ตอนที่ 14 ทนไม่ได้
เสี่ยวรุ่ยวิ่งตามออกไป แต่ลืมโทรศัพท์ไว้ในห้อง
ตอนนี้ท้องฟ้ายังมืดอยู่ เสี่ยวหลิงนอนหลับสนิทอยู่ในห้อง โทรศัพท์ยังคงวางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง เจียงเย่บอกเสี่ยวรุ่ยว่าไม่ต้องเอาติดตัวไป
ไม่นานนัก ก็มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นในห้องถ่ายทอดสดอีกครั้ง เป็นใบหน้าที่ใจดีมาก
ตอนที่ยิ้ม ริ้วรอยบนใบหน้าก็รวมกัน เอวโก่ง ผมหงอกขาวโพลน
"ขอบใจนะ ขอบใจ"
คุณยายโค้งคำนับให้กับวิดีโอ และทุกคนในห้องถ่ายทอดสดต่างก็ได้ยินคำพูดของเธอชัดเจน
เธอคือคุณยายของเสี่ยวรุ่ย
เจียงเย่ส่ายหัวให้กับเธอ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "คุณยาย รีบไปเกิดใหม่เถอะครับ ถนนสู่นรกไม่ง่าย แต่คุณยายไม่ใช่คนธรรมดา วิญญาณเร่ร่อนทั่วไปทำอะไรท่านไม่ได้หรอก"
"เฮ้อ ก็ได้ ลำบากพ่อหนุ่มแล้ว ไม่งั้นถ้าแค่ยาย เรื่องนี้คงไม่จบง่ายแบบนี้”
คุณยายยิ้มเหมือนเจ้าแม่กวนอิม ตอนนี้เอง ผู้ชมถึงได้เข้าใจ
ที่แท้เจียงเย่หลอกเสี่ยวรุ่ยเมื่อกี้ คุณยายของเธอยังไม่ได้จากไป ยังคงอยู่ที่นี่
จากนั้น ทุกคนถึงเข้าใจว่าทำไมถึงไม่เห็นป้าของอาหยู
คุณยายจัดการป้าของอาหยูเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะเสียชีวิตไปเป็นสิบปีแล้ว แต่ดูเหมือนว่าพลังของเธอก็ยังด้อยกว่าคุณยายที่เพิ่งเสียไปไม่นาน
มองดูใบหน้าที่ใจดีนั้น ผู้ชมไม่รู้สึกกลัวเลยสักนิด กลับกัน พวกเขาต่างก็พูดขึ้นอย่างกล้าหาญว่า "ผู้ดำเนินรายการ ช่วยฝากสวัสดีคุณยายด้วยนะครับ"
"ใช่ๆ ผู้ดำเนินรายการ ช่วยฝากสวัสดีคุณยายด้วย ถามท่านหน่อยว่าทำไมท่านถึงเก่งขนาดนี้ ขนาดป้าของอาหยูยังจัดการได้!"
เจียงเย่ก็ได้แต่ถ่ายทอดคำพูดของผู้ชม คุณยายหรี่ตาและพูดด้วยรอยยิ้ม "ยายก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่าตอนนั้น ตายแบบไม่ทันตั้งตัว ตายแล้วก็หาทางไปเกิดใหม่ไม่เจอก็เลยมาหาหลานสาว”
"บังเอิญพระโพธิสัตว์บอกว่าปีนี้หลานจะเจอเรื่องยุ่งยาก ยายก็เลยคิดว่าจะช่วยหลานแก้ปัญหาให้เรียบร้อยก่อนไป ตอนนี้หลานไม่เป็นไรแล้ว ไม่คิดเลยว่าหลานจะมีคนคอยช่วยเหลือ แถมยังมีคนใจดีเยอะขนาดนี้ ยายขอบคุณนะ ขอบคุณมากๆ"
คุณยายโค้งคำนับให้กับห้องถ่ายทอดสด เจียงเย่รีบพูด "คุณยาย อย่าทำแบบนี้เลยครับ ผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดของผมรับไหว้ท่านไม่ไหวหรอกครับ แต่ถามจริงครับ.. คุณยายทำบุญอะไรมาครับ ถึงได้มีบุญมากขนาดนี้? ถ้าเกิดใหม่ ชาติหน้าคุณยายจะเป็นยังไงครับ?”
"ยายก็ถาม แต่ท่านบอกว่าไม่รู้ แล้วก็บอกว่า.. ทั้งชีวิตยายไม่เคยทำร้ายใคร ไม่เคยอิจฉาใคร ตราบใดที่คนอื่นไม่มารังแกยาย ไม่ว่าจะพูดอะไรยายก็ยิ้ม ใช้ชีวิตเรียบง่าย อยู่บ้านก็ไม่ยุ่งเรื่องของชาวบ้าน ใครเดือดร้อนก็ช่วยเหลือ แค่นั้นแหละ"
คุณยายพูดด้วยรอยยิ้ม เจียงเย่ก็ยิ้มแล้วพยักหน้า บรรยากาศในห้องถ่ายทอดสดดูครึกครื้น
"คุณยายนี่เหนือชั้นจริงๆ ใช้ชีวิตได้คุ้มค่ามาก!"
