ตอนที่แล้วตอนที่ 15 คดีคุณยาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 17 การตายที่ไม่น่าเกิด

ตอนที่ 16 โลงศพบนภูเขา


เสียงโทรศัพท์ดังขัดจังหวะการสนทนา

ผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดก็ตื่นเต้นกันมาก  ตะโกนว่า  "น่าจะเป็นคนที่โทรมาเมื่อเช้า"

เจียงเย่รับสาย  แล้วถามว่า "สวัสดีครับ  ไม่ทราบว่าใช่คุณผู้ชายที่โทรมาหาผมเมื่อเช้าหรือเปล่าครับ"

"ใช่ ผมเอง"

เสียงจากปลายสายดังขึ้น  เจียงเย่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก  "แล้วทำไมเมื่อเช้าถึงวางสายไปล่ะครับ"

"อ้อ ตอนที่โทรหาคุณ สัญญาณไม่ค่อยดี แล้วแบตโทรศัพท์ก็ดันหมดพอดี เลยดูถ่ายทอดสดของคุณไม่ได้"

เหตุผลดูไม่คาดคิด  แต่ก็สมเหตุสมผล

เจียงเย่ยิ้ม"ในเมื่อคุณไม่เป็นไร พวกเราก็เบาใจ เมื่อเช้า ตอนโทรมา  คุณดูร้อนรนมาก เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้พวกเราฟังหน่อยสิครับ"

"ได้ ผมขอเล่าไปเรื่อยๆนะครับ ผมแซ่หวง เป็นชาวบ้านธรรมดาๆคนหนึ่ง อยู่ที่เมืองซุ่นอัน ผมเช่าบ่อปลาที่อ่างเก็บน้ำจุนซาน  มีอาชีพเลี้ยงปลาครับ"

"ฟังสำเนียงแล้ว น่าจะคนกุ้ยโจว แต่ตอนนี้ คุณไม่ได้อยู่บ้านเหรอครับ?"

เจียงเย่ถาม  เหล่าหวงตอบว่า "ไม่อยู่ครับ ตอนนี้ ผมกำลังจะเดินไปที่บ่อปลา"

"ครับ คุณหวง พอถึงบ่อปลา ค่อยคุยกัน ระหว่างทาง ระวังตัวด้วยนะครับ"

เจียงเย่คิดว่ากลางคืนคงเดินทางลำบาก  จึงเตรียมที่จะพักการสนทนากับเหล่าหวงไว้ก่อน

แต่พอเขาพูดจบ  เหล่าหวงก็รีบพูดขึ้นทันที  "ไม่ได้ครับ ผู้ดำเนินรายการ เราคุยกันไปเรื่อยๆ นะครับ  ผมรู้ว่าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญ  ผมดูการถ่ายทอดสดของคุณสองครั้งก่อนหน้านี้  คุณเก่งจริงๆ  ถ้าคุณคุยกับผมไปด้วย  ผมจะรู้สึกสบายใจกว่า"

เจียงเย่จนใจ ในเมื่อรับสายเหล่าหวงแล้ว ก็เล่าเรื่องทั้งหมดระหว่างทางก็แล้วกัน  แต่กลางดึกดื่นแบบนี้  เหล่าหวงกำลังเดินทาง..

"พี่หวง ถ้าเกิดเรื่องขึ้นระหว่างทาง ไม่กลัวเหรอครับ?"

"ถึงกลัว ผมก็ต้องพูด ถ้าไม่พูดเรื่องนี้ มันเหมือนหนามทิ่มแทงใจผมทุกวัน คุณไม่รู้หรอก ทุกเช้า ตอนที่ผมไปดูบ่อปลา เห็นแสงตะวัน ผมดีใจมาก เหมือนได้มีชีวิตใหม่อีกวัน"

"ผมไม่มีทางเลือก ถึงแม้ว่าผมจะลำบาก ถึงแม้ว่าผมจะรู้ว่าบ่อปลามันไม่ปลอดภัย แต่พ่อแม่ผมต้องใช้เงินรักษาตัว ลูกก็ต้องใช้เงินเรียนหนังสือ แม่ยายก็ต้องใช้เงินซื้อข้าวกิน ชีวิตคนเรา มันต้องดิ้นรน ถึงจะกลัวก็ต้องทำ!"

คำพูดของเหล่าหวงทำให้หลายคนรู้สึกเห็นใจ  ก็เหมือนกับเหล่าอู๋

เขากลัวที่จะอยู่ในจินหลงเหรอ?

