมีลวดลายสลักอยู่ ขนาดเท่าใบหน้าคน เธอนำกระจกไปวางไว้บนโต๊ะแล้วถามพวกเราว่าอยากสวยแบบเธอไหม?"
"เธอแค่ถามแบบนั้น จากนั้นก็เดินไปนั่งข้างๆ กระจก แล้วก็หวีผมหันหลังให้พวกเรา ผมของเธอยาวมาก ดำขลับ เธอใช้หวีธรรมดาๆ หวีผมตรง เอาจริงๆตอนนั้นท่าทางของเธอดูน่ากลัวมาก ผู้หญิงน่ะขี้กลัวอยู่แล้ว กลางดึกกลางคืน จุดเทียนส่องกระจกทองเหลืองแบบนั้น มันดูแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้ โดยเฉพาะชิงชิงที่ขี้กลัวที่สุด เธอลุกไปเปิดไฟ แล้วบอกอาหยูว่าอย่ามาทำอะไรแปลกๆ ดึกแล้ว คนอื่นเขาจะนอน"
"ฉันจำได้ว่าตอนนั้น อาหยูมองชิงชิงแปลกๆ เหมือนกำลังมองคนโง่ยังไงอย่างงั้น แต่พวกเราก็ไม่อยากมีเรื่อง แล้วอาหยูกับชิงชิงก็ไม่ได้ทะเลาะกัน คืนนั้น พวกเราเลยไม่ได้สนใจอาหยูอีก ต่างคนต่างเข้านอน"
ตอนที่เสี่ยวรุ่ยพูดจบก็มีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดดังมาจากห้องถ่ายทอดสดอีกครั้ง บังเอิญมีคนถามขึ้นมาพอดีว่า "เสี่ยวรุ่ย เธอทำอะไรของเธอ ดึกดื่นแล้วยังมานอนพึมพำอะไรอีก จะนอนมั้ย?"
เพื่อนร่วมห้องของเสี่ยวรุ่ยตื่นแล้ว!