"ใช่แล้วครับคุณยาย แบบนี้ถึงเรียกว่าการใช้ชีวิต นี่แหละคือภูมิปัญญาในการดำรงชีวิต!"
เจียงเย่ถ่ายทอดคำพูดของผู้ชมให้คุณยายฟังอีกครั้ง คุณยายดูเขินอาย โบกมือไปมา ดูน่ารักมาก
แต่พอใกล้สว่าง คุณยายก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ "เอาล่ะ เด็กๆ ยายไปแล้วนะ.. คราวนี้ต้องไปจริงๆ แล้ว แล้วค่อยเจอกันใหม่นะ"
คุณยายพูดจบก็เอามือลูบผ้าห่มของเสี่ยวรุ่ย เจียงเย่พยักหน้า
"ครับคุณยาย เดินทางปลอดภัยนะครับ จำไว้นะครับ ตอนลงนรกห้ามหันหลังกลับไปมอง ไม่ว่าจะเห็นอะไรก็ห้ามหันหลังกลับไปมองเด็ดขาด แล้วก็ถ้าเจอผู้หญิง ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็อย่าไปสนใจ"
คุณยายมองเจียงเย่อย่างครุ่นคิด ยิ้มแล้วพยักหน้า จากนั้นก็หายตัวไป
ห้องถ่ายทอดสดเงียบไปสองสามวินาที ในที่สุดก็มีข้อความแรกปรากฏขึ้น
"ฮือๆๆๆ.. ผู้ดำเนินรายการ คุณยายอย่าเพิ่งไปเกิดใหม่ได้ไหมครับ คุณยายเป็นคนดีจริงๆ"
"เฮ้อ ตอนสุดท้าย ทำเอาน้ำตาไหลเลย คิดถึงคุณยายจัง!"
"ฉันด้วย ตอนนี้ฉันจะซื้อตั๋วกลับบ้าน ครั้งสุดท้ายที่โทรหาคุณยายก็สองเดือนก่อนแล้ว"
แม้ว่าจะมีคนร้องไห้มากมายในห้องถ่ายทอดสด แต่บรรยากาศก็ดีมาก เจียงเย่ยิ้มตลอดเวลา
"เอาล่ะ ทุกคนใจเย็นๆ นะครับ คืนนี้ ทั้งน่ากลัวและน่าประทับใจ ทุกคนคงจะเหนื่อยกันหมดแล้ว ใกล้จะสว่างแล้ว วันนี้เราก็ขอจบการถ่ายทอดสดเพียงเท่านี้ ไว้เจอกันตอนเย็น เดี่ยวเหล่าอู๋กับเสี่ยวรุ่ยก็คงจะมาบอกผลสุดท้าย"
เจียงเย่พูดด้วยรอยยิ้ม ผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดต่างก็เห็นด้วย
แต่ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในห้องถ่ายทอดสด
เจียงเย่มองดู แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "สว่างแล้ว ไม่น่าจะมีอะไรแล้วมั้ง?"
"ผู้ดำเนินรายการ รับสายเถอะครับ ผมว่าปัญหาที่คุณแก้ไม่ได้คงไม่มีใครแก้ได้แล้ว"
"ใช่ ผู้ดำเนินรายการ รับสายเถอะ"
" เหมือนปลาดื่มน้ำมอบป้ายคำสั่งราชานรก*10 ให้กับผู้ดำเนินรายการ!"
"ผู้ดำเนินรายการ คุณเป็นคนที่เก่งที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา ถึงแม้ว่าคุณจะเหนื่อยแต่ลองฟังดูก่อนไหม?"
เจียงเย่มองไปที่ "เหมือนปลาดื่มน้ำ" แล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม "ครับ งั้นผมรับสายดูก่อน"
หลังจากรับสาย เจียงเย่ยังไม่ทันได้พูดก็มีเสียงดังมาจากปลายสาย
"ผู้ดำเนินรายการ พี่ชายผู้ดำเนินรายการ ยังทันไหม?"
พอได้ยินเสียงจากปลายสาย เจียงเย่ก็พูดอย่างจนใจ "จะแก้ปัญหาให้ตอนนี้คงไม่ทันแล้วล่ะครับ แต่เล่าคร่าวๆ ก่อนก็ได้ครับ ไว้เจอกันตอนสองทุ่ม ค่อยแก้ปัญหาสะดวกกว่า อ้อ ว่าแต่คุณผู้ชายท่านนี้ ชื่ออะไรครับ?"
"ได้ครับๆ ขอผมเล่าสั้นๆ .. ซ่า.. ซ่าๆๆ..."
สายโทรศัพท์ถูกตัดไป