กลัวสิ คงนอนไม่หลับทั้งวันทั้งคืน

แต่เขาจะยอมทิ้งบ้านที่จินหลงเหรอ?

เป็นไปไม่ได้  ความสำเร็จที่ได้มาจากการทำงานหนักมาหลายปีก็คือบ้านหลังนั้น  ต่อให้ชุมชนมีผีหลอก  ถึงแม้บ้านจะมีผีหลอก  เขาก็ต้องกลับไปอยู่

เสียงฝีเท้าของเหล่าหวงดังเข้ามาในห้องถ่ายทอดสด  เป็นระยะๆ   โชคดีที่ครั้งนี้ เขาไม่ได้ใช้อินเทอร์เน็ต  ถึงแม้จะมีอาการแลค  แต่ก็ไม่มีปัญหาสายหลุด

เสียงฝีเท้าและเสียงหายใจของเหล่าหวงชัดเจนมาก  กุ้ยโจวเป็นภูเขา  บ่อปลาอยู่ในหุบเขา

บ่อปลามีขนาดใหญ่  เหล่าหวงลงทุนไปหลายแสน

เขาคิดว่าพอลูกปลาโต  ขายได้เงินแล้วจะซื้อบ้านใหม่ให้เมียกับลูก  แล้วก็พาพ่อแม่ไปตรวจสุขภาพที่เซี่ยงไฮ้  หรือเมืองใหญ่  อย่างเมืองหลวง

"บ่อปลาอยู่ห่างจากบ้านผมไม่กี่กิโล แต่ต้องเดินผ่านภูเขานิดหน่อย พวกคุณก็รู้นี่ครับที่นี่ภูเขามันเยอะ หลีกเลี่ยงไม่ได้ อีกอย่างที่บ้านเรา งานศพต้องดูฤกษ์ดูยาม บางคนเสียชีวิตแล้ว ถ้ายังไม่ถึงฤกษ์ก็ฝังไม่ได้ ดังนั้นต่อให้เดินตอนกลางคืน ก็ยังเห็นโลงศพวางอยู่ข้างๆ หลุมศพใหม่บนภูเขา!"

เหล่าหวงพูดด้วยรอยยิ้ม  หลายคนในห้องถ่ายทอดสดกด  "ถูกใจ"  พร้อมกับชมว่า  "คุณหวงนี่สุดยอด  กลางดึกกลางคืน  เห็นโลงศพ  พวกเราคงขี้แตกแน่ๆ"

"แต่บ้านเรากำลังปฏิรูปงานศพ คนส่วนใหญ่เสียชีวิตแล้วก็เผาเลย โลงศพที่พวกคุณเห็น จริงๆแล้ว ข้างในไม่มีศพ มีแต่กระดูกกับขี้เถ้า เฮ้อบาปกรรม คนดีๆ ตายไปกลับถูกเผาเป็นขี้เถ้า"

เหล่าหวงเป็นคนช่างพูด  ฟังจากคำพูดของเขาก็รู้

แต่ตอนนี้  เจียงเย่กลับไม่คิดว่าเหล่าหวงพูดไร้สาระ  เรื่องที่เขาพูดถึงโลงศพที่วางอยู่บนภูเขา  โลงศพเหล่านั้นจะถูกฝังก็ต่อเมื่อหมอดูหาฤกษ์ได้  ไม่งั้นถือว่าโชคร้าย  เจียงเย่เคยไปกุ้ยโจว  เคยได้ยินมาว่า  บางที  คนแถวนั้นดูฤกษ์  เป็นปีๆ เลย

ในที่สุด  หลังจากหายใจแรงๆ  สองสามครั้ง  เหล่าหวงก็หยุดเดิน

ตอนนี้  เขายืนอยู่บนยอดเขา  มองเห็นบ่อปลาของตัวเองแล้ว

คืนนี้  พระจันทร์ที่กุ้ยโจว  ค่อนข้างใหญ่  แสงจันทร์ส่องประกายระยิบระยับบนผิวน้ำ  ดูสวยงาม

แต่สำหรับเหล่าหวง  เขาไม่ชอบแสงจันทร์ยามค่ำคืน  เพราะมองเห็นอะไรได้ชัดเจนเกินไป  พวกขโมยปลาก็ชอบออกมาตอนกลางคืนแบบนี้  เพราะทุกคนต่างก็เป็นมนุษย์  แสงจันทร์สว่าง  มองเห็นชัดเจน

ไม่งั้น ถ้าถือไฟฉายก็กลายเป็นเป้านิ่ง

เหล่าหวงยืนอยู่บนยอดเขา มองไปที่ภูเขา แล้วพูดขึ้นว่า "โทรศัพท์ของผมราคาไม่กี่ร้อย ถ่ายรูปก็ไม่ค่อยชัด ไม่งั้น ผมอยากวิดีโอคอลกับผู้ดำเนินรายการ ให้พวกคุณดู"

เจียงเย่ได้ยินแบบนั้นก็เลยบอกว่า "เปิดวิดีโอคอลเลยก็ได้ครับ ส่วนเรื่องความละเอียด ผมปรับให้ในห้องถ่ายทอดสดได้ แต่พิกเซลของโทรศัพท์ก็ยังมีผลอยู่บ้าง"

"หา?  เอ่อ..  ไม่เป็นไร  คุยโทรศัพท์ก็แล้วกัน เน็ตแพง"

"ไม่เป็นไรครับคุณหวง คืนนี้ค่าเน็ตทั้งหมด  ห้องถ่ายทอดสดของเราออกให้!  1GB  ไม่พอ  ก็  10GB  10GB  ไม่พอ  ก็  100GB  พอไหม? ถึงแม้ว่าจะเสียดายเงินนิดหน่อย  แต่เราทำให้เรื่องนี้ให้กระจ่างดีกว่า!"

ผู้ชมคนหนึ่งในห้องถ่ายทอดสดพูดอย่างภาคภูมิใจ  เจียงเย่ไม่รอให้ผู้ชมลงมือ  รีบเติมเงินค่าเน็ตให้กับเหล่าหวง

พอส่งคำขอวิดีโอคอลไป  ก็มีใบหน้าที่ดูมีอายุปรากฏขึ้นในหน้าต่างเล็กๆ  ในห้องถ่ายทอดสด

ผิวของเขาเหลืองคล้ำ  ตอนยิ้ม  ดวงตาดูวิตกกังวลเล็กน้อย  ริ้วรอยรอบดวงตาที่หรี่ลงจนเป็นเส้นยิ่งชัดเจน

แต่ในแววตา  กลับมีความกังวล  และไม่สบายใจ  แต่สีหน้าของเขาดูสบายๆ

ผู้ชายทุกคนเป็นแบบนี้ บางที  ก็รู้สึกหวาดกลัว สับสน แต่ผู้ชายที่เป็นเสาหลักของครอบครัวจะไม่แสดงความขี้ขลาดออกมา

กลับกันจะพยายามทำให้ตัวเองดูเข้มแข็ง

เหล่าหวงเข้ามาในห้องถ่ายทอดสดและยิ้ม  ฟันเหลืองเพราะคราบบุหรี่  พูดด้วยภาษาจีนกลางที่ชัดเจน  ทักทายเจียงเย่และผู้ชมในห้องถ่ายทอดสด  "สวัสดีครับ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมออกทีวี  ฮ่าๆๆ  อย่าแก้คำพูดผมนะ ผมรู้ว่านี่ไม่ใช่ทีวี แต่ความรู้สึกเหมือนกัน แต่พวกคุณต้องเตรียมใจหน่อยนะ  เมื่อกี้มีคนบอกว่ากลางคืนเห็นโลงศพแล้วจะกลัว บนยอดเขาที่ผมให้ดู มีโลงศพอยู่ใบหนึ่ง"

"โลงศพที่นี่เป็นสีดำ มีสีแดงนิดหน่อย ตัวโลงสั้น เป็นรูปครึ่งวงรี ไม่รู้ว่าโทรศัพท์ของผมจะถ่ายได้ชัดหรือเปล่า อ้อ ว่าแต่ดูจบแล้ว อย่าเอาไปโพสต์นะ ยังไงคนตายก็ต้องให้เกียรติ  ถึงแม้จะกลายเป็นขี้เถ้าไปแล้วก็เถอะ"

เห็นได้ชัดว่าถึงแม้เหล่าหวงจะเป็นชาวบ้าน  แต่เขาก็เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับรายละเอียด

มือของเขาเริ่มขยับ  ไม่นาน  ภาพก็หยุดอยู่ที่จุดหนึ่ง

ผู้ชมเกือบ  6,000  คนในห้องถ่ายทอดสดต่างก็มองตามกล้อง  แล้วก็เห็นหลุมศพ  และโลงศพสีดำที่วางอยู่บนโต๊ะแปดเซียน  ที่เหล่าหวงพูดถึง(โต๊ะแปดเซียน eight immortals bench)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด